Sunday, 20 April 2025
บ่อน

เปิดร่างกฎหมาย ‘กาสิโน’ ขอใบอนุญาต 5 พันล้าน คนไทยเสียค่าเข้าครั้งละ 5 พัน จัดตั้ง ‘สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร’ ทำหน้าที่ ดูแล-ควบคุม

(3 ส.ค.67) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลถึงการเดินหน้าโครงการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ว่า ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบรายงาน “รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ” ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธานกรรมาธิการฯ ด้วยเสียง 253 ต่อ 0 เสียง เมื่อ 28 มีนาคม 2567

ต่อมา 8 เมษายน 2567 รายงานผลการศึกษาดังกล่าวได้นำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และได้รับการเห็นชอบ พร้อมกับมอบหมายกระทรวงการคลัง รับศึกษาความเป็นไปได้รายละเอียดของคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือ กาสิโนถูกกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายให้นำมาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน

จากนั้นวันที่ 4 มิถุนายน 2567 นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.อีกครั้งให้กระทรวงการคลัง โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เร่งรัดการดำเนินการสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อให้มีแนวทางในการดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป

ล่าสุดกระทรวงการคลัง ได้ยกร่างร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ….เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเตรียมเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 จากนั้นจะจัดทำรายงานสรุปผลรับฟังความคิดเห็นเพื่อมาประกบในร่างกฎหมาย ก่อนกระทรวงการคลังจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ต่อไป

ทั้งนี้สาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าวมีอยู่ทั้งสิ้น 65 มาตรา แบ่งออกเป็น 9 หมวด ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรการ 2.คณะกรรมการบริหาร 3.สำนักงานกํากับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร 4.เลขาธิการ 5.พนักงานเจ้าหน้าที่ 6.การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร 7.การควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร 8.บทกำหนดโทษ และ 9.บทเฉพาะกาล

ส่วนสาระสำคัญตามมาตราอื่น ๆ มีดังนี้ มาตรา 3 ได้กำหนดความหมายของ ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ หมายความว่า การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน

‘กาสิโน’ หมายความว่า การจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนันในสถานที่ที่กำหนดเป็นการเฉพาะ

‘ใบอนุญาต’ หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

‘ผู้รับใบอนุญาต’ หมายความว่า ผู้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

‘ผู้บริหาร’ หมายความว่า ผู้จัดการหรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการบริหารงานของผู้รับใบอนุญาต ไม่ว่าโดยพฤติการณ์หรือโดยได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารของผู้รับใบอนุญาต

‘บริษัทในกลุ่ม’ หมายความว่า (1) นิติบุคคลที่ผู้รับใบอนุญาตถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละยี่สิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออก

เสียงทั้งหมดของนิติบุคคล (2) นิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นทั้งในนิติบุคคลนั้นและในนิติบุคคลที่เป็นผู้รับใบอนุญาต ตั้งแต่ร้อยละยี่สิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนิติบุคคลและนิติบุคคลที่เป็น ผู้รับใบอนุญาต

‘สำนักงาน’ หมายความว่า สำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

‘พนักงานเจ้าหน้าที่’ หมายความว่า ผู้ซึ่งสำนักงานแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

‘เลขาธิการ’ หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

‘รัฐมนตรี’ หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
ในบัญชีแนบท้ายกฎหมาย ระบุค่าธรรมเนียมใบอนุญาตดังนี้

1.การขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท

2.ใบอนุญาต แบ่งเป็น ครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี 1,000 ล้านบาท

3.ใบอนุญาต (ต่ออายุ) ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี 1,000 ล้านบาท

4.ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 100,000 บาท

ประเภทเครื่องเล่น

มาตรา 52 กาสิโนให้กระทำได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรโดยผู้รับใบอนุญาตและให้มีเฉพาะประเภท ดังต่อไปนี้

1 ใช้เครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องกล พลังไฟฟ้า พลังแสงสว่าง หรือพลังอื่นใดที่ใช้เล่นโดย วิธีสัมผัส เลื่อน กด ดีด ดึง ยิงโยน โยก หมุน หรือวิธีอื่นใดซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดยการนับแต้มหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม

2 ใช้อุปกรณ์ซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดยการนับแต้มหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม

ขณะที่ มาตรา 53 ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บุคคลภายนอกสถานประกอบการกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันได้

ห้ามเด็กต่ำกว่า 20 ปี – คนไทยต้องเสียค่าเข้า

มาตรา 55 ห้ามมิให้บุคคลดังต่อไปนี้ เข้าไปในสถานประกอบการกาสิโน

1.ผู้มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์

2.ผู้ซึ่งสำนักงานสั่งห้ามเข้าสถานประกอบการกาสิโน

3.ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียม ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

4.ผู้ที่มีลักษณะของบุคคลต้องห้ามตามที่สำนักงานประกาศกำหนด

ทั้งนี้ ในบัญชีแนบท้ายกฎหมายระบุค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท

มาตรา 62 ผู้รับใบอนุญาตที่ปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้าม เข้าไปในสถานประกอบกาสิโน ผู้รับใบอนุญาตต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 1 แสนบาทให้แก่สำนักงาน

