Tuesday, 22 April 2025
บันทึกข้อตกลง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมธนารักษ์ จัดทำโครงการบ้านพักสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนที่พักอาศัย

วันที่ (15 ก.ย. 65) เวลา 10.00 น. ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบ้านพักสวัสดิการเพื่อข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำในสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมธนารักษ์ กระทรงการคลัง โดยมีนายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์เป็นผู้แทนลงนามฯ ทั้งนี้ มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมธนารักษ์ร่วมในพิธีฯ

สำหรับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ตามที่ พล.ต.อ. สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข 
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการขาดแคลนที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ และลูกจ้างประจำในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีจำนวนไม่เพียงพอ และในกรณีของข้าราชการตำรวจ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็ประสบปัญหาไม่มีที่พักอาศัยเนื่องจากต้องคืนบ้านพักราชการ 

แถลงข่าวลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU)ในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก

(8 ก.พ. 66) เวลา 10.30 น. ณ สารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายเสกสม อัครพันธ์ุ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และผู้บริหารของกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ.ตร. และ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์  ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ได้ร่วมกัน แถลงข่าวประชาสัมพันธ์การเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบังคับใช้กฎหมาย ว่าด้วยการจราจรทางบก เพื่อลดการกระทำผิดกฎหมาย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 

ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถ ใช้ถนน ให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่ ลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ  จึงได้สั่งการ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ร่วมกันดำเนินการกวดขันวินัยการขับขี่ โดยบังคับใช้มาตรการตามที่กำหนดในกฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้ง 2 หน่วยงาน จึงได้ร่วมกันกำหนดมาตรการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่  

มาตรการที่ 1 การตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปตั้งแต่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้กระทำผิดกฎจราจรและถูกตัดคะแนนแล้ว จำนวน 15,456 ราย

มาตรการที่ 2  คือมาตรการชะลอการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี สำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระ ตาม 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลยานพาหนะ และข้อมูลใบสั่งค้างชำระ เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลได้แบบ Real Time ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดผลสัมฤทธิ์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงได้กำหนดให้มีการลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก

สำหรับ มาตรการชะลอเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี จะใช้กับรถยนต์ที่ที่มีใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ ซึ่งเพิกเฉยไม่ชำระค่าปรับตามที่กำหนด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งข้อมูลโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก เมื่อประชาชนไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปี แต่ยังไม่ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายภาษี) โดยจะได้หลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษี ซึ่งมีอายุ 30 วัน เพื่อให้ผู้นั้นไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน แล้วจึงสามารถมารับป้ายภาษีได้ แต่หากประชาชนต้องการจะชำระค่าปรับในขณะต่อภาษี กฎหมายกำหนดให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้นายทะเบียนสามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งพร้อมกับชำระภาษี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้เลยทันที

ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับรถโดยไม่มีป้ายภาษี จะมีโทษตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 11  ซึ่งกำหนดว่า รถยนต์คันที่ต่อภาษีแล้วจะต้องแสดงเครื่องหมายตามที่กรมการขนส่งกำหนดให้ครบถ้วน มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติได้ จากเว็บไซต์ E-ticket PTM  และ แอปพลิเคชั่น ขับดี ทางด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายในการป้องกันและรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืน กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการตามนโยบาย โดยการร่วมจัดทำ “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ กรมการขนส่งทางบก” ซึ่งบันทึกข้อตกลงนี้ มีที่มาจากพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 141/1 ที่กำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย สำหรับผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายจราจรและได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานตำรวจ และไม่ชำระค่าปรับจราจรภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด 

กระทรวงแรงงาน ร่วมกับสถาบันการสร้างชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินโครงการพัฒนาสุขภาพขององค์กรเพื่อการสร้างชาติ พัฒนามาตรฐานการดูแลคุณภาพชีวิตแรงงาน ส่งเสริมไทยเป็นเมืองหลวงด้าน Wellness ของโลก

วันที่ 10 มีนาคม 2566 เวลา 13.30 น. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินโครงการพัฒนาสุขภาพขององค์กรเพื่อการสร้างชาติ ระหว่างกระทรวงแรงงานกับสถาบันการสร้างชาติ (Wellness Corporate Nation-Building : Wellness CNB) ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยกล่าวว่า กระทรวงแรงงาน มีความยินดีให้การสนับสนุน ส่งเสริม ประสานงานความร่วมมือกับสถาบันการสร้างชาติในกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ Wellness CNB ซึ่งจะช่วยให้แรงงานในสถานประกอบการต่างๆ เกิดสวัสดิภาพที่ดี ยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานให้มีสุขสภาพ ทั้งร่างกาย จิตใจ รวมทั้งเศรษฐกิจ สังคม และพร้อมสนับสนุนด้านความรู้ วิชาการ และการประสานความร่วมมือไปยังสถานประกอบการต่างๆ ในการดูแลให้ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ Wellness CNB ที่สถาบันการสร้างชาติจัดขึ้น อีกทั้งเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงกับสถาบันการสร้างชาติ ในโครงการพัฒนาสุขสภาพขององค์กรเพื่อการสร้างชาติในวันนี้ จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมผ่านการหารือในรายละเอียดของกิจกรรมที่จะทำร่วมกันต่อไป ในส่วนของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)

การสร้าง Wellness ให้เกิดขึ้นในแรงงานไทยจะช่วยสนับสนุนสิ่งที่กระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญมาตลอด และจะสนับสนุนการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีมีคุณภาพให้กับแรงงานต่อไปในอนาคต โครงการนี้จะมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการพัฒนามาตรฐานการดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงานทุกคน และช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นเมืองหลวงด้าน Wellness ของโลกได้อย่างแท้จริง นายบุญชอบฯ กล่าวในท้ายที่สุด

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ กล่าวว่า การร่วมมือการลงนามในวันนี้ สถาบันการสร้างชาติ ได้ร่วมกับนักศึกษาหลักสูตรผู้นำการประกอบการ Wellness เพื่อการสร้างชาติของสถาบันการสร้างชาติ จะร่วมพัฒนาส่งเสริมการต่อยอดสร้างองค์กรต้นแบบที่มีสุขสภาพที่ดี สร้างเครือข่ายกับองค์กรที่ร่วมโครงการ ขยายมุมมองการจัดการภายในองค์กร เพื่อสร้างสุขภาพที่ครบถ้วนและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศด้านการส่งเสริมสุขภาพสำหรับบุคลากรในองค์กรเพื่อการพัฒนาสุขสภาพองค์กรเพื่อการสร้างชาติ (Wellness Corporate Nation-Building : Wellness CNB) 

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านวิศวกรรม นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ณ.มหาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดี ได้ให้การต้อนรับคุณประจักษ์ กิตติรัตนวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด และ คุณนพชัย ถิรทิตสกุล ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีโนวา อินทิเกรชั่น จำกัด และร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านวิศวกรรม นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. ณ ห้องพระยาศรีวิสารวาจา สำนักงานมหาวิทยาลัย โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พฤกษ์ อักกะรังสี, คุณพรทิพย์ ลาบุตร เลขานุการรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด และ คุณเกียรติวรากร กีรติชนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท อีโนวา อินทิเกรชั่น จำกัด ลงนามในฐานะพยาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดี, รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย คุณภาพดีเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาย รังสิยากูล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ, คุณณัฐวิทย์ ครูบา ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่และสาธารณูปโภค และแขกผู้มีเกียรติจากบริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด โดยมีบริษัท88แปซิฟิคจำกัดนายธวัชชัย กิตติรัตนวิวัฒน์ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top