Friday, 5 July 2024
นาราธิวาส

นราธิวาส – ทหารพราน 48 มอบอินทผาลัมแทนความรักและความห่วงใยในห้วงรอมฏอน ให้กับประชาชนที่เดินทางสัญจรไปมา

หน่วยเฉพาะกิจกรมข่าวทหารพรานที่48 โดย พ.อ.เอกพล เลขนอก ผบ.ฉก.ทพ.48 มอบหมายให้ ฝ่ายกิจการพลเรือน พร้อมด้วย ชป.กร.  ชป.กร.หญิง และ ร้อย ทพ.4803 จัดกิจกรรมมอบอินทผาลัมแทนความรักความห่วงใย ในห้วงเดือนรอมฏอน เดือนแห่งการถือศีลอดตามหลักศาสนาอิสลาม ให้กับประชาชนที่เดินทางสัญจรไปมา ณ ด่านตรวจถาวรบ้านยานิง ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อให้ประชาชนที่ผ่านด่านได้นำอินทผาลัมไปรับประทานในช่วงการละศีลอด ซึ่งอินทผลัมนั้น ชาวมุสลิมถือว่าเป็นผลไม้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ ชาวมุสลิมนิยมรับประทานอินทผลัมในช่วงเดือนถือศีลอด หรือ เดือนรอมฎอน เนื่องจากในคัมภีร์อัลกุรอานได้บัญญัติไว้ว่าสามารถละศีลอดด้วยการกินอินทผลัมแทนการดื่มน้ำได้เพื่อช่วยลดอาการอ่อนเพลียในช่วงอดอาหาร

นอกจากนั้นยังได้เน้นย้ำมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 ตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดนราธิวาส โดยให้มีการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่าง รวมไปถึงการไม่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด ซึ่งตลอดทั้งกิจกรรมประชาชนต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 อีกทั้งได้รับคำขอบคุณ รอยยิ้ม และมิตรภาพที่ดีจากประชาชน

ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส

นราธิวาส - ผอ.ศปพร. ตรวจเยี่ยม พร้อมปรับภูมิทัศน์ โดยรอบต้นไม้ทรงปลูก ในพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางลงพื้นเข้าตรวจเยี่ยม ต้นไม้ทรงปลูก  ณ วัดชลธาราสิงเห ซึ่งตั้งอยู่ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้พลตรีไพศาล หนูสังข์ ได้จัดชุดทหารช่างดำเนินการจัดทำรั้วรอบต้นไม้ทรงปลูก เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์รอบต้นไม้ทรงปลูกให้เป็นระเบียบ สง่างามและสมพระเกียรติโดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตระหนักเห็นความสำคัญของต้นไม้ทรงปลูก จึงจัดโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบต้นไม้ทรงปลูกขึ้น เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ได้ทรงเสด็จปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และได้ทรงปลูกต้นไม้ในสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้ทรงเสด็จปฎิบัติพระราชกรณียกิจ จึงจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาต้นไม้ทรงปลูกไม่ให้เสื่อมโทรม ให้เจริญเติบโตงอกงามอย่างสมพระเกียรติ

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ได้กำชับและเน้นย้ำหน่วยกำลังในพื้นที่ให้ดูแล รักษา ต้นไม้ทรงปลูกให้เป็นอย่างดี โดยกล่าวว่าการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ตลอดจน พระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ ทรงปลูกต้นไม้ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงาน หรือทรงเยี่ยมราษฎรในที่ต่างๆนั้น ไว้เป็นที่ระลึกและให้แบบอย่างที่ดีในการอนุรักษ์ป่าไม้ไว้เสมอ ด้วยทรงเห็นความสำคัญของปัญหาป่าเสื่อมโทรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านอื่น ๆ ไม่เฉพาะเรื่องดินและน้ำ หากแต่โยงถึงปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง คุณธรรม และระบบนิเวศบางอย่างอีกด้วย เราซึ่งในฐานะทหารที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ควรจะ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ต้นไม้ทรงปลูกให้อยู่คู่กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

