Sunday, 8 June 2025
รถญี่ปุ่น

'เสี่ยงลุย' ไม่คุ้มเสีย!! ระวัง!! ขับรถเปิดแอร์ฝ่าน้ำท่วม รถยุโรป ตุย!! รถญี่ปุ่นผ่านฉลุย

เมื่อเข้าฤดูฝนอย่างนี้คนมีรถยนต์อย่างเรา มันจี๊ดที่ใจมากเวลาขับรถฝ่าน้ำท่วม คนกรุงทราบดีว่าถ้าไม่ขับฝ่าน้ำท่วมกลับบ้าน ตี 5 ก็คงไม่ถึงบ้านถ้ายังรอให้น้ำลดอยู่ แต่คุณรู้ไหมครับเราควรจะขับรถยนต์ฝ่าน้ำยังไงให้ยังรอด? 

(คำถาม : คุณคิดว่าทำไมรถยุโรปถึงกลัวน้ำมากกว่ารถญี่ปุ่น?)

หากจะเล่าถึงทริกเล็กๆ ในการขับรถฝ่าน้ำท่วม สิ่งสำคัญคือห้ามขับรถเร็ว เพราะการที่คุณขับรถเร็วจะทำให้รถนั้นเสียการทรงตัว เบรกจะลื่นขึ้นกว่าปกติทำให้ควบคุมรถได้ยาก

ปิดแอร์แล้วเปิดกระจกเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเท ทำไมต้องปิดแอร์ เป็นเพราะว่าเมื่อเราเปิดแอร์ ใบพัดแอร์จะทำงานอาจทำให้ใบพัดหมุนน้ำกระจายไปยังจุดต่างๆ ของห้องเครื่อง อาจจะทำให้ใบพัดแอร์หักได้รับความเสียหาย

ห้ามสตาร์ตเครื่องยนต์ที่ดับขณะฝ่าน้ำ หากคุณพยายามสตาร์ต 1-2 ครั้งแล้วรถยังไม่ติด ห้ามฝืนสตาร์ตต่อไปเรื่อยๆ เพราะน้ำจะเข้าระบบเครื่องยนต์ เสียหายหนักไปอีกไม่คุ้มแน่นอน สาเหตุที่เครื่องดับอาจเกิดจาก หัวเทียนเปียกน้ำ น้ำเข้ากรองอากาศดูดเข้าเครื่องยนต์ ซึ่งรถยุโรปมักวางกรองอากาศไว้ต่ำใกล้ซุ้มล้อ มีโอกาสเสี่ยงมากกว่ารถญี่ปุ่น

หลังลุยน้ำท่วมให้จอดสตาร์ตทิ้งไว้สักพัก ข้อดีของการทำแบบนี้ คือการให้ไอเสียไล่น้ำที่อาจตกค้างอยู่ แล้วให้คุณเดินสำรวจรถว่ามีหลอดไฟดับไหม แผ่นป้ายทะเบียนหลุดหรือเปล่า สำรวจพรมภายในรถ หากมีน้ำซึมเข้ามา ให้ผึ่งรถให้แห้ง

หากมีคำถามว่าน้ำต้องท่วมระดับไหนถึงไม่ควรขับฝ่า เพราะบางทีมันก็จำเป็นต้องขับฝ่าจริงๆ กรมการขนส่งก็ได้ออกมาให้ความรู้ผ่านเพจ 'ขับขี่ปลอดภัย by DLT' ไว้ว่า..

• ระดับน้ำ 5-10 ซม. ขับผ่านได้ทุกคัน แต่ยังต้องมีสติ ระมัดระวัง ไม่ควรใช้ความเร็วสูง อาจทำให้สูญเสียการควบคุมได้ เพราะถนนลื่น

• ระดับน้ำ 10-20 ซม. รถทุกประเภทยังขับผ่านไปได้ รถขนาดเล็กอาจได้ยินเสียงน้ำใต้ท้องรถ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะยังมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในตัวรถ

• รถอีโคคาร์ต้องระวัง ระดับน้ำ 20-40 ซม. เพราะส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มีความสูงจากระดับพื้น 15-17 ซม. อาจทำให้เกิดปัญหาท่อไอเสียจม แต่ยังสามารถขับลุยน้ำผ่านได้ ส่วนรถกระบะยังผ่านไปได้

• ระดับน้ำ 40-60 ซม. รถเก๋ง รถขนาดเล็กต้องเลี่ยง รถกระบะยังฝ่าไปได้ ปิดแอร์ขณะขับ ป้องกันพัดลมแอร์หน้ารถดูดละอองน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ จะทำให้เครื่องยนต์ดับ ขับขี่ให้ช้าลง ลดการเกิดคลื่นน้ำซัดเข้าหารถ จากรถคันอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่น้ำจะกระจายเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์

• ระดับน้ำ 60-80 ซม. อันตรายต่อรถทุกคัน ไม่ควรขับลุย เพราะน้ำอาจไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับ หยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเสียหายในระบบต่างๆ ได้ ซึ่งการขับลุยน้ำท่วมระดับนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ที่สำคัญอย่าปะทะคลื่นโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางอากาศ

• ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 ซม. ควรใช้เส้นทางอื่น

‘ซูซูกิ’ ชิ้นส่วนขาดแคลนหนัก สั่งเบรกไลน์ผลิต Swift หลังจีนจำกัดส่งออกแร่หายาก กระทบห่วงโซ่อุปทาน

(6 มิ.ย. 68) บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (Suzuki Motor) ประเทศญี่ปุ่น ประกาศหยุดสายการผลิตรถยนต์รุ่น Swift ชั่วคราว (ยกเว้นรุ่น Swift Sport) ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า สาเหตุหลักมาจากการที่จีนจำกัดการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

ซูซูกิระบุเพียงว่า การหยุดผลิตเกิดจากการขาดแคลนชิ้นส่วน โดยจะกำหนดเริ่มกลับมาเดินสายการผลิตบางส่วนในวันที่ 13 มิถุนายน และคาดว่าจะกลับมาเต็มกำลังได้หลังวันที่ 16 มิถุนายน แต่ปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับต้นเหตุของปัญหา ขณะที่แหล่งข่าวยืนยันว่าข้อจำกัดของจีนคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้สายการผลิตสะดุด

การที่จีนระงับการส่งออกแร่หายากและแม่เหล็กที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เดือนเมษายน ได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ อากาศยาน เซมิคอนดักเตอร์ และการทหารทั่วโลก หลายบริษัทเตือนว่าอาจต้องหยุดผลิต หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย

นอกจากนี้ มีรายงานว่าโรงงานชิ้นส่วนบางแห่งในยุโรปเริ่มหยุดผลิตแล้ว และเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) กำลังพิจารณามาตรการป้องกันการขาดแคลนแร่หายาก ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเสนอมาตรการความร่วมมือกับสหรัฐฯ ด้านห่วงโซ่อุปทานแร่หายากในการเจรจาการค้ารอบใหม่เร็ว ๆ นี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top