Thursday, 15 May 2025
บวชพระ

‘มหาเถรฯ-พศ.’ แจ้งทุกวัดห้ามบังคับตรวจหาเชื้อ HIV ก่อนบวช ชี้!! ไม่เข้าข่ายเป็นโรคน่ารังเกียจ พร้อมย้ำหลักสิทธิเสรีภาพบุคคล

(31 พ.ค. 67) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ กสม. ได้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกรณีวัดแห่งหนึ่ง ในเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร กำหนดให้ผู้สมัครบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ต้องแสดงผลการตรวจสุขภาพและการตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV) โดย กสม. มีมติเมื่อเดือนก.ย. 2566 มีข้อเสนอแนะไปยังวัดดังกล่าว ให้ยกเลิกการตรวจหาเชื้อเอชไอวีของผู้ที่จะเข้ารับการอุปสมบท

พร้อมทั้งให้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แจ้งเวียนไปยังวัดที่อยู่ในสังกัดทุกวัดไม่ให้บังคับตรวจหาเชื้อเอชไอวี ของผู้ประสงค์จะเข้ารับการอุปสมบท เพื่อไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรม โดยใช้เหตุแห่งการติดเชื้อเอชไอวีมาเป็นข้อจำกัด ที่ลิดรอนโอกาสในการเข้าถึงเสรีภาพในการปฏิบัติธรรมตามหลักศาสนาพุทธ

เนื่องจากมีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่า เชื้อเอชไอวีจะไม่ติดต่อจากการทำกิจวัตรประจำวันทั่วไป ไม่ติดต่อผ่านทางระบบหายใจ อีกทั้งเป็นเชื้อที่ตายง่ายเมื่ออยู่นอกร่างกาย หากผู้ติดเชื้อได้รักษาอย่างถูกต้อง รับประทานยาต้านเชื้ออย่างต่อเนื่อง จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง และดำรงชีวิตได้เช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป

ประกอบกับกฎมหาเถรสมาคม กำหนดเพียงว่าผู้ประสงค์จะบรรพชาต้องเป็นผู้มีร่างกายสมบูรณ์ และมีเพียงข้อห้ามที่ไม่อนุญาตให้บรรพชาอุปสมบทแก่คนที่มีโรคติดต่อเป็นที่น่ารังเกียจ เช่น วัณโรคในระยะอันตราย เท่านั้น โดยให้เป็นดุลพินิจของพระอุปัชฌาย์ แต่การใช้ดุลพินิจดังกล่าวต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงอย่างสมเหตุสมผลตามบริบทของสังคมไทยและข้อมูลทางการแพทย์ ต้องคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของบุคคลด้วย

ล่าสุด เมื่อเดือนเม.ย.2567 พศ. ได้มีหนังสือแจ้งการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอแนะของ กสม. โดยแจ้งมติมหาเถรสมาคม เรื่อง การตรวจหาเชื้อเอชไอวี กรณีบรรพชาอุปสมบทแก่บุคคลทั่วไป ระบุว่า มหาเถรสมาคมได้มีมติที่ 313/2567 รับทราบความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขตามรายงานของ พศ. ว่าการติดเชื้อเอชไอวี ไม่ใช่โรค จึงไม่เข้าข่ายเป็นโรคที่น่ารังเกียจตามกฎมหาเถรสมาคม

ประกอบกับมีความเห็นของ ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ว่าการบังคับให้ผู้หนึ่งผู้ใดต้องตรวจหาเชื้อเอชไอวี ไม่อาจกระทำได้ตามกฎหมาย มตินี้ไม่กระทบต่อหน้าที่และอำนาจของพระอุปัชฌาย์และเจ้าอาวาสที่จะคัดกรองกุลบุตร และปกครองพระภิกษุสามเณรในสังกัด และ พศ. ได้ดำเนินการแจ้งเจ้าคณะใหญ่ทราบ และแจ้งพระอุปัชฌาย์ ถือปฏิบัติตามมติมหาเถรสมาคม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ กสม. ขอชื่นชมมหาเถรสมาคมและพศ. ที่ได้ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็ว