ห้ามโฆษณา – จ่ายใต้โต๊ะ

มาตรา 58 ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการ เชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เกี่ยวกับกาสิโน หรือให้ผู้ใดดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารประกาศกำหนด

ให้ถือว่าการจ่ายค่าจ้างหรือผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดให้แก่บุคคลใด โดยผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้รับใบอนุญาต โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลผู้รับค่าจ้างหรือผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดต้องเพิ่มยอดการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโน ไม่ว่าการจ่ายค่าจ้างหรือผลตอบแทนจะคำนวณจากมูลค่าการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโนหรือไม่ก็ตาม เป็นการเชิญชวนหรือโฆษณาตามวรรคหนึ่ง

ให้ถือว่าการจัดกิจกรรมใด ๆ ที่เป็นการชักจูงให้บุคคลใดมีความประสงค์จะเข้าเล่น หรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโน เป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายตามวรรคหนึ่ง

ให้สินเชื่อผู้เล่น

มาตรา 59 ผู้รับใบอนุญาตสามารถให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

‘วินทร์ เลียววาริณ’ ชี้!! นักการเมืองไทย ยกตัวอย่าง สิงคโปร์ มาแค่เปลือก เพราะไม่คิดจะศึกษา ตั้งธงแล้วว่า จะเปิดบ่อน ที่เหลือ ค่อยไปว่ากันทีหลัง

(18 ม.ค. 68) ‘วินทร์ เลียววาริณ’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556 และนักเขียนรางวัลซีไรต์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘กาสิโน’ โดยมีใจความว่า ...

นักคิดนักเขียน อัลแบร์ กามูส์ เคยเขียนว่า "คนที่ขาดความกล้าหาญจะสามารถหาปรัชญามารองรับมันเสมอ"

เมื่อขี้เกียจก็หาเหตุผลมาขี้เกียจ

เมื่อจะโกง ก็หาเหตุผลมาโกง

เมื่อจะหาแดกจากพนัน ก็หาเหตุผลมาหาแดกจนได้

นักการเมืองไทยพยายามมาหลายสิบปีแล้วที่จะสร้างบ่อนถูกกฎหมายให้ได้ ข้ออ้างเดิมๆ คือหาเงินมาพัฒนาชาติ ข้ออ้างล่าสุดก็คือสิงคโปร์ทำแล้ว ถ้าไม่ดีสิงคโปร์คงไม่ทำ(มั้ง)

ผมอยู่ที่สิงคโปร์ตอนเขาประกาศทำบ่อน ประชาชนทั้งประเทศไม่เห็นด้วย รวมทั้งบิดาแห่งชาติ ลีกวนยู 

ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน ขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นพนัน โชคดีที่ต่อมาพ่อของเขาเปลี่ยนนิสัย และเลิกพนันไปตลอดชีวิต

ลีกวนยูไม่เคยเล่นพนัน และต่อต้านเรื่องนี้ เมื่อมหาเศรษฐีฮ่องกง Stanley Ho ผู้เปิดบ่อนที่มาเก๊าขอเปิดบ่อนที่สิงคโปร์ ลีกวนยูปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
แต่ลีกวนยูเปลี่ยนใจ ยอมสร้างบ่อน

ลีกวนยูบอกว่าเขาเปลี่ยนใจในจุดยืนเรื่องสร้างบ่อน เพราะมองเห็นว่าลำพังการเป็น first world city ไม่พอแล้วในศตวรรษใหม่ สิงคโปร์ขาดแรงดึงดูดพอสำหรับนักท่องเที่ยว สิงคโปร์ยังต้องพึ่งนักท่องเที่ยว และสิงคโปร์ก็ไม่มีอะไรน่าดึงดูดใจ นอกจากเมืองสะอาด

ตอนนั้นสิงคโปร์อยู่ในขาลง ลีกวนยูบอกว่าในเรื่องท่องเที่ยว สิงคโปร์สู้เมืองไทย มาเลเซีย ฮ่องกงไม่ได้ จำเป็นต้องหาจุดขายใหม่ เพื่อที่จะอยู่รอด เมื่อลีกวนยูประกาศสร้างบ่อน เขาเสียเครดิตไปเยอะ เพราะคนทั้งประเทศต่อต้าน

แต่ลีกวนยูสัญญาว่าจะคุมเข้ม ไม่ทำให้พลเมืองติดพนันอย่างเด็ดขาด (gambling inducement) และจะสร้างระบบมาคุม เวลาลีกวนยูบอกว่าจะสร้างระบบมาคุม ทุกคนก็เชื่อได้ว่าเขาทำได้จริง ด้วยกฎเหล็กเข้มข้นกว่าไทยเราล้านล้านเท่า 

การสร้างบ่อนของสิงคโปร์มีกฎระเบียบมากมาย และที่สำคัญคือระบบการตรวจสอบของเขาแน่นหนารัดกุม ไม่มีรูรั่ว ไม่มีคอร์รัปชัน ไม่มีทุจริตเชิงนโยบาย

จุดหมายของรัฐสิงคโปร์คือหาเงินจากนักท่องเที่ยว และไม่ยั่วยุให้พลเมืองติดพนัน คนสิงคโปร์จะเข้าบ่อนต้องจ่ายครั้งละ S$150 หรือสามพันเหรียญต่อปี และเมื่อเล่น ไม่ขยายวงเงินพนันให้เด็ดขาด

