Wednesday, 23 April 2025
มูลนิธิร่วมกตัญญู

มูลนิธิร่วมกตัญญูอนุเคราะห์โลงศพสำหรับบรรจุร่างผู้อุทิศร่างกาย เพื่อการศึกษา ปีการศึกษา 2565

พร้อมเคลื่อนย้ายนำส่งไปยังวัดเวตวันธรรมาวาส(วัดเชิงหวาย) แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการฌาปนกิจ

(11 มี.ค.66) มูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย นาย เอกพัน บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัคร พรัอมจนท.และอาสาสมัคร มูลนิธิร่วมกตัญญู ,รถบรรทุก และ โลงศพ จำนวน 30 ใบ เพื่อใช้บรรจุร่างผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา (อาจารย์ใหญ่) และ จะเคลื่อนย้ายนำส่งไปยังวัดเวตวันธรรมาวาส (วัดเชิงหวาย) แขวงบางซื่อ เขตบางชื่อ กรุงเทพมหานคร 

เพื่อดำเนินการฌาปนกิจในเบื้องต้น โดยพี่ไทด์ เอกพัน บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่-อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าช่วยเหลือ เคลื่อนย้าย ตามการร้องขอของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทีได้จัดการเรียนการสอน วิชามหกายวิภาคศาสตร์ให้กับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และ คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยใช้ร่างผู้อุทิศร่างกายเพื่อประกอบการศึกษาในวิชามหกายวิภาคศาสตร์ 

'ปภ.' จับมือมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงนามบันทึกความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

วันนี้ (12 ก.ค. 66) เวลา 13.30 น.  ที่ห้องประชุม1 กรม ปภ. นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ ดร. รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานกรรมการมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมี ดร. ทวีชัย จริยะเอี่ยมอุดม, นายพรเทพ เมธาขจรกุล รองประธานกรรมการมูลนิธิร่วมกตัญญู, นายสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผู้จัดการมูลนิธิร่วมกตัญญู, ผู้บริหารของ ปภ. และมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

ในช่วงที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะหน่วยงานกลางของรัฐในการบูรณาการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการสาธารณภัย โดยมุ่งสร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์การสาธารณกุศล และที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลขนาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครปฏิบัติงานในกรุงเทพมหานครและหลายจังหวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ร่วมมือกันในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือประชาชนจนประสบผลสำเร็จด้วยดีมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งนอกจากจะสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท ภารกิจภายใต้ระเบียบ กฎหมาย องค์ความรู้ ทักษะ การปฏิบัติหน้าที่และการบูรณาการจัดการในภาวะฉุกเฉินแล้ว ยังจะทำให้ทั้งสองหน่วยงานประสานการปฏิบัติและบูรณาการจัดการในภาวะฉุกเฉินได้อย่างความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะได้ร่วมกันพัฒนาศักยภาพมาตรฐานในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครให้มีความพร้อมช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยจากสาธารณภัยต่อไป

นอกจากนี้ อธิบดี ปภ. ได้มอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “สดุดีป้องกันภัย” ให้แก่บุคลากรของมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนมาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน จำนวน 4 ท่าน  ได้แก่

1) นายกฤษดา อินทร์พาเพียร หัวหน้าอาสาสมัครจังหวัดสระบุรี (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
2) นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ
3) นายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิฯ
4) นายพิมพ์ชนก ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ฝ่ายดาราและประชาสัมพันธ์  ซึ่งเป็นบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือการปฏิบัติงานในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและปฏิบัติงานพิเศษที่ได้รับมอบหมายจากทางราชการเป็นที่ประจักษ์ ด้วยความเสียสละ กล้าหาญ ทุ่มเท จนเกิดประโยชน์แก่สังคมและประชาชนมาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน

สำหรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “สดุดีป้องกันภัย” เป็นไปตามระเบียบกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่าด้วยเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือช่วยเหลือด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2565  ซึ่ง ปภ. จะพิจารณามอบให้แก่บุคคลที่เป็นผู้ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ด้วยความเสี่ยงภัยหรือเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตด้วยความเสียสละ กล้าหาญ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือคุณประโยชน์แก่การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จนเกิดประโยชน์แก่ทางราชการและประชาชน

‘เจ้าหน้าที่’ ฝ่ากระแสน้ำเจ้าพระยา ดำลึก 8 เมตร ค้นหา ‘ไอโฟน’ หลังได้รับเหตุขอความช่วยเหลือ งมหาจนเจอ!! ยังใช้งานได้ปกติ

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 66) เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจาก น.ส.น้ำ อายุ 38 ปี หลังทำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น 12 โปรแม็กซ์ ตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณโป๊ะท่าน้ำของอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี

ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.น้ำ ชี้จุดที่ทำโทรศัพท์ตกลงไปบริเวณข้างโป๊ะพอดี ชุดประดาน้ำลงน้ำค้นหาโดยใช้เวลาเพียง 20 นาที ก็พบกับโทรศัพท์จมอยู่ในแม่น้ำ โดยที่เครื่องยังมีแสงไฟและสามารถใช้งานได้ตามปกติ ก่อนจะส่งมอบคืนให้กับ น.ส.น้ำ

น.ส.น้ำ กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งให้อาหารปลาอยู่ โดยถือโทรศัพท์มือถือไว้ด้วย ก่อนทำโทรศัพท์หลุดมือตกลงไปในแม่น้ำ รู้สึกตกใจมากจนคิดว่าอาจจะไม่ได้โทรศัพท์เครื่องนี้กลับคืน เนื่องจากกระแสน้ำค่อนข้างแรง แต่เจ้าหน้าที่มาช่วยดำน้ำค้นหาจนเจอ ตนดีใจมากเพราะซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้มาในราคาเกือบ 50,000 บาท ตั้งแต่เริ่มเปิดวางจำหน่าย

ด้านนายฉัตรชัย แหวนทองคำ ทีมเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสบางรัก 28 กล่าวว่า การค้นหาโทรศัพท์มือถือที่ตกลงไปในแม่น้ำตรงจุดนี้มีอุปสรรคนิดหน่อย คือจุดที่ตกซึ่งเป็นหน้าโป๊ะมีความลึกประมาณ 8-9 เมตร และมีกระแสน้ำที่ค่อนข้างแรง เกรงว่ากระแสน้ำจะพัดโทรศัพท์ออกไปไกลจากจุดที่ตก แต่สุดท้ายก็สามารถดำน้ำงมจนเจอห่างจากจุดที่ตกออกไปประมาณ 3 เมตร

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ขอแจ้งไปยังประชาชนที่เดือดร้อนและต้องการขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิร่วมกตัญญูในการช่วยค้นหาสิ่งของมีค่าต่างๆ ทางมูลนิธิยินดีช่วยเหลือให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สามารถติดต่อได้ที่ทางมูลนิธิร่วมกตัญญู โทร.02-751-0951-3 หรือทางเพจเฟซบุ๊ก นทีคลับ ชุดกู้ภัยทางน้ำ มูลนิธิร่วมกตัญญู

'ไทด์' นำทีมร่วมกตัญญู ฝ่าเส้นทางวิบาก 4 ชม. ขึ้นดอยสบเมย เพื่อช่วยเหลือชาวเขา ที่ถูกน้ำป่าซัด ตัดเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน

(14 ก.ย. 66) นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นายโบ๊ท วิบูลย์นันท์ รองหัวหน้าอาสาสมัคร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำรถออฟโรด ลำเลียงเครื่องอุปโภค-บริโภค และผ้าห่ม กว่า 200 ชุด เดินทางจากสำนักงานใหญ่มูลนิธิร่วมกตัญญู จังหวัดสมุทรปราการ พากันลุยขึ้นดอยไปที่ โรงเรียนบ้านแม่ตอละ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน  เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.)

เพื่อนำเครื่องอุปโภค-บริโภค และผ้าห่มไป มอบแจกจ่ายให้กับชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงโป ในชุมชนบ้านแม่ตอละ และโรงเรียนบ้านแม่ตอละรวมกว่า 140 ชุด แต่กว่าที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึงที่ชุมชนแห่งนี้ ซึ่งอยู่บนดอยสูงของแม่ฮ่องสอน ทำให้การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก บางจุดถึงออฟโรดของเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู ถึงกับลื่นดินโคลนจนตกร่องถนน

ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดเส้นทาง การเดินทางใช้ระยะเวลาราว 4 ชั่วโมงกับระยะทางเพียงแค่ 70 กิโลเมตร จากตัวอำเภอสบเมย ซึ่งการเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านและเด็กๆ ในพื้นที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญูครั้งนี้ สร้างความดีใจต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก

นอกจากจะมอบถุงยังชีพ ผ้าห่มแล้ว คุณไทด์ เอกพันธ์ ยังควักเงินสดส่วนตัว มอบค่าขนมให้กับเด็กๆ คนละ 100 บาท จำนวน 77 คน คุณครูจำนวน 11 คน คนละ 500 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากนั้นระหว่างทาง ทางคณะยังแวะไปยังโรงเรียนเลโคะ มอบเงินให้กับเด็กๆ จำนวน 59 คน พร้อมกับขนม จากนั้นเข้าไปมอบถุงยังชีพให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ค่าย ตชด 337 จำนวน 30 ชุด

