Tuesday, 22 April 2025
ทหารพราน

ทหารพรานที่ 2107 รวบผู้ต้องหา พร้อมของกลางไม้พะยูงแปรรูป 60 ท่อน เตรียมขนข้ามชายแดน!!

พันเอก อุทัย นิลเนตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูงผ่านเส้นทางพื้นที่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อนำส่งขาย สปป.ลาว  จึงสั่งการให้ ร.ท.วิทยากร  ศักดิ์ดาเดช ผบ.ร้อย.ทพ.2107 จัด ชป.คทร (หน่วยงานหลัก) ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด เส้นทางเข้าหมู่ บ.หาดแห่ ม.3 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้าฯ ตามภาพข่าวที่ได้รับแจ้ง ครั้นเวลา 12.20 น.

ขณะชุด จนท.ปฏิบัติงาน พบรถยนต์กระบะตอนเดียวลักษณะตู้ปิดทึบ ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผอ 5095 ขอนแก่น วิ่งมาจาก ต.ชัยพรฯ (หมายเลข 212) แล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้ามายังจุดตรวจ/จุดสกัด มีลักษณะท่าทางพิรุธ ชุด จนท. จึงได้แสดงตัว และขอทำการตรวจสอบ นายวินิจ  หรือนิจ บุตรจันทร์ พลขับรถ (ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง)

เลย - ‘พ.อ.สุนัย แย้มแสงสังข์’ พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมผลการปฏิบัติงานของหน่วย ในพื้นที่ จ.เลย

กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดย พ.อ.อุทัย นิลเนตร ผู้บัญชาการกรมทหารพรานที่ 21/ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 พร้อมด้วยกำลังพลของหน่วยให้การต้อนรับ พ.อ. สุนัย แย้มแสงสังข์ หน.ฝทพ.ศปก.ทภ.2 พร้อมคณะในโอกาสตรวจเยี่ยมผลการปฏิบัติงานของหน่วย ในพื้นที่ จ.เลย เพื่อรับฟังผลการปฏิบัติงานและปัญหาข้อขัดข้องของหน่วยในห้วงที่ผ่านมา เพื่อร่วมบูรณาการในการพัฒนาหน่วยต่อไป

และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานด้านการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ตามแนวชายแดนของหน่วย เพื่อตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการ ร้อย.ทพ.2103 โดยได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย การลักลอบนำเข้ายาเสพติด การหลบหนีเข้าออกนอกราชอาณาจักรเน้นการบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วน เพิ่มมาตรการ ในการปฏิบัติ จุดเฝ้าระวังช่องทางธรรมชาติ รวมถึงการเพิ่มกำลังลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง และการเฝ้าระวังสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเลย ก่อนเดินทางกลับได้มอบของบำรุงขวัญเพื่อเป็นกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนของหน่วย ณ ฐานปฏิบัติการ ร้อย.ฉก.ทพ.2103 บ้านโนนสวรรค์ ม.8 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย

นราธิวาส - ทหารพราน 45 นำกำลังพลลุยน้ำ! แจกจ่ายอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อ.ระแงะ ขณะที่ภาพรวมมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 ตำบล 59 หมู่บ้าน

พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพลและผู้แทนอำเภอระแงะ ที่ร่วมกันประกอบอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน ที่วัดชัยรัตนาราม หรือวัดบ้านไท อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส  เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตเบื้องต้น หลังประสบอุทกภัยน้ำเข้าท่วมบ้านเรือน ประชาชนได้รับความยากลำบากอยู่ในขณะนี้ โดยเมนูเป็นข้าวผัดพริกแกงไก่ ไข่ดาว จำนวน 1,000 กล่อง ทั้งไข่เป็ดและไข่ไก่ ส่วนหนึ่งเป็นวัตถุดิบที่ได้มาจากโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายในบริเวณหน่วยฯ พร้อมน้ำดื่มของหน่วยฯ ที่ผลิตเอง

จากนั้น พันเอก ทวีรัตน์  เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 พร้อมด้วยนายกิตติพงษ์  อำพันธ์ นายอำเภอระแงะ พันตำรวจเอก ปิยภัทร  ทองพันเลิศกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ และผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินลุยน้ำในพื้นที่บ้านปลักเข้ บ้านไท ตำบลตันหยงมัส  นำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้กับประชาชนถึงบ้าน โดยภาพพื้นที่บ้านไท รวมระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 

 

'แก๊งขนเขมร' ห้าว ยิงปืนสกัด 'ทหารพราน' ขณะบุกรวบแรงงานเถื่อน จนท.เร่งล่าตัวด่วน

(22 ก.พ. 66) พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 (ผบ.ชค.กรม.ทพ.12) นำกำลังกองร้อยทหารพรานที่ 1204 ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 112 (ฉก.ร.112) ออกลาดตะเวนป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดผือ ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังสืบทราบว่า จะมีแรงงานกัมพูชาลักลอบเข้ามาในประเทศไทยตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณชายแดนท้ายหมู่บ้านกุดผือ