นักการเมืองไทยยกตัวอย่างสิงคโปร์มาแค่เปลือก ไม่ได้ศึกษาลึก เพราะไม่คิดจะศึกษา ตั้งธงแล้วว่าจะเปิดบ่อน ที่เหลือค่อยไปว่ากันทีหลัง

เราไม่ต้องมีสมองระดับไอน์สไตน์ก็คิดได้ว่า การยกบ่อนใต้ดินขึ้นมาบนดิน ไม่ได้ทำให้บ่อนใต้ดินหายไป ทุกอย่างเซมเซม แต่มีช่องหาแดกเพิ่มขึ้น (อย่างถูกกฎหมาย)

เราไม่ต้องมีสมองระดับไอน์สไตน์ก็คิดได้ว่า เมื่อทุกประเทศหรือทุกเมืองใหญ่ในโลกมีบ่อน บ่อนก็จะไม่ใช่จุดขายอีกต่อไป

เราไม่ต้องมีสมองระดับไอน์สไตน์ก็คิดได้ว่า อนาคตของเด็กไทยจะเป็นอย่างไร เมื่อเราปลูกฝังทัศนคติว่า ไม่ต้องทำงานก็รวยได้

เรากำลังสร้างคนในชาติให้เห็นว่าเงินคือคำตอบเดียวในจักรวาล เงินคือพระเจ้า

แต่เงินแค่ไหนจึงจะพอ?

หลังจากสร้างบ่อนถูกกฎหมายแล้วเราจะทำอะไรต่อ? ตั้งกระทรวงยาเสพติดแห่งชาติเพื่อหาเงินช่วยชาติ? ตั้งกระทรวงโสเภณีแห่งชาติเพื่อหาเงินช่วยชาติ? ตั้งกระทรวงมือปืนแห่งชาติเพื่อหาเงินช่วยชาติ? ตั้งกระทรวงศาสนาพาณิชย์เพื่อหาเงินช่วยชาติ?

เราสามารถเปลี่ยนภาพอบายมุขจากดำเป็นขาวในนามของชาติได้เสมอ

รักชาติจนน้ำตาสอ! รักชาติแล้วอิ่มจริงๆ!!

จริงอย่างที่ อัลแบร์ กามูส์ ว่า คนเราสามารถหาปรัชญามารองรับความเลวร้ายที่จะทำเสมอ

วินทร์ เลียววาริณ

คาสิโนถูกกฎหมาย สร้างรายได้ภาษี บนความล้มเหลวทางสังคม ดึงการเสี่ยงโชคนอกระบบ ให้มาอยู่ในระบบ เพื่อเพิ่มรายได้ให้รัฐ

(19 ม.ค. 68) รัฐบาลเดินเครื่องอนุมัติหลักการร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร แผนพัฒนาเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย จะมีการเปิดใบอนุญาตในกรุงเทพฯ 2 แห่ง พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่

ประเทศไทย อาจอยู่คู่กับการพนันเสี่ยงโชคมาโดยตลอด ที่ถูกกฎหมายในปัจจุบัน มีเพียงแต่การลุ้นรางวัลลอตเตอรี่ ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังคงมีการเสี่ยงโชคกับหวยใต้ดินมาอย่างต่อเนื่อง

ถึงแม้จะมีการออกสลาก N3 หรือ สลากตัวเลขสามหลัก เพื่อแก้ปัญหาการขายหวยใต้ดิน แต่ผลตอบรับในปัจจุบัน ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก 

มาครานี้ จะเป็นของใหญ่ อย่าง “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘คาสิโน’ ที่จะดึงการเสี่ยงโชคนอกระบบ ให้มาอยู่ในระบบ เพื่อเพิ่มรายได้การจัดเก็บภาษีให้รัฐ

สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ประชาชนยังคงมีรายได้จำกัด ยังตกงานอีกเป็นจำนวนมาก และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย รายได้ส่วนใหญ่ มาจากการรับจ้าง รับค่าแรงรายวัน หาเช้ากินค่ำ ซึ่งคนกลุ่มนี้ ก็นิยมเสี่ยงโชค ลุ้นเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตไปในแต่ละวันมากกว่า

หวยไม่ถูกกฎหมาย อย่างน้อย ก็ยังพอให้คนเล่น เล่นแบบเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอ เล่นเยอะถูกรางวัล เจ้ามือไม่จ่าย คนเล่นชักดาบ ก็แจ้งความไม่ได้ ในมุมมองผู้เขียน ก็เหมือนเป็นการป้องกันการทุ่มเล่นจนหมดตัว

พอถูกกฎหมายแล้ว จะควบคุมคนเล่นอย่างไร ไม่ทำการทำงาน ไปอยู่แต่บ่อนถูกกฎหมาย เล่นเสีย ขอแก้มือ ทุ่มเล่นจนหมดตัว... คือสิ่งที่น่ากังวล

‘ไม่เคยมีใครรวยจากการพนัน’ คนรวย คงไม่พ้น เจ้ามือ หรือผู้ลงทุนในธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ซี่งก็คงไม่ใช่ประชาชนทั่วไป ได้ไปถือหุ้นในธุรกิจนี้

