Monday, 21 April 2025
นิวยอร์ก

ตำรวจนิวยอร์กเร่งล่ามือปืนกราดยิงในสถานีรถไฟ หลังก่อเหตุโกลาหล มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย

13 เม.ย. 65 - ตำรวจนิวยอร์กในสหรัฐฯ ยังคงเร่งไล่ล่าตัวมือปืนสวมหน้ากากกันแก๊สพิษ ที่ก่อเหตุกราดยิงผู้คนภายในสถานีรถไฟใต้ดินในนครนิวยอร์กช่วงชั่วโมงเร่งด่วน วานนี้ ที่มีผู้คนแออัด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 คน

นี่เป็นภาพความปั่นป่วนโกลาหลภายในสถานีรถไฟใต้ดินบรูคลินในนครนิวยอร์ก หลังมีผู้ต้องสงสัยเป็นชายสูงราว 5 ฟุต 5 นิ้ว น้ำหนักราว 81 กิโลกรัม สวมเครื่องแบบคนงานก่อสร้างสีส้มและหน้ากากกันแก๊สพิษ โยนวัตถุบางอย่างเข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดินบรูคคลิน ก่อนจะเปิดฉากกราดยิง ช่วง 08.30 น. เช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 16 คน ในจำนวนนี้ 10 คนถูกยิง ที่เหลือบาดเจ็บเพราะสูดควันพิษและถูกเหยียบท่ามกลางความโกลาหล ผู้บาดเจ็บนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้นชานชาลาและในตู้โดยสารรถไฟ ท่ามกลางควันสีขาวลอยคลุ้ง

'บัวขาว บัญชาเมฆ' ยิ่งใหญ่กลาง Times Square นักมวยไทยคนแรกขึ้นไลฟ์บิลบอร์ดกลางนิวยอร์ก

เพจ Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) โพสต์ข้อความ มวยไทยในไทม์สแควร์ ระบุว่า...

Times Square, New York, MuayThai, Soft Power 

กระหึ่มกลาง Times Square ; บัวขาวจะกลับมาเวทีราชดำเนินในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ ประเดิม 19 สิงหาคมนี้

กระหึ่มไทม์สแควร์ นักมวยไทยคนแรกที่ได้ขึ้นไลฟ์บิลบอร์ดในย่านธุรกิจสำคัญที่สุดของโลกกลางมหานครนิวยอร์ก...มีนักกีฬาสักกี่คนที่จะได้ขึ้นบิล บอร์ดในไทม์สแควร์ แต่ "บัวขาว" นักมวยไทยขวัญใจคนทั่วโลกทำได้ โดยเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ภาพการออกอาวุธหนัก ๆ ตามแบบฉบับมวยไทย ของบัวขาว บัญชาเมฆ สะกดทุกสายตาของคนในย่านธุรกิจสำคัญที่สุดของโลก "ไทม์สแควร์" พร้อมข้อความประกาศก้องว่าบัวขาวกำลังจะกลับมาสร้างความเกรียงไกรอีกครั้งบนผืนผ้าใบของเวทีมวยไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก นั่นคือเวทีราชดำเนินซึ่งบัวขาวไม่ได้กลับมานาน โดยครั้งนี้กลับมาในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ ที่พึ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน กับกฎกติกาที่เรียกได้ว่าจะมาปฏิวัติรายการมวยไทย แว่วว่าไฟต์แรกของบัวขาวกับราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ จะประเดิมกันวันที่ 19 สิงหาคม ซึ่งการกลับมาครั้งนี้กับการเปิดตัวแบบนี้ น่าจะเป็นการกลับมาที่ไม่ธรรมดาแน่นอน จะเจอใคร จะมาทำอะไร คงต้องจับตารอกับการประกาศครั้งต่อไปอย่างใจจดใจจ่อกันเลย

'นิวยอร์ก' ยกระดับคุมเข้ม!! หวั่นเหตุร้ายเกิดซ้ำซาก เตือน!! คนเอเชียต้องระวัง หลังกระแสเกลียดชังยังแรง

จากกรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ บ่อยครั้งในช่วงระยะหลัง ส่งผลต่อความปลอดภัยทั้งกับคนอเมริกันและคนเอเชียในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Martin Chaiarkorm' ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเริ่มยกระดับการป้องกันเหตุความรุนแรงในสหรัฐฯ ไว้บ้างแล้ว ว่า...

