Sunday, 20 April 2025
มุมมองดรกอบ

ยอมจำนน !! 'FED-FDIC' ร่วมปกป้องเงินฝากลูกค้า SVB ทั้งหมด หวั่น!! หากปล่อยไป อาจพาแบงก์อื่นล้มอีกหลาย

(13 มี.ค.66) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพและประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีธนาคาร SVB โดยระบุว่า...

เมื่อคืนนี้ ทางการสหรัฐฯ ประกาศ ยอมจำนน

1. อุ้มผู้ฝากเงินของ Silicon Valley Bank (เงินฝาก 175,4000 ล้านดอลลาร์) ทั้งที่ มีการค้ำประกันจากสถาบันประกันเงินฝาก FDIC หรือไม่มีค้ำประกัน

หมายความว่า คนที่ฝากเกิน $250,000 ก็จะได้เงินคืน ตั้งแต่เช้าวันจันทร์เป็นต้นไป

ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่า ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ผู้ฝากเงินทั่วสหรัฐฯ เริ่มไปถอนเงินจากแบงก์เล็กๆ ตามชุมชน และแบงก์ท้องถิ่น ต่างๆ จากความกังวลใจว่าจะไม่ได้เงินคืน ทำให้เกิดแรงกดดันต่อสภาพคล่องของแบงก์ต่างๆ 

ยิ่งไปกว่านั้น Signature Bank ที่ New York (เงินฝาก 89,000 ล้านดอลลาร์) ถูกสั่งปิดเป็นรายที่ 2 กลายเป็นกรณีแบงก์ล้มที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ รองจาก Silicon Valley Bank ที่เป็นอันดับ 2 และ Washington Mutual ที่เป็นอันดับ 1 ที่ล้มไปช่วงวิกฤต Hamberger !!!

2. ช่วยสภาพคล่องแบงก์ที่เหลือ โดยเฟดประกาศ Bank Term Funding Program ขนาด 25,0000 ล้านดอลลาร์ ให้ธนาคารสามารถเอา พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หรือ ตราสาร Mortgage backed securities มาแลกเป็นสภาพคล่องได้ที่ราคาหน้าพันธบัตร

‘ดร.กอบศักดิ์’ ชี้!! 'Strength from Bottom' จะเป็นทางออกให้ไทย สู้กับปัญหาความเหลื่อมล้ำ

(16 ก.ย. 67) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สรุปช่วงหนึ่งในงานสัมมนา 'Big Heart Big Impact สร้างโอกาสคนตัวเล็ก...Power of Partnership จับมือไว้ ไปด้วยกัน' ของสำนักข่าวไทยพับลิก้าในหัวข้อ 'คนจนลง ภาพลวงตาของไทย ทางออกคือ? Move Forward, Just Do It' ระบุว่า...

ประเทศไทยหลงทางมานาน!!!

ยิ่งพัฒนา ยิ่งเหลื่อมล้ำ

ชุมชนยิ่งอ่อนแอ มีแต่หนี้ 

ทุกคนเรียกร้อง จะเอา 'สวัสดิการถ้วนหน้า'

แต่รัฐมีงบไม่พอ

แนวทางใหม่ในการพัฒนา

New Paradigm ที่เรียกว่า 'Strength from Bottom'

จะเป็นทางออกให้ไทย 

อ่านเนื้อหาเต็มเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่ >> งานสัมมนา ThaiPublica https://thaipublica.org/2024/09/kobsak-pootrakool-unleashing-power-of-communities/ 

‘กอบศักดิ์’ ชี้ส่งครามการค้า ‘ยุคทรัมป์ 2.0’ เริ่มพ่นพิษ แปรเปลี่ยนมิตรเป็นศัตรู – เศรษฐกิจในประเทศตัวเองส่อพัง

(5 มี.ค. 68) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ผลงาน Trump 2.0 !!!  จากความปั่นป่วนวุ่นวายที่ President Trump สร้างในช่วงที่ผ่านมา

เปิดศึก Trade Wars กับทุกประเทศ แบบไม่เลือกหน้า ทั้งกับ อดีตมิตรประเทศ เช่น แคนาดา เม็กซิโก ที่กำลังจะกลายเป็น อดีตมิตรประเทศ เช่น สหภาพยุโรปที่ยังเป็นมิตรประเทศ เช่น ญี่ปุ่น กับ คู่แข่ง เช่น จีน โดยประกาศขึ้นภาษีนำเข้า Tariffs ใน 3 ระดับ ระดับประเทศ ในทุกสินค้า ระดับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเหล็กกล้า อลูมินัม และต่อไป ยานยนต์ ยา ชิป ไม้ ฯลฯ ระดับบริษัท ที่เริ่มจากการห้ามการส่งออก Technology และในอนาคตจะมุ่งเป้าไปยังบางบริษัท เพื่อตอบโต้จีนที่ประกาศไม่ให้ขาย Critical Minerals ให้กับบริษัทสหรัฐอีก 15 บริษัท และกำหนดชื่ออีก 10 บริษัทไม่ให้ลงทุน หรือค้าขายกับจีน 