‘คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น’ คำนี้ อาจจะถูกเพียงท่อนแรก เพราะตลาดหุ้นในปัจจุบัน ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกสิ่งที่สะท้อนให้เห็นสภาวะเศรษฐกิจไทย ลองย้อนกลับไปดูได้ว่าช่วงปีใด ที่มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และในปัจจุบัน ถูกเทขายจนดัชนี SET ไทย ตกมาต่ำกว่าระดับ 1,350 มูลค่าหุ้นหลายๆ คน น่าจะหายไป 30-40% ยังไม่นับรวมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่ถูก Forced Sell (การบังคับขาย)  

อะไรที่ไม่เคยเห็น ก็เริ่มได้เห็น ดันคาสิโนถูกกฎหมาย บริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มีการทุจริตเป็นหมื่นล้าน ผู้แทนประชาชนบางพรรคพยายามผลักดัน บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย สุราเสรี อาชีพ Sex worker ถูกกฎหมาย ตัดงบประมาณบรรเทาสาธารภัย เพิ่มงบใส่นโยบายประชานิยม โครงสร้างพื้นฐานเริ่มชะลอ สังคมไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไร... ไม่ขอลุ้นละกันครับ 

‘นิด้าโพล’ เผย!! ปชช. เกินครึ่ง คัดค้าน ‘กาสิโน - พนันออนไลน์’

(26 ม.ค. 68) ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่องการพนันร้อน ๆ มาแล้วจ้า…เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex)

จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายการอนุญาตการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจรที่รวมกาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.16 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน 

รองลงมา ร้อยละ 28.93 ระบุว่า เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน 

ร้อยละ 8.63 ระบุว่า เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีกาสิโน 

ร้อยละ 1.68 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น และร้อยละ 1.60 ระบุว่า เห็นด้วยกับกาสิโนเพียงอย่างเดียว

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายการแก้กฎหมายให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 58.32 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย 

รองลงมา ร้อยละ 19.92 ระบุว่า เห็นด้วยมาก 

ร้อยละ 11.45 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย 

และร้อยละ 10.31 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย

ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำประชามติเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย พบว่าตัวอย่าง ร้อยละ 51.07 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติทั้งเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย 

รองลงมา ร้อยละ 37.86 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติทั้งเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย 

ร้อยละ 5.11 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ เฉพาะเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน 

ร้อยละ 3.89 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ เฉพาะเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย 

ร้อยละ 1.99 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ตอบ

‘ดร.สังศิต’ เผย!! การพนันเสี่ยงโชค มีมานานกว่า 4,000 ปี ในประเทศจีน ชี้!! บ่อนไม่กลัว ‘นักพนันที่เก่ง’ แต่กลัว ‘นักพนันที่เลิกเล่น’ มากกว่า

(1 ก.พ. 68) รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย เผยแพร่บทความเรื่อง ‘อย่าปลุกปีศาจการพนันให้ตื่น’ มีเนื้อหาดังนี้

มีการขุดพบลูกเต๋าซึ่งเป็นเครื่องเล่นการพนันชนิดหนึ่งที่มีอายุราว 4000 ปีในประเทศจีน นั่นแสดงว่าคนจีนน่าจะมีประสบการณ์ในการเล่นการพนันหรือมีการเสี่ยงทาย หรือเสี่ยงโชคมาเป็นเวลายาวนานแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าในประเทศที่มีอารยธรรมเก่าแก่เช่นอินเดียก็มีการเล่นการพนันกันมาเป็นเวลาช้านานแล้วเช่นเดียวกัน จากหลักฐานที่ปรากฏแสดงว่าการพนันไม่ได้เกิดขึ้นด้วยตัวของมันเอง แต่เกิดจากมนุษย์เป็นคนสร้างมันขึ้นมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป การพนันกลับมีอิทธิพลอยู่เหนือมนุษย์จนอาจกล่าวได้ว่า ในปัจจุบันมนุษย์ผู้สร้างเกมส์การพนัน แต่กลับไม่มีความสามารถที่จะมีอิทธิพลเหนือเกมส์การพนันได้ ในทางตรงกันข้าม การพนันต่างหากที่กลับมีอิทธิพลเหนือชีวิตและการตัดสินใจของมนุษย์ และมันเป็นฝ่ายที่ครอบงำสังคมมนุษย์จนยากที่ มนุษย์จะหลุดพ้นออกจากการเสพติดการพนันได้

มีคำถามว่ามนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนันได้อย่างไร ? มีทฤษฎีที่อธิบาย เรื่องนี้โดยโยงใยกับเรื่องการผลิตในยุคโบราณของมนุษย์ ว่าเนื่องจากการผลิตของมนุษย์มีความไม่แน่นอน เพราะต้องพึ่งพาธรรมชาติแต่เพียงอย่างเดียว ดังนั้น มนุษย์จึงได้นำเรื่องของการเสี่ยงทายผลผลิตโยงเข้ากับเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ มนุษย์มองไม่เห็นและอธิบายไม่ได้ การเสี่ยงทายที่มีความไม่แน่นอนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ การพัฒนาจนเป็นเกมส์การพนันของมนุษย์ในเวลาต่อมา

สรุปได้ว่าการพนันไม่ได้ตกจากฟ้า ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มนุษย์เป็นผู้สร้างการพนันขึ้นมา ด้วยเหตุผลเพื่อความสนุกสนานและการบันเทิงของชุมชนในยามว่างจากฤดูกาลผลิต

