Wednesday, 23 April 2025
น้ำตก

U Forests Cafe ร้านกาแฟสุดชิล กลางฟีลธรรมชาติ พิกัดเช็กอินใหม่แห่งระยอง ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องลอง

สุดสัปดาห์นี้ หลายคนอาจจะกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว ที่จะขับรถไปพักผ่อนในช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ THE STATES TIMES ขอแนะนำ 

U Forests Cafe ร้านกาแฟสุดชิล ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ เป็นอาคารออกแบบผสมผสานชั้นเดียว มีดาดฟ้าภายในโอ่โถง พร้อมกับที่นั่งด้านนอก ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ สุดอลังการ กับ หินลีลาขนาดใหญ่ ที่ถูกจัดวางท่ามกลาง ต้นไม้หายากขนาดใหญ่ โดยมีต้นมะขาม 5 คนโอบ มีอายุมากกว่า 200 ปี รวมถึง ต้นกันเกรา อายุกว่าร้อยปี และ ต้นไม้หายากอีกหลากหลายกว่าร้อยต้น พร้อมสัมผัสบรรยากาศร่มรื่น กับน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ เสียงน้ำที่ตกกระทบหิน เสมือนกับได้ไปนั่งอยู่ริมน้ำตกธรรมชาติจริง ๆ ด้านหลังน้ำตกยังมีถ้ำม่านหมอกให้เข้าไปสัมผัส นอกจากนี้ ยังมีสะพานไม้ให้เดินชมความงดงามได้ทั่วพื้นที่

ร้าน U Forests Cafe แห่งนี้เกิดจากแรงบันดาลใจภายใต้ความสมบูรณ์แบบของธรรมชาติ ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีความสมบูรณ์ของพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยดึงเอา Elements ของความเป็นพื้นที่สีเขียวที่รายล้อมไปด้วยทิวเขา ต้นไม้ น้ำตก ป่าชายเลน รวมถึง Movement ที่พลิ้วไหวของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่รวมกันอย่างเป็น ‘วัฏจักร’ ประกอบกับสัญลักษณ์ของความเป็นเมืองท่าอย่างเรือรบหลวง ประแส ที่จอดอยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟแห่งนี้ ร้าน U Forests Cafe เปิดให้บริการคอกาแฟ และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ สามารถเดินทางมาจิบกาแฟและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้แล้ว

กางเต็นท์นอน ที่ 'สวนลุงพร คลองมะเดื่อ' แช่น้ำชุ่มฉ่ำ ดึ่มด่ำธรรมชาติสุดแสนชิล

'น้ำตกคลองมะเดื่อ' จังหวัดนครนายก หนึ่งในพิกัดแห่งน้ำใสไหลเย็น ที่นอกจากจะมีไว้รอรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ได้ลงไปแช่น้ำเล่นผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการทำงานแล้ว ยังเหมาะแก่การไปพักผ่อนกางเต็นท์เป็นอย่างมาก ว่าแล้ว THE STATES TIMES ก็ขอพาทุกท่าน ไปหาจุดเที่ยวและพักที่ ลานกางเต็นท์ สวนลุงพร คลองมะเดื่อ จังหวัดนครนายก ซึ่งดีงามมากๆ สำหรับสายลุย

ลานกางเต็นท์ สวนลุงพร คลองมะเดื่อ เปิดให้บริการลานกางเต็นท์ โดยคิดค่าบริการแค่เพียง 50 บาทต่อคน หรือจะเช่าเต็นท์ ก็คิดค่าบริการ 800 บาท (นอนได้ 4 คน) และ 300 บาท (นอนได้ 2 คน) ซึ่งถือว่าราคานี้ถูกมาก เมื่อเทียบกับธรรมชาติที่จะได้เข้าไปสัมผัสดื่มด่ำ 

อ้อ!! สามารถนำอาหารเข้าไปได้ ประกอบอาหารเองได้ แต่ก็มีร้านค้า ร้านอาหารไว้คอยบริการสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก ส่วนที่จอดรถก็มีมากมายสะดวกสบายแน่นอน

ในช่วงสุดสัปดาห์นี้หากใครกำลังมองหาลานกางเต็นท์และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ ก็ลองแวะไปกันได้