สำหรับต้นไม้ทรงปลูก ภายในวัดชลธาราสิงเห ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีจำนวน 2 ต้นได้แก่ 1. ต้นสาละ โดยสมเด็จพระเจ้าพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงปลูกเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ไปเยี่ยมราษฎรในพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไว้เป็นที่ระลึก บริเวณวัดชลธาราสิงเห ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยทรงปลูกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พุทธศักราช 2540 และ 2. ต้นพิกุลทอง โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ไปเยี่ยมราษฎรในพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไว้เป็นที่ระลึก บริเวณวัดชลธาราสิงเห ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยทรงปลูกเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2534


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

นราธิวาส - ผบ.พล.ร.15 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ น้องสุดท้องของกองทัพบก รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก ป้องกันโควิค-19

พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม พร้อมทั้งสังเกตุการณ์การเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก ป้องกันโควิค-19 ให้กับน้องสุดท้องของกองทัพบก ทหารใหม่ผลัดที่ 1/2564 ของหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 151 และ หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 151 ณ ค่ายกัลยานิวัฒนา ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส สำหรับการรับทหารกองประจำการผลัด 1/2564 ที่เข้ามารายงานตัวในหน่วยฝึกทหารใหม่ระหว่าง 1-3 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ กองทัพบกได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านกายภาพ อาคาร สถานที่ หลักสูตรการเรียนการฝึกมาตรการป้องกันโรคการรักษาพยาบาลที่สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งแผนการฉีดวัคซีนให้กับทหารใหม่และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยฝึกทหารใหม่ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้กับทหารใหม่

โดยให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ทหารใหม่ก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดการแพร่ระบาดหรือการสูญเสียกำลังพลโดยมอบให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทบ.พิจารณาวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงกลาโหมและรัฐบาลนำไปฉีดให้กับทหารใหม่อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะทหารใหม่ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเข้าประจำการ รวมถึงการจัดสรรวัคซีนสำหรับฉีดให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ตามลำดับเพื่อให้ทหารใหม่และครอบครัวมีความมั่นใจว่ากองทัพบกได้ให้การดูแลด้านการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับทหารกองประจำการอย่างดีที่สุด

ทั้งนี้ พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ได้มอบความห่วงใย ให้กำลังใจ แก่น้อง ๆ ทหารใหม่ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณคณะแพทย์ และพยาบาลจากโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร ที่ได้เดินทางมาอำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิค-19 ให้กับหน่วยฝึกทหารใหม่ภายในที่ตั้งหน่วย โดยในวันนี้ ทั้ง 2 กองพัน มียอดผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งสิ้น 249 นาย ซึ่งน้อง ๆ ทหารใหม่ ต้องผ่านกระบวนการในเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิค-19 ได้แก่ 

1.ตรวจสอบเอกสาร และกรอกข้อมูล 

2.คัดกรองวัด สัญญาณชีพ ประเมินความดันไข้ชีพจรรายการหายใจ

3. เจ้าหน้าที่ ซักประวัติกลุ่มเสี่ยง โรคประจำตัวตามเอกสาร และ ให้ผู้รับการฉีดวัคซีนเซ็นเอกสารยินยอมการขอรับการฉีดวัคซีนให้เรียบร้อย กรณีที่คนไข้มีความเสี่ยงเช่นรับประทานยามีโรคประจำตัวอื่น ๆ จะต้องพบแพทย์เพื่อประเมินซ้ำทุกราย

4. จุดบริการวัคซีน จะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการ พยาบาลจะสอบถามและตรวจสอบเอกสารอีกครั้งพร้อมกับแจ้งชนิดวัคซีนที่จะฉีดให้กับผู้ป่วย และให้บริการฉีดวัคซีนกับคนไข้

5. จุดสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน 30 นาทีจะต้องสังเกตอาการทุกรายการสังเกตอาการตั้งแต่ระดับความรู้สึกตัว หากไม่รู้สึกตัวหรือรู้สึกไม่สุขสบายหรือมีความผิดปกติให้คนไข้ เรียกเจ้าหน้าที่ ได้ทันทีจะมีเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน คอยให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นอยู่ หากเลย 30 นาทีแล้วสัญญาณชีพปกติดี จึงไป จุดถัดไป และ

6. จุดออกบัตรนัด และ ให้คำแนะนำ จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่แจ้งวันนัดในการฉีดวัคซีนในเข็มถัดไป พร้อมออกบัตรนัด รวมถึงการให้คำแนะนำการปฏิบัติตนหลังกลับบ้านไปแล้ว หากมีอาการผิดปกติได้ประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียงของน้อง ๆ ทหารใหม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์ได้ทันที


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

นราธิวาส - นายก อบจ.”กูเซ็ง” เตรียมนำวัคซีน Moderna 10,000 โดส ช่วยชาวนราฯ ด้านผู้ว่าฯเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนขานรับตามมาตรการของจังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับ ศบค.อย่างเคร่งครัด

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระนราภิบาลชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการแถลงข่าว มาตรการของ จ.นราธิวาส เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการ ศบค.โดยมีนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขชจังหวัดนราธิวาส นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแถลงข่าว

ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการที่จังหวัดนราธิวาสได้เตรียมความพร้อม ซึ่งได้ประชุมหารือโดยมีข้อยุติที่สำคัญที่ต้องนำเรียนให้ประชาชนชาวนราธิวาสได้รับทราบคือ

1.งดหรือชะลอหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จำนวน 14 วัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ค่อนข้างสูงมาก โดยใน 13 อำเภอมีตัวเลขผู้ติดเชื้อทุกวันวันละไม่ต่ำกว่า 100 ราย ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการในเรื่องของการเดินทาง งดการเดินทางโดยไม่จำเป็นยกเว้นมีข้อจำเป็นที่ให้เดินทางได้ ซึ่งขณะนี้สายการบินของจังหวัดนราธิวาสก็งดทุกสายการบินจนถึงสิ้นเดือน รวมถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ และรวมไปถึงการบริการรถไฟด้วย ซึ่งจำเป็นที่จะขอความร่วมมือในการหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงนี้

2.การเปิดกิจการประกอบการต่าง ๆ อย่างเช่นร้านอาหาร ซึ่งก่อนหน้านี้จังหวัดนราธิวาสมีประกาศให้เปิดร้านอาหารได้รับประทานอาหารในร้านได้จนถึง 21:00 น. ในขณะนี้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมเป็นต้นไป ขอความร่วมมือทุกร้านอาหารทุกประเภทสามารถจำหน่ายอาหารที่ร้านได้ แต่มีข้อห้ามในการรับประทานอาหารที่ร้าน แต่สามารถสั่งไปรับประทานที่บ้านเท่านั้นและเปิดได้ถึง 20:00 น. เท่านั้นโดยมีข้อกำหนดในฉบับล่าสุด

และในส่วนของมาตรการอื่น ๆ ทางจังหวัดนราธิวาส ก็ยังมีผลบังคับใช้อยู่เหมือนเดิม ซึ่งภาพรวมของจังหวัดนราธิวาสขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทำตามมาตรการของจังหวัดและสิ่งที่กังวลที่สุดในห้วงวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นวันอีดิลอัฏฮา กรือวันรายอของพี่น้องมุสลิม ดังนั้นขอความร่วมมือจากพี่น้องมุสลิมทุกท่านเรามีมาตรการในข้อกำหนดซึ่งได้แจ้งไปยังอำเภอและผู้นำศาสนาใน 13 อำเภอให้ได้รับทราบแล้วในการชะลอการเดินทางหรือการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงนี้