แต่ต่อมา มนุษย์ได้สร้างกฎเกณฑ์กติกาต่าง ๆ ของเกมส์การพนันขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมการเสี่ยงโชคจากการพนันยอมรับว่ากฎกติกาเหล่านั้นว่าเป็นสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนต้องให้การยอมรับตั้งแต่เริ่มต้น

อย่างไรก็ดีเราต้องไม่ลืมว่าประการแรก ผู้ที่สร้างกฎกติกา ทั้งหมดขึ้นมาตั้งแต่แรกเริ่มเป็น ‘เอกชน’ ไม่ใช่รัฐหรือรัฐบาลที่อาจทำหน้าที่อย่างเป็นกลางได้ดีกว่าเอกชน

การพนันซึ่งแต่เดิมน่าจะเป็นเพียงการละเล่นเพื่อความสนุกสนาน และการบันเทิงเป็นหลัก ในเวลาต่อมา เมื่อเศรษฐกิจได้พัฒนาจนเกิดการใช้ ‘เงิน’ เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนแทนสิ่งของ การค้าของมนุษย์จึงเกิดการขยายตัวของการแลกเปลี่ยนมากยิ่งขึ้น และการพนันได้พัฒนาไปเป็นธุรกิจการค้าประเภทหนึ่งด้วย เมื่อการพนันได้กลายเป็นการค้าเสียแล้ว จึงไม่มีวันที่ผู้ประกอบธุรกิจการค้าคนใดจะสร้างกฎกติกาที่ให้ความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกันของสองฝ่าย คือระหว่างฝ่ายผู้เล่นกับเจ้ามือ ในเมื่อมันกลายเป็น ธุรกิจการค้า เจ้ามือจึงต้องกำหนดกติกาที่ทำให้ตัวเองมีโอกาสได้เปรียบและได้กำไรจากการทำธุรกิจการค้านั้นๆ จากบรรดานักการพนันทั่วไป เสมอ

ประการที่สอง เพราะเหตุว่า มนุษย์เป็นผู้สร้าง หรือผู้ ประดิษฐ์คิดสร้างเกมส์การพนันขึ้นมา ดังนั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ของเกมส์การพนันที่คิดขึ้นเกิดประโยชน์ให้แก่เจ้ามือได้มากที่สุด เกมส์การพนันจึงต้องสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้เล่นการพนันให้ได้มากที่สุด แต่เกมส์การพนันดังกล่าวต้องใช้เวลา ในการตัดสินแพ้ชนะให้เร็วที่สุด ด้วย เพราะความเร็วในการตัดสินแพ้ชนะของเกมส์คือผล ตอบแทนหรือผลกำไรของเจ้ามือนั่นเอง

ประการที่สาม เจ้ามือหรือผู้สร้างเกมส์การพนันจำเป็นต้องค้นหาวิธีให้ผู้เล่นหลงใหลกับเกมส์การพนัน และสถานที่เล่นการพนันให้มากที่สุด ดังนั้นการจัดสถานที่เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกผ่อนคลาย จนลืมเวล่ำเวลาของการเล่นการพนันไป ดังนั้นโดยทั่วไป หากไม่มีกฎหมายห้าม สถานคาสิโนมักอนุญาตให้ผู้เล่นสามารถสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ได้ คาสิโนบางแห่งมีการบริการอาหารชั้นเลิศจากพ่อครัวฝีมือเยี่ยม และบริการ เครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ฟรี สำหรับแขกวีไอพีสามารถสั่งอาหารนานาชาติตามที่ตัวเองต้องการได้ด้วย

สำหรับสถานคาสิโนแล้วมีคำกล่าวว่า “ คาสิโนไม่เคยกลัวนักการพนันที่เก่งและเฮง แต่คาสิโนกลัวนักการพนันที่เฮงแล้วเลิกเล่นมากกว่า” จากสถิติของสถานคาสิโน พบว่านักการพนันที่เก่งและเฮง หากยังเล่นต่อไปเรื่อย ๆ แล้ว ในที่สุดก็จะหมดตัวเหมือนกันทุกคน

ประการที่สี่ สถานคาสิโนต้องการนักการพนันวีไอพีมากกว่านักการพนันทั่วไป เพราะนักการพนันวีไอพีเล่นได้เสียครั้งหนึ่งเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง สถานคาสิโนที่เป็นสโมสรปิดที่มีผู้เล่นระหว่าง 15 - 30 คนในแต่ละคืนมียอดเงินที่เล่นได้เสียสูงกว่าคาสิโนทั่วไปที่มีคนเล่นหลายร้อยหรือหลายพันคนด้วยซ้ำไป

สรุปก็คือ สถานคาสิโนทั่วโลก ต้องการนักเล่นการพนันที่มี คุณภาพ หรือนักการพนันอาชีพที่กระเป๋าหนักมากกว่าจำนวนของนักเล่นการพนันในคาสิโน เพราะ นักการพนันอาชีพช่วยสร้างรายได้ให้แก่คาสิโนได้ดีกว่ามาก