‘หมู่บ้านอีต่อง-เหมืองปิล๊อก’ ดินแดนสวรรค์กลางหุบเขา สัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ควรค่าแก่การมาพักผ่อน

‘หมู่บ้านอีต่อง’ ที่แห่งนี้ในยามหลังฝนพรำ จะถูกโอบล้อมไปด้วยไอหมอก งดงามมาก ราวกับดินแดนในฝัน

หมู่บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนไทยพม่า ทางฝั่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีการทำเหมืองแร่มาแต่สมัยก่อน โดยมีผู้ประกอบการทำเหมืองแร่หลายแห่งในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันเหมืองแร่ก็ได้ปิดตัวลงไป เหลือไว้เพียงสถานที่ท่องเที่ยวภายในหมู่บ้านอีต่องเท่านั้น ซึ่งที่นี่ถือเป็นอันซีนไทยแลนด์ที่ซุกซ่อนอยู่หลังม่านหมอกของจังหวัดกาญจนบุรี

การเดินทางขึ้นสู่หมู่บ้านอีต่องจากตัวเมืองกาญจนบุรีใช้เส้นทาง ถนนทางหลวงชนบทสาย กจ.4088 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี (กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ) เริ่มจากตัวเมืองกาญจนบุรี ไปยังอำเภอทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 212 กิโลเมตร ใช้เส้นทาง ทล.323 และมุ่งเข้าสู่ตัวอำเภอทองผาภูมิผ่าน ทล.3272 และเข้าสู่ทางหลวงชนบทสาย กจ.4088 โดยจะมีป้ายแนะนำเส้นทางเป็นระยะ ซึ่งจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยว อย่างอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เนินช้างศึก และไปสุดที่หมู่บ้านอีต่อง โดยตลอดเส้นทางจะเป็นทางลาดยางอย่างดี แต่เมื่อมาถึงช่วงที่เป็นทางขึ้นเขาสู่หมู่บ้านอีต่อง ประมาณ 30 กิโลเมตร ทางจะค่อนข้างอันตรายมีความแคบและถนนขรุขระเป็นบางช่วง ผู้ขับขี่รถขึ้นไปเองควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างสูง และต้องมีความชำนาญในการขับขี่ แต่ก็ถือว่าไม่ยากจนเกินไป ในการขึ้นสู่หมู่บ้านอีต่อง

จุดไฮไลท์ที่อยากจะแนะนำให้กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายรูปก็คือบริเวณเหมืองปิล๊อก ซึ่งเป็นพื้นที่ทำเหมืองเก่า ปัจจุบันยังคงหลงเหลือ เครื่องมือทำเหมืองโบราณ และยานพาหนะที่ใช้ทำเหมืองไว้อยู่ สามารถใช้เป็นพร๊อบในการถ่ายรูปชิลๆ รับรองว่าทุกคนจะได้รูปภาพสวยๆ เก็บความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน 

และอีกจุดนอกจากเครื่องมือทำเหมืองแล้วภายในเหมืองปิล๊อกแล้ว ก็ยังมีน้ำตกเล็กๆ ที่ไหลลงในบ่อน้ำกลางป่า ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามสุดจะบรรยายจริงๆ ป่าไม้และต้นหญ้าสีเขียวขจีมีไอหมอกลอยละล่องอยู่เต็มพื้นที่ป่า ไปจนถึงน้ำตก ซึ่งในบ่อน้ำที่น้ำตกไหลลงมานั้น มีความใสสะอาดและมีปลาคราฟอาศัยอยู่ด้วย ที่ตรงนี้เปรียบดั่งดินแดนในฝัน เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ต้นไม้ในบริเวณนี้ดูสวยงามและแปลกตา ผสมกับสายหมอกหนา ยิ่งทำให้ดูน่าค้นหาและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเราเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้บนถนนทางหลวงชนบทสาย กจ.4088 ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีลักษณะเป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่หน้าผาสูงประมาณ 34 เมตร และยังมีเขาช้างเผือก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 1,249 เมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย ก็มีจุดไฮไลต์อยู่ตรงที่ “สันคมมีด” ซึ่งเป็นเส้นทางเดินบนสันเขาแคบ ๆ นอกจากนี้ใกล้กับหมู่บ้านอีต่องยังมีจุดชมวิวเนินช้างศึก เป็นภูเขาสูงที่สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้ 360 องศา เหมาะแก่การขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและอาทิตย์ตกดินในยามเย็นอีกด้วย