ลี ยัต-หลง ดาราฮ่องกงโกนหัวบวชที่อินเดีย เลือกเดินทางสู่ทางธรรมหลังเลิกรากับแฟน

(14 ก.พ.68) สื่อฮ่องกงรายงานว่า ลี ยัต-หลง Don Li Yat-long (ดอนหลี่) อดีตแฟนหนุ่มของมิสฮ่องกง วัย 43 ปี ตัดสินใจโกนศีรษะและบวชเป็นพระที่อินเดีย หลังจากผิดหวังในความรัก  

ก่อนหน้านี้ ลี ยัต-หลง ได้เดินทางไปอินเดียพร้อมกลุ่มเพื่อนเพื่อพักผ่อน แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 ภาพของเขาในชุดจีวรพระภิกษุได้ปรากฏบนสื่อออนไลน์ สร้างความประหลาดใจให้กับแฟน ๆ และผู้ที่ติดตามข่าวของเขา  

แหล่งข่าวระบุว่า การบวชครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากพระผู้ใหญ่จากไต้หวันและไทย ซึ่งเป็นประธานในพิธีบรรพชาให้กับเขา  

ลี ยัต-หลง เคยมีชื่อเสียงจากความสัมพันธ์กับอดีตมิสฮ่องกง แต่หลังจากเลิกรากัน เขายังไม่พบความสัมพันธ์ใหม่ และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม  

ทั้งนี้ ไม่มีรายงานว่าเขาจะบวชตลอดชีวิตหรือเป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยแฟนๆ ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของเขาอย่างใกล้ชิด

มูลนิธิพระราหู – จีจีไอ. กรุ๊ป เปิดรับผู้เข้าร่วมโครงการ อุปสมบทหมู่มุ่งสู่ดินแดนพุทธภูมิ - ลงทะเบียนได้ด้านล่าง

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการ พรรครวมไทยสร้างชาติ และประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู เปิดเผยว่า มูลนิธิพระราหู ร่วมกับ บริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ กรุ๊ป จำกัด ได้จัดโครงการอุปสมบทหมู่ตามรอยพระบรมศาสดาสู่ดินแดนพุทธภูมิ แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนาเพื่อไปศึกษาพระธรรม และที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วม โครงการบรรพชามาแล้วถึง 6 รุ่น ด้วยกัน โดยมูลนิธิพระราหูและบริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ. กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

จึงขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาอันแรงกล้าเข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ตามรอยพระบรมศาสดาสู่ดินแดนพุทธภูมิ แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย รุ่นที่ 7 ปี 2568 ในห้วงเวลา ตั้งแต่ วันที่ 28 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2568 (จำนวน 18 วัน) 

ทั้งนี้ หากประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ไลน์กลุ่มบวชพระอินเดีย โดยทีมงานจะบันทึกลงโน้ตไว้ให้ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568  - 1 กรกฎาคม 2568 และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสัมภาษณ์ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2568

สำหรับเงื่อนไขของการรับสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น ดังนี้
1. ต้องมีความมุ่งมั่น และมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง
2. สามารถปฏิบัติตนตามกฎ และเงื่อนไขของโครงการที่กำหนดไว้ในโปรแกรมได้อย่างครบถ้วน
3. มีอายุระหว่าง 20 - 65 ปี และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวอันตรายที่มีผลเสียงในการเดินทาง และปฏิบัติธรรมในห้วงกิจกรรม
4. หากโครงการฯ ดำเนินการออกตั๋วเครื่องบิน และขอวีซ่าแล้วท่านไม่สามารถเดินทางได้ ท่านจะต้องเป็นผู้ชดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในส่วนของท่านให้แก่ทางโครงการฯ โดยไม่มีการเรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top