Sunday, 20 April 2025
น้ำท่วมปี54

"เสกสกล" ตีแสกหน้า "ปู" สุมหัว "ปลอดกับโต้ง" ออกคลิปน้ำท่วม'54 แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ฟอกตัวอย่างไม่เกรงใจประชาชน โยนบาปให้คนอื่น

19 ตุลาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เผยแพร่คลิป “น(า)ทีวิปโยค : 10 ปีมหาอุทกภัย” ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยนายเสกสกล ได้ออกมาเปิดเผยว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณคิดเพื่อไทยทำอีกหลายคน โดยเฉพาะนายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์พาดพิง กล่าวหาหน่วยงานรัฐ รวมไปถึงพยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ฟอกตัวอย่างไม่เกรงใจประชาชนที่ทุกข์ระทมขมขื่น มีชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็นหลายเดือนจากการบริหารจัดการน้ำไร้ประสิทธิภาพในยุคนั้น 

ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์น้ำท่วมปี 2554 ยาวข้ามปีไปถึง 2555 คนไทยจำได้ดี น้ำท่วมกินพื้นที่กว่า 36 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 65 จังหวัด ไล่ตั้งแต่เชียงใหม่ลงมาถึง กทม. ประชาชนเดือดร้อนกว่า 12 ล้านคน คนตายอย่างน้อย 815 คน มีคนไทยกว่า 5 ล้านคน กลายเป็นผู้อพยพ คนงานเกือบ 650,000 คน ตกงานหรือได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีนักวิชาการธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 1.425 ล้านล้านบาท

แต่มาวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์กับพวกกลับหน้ามึนถึงขนาดออกมาโยนขี้ให้คนอื่นไปทั่ว ไม่เห็นความบกพร่องผิดพลาดของพวกตนเลย พยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ด้วยวาทกรรมเดิมๆ ทั้งๆ ที่ความจริง รัฐบาลยิ่งลักษณ์แถลงนโยบายในวันที่ 23 สิงหาคม 2554 หากใส่ใจกับการแก้ปัญหาจริงๆ เหมือนการออกพาสปอร์ตและแก้ปัญหาให้พี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร ที่หนีคดีอยู่ ย่อมจะสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนทุเลาลงได้มากกว่านี้หลายเท่านัก 

สถานการณ์น้ำท่วมปี 54 ส่งสัญญาณมาจากพายุไหหม่า และนกเต็น ตั้งแต่เดือน มิ.ย. และ กค. 2554 มีสถานการณ์น้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก แต่ยิ่งลักษณ์มัวแต่นวยนาด กว่าจะลงมือแก้ปัญหาจริงๆ จังๆ ก็กลางเดือนกันยา 54 กว่าจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็เดือนตุลา 54 ใช้สนามบินดอนเมืองเป็นศูนย์ แล้วสุดท้ายขนาดดอนเมืองยังปล่อยให้ท่วม แล้วชีวิตชาวบ้านจะเหลืออะไร นั่นเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากของคนไทย ที่ต้องทนอยู่กับนายกฯ โง่ๆ และรัฐบาลหุ่นเชิดที่คอยแต่รับคำสั่งจากคนแดนไกลอย่างแท้จริง

ปทุมธานี - “บิ๊กแจ๊ส” เตือนมวลน้ำปีนี้น้อง ๆ ปี 54 ประชาชนอย่าประมาท! ร่วมสมาคม อบจ.ช่วยเหลือคนปทุม

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 10:30 น. นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหาส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย มอบหมายให้ นางบังอร วิลาวัลย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมองค์การบริหาร่วมจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ 1,000 ถุง ให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ (น้องบาย) เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี เพื่อไปมอบให้กับประชาชนเพื่อเป็นกำลังใจและบรรเทาภัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ และตำบลบ้านฉาง ที่ชุมชนวัดบางหลวง ตำบลบางหลวง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี

สืบเนื่องจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินและวิเคราะห์ปริมาณฝนตกร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากแม่น้ำปิงจะทำให้มีน้ำไหลผ่านบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มสูงสุดจากอัตรา 2,484 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 3,000-3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 22 ตุลาคม 2564 โดยจะบริหารจัตการน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำและผันน้ำเข้าคลองต่าง ๆ ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อยู่ในเกณฑ์ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันประมาณ 20-40 เซนติเมตร ในช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2564 