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทกาญจนบุรี โทร 0-3460-0567

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

หนุ่มร้องซื้อ ‘บ้านหรู 25 ล้าน’ เจอหลังคารั่ว ทางโครงการโยนให้คุย ‘ผู้รับเหมา’ ระบุ!! เป็นปัญหาจากซัพพลายเออร์ที่ทำหลังคา ให้ ‘เจ้าของบ้าน’ จ่ายค่าซ่อมเอง

(25 พ.ค.67) คุณปาล์ม (นามสมมติ) เจ้าของบ้านหรู ระบุว่า ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จากการซื้อบ้านหรู ราคาหลังละ 25.9 ล้านบาท จากโครงการดังแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 -รามคำแหง แต่กลับเผชิญปัญหาหลังคารั่วตั้งแต่ปีแรกที่เข้าอยู่ จนตอนนี้เข้าปีที่ 3 ทุกครั้งที่ฝนตก ก็ยังเจอปัญหาหลังคารั่ว ลงมาบนฝ้า บางครั้งเหมือนมีน้ำตกในบ้าน

คุณปาล์ม กล่าวว่า เมื่อติดต่อกับทางประชาสัมพันธ์เจ้าของโครงการ ระบุว่าเป็นปัญหาจากซัพพลายเออร์ ที่ทำหลังคา จะติดต่อมาพบ เพื่อแก้ไข แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบเอง เนื่องจากหลังคาจะรับประกันแค่ 1 ปี มีเพียงโครงสร้างบ้านเท่านั้นที่รับประกัน

จึงกลายเป็นคำถามว่า ตอนที่สร้างบ้านโครงการไปจ้างผู้รับเหมามาทำ โดยที่ลูกค้าไม่ได้รู้เรื่องด้วย แต่พอมีปัญหา กลับโยนมาให้ลูกบ้านที่เป็นลูกค้ารับผิดชอบเอง มันถูกต้องหรือไม่อย่างไร

“บ้านหลังนี้มีเนื้อที่ 112 ตารางวา ราคา 25.9 ล้านบาท แต่แค่ความปลอดภัยเรื่องหลังคาที่ควรจะกันน้ำยังทำไม่ได้ เข้ามาอยู่ปีแรก ก็รั่ว ห้องน้ำข้างบนมีทั้งหมด 4 ห้องรั่วหมด เรียกช่างมาดูบอกลืมทากันซึม แก้ไขแล้ว ก็ไม่จบ หน้าฝนปีที่ 2 ก็รั่วอีก แก้ไข บอกกาวที่ใช้หมดอายุ มาปีนี้ ที่ห้องน้ำห้องนอนใหญ่ ก็รั่วจนฝ้าเละไปหมด โทรศัพท์ไปถามก็บ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ บอกต้องดูแลตัวเอง จะช่วยแค่ประสานงานให้ เลยสงสัยว่าเราลงทุนซื้อบ้านราคานี้ ต้องมาเจอกับเรื่องพวกนี้ตลอดเหรอ แล้วบ้านหลังอื่นเขาไม่มีปัญหา หรือมีแต่เราเท่านั้นที่โชคร้าย” เจ้าของบ้านหรูกล่าว

คุณปาล์ม กล่าวว่า ที่ต้องออกมาร้องเรียน ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าความรับผิดชอบ เราลงทุนซื้อบ้านราคาหลังละ 20 กว่าล้าน ก็ต้องการทำเลที่ดี ผู้คนที่ดี สังคมแวดล้อมที่ดี ไม่ใช่ว่าอยู่บ้าน ฝนตกก็ต้องผวา ไม่อยู่บ้าน กลับมามีน้ำตกในบ้าน น้ำเจิ่งนอง ก็อยากให้โครงการคิดถึงใจเขาใจเราบ้าง ไม่ใช่ขายแล้วก็ขายไป ไม่ต้องติดต่อไม่สนใจกันอีก ที่เหลือให้ลูกบ้านไปดูแลตัวเอง จะเสียหายถึงแบรนด์และความน่าเชื่อถือของโครงการ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top