ตำรวจคุมเข้มหลาย ๆ พื้นที่ทั่วนิวยอร์ก โดยขึ้นมาในขบวนรถไฟต่าง ๆ​ และเวลารถไฟจอดแต่ละสถานีจะโผล่ออกไปดูทุกสถานี​ และในแต่ละสถานีจะมีตำรวจยืนประจำการแทบจะทั้งหมด​รวมถึง​ในพื้นที่​ทั่ว ๆ ไปด้วย​ ยิ่งเป็นจุด​ Landmark​ ยิ่งต้องเข้ม 

เพราะสถานการณ์​ที่สหรัฐ​ฯ หลาย ๆ ครั้งมีการกราดยิง​ รวมถึงเหตุร้ายอื่น ๆ ที่อาจ​เกิดขึ้น​ด้วย

สหรัฐฯ ยกโมเดลรถไฟใต้ดินไทย ต้นแบบตัวอย่างที่น่าศึกษา หลังรถใต้ดินนิวยอร์ก 'อัมพาต' เผชิญ 'ฝนหนัก-น้ำท่วม' เละ

จากกรณีเมื่อวันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566 ได้เกิดฝนทตกหนักข้ามคืนทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในนิวยอร์ก สร้างความเสียหายให้ระบบขนส่งและการจราจร

ท่าอากาศยานลากวาร์เดีย (LaGuardia Airport) ปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารแห่งหนึ่ง เพราะน้ำท่วมขังในพื้นที่

นายกเทศมนตรีเอริก อดัมส์ เรียกร้องประชาชนให้อยู่แต่ในที่พักและอาคาร เนื่องจากมีการปิดถนนหลายสายและสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน ทำให้การเดินทางตามปกติเป็นไปได้ยาก

รูปภาพจากทั่วนิวยอร์กที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นรถยนต์จำนวนมากจมอยู่ใต้น้ำและการจราจรติดขัด โดยถนนหลักบางสายถูกปิดสนิท

ระบบรถไฟใต้ดินในนิวยอร์กซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตของชาวเมือง ได้รับผลกระทบไปหลายเส้นทาง เพราะสถานีจำเป็นต้องปิดให้บริการเนื่องจากน้ำท่วม

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์น้ำท่วมนิวยอร์กเที่ยวนี้ ฟากนักวิชาการในสหรัฐฯ ได้ยกรถไฟใต้ดินของกรุงเทพฯ ขึ้นมาเป็นกรณีศึกษา ในแง่ของตัวอย่างที่ดีในการสร้างสถานีรถไฟใต้ดิน และอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย

โดยเมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Pui Rattanapas' ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพเกี่ยวเนื่องกับประเด็นข้างต้น ระบุว่า...

เมื่อเช้าก็เสนอข่าวเรื่องทุ่งแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำของลุงตู่ขึ้นมาพูดถึง ในแง่นวัตกรรมที่ก้าวหน้าไปอีกหนึ่งขั้นในเรื่องพลังงาน

โว้ะ!! เมืองไทยเริ่มฉายแสงเรืองๆ ในสายตาชาวตาน้ำข้าวบ้างแล้วนะ 😎😉

'พิธา' พบคนไทยในนิวยอร์ก เจอถือป้ายขับไล่ "คนโกหกเชื่อถือไม่ได้" ร้อนถึงพระคุณเจ้าต้องห้ามทัพ หวั่นกระทบกระทั่ง 'ด้อมส้ม'

เมื่อวานนี้ (25 ต.ค. 66) ช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่นของมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปพบปะพี่น้องคนไทยในเขตควีนส์ของมหานครนิวยอร์ก ทันทีที่นายพิธา มาที่วัดพุทธไทยถาวร ในเขตชุมนุมชาวไทยที่ eimhurst queens ny กับย่านไทยทาวน์ที่อยู่ใกล้เคียงกับวัด โดยมีทั้งฝ่ายสนับสนุนมาต้อนรับ กับฝ่ายตรงข้ามมาไล่ต้อน