ผมเคยติดตามคณะผู้เล่นวีไอพี ชาวไทยที่ไปสถานคาสิโนที่อังกฤษเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว พวกเราได้รับการต้อนรับอย่างดี ตั้งแต่ได้พักในโรงแรมอย่างดีฟรี มีรถโรลสรอยส์มารับส่งถึงที่หน้าโรงแรม เป็นประจำทุกคืน มีอาหารไทย จีนและอิตาเลียนชั้นเลิศต้อนรับ นักเล่นแต่ละคนเฉลี่ยแล้วใช้เงินในการเล่นแต่ละทริประหว่าง 30 -50 ล้านบาท

ผมยังได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนคนไทยในคณะด้วยว่า เวลาพวกเขาไปเล่นที่ลาสเวกัส ทางคาสิโนจะส่งเฮลิคอปเตอร์มารับถึงสนามบินเลยทีเดียว

ประการที่ห้า การเกิดขึ้นของคาสิโนที่ถูกกฎหมายเป็นครั้งแรกที่ลาสเวกัสเป็นปรากฏการณ์ ช็อกความรู้สึกของคนอเมริกันทั่วประเทศ เพราะมันเป็นการ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่อิทธิพลของทุนนิยมพร้อมแตกหักกับคำสอนของศาสนาคริสต์แล้ว มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความโลภ ความตระกะตระกราม และการแสวงหาความมั่งคั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของนายทุนกับบรรดาพระคริสต์ที่ยึดมั่นคำสอนมาตั้งแต่โบราณว่าการพนันเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นบาป แต่บทสวดและคำสอนของศาสนาไม่สามารถยับยั้งกระแสของอเมริกันชนที่หลั่งไหลไปเล่นการพนันในคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมายได้เลย

คาสิโนที่ลาสเวกัสแตกต่างจากการเล่นการพนันตามประเพณีนิยมทั่วไปที่เกิดขึ้นตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพราะการเล่นพนันตามประเพณีนิยมมักมีเกมส์การแข่งขันน้อยประเภท โดยทั่วไปก็มีเพียง 1-2 ประเภท เท่านั้น แต่คาสิโนที่ลาสเวกัสนำเสนอประเภทการพนันที่มากประเภทกว่า มีจำนวนโต๊ะการพนันที่มากกว่า และสามารถรวมศูนย์ผู้เล่นการพนันจำนวนมากมาไว้ในสถานที่เดียวกันได้ มันจึงมีความสนุกสนาน และบันเทิงเริงรมย์มากยิ่งกว่าการละเล่นการพนันตามประเพณีนิยมทั่วไป

ประการที่หก คาสิโนที่ลาสเวกัส เป็นเครื่องมือของกลุ่มนายทุน ที่กระตุ้นผู้ที่ชอบเล่นการพนันที่มีอยู่ทั่วไปในสหรัฐ ผู้ที่หวังร่ำรวยทางลัด โดยไม่ต้องทำงานหนัก ผู้ที่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนโชคดีจากการพนันมากกว่าคนอื่น พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคาสิโนเป็นเครื่องกระตุ้น “ด้านมืดของ มนุษย์ “ ให้แสดงออกมาได้อย่างเต็มที่และอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องแอบเล่นการพนันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตำรวจเหมือนในอดีตอีกต่อไป คนจำนวนมากในคาสิโนมีความรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับการปลดปล่อยออกจากพันธนาการของกฎหมาย หรือหลุดพ้นจากการต้องเก็บกดพฤติกรรมที่ต้องหลบซ่อนมาเป็นเวลาช้านาน เพราะพฤติกรรมการพนันในอดีตถูกประณามว่าเป็นสิ่งผิดศีลธรรม ของสังคม ดังนั้น คาสิโนจึงกลายเป็นที่รวมพลของคนที่เคยถูกประณามว่าเป็นคนชั่ว คาสิโนจึงเป็นสถานที่ให้มนุษย์ได้สามารถปลดปล่อยปีศาจที่สิงอยู่ในตัวมนุษย์ ออกมาแสดงให้เห็นได้อย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก โดยไม่ต้องมีการปิดบังซ่อนเร้นอีกต่อไป พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคาสิโนเป็นสถานที่ฟอกขาวให้ ” คนบาป“ กลายเป็นคนปกติ ฟอกสิ่งที่ผิดศีลธรรมให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการปล่อยผีหรือปีศาจ การพนันที่สิงอยู่ในตัวของมนุษย์ มาช้านาน หรือด้านมืดของมนุษย์ให้ออกมาอยู่ในโลกมนุษย์ได้แล้ว

ประการที่เจ็ด เมื่อปีศาจการพนันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา หรือ ได้รับอนุญาตให้แสดงออกได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ลาสเวกัส คนจากทุกมลรัฐทั่วสหรัฐต่างพากันหลั่งไหลเข้าสู่ลาสเวกัสเหมือนสายน้ำ เศรษฐกิจของลายเวกัสจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความอิจฉาตาร้อนให้แก่มลรัฐต่างๆ จนเกิดการเรียกร้องให้มีการตั้งคาสิโนในมลรัฐของตัวเองบ้าง ปัจจุบันทั่วทั้งสหรัฐมีคาสิโนเกิดขึ้นแล้วประมาณ 2000 แห่ง