ทั้งหมดนี้ ทำให้นักลงทุนกังวลใจ ไม่แน่ใจกับอนาคตของบริษัทต่างๆ ในสหรัฐ ว่าจะโดนตอบโต้มากน้อยแค่ไหน ทั้งจากสินค้าธรรมดาเช่น ไวน์ สุรา ที่แคนาดาไม่ให้วางขายสัญญากับ Starlink ที่ถูกฉีกโดยแคนาดาในยุโรป เช่นที่ สวีเดน เดนมาร์ค ที่คนกำลังรณรงค์ไม่ให้ซื้อสินค้าสหรัฐ บริษัท Haltbakk Bunkers ของนอร์เวย์ที่ประกาศไม่เติมน้ำมันให้กับเรือรบของสหรัฐและอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น ขยายเป็นวงกว้าง 

ยิ่ง President Trump ประกาศเพิ่มความเข้มข้น เอาจริงเรื่อง Trade War เร่งขึ้น Tariffs เป็นลำดับ จีน 10% เป็น 20% สั่งให้ดำเนินการเก็บจริง กรณีแคนาดาและเม็กซิโก และเตรียมเก็บ Reciprocal Tariffs เพิ่มในเดือนเมษายน สร้างความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจการค้าโลกอย่างไม่เป็นมาก่อนรวมถึงผลกระทบต่อเงินเฟ้อ เศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งหมดนี้ ได้ทำให้ดัชนีหลักทรัพย์สำคัญของสหรัฐที่เคยดีใจว่า Mr. Donald J Trump กำลังเป็นประธานาธิบดีอีกรอบ ขึ้นไปทำ New High หลังรู้ผลเลือกตั้งเมื่อ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมาล่าสุด เมื่อเทียบกับวันเลือกตั้ง

S&P500 ได้เริ่มติดลบ -4.61 จุด หรือ -0.08% Nasdaq ติดลบ -154.01 จุด หรือ -0.84% Dow Jones ยังบวกอยู่นิดๆ +299.11 จุด หรือ +0.71% แต่อีกไม่นาน ก็คงติดลบเช่นกัน ยิ่งถ้าเทียบกับวันที่ 20 มกราคมที่เข้ามา ทุกดัชนีติดลบหมดแล้วเรียบร้อย !!! S&P500 -3.64% Nasdaq -6.85% Dow Jones -2.22%!!! 

จึงกล่าวได้ว่า จากที่เคยแอบมีความหวัง กลายเป็นเริ่มกังวลใจมาก จากการแผลงฤทธิ์ ในช่วงที่ผ่านมา 

ยิ่งท่านประธานาธิบดีบอกว่า Just Getting Started ในอนาคตเมื่อ สงครามการค้าเข้าสู่การต่อสู้เต็มรูปแบบ เปิดศึกครบทุกด้าน และได้รับการตอบโต้ในมิติต่างๆ ความกังวลใจก็คงหนักหน่วงกว่านี้ ผลกระทบก็คงจะรุนแรงกว่านี้

ผลตอบแทนของการลงทุนของเรา จะไม่ขึ้นกับเศรษฐกิจ ธุรกิจอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ขึ้นกับสิ่งที่ท่านจะประกาศ ที่จะเขียนใน Social Media และที่จะเลือกทำ และทำให้แรงขึ้น หากอีกข้างไม่สยบยอม

ทั้งหมดนี้ จะเป็น Uncertainty เป็นความไม่แน่นอนอย่างยิ่งให้กับโลกการเงิน ที่เบอร์ 1 ของโลก ที่ปกติจะพยายามรักษาความสงบของโลก ได้กลายร่างมาเป็นผู้ทุบระบบเสียเอง    

บอกว่า ที่ทำเช่นนี้ เพราะกำลังถูกเอาเปรียบจากระบบปัจจุบัน ทั้ง ๆ ที่เป็นระบบที่เขาสร้างขึ้นมา ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ขอเป็นกำลังใจอย่างยิ่งให้กับทุกคน ในยุคโลกปั่นป่วนครับ  

‘ดร.กอบศักดิ์’ เผย!! ‘จีน-สหรัฐฯ’ ทำสงครามการค้า ผู้ประกอบการ ต้องเตรียมพร้อม ชี้!! ไทยมีโอกาสเข้าไปแทนที่ เปิดตลาดใหม่ ระบายสินค้า เมื่อยักษ์ใหญ่ไม่คุยกัน

(12 เม.ย. 68) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความว่า...

ในช่วงต่อไป ถ้าไม่มีใครยอมใคร

สินค้าจีนที่ส่งไปสหรัฐ และสินค้าสหรัฐที่ส่งไปจีน คงต้องหาตลาดใหม่ให้ตนเอง
สินค้าเหล่านี้ กำลังจะมาที่ไทยและประเทศอื่นๆ

เราคงต้องเตรียมการรับมือ โดยเฉพาะผู้ประกอบการในไทย
สินค้าเหล่านี้ประกอบด้วย 

จากจีน - Smartphones, Laptops, Batteries, Toys, Telecom Equipment

จากสหรัฐ - Soybeans, Aircraft and engines, IC, Pharmaceuticals, Petroleum

มูลค่าไม่น้อย โดยเฉพาะสินค้าจากจีน 438.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ต่อปี และสินค้าจากสหรัฐฯ 143.5 พันล้าน สรอ. ต่อปี 

ประเทศใกล้ๆ อย่างไทย น่าจะเป็นเป้าหมายในการระบายสินค้าที่ดี

ส่วนผู้ส่งออก เมื่อเขาไม่ค้าขายกัน ไม่คุยกัน 

รายชื่อสินค้าเหล่านี้ เป็นเป้าหมายให้เราเข้าไปแทนที่ครับ

อย่าลืมว่า "ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ" 

เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top