ด้าน นางบังอร วิลาวัลย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมองค์การบริหาร่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหาส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (นายก อบจ.สุพรรณบุรี) ได้มอบหมายให้ตนเองและทีมงานที่มาด้วยความตั้งใจและห่วยใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมไม่ว่าผู้ประสบภัยจะอยู่ที่ไหน สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย จะเข้าไปช่วยส่วนในจังหวัดปทุมวันนี้ได้จัดถุงยังชีพ 1,000 ชุด บรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10 ซอง ปลากระป๋อง 10 กระป๋อง และข้าวสารหนัง 15 กิโลกรัม เพื่อบรรเทาภัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ และตำบลบ้านฉาง จำนวน 500 ชุด และอีก 500 ชุด ทางพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และทีมงานจะทำไปมอบยังจุดอื่น ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป

'นักเขียนชื่อดัง' ชี้!! หากปีไหนน้ำไม่ท่วมเท่าปี 54 อย่าสรุปเองว่าน้ำไม่ท่วม ยกเคส 'เชียงราย' ของจริง!! ต้องเร่งกระจายอำนาจ อย่ารอแต่ส่วนกลาง

(22 ส.ค.67) จากเหตุการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมาหลายวันได้ทำให้น้ำป่าบนเทือกเขาชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เทิง-อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ไหลทะลักลงสู่ลำน้ำหงาว ที่เอ่อล้นอยู่แล้วจนทะลักเข้าท่วมหนักในหมู่บ้านหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย

อย่างไรก็ตามวันนี้ ‘ภาณุ ตรัยเวช’ นักเขียนชื่อดัง และอดีตตัวแทนนักเรียนไทยที่ไปแข่งขันวิชาฟิสิกส์โอลิมปิกถึง 3 สมัยได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ใน จ.เชียงราย ครั้งนี้ โดยได้ระบุข้อความว่า

“ตอนแรกจะรอให้น้ำลดก่อนแล้วค่อยเขียน แต่เขียนเลยละกัน สังคมไทยต้องหยุดเอาน้ำท่วมปี 54 เป็นมาตรฐานของ ‘น้ำท่วม’ แล้วเอาเหตุการณ์น้ำท่วมเชียงรายแบบนี้ต่างหากเป็นมาตรฐาน

น้ำท่วมส่วนใหญ่เกิดจากฝนตกใหญ่ ‘ความเร็ว’ น้ำที่ไหลลงมาเกินกว่าขีดจำกัด ‘ความเร็ว’ การระบายน้ำออก น้ำเลยขังอยู่ในที่ที่เราไม่อยากให้มันขัง จุดสำคัญคือ ‘ขีดจำกัดของการระบายน้ำออก’ นี่แหละ มันไม่ใช่ปัจจัยธรรมชาติ เป็นเรื่องการจัดการของคน ของหน่วยงานท้องถิ่นด้วย

ทุกปีจะมีเหตุการณ์น้ำท่วม xxx ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี โดย xxx เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โดยไม่จำเป็นเลยว่าน้ำจะต้องมาจ่อท่วมกรุงเทพฯ เหมือนปี 54

น้ำท่วมกรุงเทพฯ ปี 54 เป็นกรณียกเว้นของยกเว้น เกิดเพราะ ‘ปริมาณ’ น้ำสะสมล้นเกิน น้ำไม่มีที่ไป ต่อให้ระบายได้เร็วก็ไม่รู้จะไประบายที่ไหน เพราะเขื่อน เพราะแม่น้ำใหญ่ล้นหมดแล้ว (ซึ่งไม่ใช่สถานการณ์ในปีนี้เลยนะ เราเช็กข้อมูลน้ำในเขื่อนสะสม ก็ค่อนข้างเป็นไปตามมาตรฐาน)

น้ำท่วมเชียงรายแบบตอนนี้ต่างหากคือโมเดลของปัญหาน้ำท่วมจริง ๆ เราไม่อยากท่องคาถา ‘กระจายอำนาจ’ แต่มันมีส่วนสำคัญเลยล่ะ เพราะท้องถิ่นต่าง ๆ ต้องสามารถระบายน้ำให้ทันกับน้ำที่ตกลงมา หรือมี infrastructure ที่พร้อมรับมือกับเรื่องราวไม่คาดฝันได้ในทุกปี (ซึ่งอะไรแบบนี้ ‘ส่วนกลาง’ อย่างเดียวทำไม่ได้หรอก)

เราไม่อยากให้คนคิดว่า ‘น้ำท่วมใหญ่’ คือ ‘น้ำท่วมกรุงเทพฯ ปี 54’ เพราะสุดท้ายพอมันไม่เป็นถึงขนาดนั้น เราก็สรุปกันว่า ‘ปีนี้น้ำไม่ท่วม’ ซึ่งไม่ใช่เลย น้ำท่วมทุกจังหวัด ทุกปี ในรูปแบบที่แตกต่างออกไปเท่านั้นเอง”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top