เมื่อนิวซีแลนด์เปิดคาสิโนขึ้นเป็นครั้งแรก ปรากฏว่าคนจากออสเตรเลียต่างพากันหลั่งไหลไปเล่นการพนันที่นิวซีแลนด์จนแน่นขนัด เพื่อแก้ปัญหาเงินทุนไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก รัฐบาลออสเตรเลียจึงต้องตัดสินใจให้มีการตั้งคาสิโนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งประเทศขึ้นเพียง 1 แห่ง แต่โชคร้ายที่เมื่อปีศาจการพนันถูก ปลดปล่อยหรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในที่แห่งหนึ่ง ปีศาจการพนันจากที่อื่นๆ ที่มีจำนวนมากกว่า จะพากันเรียกร้องขอรับการปลดปล่อยให้พวกตนตามไปด้วยเสมอ

ดังนั้นเมื่อรัฐต่าง ๆ ในออสเตรเลียต่างพากันเรียกร้องสิทธิขอให้รัฐบาลจัดตั้งคาสิโน ในรัฐของตนเองบ้าง ในท้ายที่สุด รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มี นโยบาย 1 รัฐ 1 คาสิโน ทั่วประเทศออสเตรเลีย มันเป็นประชานิยมสำหรับปีศาจการพนันอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ

ดังนั้นเมื่อรัฐต่าง ๆ ในออสเตรเลียต่างพากันเรียกร้องสิทธิขอให้รัฐบาลจัดตั้งคาสิโน ในรัฐของตนเองบ้าง ในท้ายที่สุด รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มี นโยบาย 1 รัฐ 1 คาสิโน ทั่วประเทศออสเตรเลีย มันเป็นประชานิยมสำหรับปีศาจการพนันอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ

ประสบการณ์จากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย แสดงให้เราเห็นว่าการปลุกปีศาจคาสิโนให้ตื่นขึ้นมา รัฐบาลจะไม่มีวันควบคุมปีศาจตนนี่ให้อยู่ในพื้นที่ ที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้แต่แรกได้เลย ไม่ช้าปีศาจการพนันจากทั่วทุกหัวระแหงในประเทศจะลุกขึ้นตามมาสมทบ จนกระทั่งรัฐบาลหมดหนทางแก้ไขปัญหาได้

‘ดร.เสรี’ เตือน!! ดัน ‘กาสิโน’ อย่าดูถูก!! พลังประชาชนผู้รักชาติ ลั่น!! ประเทศไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ไม่ต้องพึ่งอบายมุข

(7 เม.ย. 68) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าเสียงคัดค้านอึงมี่ขนาดนี้ จะยอมถอยกันบ้างไหม

พรรคที่เป็นแกนนำและพรรคร่วม ไม่มีพรรคใดหาเสียงไว้ว่าจะมี Entertainment Complex ที่มี Casino แล้วทำไมต้องเร่ง

สส. ทั้งหลาย ท่านเป็น’ผู้แทนราษฎร’ ทำงานเพื่อประชาชน หรือเป็นตัวแทนนายใหญ่ ทำงานเพื่อประโยชน์ของนายใหญ่

องค์กรทางศาสนาหลักของประเทศประกาศไม่เอา Casino ทำจดหมายเปิดผนึกให้รัฐบาล ไม่รู้ว่า ครม. และ สส. จะนำพาหรือไม่

มือ Keyboard ใน Social media แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันชัดเจนว่าไม่ต้องการ Casino  เพราะผลกระทบเชิงลบทางสังคมมีมากมาย

แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่ไม่ฟังเสียงข้างน้อยในเรื่องที่ประชาชนเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ยอมไม่ได้ รัฐบาลก็เสี่ยงนะ

ตอนนี้การลงถนนอาจจะไม่มากพอที่จะทำให้รัฐบาลหวั่นไหว แต่อย่าได้ดูแคลนพลังประชาชนที่ไม่ต้องการให้ประเทศไทยมี Casino

รัฐบาลอ้างว่า Casino จะส่งเสริมการท่องเที่ยว ขอบอกว่าประเทศไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องอาศัยอบายมุข

ไม่ว่าจะอ้างรายได้มากแค่ไหน หลายฝ่ายต่างก็มองว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะผลกระทบเชิงลบทางสังคมนั้น มันจะทำลายประเทศไทย

ฟังเสียงประชาชนในภาคส่วนต่างๆแล้ว อย่าดันทุรังเลย ถอยเถอะ ถ้าไม่อยากเสี่ยง อย่ายโสโอหังว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก

ฟังเสียงประชาชนแล้วถอยดีกว่าจะต้องเผชิญกับชะตากรรมที่นักการเมืองทั้งหลายไม่ต้องการ ถ้าหากมันจำเป็น คนที่เขาทำให้รัฐบาลพ้นจากอำนาจได้ เขาก็อาจจะทำนะคะ

อย่าดูถูกพลังประชาชนผู้รักชาติที่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็น พวกเราพร้อมที่จะขับเคลื่อนต่อต้านรัฐบาลทั้งกิจกรรม online และ offline นะคะ

'แพทย์จุฬาฯ รุ่น 35' ออกโรงค้าน!! ประเทศไทย ไม่พร้อมมี 'กาสิโน' ชี้!! พนันถูกกฎหมาย จะนำ ‘ความเสื่อมเสียทางศีลธรรม’ มาสู่สังคม