ทั้งนี้ มีฝ่ายสนับสนุนรายหนึ่งเผยว่า ตนและเพื่อน ๆ ยอมหยุดงานมาให้กำลังใจพิธาในวันนี้ พร้อมชี้ว่าหากวันหนึ่งเมืองไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี เธอจะเดินทางกลับไปบ้านเกิดอีกครั้ง เราต้องการนายกฯ คนรุ่นใหม่ไฟแรงเพื่อมาพัฒนาประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มของฝ่ายตรงข้ามที่มาถือป้ายไล่ต้อนนั้น ได้นำป้ายที่มีข้อความว่า L I A R คนโกหกเชื่อถือไม่ได้ หลอกลวง ท่ามกลางผู้สนับสนุนที่มาต้อนรับ งานนี้ร้อนถึงพระคุณเจ้าต้องเข้ามาห้ามทัพและพูดคุยทั้งสองฝ่าย โดยไม่มีรายงานว่ามีการปะทะหรือกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ทั้งนี้ นายพิธา มีกำหนดเดินทางไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

‘คนวงใน’ จวก!! ‘พิธา’ จัดแฟนมีต ฉบับหลงตัวเองกลางนิวยอร์ก ทำตัวเป็นเซเลป ขอคัดเลือกคนเข้าพบผ่านการส่ง CV

(27 ต.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘Street Hero V3’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ยังไงๆ” พร้อมรูปภาพที่เป็นคำกล่าวอ้างในฐานะคนทำงาน และโหวตเตอร์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า…

คุณพิธาคะ วิธีการทำงานกับชุมชนของคุณพังนะคะ 

เข้าใจว่ามานิวยอร์กอยากพบปะคนทำงานประสบความสำเร็จใน ตปท. แต่ทีมไม่ทำการบ้านมาเลย เล่นหว่านอินไวท์ไปทั่วสารทิศ แถมยังบอกให้คนส่ง CV ไปให้ตัวเองเลือกว่าจะคุยกะใคร เพ้อเจ้อมาก แอพโพรชแบบนี้มันมีฐานคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง เป็นเซเลป ใครๆ ก็ต้องอยากเข้าพบ ดิฉันติดตรงนี้มาก นี่ไม่ใช่ปัญหาลอจิสติก แต่เป็นปัญหาปรัชญาการทำงาน ไม่เล็กสำหรับดิฉัน

เอาใหม่นะคะ วันหลังอยากคุยกับใครให้นัด ไม่ใช่ให้เขาออดิชั่นเข้าพบ แสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วไม่ได้รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไร ไม่มีอเจนด้า เป็นงานออปติก แล้วนัดล่วงหน้านะคะ ไม่ใช่มาบอกภายในวีคเดียวกัน คนประสบความสำเร็จ เขามีงานมีการทำ ไม่ได้ว่างไปเจอได้ตามสะดวกคุณเสมอ

ทำงานชุมชนต้องให้เกียรติคนในชุมชนที่คุณทำงานกะเขาด้วย วางตัวให้อยู่ในระนาบเดียวกันให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันค่ะ

ผิดหวังในฐานะคนทำงานและในฐานะโหวตเต้อค่ะ

'นักเขียนซีไรต์' แชร์ประสบการณ์ความหนาวเข้ากระดูกในนิวยอร์ก ชวนให้นึกถึงเมษายนเมืองไทย เจอร้อนจัดๆ คงดีเหลือประมาณ

เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.67) นายวินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์ และ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556 ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า…

วันนี้ออกไปทำธุระนอกบ้านหลายชั่วโมง ตั้งแต่ก่อนเที่ยงจนบ่าย รับพลังงานแสงอาทิตย์มาหลายกิโลวัตต์ มองดูตัวเอง คล้าย ๆ เนื้อแดดเดียว ถ้ามีข้าวเหนียวด้วยก็ลงตัว

ผมไม่ได้ฟังพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จึงไม่รู้ว่าเราผ่านจุดร้อนสุดมาแล้วยัง แต่ไอร้อนตอนนี้มันคล้ายอยู่บนดาวซานถี่ ตอนดวงอาทิตย์ขึ้นสามดวงพร้อมกัน

คนไทยที่เจอไอร้อนระดับนี้อาจบ่นอู้ แต่หากเคยผ่านความหนาวของเมืองนอกระดับติดลบ และฮีตเตอร์ไม่ทำงาน จะต้องเปลี่ยนความคิด เห็นว่าร้อนดีกว่า

สมัยผมเรียนและทำงานที่นิวยอร์ก ผมเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่กับเพื่อนคนไทยและฝรั่งอีกคน เจ้าของตึกเป็นยิว และประพฤติตนเหมือนตัวละครไชล็อกที่เราเรียนในเรื่อง เวนิสวาณิช ทุกประการ 

