Monday, 21 April 2025
รอยเตอร์

‘สหรัฐ’ เร่งจัดซื้อ ‘น้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์’ หลังราคาลดลง หลังจากที่รัฐบาล ขายน้ำมันดิบออกจากคลัง ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์

(9 มิ.ย.67) รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (7 มิ.ย.) ว่า ได้เพิ่มการจัดซื้อน้ำมันดิบเพื่อเติมคลังสำรองน้ำมันปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ หลังจากที่รัฐบาลขายน้ำมันดิบออกจากคลังเมื่อปี 2565 ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์

เมื่อวันศุกร์ กระทรวงพลังงานสหรัฐได้ประกาศแผนการที่จะซื้อน้ำมันดิบรวม 6 ล้านบาร์เรลสำหรับส่งมอบให้กับไซต์ Bayou Choctaw ในรัฐลุยเซียนาในช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หากแผนการต่าง ๆ ดังกล่าวเป็นไปตามที่มีการประกาศไว้ อัตราการซื้อน้ำมันดิบของกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4.5 ล้านบาร์เรลต่อเดือนในเดือนก.ย., ต.ค. และพ.ย. จากประมาณ 3 ล้านบาร์เรลในปัจจุบัน

‘รอยเตอร์’ เผย ‘กองทัพสหรัฐฯ’ เปิดยุทธการลับบน ‘สื่อสังคมออนไลน์’ เพื่อป้ายสี ทำลายชื่อเสียง วัคซีนโควิดของจีน ในช่วงแพร่ระบาดโควิด-19

(16 มิ.ย.67) ยุทธการของเพนตากอน สำหรับทำลายชื่อเสียงวัคซีนจีน มีขึ้นระหว่างช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ถึงกลางปี 2021 โดยมุ่งเน้นไปที่ฟิลิปปินส์ ก่อนขยายวงสู่พื้นที่อื่นๆ ของเอเชียและตะวันออกกลาง ตามรายงานของรอยเตอร์ที่กล่าวอ้างในบทความชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่ในวันศุกร์ (14 มิ.ย.)

เพนตากอนพึ่งพิงบัญชีปลอมบนสื่อสังคมออนไลน์ แอบอ้างตัวเป็นผู้ใช้ชาวฟิลิปปินส์ เผยแพร่คำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จว่า วัคซีนซิโนแวคของจีน เช่นเดียวกับชุดตรวจและหน้ากากอนามัยที่ผลิตโดยประเทศแห่งนี้มีคุณภาพที่ย่ำแย่

ซิโนแวค ซึ่งเริ่มต้นแจกจ่ายในเดือนมีนาคม 2021 กลายเป็นวัคซีนตัวแรกที่ชาวฟิลิปปินส์เข้าถึงได้ระหว่างโรคระบาดใหญ่

‘โควิดมาจากจีนและวัคซีนก็มาจากจีนเช่นกัน ดังนั้นอย่าไว้ใจจีน’ รูปแบบการโพสต์หนึ่ง ส่วนหนึ่งในยุทธการทำลายชื่อเสียง ภายใต้สโลแกน #ChinaAngVirus (จีนคือไวรัส) ตามรายงานของรอยเตอร์ ส่วนอีกโพสต์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป กล่าวอ้างว่า ‘ทุกอย่างที่มาจากจีน ทั้งชุดป้องกัน หน้ากาก และวัคซีน ล้วนแต่เป็นของปลอม แต่โคโรนาไวรัสนั้นเป็นของจริง’

ยิ่งไปกว่านั้น เพนตากอนพยายามสื่อสารไปยังพวกผู้ใช้ชาวมุสลิมในเอเชียและตะวันออกกลาง สืบเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าบางครั้งวัคซีนอาจมีส่วนผสมของเจลาตินหมู ดังนั้น วัคซีนของจีนจึงอาจเป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้กฎหมายอิสลาม

รอยเตอร์ระบุว่า จากการตรวจสอบของพวกเขา พบว่ามีอย่างน้อย 300 บัญชีบนทวิตเตอร์ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเอ็กซ์ ที่มีคุณลักษณะตรงตามกับคำกล่าวอ้างของอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ที่เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับยุทธการนี้แก่สื่อมวลชน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ยืนยันกับรอยเตอร์ว่า ยุทธการลับๆ บนสื่อสังคมออนไลน์สำหรับป้ายสีซิโนแวคนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม

โฆษกรายหนึ่งของเพนตากอน บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กองทัพสหรัฐฯ ใช้แพลตฟอร์มที่หลากหลาย ในนั้นรวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ สกัดอิทธิพลที่มุ่งร้าย ที่เล็งเป้าเล่นงานสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู และปักกิ่งคือหนึ่งในนั้น ที่เริ่มเปิดยุทธการบิดเบือนข้อมูล กล่าวโทษอันเป็นเท็จ หาว่าสหรัฐฯ เป็นคนแพร่กระจายโควิด-19

ในปฏิกิริยาที่มีต่อรายงานของรอยเตอร์ ทางกระทรวงการต่างประเทศของจีน เน้นย้ำผ่านทางอีเมล ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ บงการสื่อสังคมออนไลน์และเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนมานานแล้ว