ขณะที่นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ทางสภากาชาดไทยได้แจ้งให้จังหวัดทุกจังหวัดทราบว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ได้มีประกาศ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ซึ่งได้ให้สภากาชาดไทยเป็นหน่วยงานหนึ่งในการสั่งนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชน ซึ่งขณะนี้ สภากาชาดไทยได้สั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 Moderna จำนวนหนึ่งจากผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยผ่านองค์การเภสัชกรรม เพื่อนำมาฉีดบริการให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่าง ๆ โดยไม่คิดมูลค่า ตามพันธกิจของสภากาชาดไทย ทั้งนี้ สภากาชาดไทยจะได้จัดสรรโควตาวัคซีนจำนวนหนึ่งให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องดำเนินการฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และแผนการฉีดวัคซีนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด และเงื่อนไขอื่น ๆ ดังนี้

1. ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด จัดทำแผนการขอรับการจัดสรรวัคชีน เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตามที่สภากาชาดไทยกำหนด และแจ้งให้สภากาชาดไทยทราบภายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ได้แก่

1) คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน

2) ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน

3) บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร

4) ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์

ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด- 19 มาก่อน

5) บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ยังไม่เคยได้รับวัคนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน และบุคคลที่ยังไม่วสามารถรับการฉีดวัคซีนได้เนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย

2. องค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการกับสภากาชาดไทย ต้องสนับสนุน

งบประมาณค่าวัคซีน Moderna ราคา 1,300 บาท ต่อโดส นั้น เมื่อหักต้นทุนวัคซีนและค่าบริหารจัดการตาม

โครงการแล้ว เงินส่วนที่เหลือจากค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะนำเข้าสมทบใน "กองทุนสภากาชาดไทย เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 และยารักษาโรคโควิด-19 สำหรับประชาชน" ต่อไป

3. เมื่อสภากาชาดไทย แจ้งการจัดสรรโควตาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด แล้ว ขอให้ชำระเงินเต็มตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากสภากาชาดไทย ภายในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ก่อนเวลา 12.00 น.

4. สภากาชาดไทยจะทยอยจัดสรรวัคซีนได้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป สำหรับจังหวัดนราธิวาส ได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสในการขอรับวัคซีนเพื่อนำไปฉีดบริการให้กับประชาชนตามเงื่อนไขดังกล่าว จำนวน 10,000 โดส เป็นเงินทั้งสิ้น 13,000,000 บาท

นอกจากนี้นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในภาพรวมของวัคซีนที่ได้รับการสนับสนุนจาก อบจ.นราธิวาสจำนวน 10,000 โดส จะเป็นกลุ่มเป้าหมายซึ่งสามารถฉีดได้จะเป็นการส่งเสริมการฉีดวัคซีนของชาวจังหวัดนราธิวาสให้ครอบคลุมเร็วขึ้น ซึ่งตอนนี้มีประชากรที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย 600,000 กว่าคน ฉีดไปแล้ว 100,000 กว่าคน และยังคงเหลืออีก 500,000 คน ซึ่งถ้าได้รับวัคซีนตรงนี้ก็จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เร็วขึ้น และในเรื่องของการเก็บวัคซีนมีที่จัดเก็บวัคซีน 10,000 โดสใช้พื้นที่ไม่มาก โดยศักยภาพการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาสในหนึ่งวันฉีดได้ 7,500 โดส ซึ่งถ้าได้วัคซีนมา 10,000 โดนฉีดได้ 5,000 คนใช้เวลาฉีดภายใน 1-2 วันโดยสถานการณ์ภาพรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตอนนี้ในจังหวัดนราธิวาสมีจำนวน 4,184 รายอยู่ในระบบการรักษา 1,201 รายอยู่ที่โรงพยาบาล 645 รายและอีกส่วนอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม 556 รายและเสียชีวิตทั้งหมด 40 ราย ซึ่งคาดการณ์ว่าผู้ป่วยรายใหม่นับจากวันนี้เป็นต้นไป จะอยู่ที่ 150 -200 รายต่อวัน จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทำตามมาตรการของจังหวัดนราธิวาสกำหนดด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top