Saturday, 29 June 2024
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ตร. “ไม่ยืนยัน” แค่คุย 2 นาที เงินหายจากบัญชี ชี้ยังไม่พบผู้เสียหาย หากมีให้รีบแจ้งความ พร้อมนำโทรศัพท์มาด้วย

วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อ กรณี อดีต “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ออกมาเผยแพร่กับสื่อมวลชน ว่ากลุ่มมิจฉาชีพมีเทคโนโลยีใหม่ในการดูดเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย เพียงการหลอกล่อให้ผู้เสียหายคุยโทรศัพท์ด้วย 2 นาทีขึ้นไป โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้เสียหายกดลิงก์ หรือติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ นั้น

จากการตรวจสอบข้อมูลการรับแจ้งความคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ยังไม่พบว่ามีแจ้งความร้องทุกข์ในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด โดยกรณีของการถูกดูดเงินออกจากบัญชีธนาคารที่พบนั้น มีสาเหตุมาจากการถูกหลอกให้ส่งข้อมูลบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน และ OTP หรือถูกหลอกให้กดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องระยะไกล หรือแอปดูดเงิน เพื่อควบคุมโทรศัพท์ของเหยื่อแล้วถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารผ่านแอปธนาคารในโทรศัพท์จนเงินหมดบัญชี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเรียนมายังพี่น้องประชาชน ว่าอย่าตื่นตระหนกและวิตกกังวลกับกรณีดังกล่าว เพราะจากการตรวจสอบจากหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังไม่พบข้อมูลว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่มีเทคโนโลยีในลักษณะดังกล่าว ประกอบกับยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ กรณีถูกดูดเงินจากบัญชีธนาคาร จากการคุยโทรศัพท์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกิน 2 นาที ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจาก การคุยโทรศัพท์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกิน 2 นาที โดยไม่ได้มีการกดลิงก์กรอกข้อมูลส่วนบุคคลหรือรหัสผ่าน และไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องระยะไกล แล้วถูกดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร ให้รีบมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว พร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือเครื่องที่ท่านใช้งานมาด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจพิสูจน์ว่าคนร้ายใช้เทคโนโลยีใดในการก่อเหตุ เพื่อหาแนวทางการป้องกันต่อไป

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ตร. เตือน วันแห่งการโกหก เล่นตลกอยู่ในกรอบ ทุกคนไม่ได้ชอบ อาจถูกฟ้องดำเนินคดี

วันนี้ (1 เมษายน 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ และด้วยวันที่ 1 เม.ย.นี้ ตรงกับวัน April Fool’s Day หรือ วันแห่งการโกหก ซึ่งมักจะมีการสร้างเรื่องโกหกเพื่อความสนุกสนาน หรือเพื่อหยอกล้อซึ่งกันและกันในหมู่เพื่อนฝูง โดยหลาย ๆ คน มักจะใช้เป็นกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์และคลายความเครียด แต่บางครั้งการล้อเล่นหรือการโกหก ก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้อื่นหรืออาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคมได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการโพสต์เรื่องโกหกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจมีการเผยแพร่ ส่งต่อ หรือแชร์ ทำให้เรื่องโกหกกระจายไปในวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังในการสร้างเรื่องโกหกเพื่อความสนุกสนานหรือหยอกล้อบุคคลอื่น เพราะการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย หรือเกิดความตื่นตระหนกในสังคม ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย อาทิ

1. การเผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

2. การนำเข้าหรือเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(2),(5) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะแชร์ข่าวหรือข้อมูลใด ๆ ให้กับบุคคลอื่น ขอให้ตรวจสอบก่อนว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย URL : www.antifakenewscenter.com 

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหาย หรือพบเห็นบุคคลใดสร้างข่าวปลอมจนทำให้เกิดความสับสนในสังคม สามารถแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้านท่าน หรือแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top