‘กองทัพสหรัฐฯ’ ส่งจดหมาย สารภาพความผิดให้ ‘ฟิลิปปินส์’ ยอมรับ!! อยู่เบื้องหลังดิสเครดิต ‘วัคซีนซิโนแวค’ ของจีน

(28 ก.ค. 67) กองทัพสหรัฐฯ ยอมรับสารภาพแล้วว่า เป็นผู้ดำเนินยุทธการลับ มีเป้าหมายทำลายความน่าเชื่อถือวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวคของจีนในฟิลิปปินส์ รวมถึงทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง ตามรายงานของรอยเตอร์

‘มันเป็นความจริงที่ (กระทรวงกลาโหม) ส่งสารถึงผู้รับฟิลิปปินส์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค’ พวกเจ้าหน้าที่เพนตากอนเขียนถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมฟิลิปปนส์ ในจดหมายลงวันที่ 25 มิถุนายน และทางรอยเตอร์หยิบยกมารายงานในวันศุกร์ (26 ก.ค.)
.
ในจดหมายดังกล่าว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ยอมรับว่าพวกเขาได้กระทำการผิดพลาดบางอย่างในด้านการส่งสารที่เกี่ยวข้องกับโควิด แต่ได้รับประกันกับมะนิลาว่า เพนตากอนได้ระงับปฏิบัติการดังกล่าวไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 และนับตั้งแต่นั้นยกระดับการกำกับดูแลและเพิ่มความรับผิดชอบต่อปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารต่างๆ แล้ว

ปฏิบัติการที่เป็นเรื่องเป็นราวเริ่มขึ้นในปี 2020 หลังจากจีนประกาศว่าจะแจกจ่ายวัคซีนซิโนแวคให้ฟิลิปปินส์แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ในความพยายามตอบโต้ผลประโยชน์ทางประชาสัมพันธ์ที่ปักกิ่งจะได้รับจากโครงการนี้ ทางเพนตากอนออกคำสั่งให้ศูนย์ปฏิบัติการจิตวิทยาในฟลอริดา จัดตั้งบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอมขึ้นมาอย่างน้อย 300 บัญชี เพื่อใส่ร้ายป้ายสีวัคซีนจีน อ้างอิงผลการสืบสวนของรอยเตอร์ที่ออกมาแฉเมื่อเดือนที่แล้ว

โควิดมาจากจีนและวัคซีนมาจากจีน อย่าไปเชื่อใจจีน หนึ่งในรูปแบบข้อความที่สร้างโดยทีมงานปฏิบัติการทางจิตวิทยา ขณะที่อีกข้อความเน้นว่า PPE (ชุดป้องกันเชื้อโรค) หน้ากากอนามัย วัคซีน ล้วนเป็นของปลอม แต่โคโรนาไวรัสเป็นของจริง

รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอน ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ทหารหลายนายที่เกี่ยวข้องกับยุทธการนี้รู้ดีว่าเป้าหมายของแผนการไม่ได้ปกป้องชาวฟิลิปปินส์จากวัคซีนที่ไม่ปลอดภัย แต่เป็นการสร้างความแปดเปื้อนแก่ชื่อเสียงของจีน

รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ไม่นานยุทธการโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าวก็ถูกขยายวงออกไปนอกฟิลิปปินส์ โดยผู้รับสารมุสลิมทั่วเอเชียกลางและตะวันออกกลาง ได้รับการบอกเล่าว่าวัคซีนซิโนแวคปนเปื้อนเจลลาตินหมู เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งฮะรอมหรือเป็นสิ่งต้อมห้ามตามกฎหมายอิสลาม ยุทธการนี้บีบให้ทางซิโนแวคเผยแพร่ถ้อยแถลงยืนยันว่าวัคซีนผลิตโดยปราศจากส่วนประกอบของหมูใดๆ

เพนตากอนไม่ยอมรับต่อสาธารณะว่าได้ส่งหนังสือยอมรับสารภาพไปยังกองทัพฟิลิปปินส์ ขณะที่รัฐบาลของสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานของรอยเตอร์

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้วโฆษกรายหนึ่งของเพนตากอนชี้แจงกับรอยเตอร์ ว่ากองทัพอเมริกา ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ในนั้นรวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ ตอบโต้อิทธิพลมุ่งร้ายที่เล็งเป้าโจมตีสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู และอ้างว่าวอชิงตีนแค่ตอบโต้ ยุทธการบิดเบือนของมูลของจีนที่กล่าวโทษอันเป็นเท็จ ว่าสหรัฐฯ เป็นผู้แพร่กระจายโควิด-19

กระทรวงการต่างประเทศของจีนบอกกับรอยเตอร์ว่า พวกเขาเน้นย้ำมานานแล้วว่า สหรัฐฯ เป็นผู้แพร่กระจายข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับจีน

ฟิลิปปินส์ รายงานของรอยเตอร์กระตุ้นให้คณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภาเปิดการสืบสวน และระหว่างการพิจารณาเมื่อเดือนที่แล้ว วุฒิสมาชิกไอมี มาร์กอส ประธานคณะกรรมาธิการ ประณามยุทธการของเพนตากอนว่าเป็น ปีศาจ ชั่วร้าย อันตรายและไม่มีจริยธรรม  และแย้มว่ามะนิลากำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ว่าจะสามารถดำเนินการทางกฎหมายกับวอชิงตันได้หรือไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top