ยิวแสบคนนี้ปิดฮีตเตอร์ตึกเป็นประจำ โดยเฉพาะตอนที่ทุกคนนอนหลับไปแล้ว เรื่องนี้ผิดกฎหมาย แต่ไชล็อกโนสนโนแคร์ เพราะรู้ว่ารายงานไป ทางการนิวยอร์กก็ไม่ทำอะไร เพราะแต่ละวันมีคนหลายร้อยหลายพันคนโดนแบบนี้

ในเมืองร้อน หากเราไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ มันก็ร้อนเท่านั้น แต่ในเมืองหนาว ตึกที่ไม่เปิดฮีตเตอร์ก็คือ การอยู่ในช่องฟรีซเซอร์ตู้เย็น เราต้องสวมเสื้อกันหนาวเต็มยศนอน คล้ายพวกปีนเขาเอเวอเรสต์ มันหนาวเข้าในกระดูก หนาวจนป่วย

ตอนหนาวจัด ๆ แต่ทำอะไรไม่ได้นั้นเอง ผมนึกถึงเดือนเมษายนในเมืองไทย ผมจินตนาการว่าถ้าได้อยู่ในเมืองไทยตอนร้อนจัด ๆ คงดีเหลือประมาณ

ดังนั้นทุกครั้งที่เจออากาศร้อนจัดในเมืองไทย ผมมักนึกถึงคืนที่สวมชุดกันหนาวนอนบนเตียงตัวเอง ในอพาร์ตเมนต์ของไอ้เวรไชล็อก

แล้วความร้อนในเมืองไทยก็คือสวรรค์ดี ๆ นี่เอง

ร้านค้าในนิวยอร์ก กำลังทยอยปิดตัวลง เพราะไปต่อไม่ไหว ชี้!! ‘คดีลักขโมย’ ระบาดอย่างหนัก เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว

(19 พ.ค.67) มหานครนิวยอร์กมีการแจ้งความเกี่ยวกับเหตุขโมยของ 21,578 คดี ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2024 จนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม เพิ่มขึ้น 5% จากระดับ 20,552 คดี จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยที่ในแมนฮัตตันเพียงเขตเดียว มีคดีขโมยของจากห้างค้าปลีกถึง 8,896 คดี

อาชญากรรมดังกล่าวแพร่ระบาดรุนแรงหนักมากเสียจน เครือข่ายห้างค้าปลีกดังระดับชาติ อย่าง ทาร์เก็ต ซีวีเอส และวอลกรีนส์ ต้องปิดทำการไปแล้วหลายสาขา และพับแผนขยายสาขาเข้าลิ้นชัก

ห้างทาร์เก็ต แถลงว่าในช่วงปลายปีที่แล้ว พวกเขาได้ปิดทำการสาขาต่างๆ 9 แห่งใน 4 รัฐ ในนั้นรวมถึงในฮาร์เลม สืบเนื่องจากเหตุลักขโมย 

เราไม่อาจปฏิบัติการสาขาต่างๆ เหล่านี้ต่อไปได้ เพราะเหตุขโมยและอาชญากรรมค้าปลีกอย่างเป็นระบบ ที่คุกคามความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าของเรา และทำให้ผลงานทางธุรกิจอยู่ในภาวะไม่ยั่งยืน

นายหน้าค้าปลีกรายหนึ่งในแมนฮัตตัน ระบุว่าในขณะที่รูปแบบการชอปปิ้งได้เปลี่ยนไป ผู้คนหันไปซื้อของทางออนไลน์มากขึ้น แต่เหตุลักขโมยก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เครือข่ายค้าปลีกทั้งหลายตัดสินใจปิดสาขาต่างๆ เช่นกัน

โจเซฟ เกียคาโลเน นายตำรวจปลดเกษียณแล้ว จากกรมตำรวจนิวยอร์ก และเป็นศาสตราจารย์รับเชิญ ณ วิทยาลัยการศึกษากระบวนการยุติธรรม จอห์น เจย์ ระบุว่าส่วนหนึ่งของปัญหาคือ การที่พวกนักการเมืองเมินเฉยต่อเหตุขโมยของในห้างค้าปลีก แทนที่จะพุ่งเป้าให้ความสำคัญกับมัน

