(3 ก.ย. 67) คงไม่มีใครปฏิเสธว่าสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองเเละมูลค่านั้นไม่มีวันลดน้อยลง แถมยังถือเป็น Safe Haven หรือหลุมหลบภัยเวลาสถานการณ์โลกไม่ปลอดภัย คงหนีไม่พ้นสินทรัพย์อย่าง ‘ทองคำ’
นอกจากทองคำจะเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งเเล้ว ในโลกการเงินทองคำยังถูกนำเอามาใช้เป็นตัวที่รับรองความน่าเชื่อถือของสกุลเงิน และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน เพราะในการจะพิมพ์ธนบัตรออกมาใช้ ธนาคารกลางจำเป็นต้องเอาทองคำมาเป็นทุนสำรองของประเทศเพื่อสนับสนุนค่าเงิน รวมถึงยังสามารถใช้ทองคำในการชำระเงินระหว่างประเทศหรือชดเชยการขาดดุลทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ อีกด้วย
และตั้งเเต่ปี 2007-2008 ที่เกิดวิกฤติการเงินโลกก็ทำให้หลายประเทศหันมาเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำกันเพิ่มมากขึ้นค่ะ โดยหลังจากวิกฤติทางการเงินกลุ่มประเทศเกิดใหม่เป็นกลุ่มที่มีการเข้ามาไปซื้อทองคำเพื่อนำมาใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงสุดค่ะ
ทางธนาคารกลางของสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์และธนาคารโลกจึงได้มีการรวบรวมข้อมูลการใช้ทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศ และทางสภาทองคำโลกเองก็ได้รวบรวมเหล่าบรรดาประเทศที่มีการนำเข้าทองคำมาเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเยอะที่สุดตั้งแต่ปี 2013-2024 โดย ‘รัสเซีย’ มีการนำเข้าทองคำมาเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุด รองลงมาคือ ‘จีน’
อย่างไรก็ตาม ประเทศที่ยังคงเป็นอันดับ 1 ในการถือครองทองคำมากที่สุดในโลกก็คือ ‘สหรัฐอเมริกา’ ถึงเเม้ว่าตั้งแต่ปี 2013-2024 สหรัฐฯ จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณทองคำเยอะเท่ากับประเทศอื่น ๆ แต่สหรัฐฯ เองก็ยังคงเป็นประเทศที่ครองแชมป์อันดับ 1 มาอย่างยาวนาน โดยสหรัฐฯ เองมีทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศ 8,133.5 ตัน และคิดเป็น 72.4% ของทุนสำรองของประเทศ ตามมาด้วยประเทศอย่าง ‘เยอรมนี’ ที่มีทองคำประมาณ 3,351.5 ตัน คิดเป็น 71.5% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ และ ‘อิตาลี’ ที่มีทองคำประมาณ 2,451.8 ตัน คิดเป็น 68.3% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