(7 เม.ย. 68) ศิษย์เก่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 35 ออกแถลงการณ์คัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยระบุว่า พวกเรา ในนามของศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 35 ผู้มีรายชื่อดังต่อไปนี้ ขอร่วมคัดค้าน ร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เนื่องจากเห็นว่า ร่างฯ ดังกล่าว มีการอนุญาตให้มีการเล่นการพนันอย่างถูกกฏหมายอยู่ จะนำมาซึ่งความเสื่อมทางศีลธรรมของสังคมไทยอย่างมาก

ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะมีการพนัน แม้จะทำให้ถูกกฏหมายในช่วงเวลานี้ อีกทั้งกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย หรือความโปร่งใสในการบริหารจัดการยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ และยังไม่มีความชัดเจนในหลายส่วน เราไม่สนับสนุนการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้มีการเปิดบ่อนการพนัน หรือกาสิโนในประเทศไทย จึงได้ร่วมลงนามคัดค้านการเสนอ พ.ร.บ. ดังกล่าว เข้าสู่สภาในช่วงเวลานี้

ขอให้รัฐบาลและนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง โปรดพิจารณาให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง

รายชื่อ แพทย์จุฬาฯ รุ่น 35 ที่คัดค้านคาสิโน
1.ศ.นพ.รื่นเริง ลีลานุกรม ประธานรุ่น 35 อดีตประธานราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์ 
2.พญ.จันทร์ทิพย์ เอกศิลป์ 
3.นพ.พรเอก อภิพันธุ์ 
4.นาวาอากาศเอก พญ.ภัทรวดี นาราวงศ์ 
5.นาวาอากาศโท นพ.ศักดา นาราวงศ์ 
6.นพ.วิศิษฐ์ วทานิยกุล 
7.นพ. สมรัช หิรัญยะวะสิต 
8.นพ. สวัสดิ์ ไตรตรึงษ์ทัศนา 
9.นพ. ยุทธชัย ตริสกุล 
10.นพ. มนตรี ลักษณ์สุวงศ์ 
11.พญ.มณฑา ไชยะวัฒน 
12.นพ.นรินทร์ บัญชานุรัตน์ 
13.นพ.วิสิทธิ์ เสถียรวันทนีย์ 
14.นพ.ปริทรรศ ศิลปกิจ 
15.นพ.สมชาย ไวกิตติพงษ์ 
16.นพ.ชลทิศ อุไรฤกษ์กุล 
17.พญ.เอมอร วาสนสิริ 
18.นพ.ประพันธ์ ชนม์ยืน 
19.ศ.ดร.นพ.พรชัย สิทธิศรัณย์กุล 
20.นพ.พรชัย วงศ์อุไรเลิศกุล
21.พญฺ.สุจิตรา ทศบวร 
22.นพ.สมบูรณ์ ทศบวร 
23.นพ.โกวิท คัมภีรภาพ 
24.นพ.กิจชัย ภัทรกุลพงษ์ 
25.นพ.นรชาติ รัตนชาตะ 
26.นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร 
27.พญ.สมนึก ไพบูลย์เกษมสุทธิ 
28.นพ.พิชญ์ ไพบูลย์เกษมสุทธิ 
29.นพ.สุนทร ไกรสุวรรณ 
30.นพ.ชัยชาญ ดีโรจนวงศ์ 
31.นพ.วิชาญ ลือสมบูรณ์ 
32.นพ.เสกสรรค์ แซ่แต้ 
33.นพ.เสถียร เทศวิเชียรชัย 
34.นพ.สมชาย จิตเป็นธม 
35.นพ.กนก กนกวงศ์นุวัฒน์ 
36.นพ.อดุลย์ สายสังข์ 
37.ศ นพ สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ 
38.นพ.สมคิด วิระเทพสุภรณ์ 
39.นพ.ทิวา พงศ์บุญชู 
40.พล.ร.ท.วิชัย มนัสศิริวิทยา 
41.นพ.นเรศ วิไลสกุลยง 
42.นพ.ศิริพงษ์ ปาจรีย์
43.นพ.ชำนาญ เตชะนิรัติศัย 
44.นพ.พงศธร อาสนศักดิ์ 
45.นพ.พรสรรพ์ ปุญญาภิบาล 
46.นพ.พิชัย วิจักขณ์พันธ์ 
47.นพ.สามภพ สาระกุล 
48.พญ.วิภา สาระกุล 
49.นพ.ธีรพงษ์ บุญยะลีพรรณ 
50.นพ.วิชัย ลีวรรณนภาใส 
51.พลอากาศโท นพ.นพดล วีรยางกูร 
52.นพ.สมคิด สุพรรณ์ 
53.นพ.สงัด วงศ์สิโรจน์กุล 
54.นพ.ธวัช คงคาลัย 
55.ศ.นพ.เทวารักษ์ วีระวัฒกานนท์ 
56.พ.อ.(พ.) นพ.ประสิทธิ์ จงฤทธิพร 
57.นพ.ปัญญา สินธุรัตเวช 
58.นพ.สุธีร์ พันธ์ทองลาภทวี 
59.ศ.นพ.สมศักดิ์ คุปต์นิรัติศัยกุล 
60.พล.ต.ท.สุพล จงพาณิชย์กุลธร 
61.นพ.กัมปนาท ตั้งอมตะกุล 
62.พล.อ.ท ไกรเลิศ เธียรนุกุ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top