พวกนักการเมืองบอกกับเราว่า การขโมยของไม่ใช่ปัญหา เกียคาโลน กล่าว จากนั้นแทบในทันทีทันใด เราเริ่มพบเห็นปัญหานี้เกิดขึ้น เพราะว่ามากมายในอาชญากรรมเหล่านี้ถูกลดระดับความสำคัญโดยตัวนักการเมืองเอง ท้ายที่สุดแล้ว คุณก็ต้องยอมรับผลลัพธ์ที่จะตามมา

เหตุลักขโมยในห้างค้าปลีก ซึ่งกรมตำรวจนิวยอร์กเพิ่งเพิ่มเข้าไปในรายงานติดตามอาชญากรรม CompStat มีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในเมืองแห่งนี้ ในช่วง 6 ปีหลังสุด จำนวนคดีต่างๆ เพิ่มขึ้นจากคำร้องเพียง 32,254 คดี ตลอดทั้งปี 2017 เป็น 37,922 คดีในปี 2019 ก่อนลดลงระหว่างช่วงพีกสุดของโควิด-19 ในปี 2020 ทว่านับตั้งแต่ปี 2021-2023 คำร้องทั่วเมืองกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จาก 43,892 คดี เป็น 59,137 คดี

คดีลักขโมยนี้ได้สร้างความลำบากแก่ห้างขายยารายใหญ่เช่นกัน ในขณะที่ห้างเหล่านี้กำลังอยู่ระหว่างการลดขนาดธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว

วอลกรีนส์ อยู่บนเส้นทางของการลดจำนวนร้านลงทั่วประเทศราว 200 แห่งในปีงบประมาณ 2024 ซีอีโอ ทีโมที เวนท์เวิร์ธ กล่าวระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับพวกนักวิเคราะห์เกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัท ขณะที่ทางห้างค้าปลีกซีวีเอส แถลงแผนหนึ่งตั้งแต่ปี 2021 ว่ามีแผนลดจำนวนสาขาลง 900 แห่ง แบ่งเป็นปีละ 300 แห่ง ในปี 2022, 2023 และ 2024

Rite Aid เครือข่ายร้านขายยา เตรียมปิดทำการสาขาต่างๆ เพิ่มเติมอีก 53 แห่งใน 9 รัฐ ส่วนหนึ่งในกระบวนการล้มละลายของบริษัท นอกเหนือจากที่ปิดไปเบื้องต้น 154 สาขา

ร้านกาแฟในนิวยอร์ก ชง ‘ลาเต้ทุเรียน’ รสชาติหวานหอม ขึ้นแท่นเมนูขายดี!! เพราะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์

(19 พ.ค.67) ปัจจุบันมีเมนูเครื่องดื่มครีเอทมากขึ้น มีการนำวัตถุดิบต่าง ๆ มาผสมผสานจนเกิดเป็นเมนูใหม่ให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง เช่นเดียวร้านกาแฟในนิวยอร์กแห่งนี้ ที่ได้หยิบ “ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้เข้ามาอยู่ในเมนูด้วย.

เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ได้รายงานว่า ร้านกาแฟ ‘Not As Bitter’ ได้ผุดเมนูลาเต้สุดแปลกใหม่ เพิ่มความเข้มข้นของกาแฟด้วยส่วนผสมที่ดุร้ายที่สุดในปัจจุบัน นั่นคือ ‘ทุเรียน’ ราชาผลไม้ที่มีเปลือกภายนอกแหลมคม ดูเหมือนอาวุธในระยะประชิดในยุคกลาง และเป็นที่เลื่องลือเรื่องกลิ่นฉุน

‘เจฟฟรี่ หวัง’ เจ้าของร้านเผยว่า ทางร้านคัดเลือกผลไม้สดใหม่ทุกวัน โดยเป็นทุเรียนจากไทยหรือมาเลเซีย ซึ่งรสชาติสุดเอกลักษณ์ของลาเต้แก้วนี้ ออกมาดีอย่างน่าประหลาดใจ

“เครื่องดื่มนั้นรสชาติดีมาก เพราะมันหวาน มันเพิ่มรสชาติให้กับกาแฟ และเพิ่มความนัว ความครีมมี่ลงไปด้วย” บาริสต้าซึ่งมาจากเทียนจิน ประเทศจีน กล่าว