ครูทราย หนึ่งในคุณครูของโรงเรียนแห่งนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอบคุณสำหรับมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เห็นถึงความเดือดร้อนของเด็กๆ และชาวเขาในชุมชนและเดินทางมาช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะได้กำลังใจจากคนต่างถิ่นแล้ว สิ่งของที่ได้รับมอบในครั้งนี้จะสามารถทำให้นักเรียน และชาวเขากะเหรี่ยงนี้มีข้าวสารอาหารแห้งไว้บริโภคในครอบครัวได้อีกหลายวัน

ด้าน นายเอกพันธ์และนายโบ๊ท กล่าวว่า หลังจากที่ชุมชนและโรงเรียนแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากวาตภัยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งในพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบจากพายุฝนตกต่อเนื่อง จนทำให้การเดินทางเข้าออกของหมู่บ้านถูกตัดขาด ถนนสายหลักที่จะเข้าออกชุมชนแห่งนี้ถูกน้ำกัดเซาะ และมีดินสไลด์ขวางเส้นทาง

บางจุดถนนเละจนรถธรรมดาไม่สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ ต้องใช้รถโฟรวีลหรือรถออฟโรดยกสูงเท่านั้น ทำให้ชาวเขาจำนวนมากทั้งคนแก่และเด็กนักเรียนขาดแคลนอาหารในการดำรงชีพ จึงร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้ามา ทางประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู

โดย ดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง คุณสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผู้จัดการมูลนิธิร่วมกตัญญู คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ได้สั่งแพคถุงยังชีพและระดมทีมกู้ภัยออฟโรดของอาสาสมัครและมูลนิธิร่วมกตัญญู ลำเลียงสิ่งของขึ้นมาช่วยเหลือชาวบ้านในครั้งนี้

ถึงแม้ว่าการเดินทางจะมหาโหดตลอดเส้นทางขึ้นเขานั้น แต่พอมาถึงได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ และคนในชุมชน พวกเราก็หายเหนื่อยและรู้สึกดีใจที่เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งชุมชนและโรงเรียนแห่งนี้ พอเข้ามสัมผัสแล้วจะยิ่งน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก

นอกจากจะอยู่ในถิ่นธุระกันดารแล้ว ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ มีเพียงแผงโซล่าเซลไม่กี่แผง ซึ่งก็ไม่เพียงพอต่อการผลิตไฟ ทำให้เด็กๆ ยังขาดสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยอีกมาก จึงฝากเป็นสะพานบุญไปยังทุกภาคส่วน ที่อยากเข้ามาช่วยเหลือ ลองนึกถึงโรงเรียนแห่งนี้

สมุทรปราการ-รำลึก 24 ปี!! คุณพ่อสมเกียรติ มูลนิธิร่วมกตัญญู มอบเงินช่วยเหลือสังคม กว่า 60 ล้านบาท

(1 ก.ย. 67) ที่ อาคารมูลนิธิร่วมกตัญญู สำนักงานบางพลี ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรื่อง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู ประธานในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่”คุณพ่อสมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรื่อง” ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู โดยมีคณะผู้บริหาร คณะเจ้าหน้าที่ และศิลปินดารานักแสดง อาทิเช่น นางสาวสกาวรัตน์ สมสกุลรุ่งเรือง เลขาธิการมูลนิธิฯ ดร.บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นายอธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมในพิธีครั้งนี

นอกจากนี้ยังได้รับความเมตตาจาก พระพรหมวชิราธิบดี (พีร์ สุชาโต) รองสมเด็จพระราชาคณะ อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร  ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร นายกสภามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา แด่ พระภิกษุ-สามเณร, บุตร-ธิดา ข้าราชการตำรวจ มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมอบเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของโรงเรียนและทุนอาหารกลางวัน, มอบอุปกรณ์การเรียน-การกีฬาแก่โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงถวายปัจจัยกองทุนโรงทานสำหรับผู้แสวงบุญชาวพุทธ ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์เมืองกุสินาคาร์ รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ปีละ 1,200,000 บาท

นอกจากนี้ มูลนิธิร่วมกตัญญู ประกอบพิธีเททองหล่อรูปเหมือน สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) หน้าตักกว้าง 35 นิ้ว และ พระพุทธรูป ปางรำพึง ความสูงรวมฐาน 2.65 เมตร เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ โดยได้รับความเมตตาจาก ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์  อธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ด้าน ดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรื่อง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า สำหรับในปีนี้มูลนิธิร่วมกตัญญูทำพิธีเปิดอาคารเรียนมูลนิธิร่วมกตัญญู แห่งที่ 35 เป็นอาคารศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยลู่ พร้อมห้องน้ำและครุภัณฑ์ ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมอบชุดนักเรียน กระเป๋านักเรียน ถุงยังชีพ อุปกรณ์การเรียน หนังสือสำหรับห้องสมุด ซึ่งเป็นโรงเรียนตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาว มลาบรีในพื้นที่บ้านห้วยลู่ จ.น่าน รวมมูลค่า 320,000 บาท