สำหรับเมนูลาเต้ทุเรียนนั้น ทางร้านได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ในประเทศจีน ที่มักผสมเครื่องดื่มกับผลไม้และอื่น ๆ มากมาย โดยวางขายในราคา 8.50 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 300 บาท ซึ่งทางร้านยังมีเมนูที่ผสมผสานวัตถุดิบสุดแปลกใหม่อีกมากมาย เพียงแต่ลาเต้ทุเรียนค่อนข้างได้กระแสตอบรับดีมากกว่าเมนูที่ผสมผลไม้อื่น ๆ

เปิดปมซีอีโอ 'ยูไนเต็ดเฮลธ์แคร์' ถูกยิง พบกระสุนสลักคำแค้น สะเทือนธุรกิจประกันภัยสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ (4 ธ.ค.67) ตามเวลาท้องถิ่นนครนิวยอร์ก เกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อนาย ไบรอัน ธอมป์สัน  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์ (UnitedHealth) ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตใจกลางย่านแมนฮัตตัน โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายตั้งใจดักรอเพื่อหมายเอาชีวิตนายธอมป์สัน

รายงานระบุว่า ธอมป์สัน วัย 50 ปี ถูกยิงเมื่อเวลาประมาณ 06:45 น. ที่บริเวณด้านนอกโรงแรมฮิลตัน บนถนนซิกซ์อเวนิว เพียงไม่นานก่อนที่งานกิจกรรมวันพบปะนักลงทุนประจำปีของบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์จะเริ่มขึ้น โดยเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน ขณะที่คนร้ายยังคงหลบหนี

รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า มือปืนดักรอ Brian ขณะเดินอยู่ริมถนน จากนั้นใช้อาวุธปืน 9 มม. ยิงเขา 6 นัด โดยมีการใช้กระบอกเก็บเสียง ปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุถูกสลักข้อความว่า 'Delay' (ยืดเยื้อ), 'Deny' (ปฏิเสธ), และ 'Depose' (โยนคดีทิ้ง) ซึ่งสอดคล้องกับชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีนักของบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์ เนื่องจากมีอัตราการปฏิเสธการจ่ายเงินประกันสูงถึง 32% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มบริษัทประกันสุขภาพทั้งหมด อีกทั้งยังมีอัตราการปฏิเสธการจ่ายเบื้องต้นสูงถึง 90% ส่งผลให้มีคดีความฟ้องร้องระหว่างผู้เอาประกันชาวอเมริกันกับบริษัทเป็นจำนวนมาก

การปฏิเสธการจ่ายเงินของบริษัทส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะหากไม่มีเงินประกันมาจ่าย โรงพยาบาลจะต้องหยุดการรักษาชั่วคราว  

การลอบยิงดังกล่าวส่งผลให้ชาวเน็ตวิจารณ์เหตุการณ์นี้อย่างกว้างขวาง หลายคนแสดงความเห็นว่ามือปืนอาจเป็นตัวแทนของผู้ที่ทนไม่ได้กับความไม่เป็นธรรมจากระบบประกันสุขภาพในสหรัฐฯ และถึงแม้ตำรวจจะสามารถจำกัดวงผู้ต้องสงสัยจากจำนวนคนที่เคยถูกปฏิเสธการจ่ายเงินเหลือเพียง 25 ล้านคน แต่การจับกุมมือปืนอาจไม่ใช่เรื่องง่าย

เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้บรรดาบริษัทประกันภัยรายอื่น ๆ ของสหรัฐ ต่างทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้บริหารระดับสูงอย่างเร่งด่วน อาทิ CVS Health อีกหนึ่งบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐ ได้นำภาพถ่ายและข้อมูลของทีมผู้บริหารทั้งหมดออกจากเว็บไซต์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น   

โรเบิร์ต ดามิโก อดีตเจ้าหน้าที่ FBI และผู้ก่อตั้งบริษัท Sierra One Consulting บริษัทที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยระบุว่า การนำรูปภาพออกจากเว็บไซต์สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการลดความเสี่ยงที่ผู้ไม่หวังดีจะสามารถระบุตัวและเข้าถึงผู้บริหารได้ง่าย อีกทั้งยังบอกว่า ช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจด้านสุขภาพในสหรัฐฯ เผชิญกับความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้น จนต้องสำรวจมาตรการความปลอดภัยใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ของอาชญากรรมรุนแรง

ทั้งนี้ เหตุการณ์การเสียชีวิตของธอมป์สันเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงที่ผู้บริหารระดับสูงต้องเผชิญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการประกันภัย ซึ่งเป็นประเด็นที่กระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top