เตรียมส่งมอบอาคารเรียนมูลนิธิร่วมกตัญญู แห่งที่ 37 เป็นอาคารเรียนแบบ สปช.105/29 ขนาด 4 ห้องเรียน 1 ห้องพักครู 1 เวที 1 เสาธงและห้องน้ำพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้แก่ โรงเรียนวัดสระไม้แดง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท รวมมูลค่า 4,270,000 บาท เตรียมส่งมอบอาคารเรียนมูลนิธิร่วมกตัญญู แห่งที่ 38 เป็นอาคารเรียนแบบ สปช.105/29 ขนาด 4 ห้องเรียน 1 ห้องพักครู 1 เวที 1 เสาธงและห้องน้ำพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้แก่ โรงเรียนวัดศรีล้อม อ.หางดง จ.เชียงใหม่ รวมมูลค่า 4,130,000 บาท

มอบทุนการศึกษาพระปริยัติธรรมแด่พระภิกษุ-สามเณร ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำนวน 91 ทุน, มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน-นักศึกษาที่มีผลการเรียนดีแต่ฐานะยากจน ทุนการศึกษาบุตร-ธิดาของข้าราชการอำเภอบางพลี-องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่, บุตร-ธิดาของข้าราชการตำรวจ, บุตร-ธิดาของสื่อมวลชน, บุตร-ธิดาของเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู, บุตร-ธิดาของอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูทุกเขต/จังหวัด  ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับปริญญาตรี

มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมโรงเรียน-ทุนอาหารกลางวันและอุปกรณ์การเรียน-การกีฬา ให้กับโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำนวน 68 โรงเรียน โดยมอบให้เป็นรายเดือนตลอดระยะเวลา 1 ปี คิดเป็นเงิน 15,348,000 บาท ด้านพระพุทธศาสนา ถวายปัจจัยสมทบทุนก่อสร้าง เมรุเผาศพ ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รวมมูลค่ากว่า 3,000,000 บาท ถวายปัจจัยสมทบทุนบูรณะ เมรุเผาศพ ณ วัดท่ามะปราง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก รวมมูลค่า 4,500,000 บาท ถวายปัจจัยบูรณะ ศาลาการเปรียญ ให้แก่ วัดป่าสัก ต.กกโอ อ.เมือง จ.ลพบุรี รวมมูลค่า 870,000 บาท

พร้อมทั้งในวันนี้มีพิธีเททองหล่อรูปเหมือน สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) หน้าตักกว้าง 35 นิ้ว และ พระพุทธรูป ปางรำพึง ความสูงรวมฐาน 2.65 เมตร เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ถวายปัจจัยซื้อที่ดิน จำนวน 1 ไร่ ให้แก่ วัดไทยนวราชรัตนาราม 960 รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย เนื่องจากพื้นที่เดิมโดนเวนคืนเพื่อตัดถนนผ่าน รวมมูลค่า 4,000,000 บาท มูลนิธิฯ รับเป็นเจ้าภาพค่าอาหารสำหรับจัดเลี้ยงให้แก่ผู้แสวงบุญชาวพุทธ ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินาคาร์ รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ปีละ 1,200,000 บาท ด้านสาธารณะประโยชน์มอบถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย และประชาชนยากไร้ ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เชิญรูปหล่อเหมือนท่านผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ไปประดิษฐาน ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินาคาร์ รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย โอกาสนั้นได้มอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชนชาวอินเดียที่ยากไร้ จำนวน 2,015 ครอบครัว รวมมูลค่า 6,357,500 บาท

ด้านสาธารณสุขในงานวันนี้มูลนิธิร่วมกตัญญู มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ 33 หน่วยงาน เพื่อสนับสนุนการแพทย์ของโรงพยาบาลที่ห่างไกล ตามที่ทุกท่านได้ร่วมพิธีรับมอบไปก่อนหน้านี้ รวมมูลค่า 13,488,800 บาท (สิบสามล้านสี่แสนแปดหมื่นแปดพันแปดร้อยบาทถ้วน) และมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้แก่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิเครือข่าย รวมมูลค่า 867,000 บาท และรายละเอียดอื่นๆ รวมยอดเงินกิจกรรมในวันนี้ 60,718,950 บาท

นอกจากนี้มูลนิธิร่วมกตัญญูยังให้ความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนจัดตั้งโรงครัวเพื่อบริการประชาชนตามที่หน่วยงานร้องขอ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ, วันสำคัญทางศาสนา, งานวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายตามที่ได้ปรากฏทางสื่ออยู่เป็นระยะ

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top