ต่อมาชุดปฏิบัติการ ร่วมฯ ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยกลุ่มใหญ่ เดินเท้าฝ่าความมืดลักลอบข้ามตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติ จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย ระหว่างจุดตรวจ จต.ส. 41 - จต.ส. 42 แล้วเดินลัดเลาะมาตามไร่อ้อยของชาวบ้าน เพื่อข้ามถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดนท้ายหมู่บ้านกุดผือ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ แต่ถูกบุคคลคาดว่าเป็นคนไทยแก๊งลักลอบขนแรงงานเถื่อนที่นำพาแรงงานกัมพูชา ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงขึ้นฟ้าประมาณ 3-4 นัด

นครพนม -หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ตรวจยึดพืชกัญชา ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร จำนวน 2 กระสอบ น้ำหนัก รวม 75 กก./แท่ง ริมตลิ่งแม่น้ำโขง ในพื้นที่อำเภอบ้านแพง

กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดยร้อยโท วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 ได้รับทราบจากแหล่งข่าวจากประชาชนในพื้นที่ ว่ามีการลักลอบทำผิดกฏหมาย โดยการนำเข้าสิ่งของผิดกฏหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในเขตพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย หน่วยจึง ทำการเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และ พ.ร.บ.ศุลกากร พื้นที่จุดเสี่ยง จุดเพ่งเล็ง ตามภาพข่าว บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง บ้านดอนแพง หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ตรวจการณ์พบเรือหาปลาต้องสงสัย จำนวน 1 ลำ ล่องเรือมาจากฝั่ง สปป.ลาว มายังฝั่งไทย ขับวนเลียบตลิ่งไปมามีกระสอบสิ่งของต้องสงสัยอยู่บนเรือและมีรถยนต์ขับมาจอดบนถนนเลียบแม่น้ำโขงตรงจุดท่าน้ำ พื้นที่ ใกล้กับจุดที่ กำลังพลของหน่วยทำการเฝ้าตรวจจากนั้นเรือลำดังกล่าว ได้ขับเข้ามาจอดเทียบท่าน้ำ และทำการยกสิ่งของขึ้นมาบนฝั่ง และรีบขับเรือกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาว กำลังพลของหน่วยจึงเฝ้าสังเกตุการณ์ 

จากนั้นได้มีราษฎรชาย 4 คน เดินลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ เดินมุ่งหน้าไปยังสิ่งของต้องสงสัยที่วางอยู่ เพื่อจะมาหยิบเอาสิ่งของดังกล่าว กำลังพลของหน่วยที่เฝ้าตรวจอยู่จึงแสดงตนขอตรวจสอบ เมื่อราษฎรชายกลุ่มดังกล่าว พบเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ละทิ้งสิ่งของ แล้วทำการวิ่งไปขึ้นรถที่จอดรออยู่และขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว กำลังพลของหน่วยจึงเข้าทำการตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัย พบเป็นพืชกัญชาแห้งแบบอัดแท่ง จำนวน 2 กระสอบ ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร จึงได้ดำเนินการขนย้ายมายัง กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21เพื่อทำการตรวจสอบ และตรวจนับของกลาง พืชกัญชาแห้ง แบบอัดแท่ง จำนวน 2 กระสอบ น้ำหนัก รวม 75 กก./แท่ง หน่วยได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมบันทึกภาพผลการตรวจยึดของกลางทั้งหมด และได้นำส่ง สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นราธิวาส-ผู้ว่าฯ นราธิวาส มอบรองผู้ว่าฯ นราธิวาส เป็นผู้แทนพิธีรดน้ำศพอาสาสมัครทหารพราน ทั้ง 2 นาย ซึ่งเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (9 เม.ย.67)  ที่ วัดบางนรา อ.เมืองนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มอบหมายให้ นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้แทนในพิธีรดน้ำศพอาสาสมัครทหารพราน วิทยา ปวงงาม และอาสาสมัครทหารพราน ประคอง  สุทนัง เจ้าหน้าที่ร้อยทหารพราน 4613 โดยมี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีฯ เพื่อร่วมแสดงความอาลัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

สำหรับ อาสาสมัครทหารพราน ทั้ง 2 นาย ได้เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาด ซุ่มยิง ขณะเดินทางด้วยรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ซึ่งกลับจากการปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมการจัดทำซุ้มประตู เหตุเกิดพื้นที่บ้านบลูกาฮีเล หมู่ที่ 6 ตำบลบาตง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อกลางดึกของวันที่ 7 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต จำนวน 2 นาย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 9 นาย  

โดยหลังเสร็จพิธีรดน้ำฯ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ กรณีเสียชีวิต รายละ 5,000 บาท และอีกหลายหน่วยงานร่วมมอบเงินแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตฯ ด้วย

หนุ่มใจสู้!! สมัครทหารพราน ‘ชุดสมัคร – ชุดสอบ’ เป็นชุดเดียวกัน วิ่งเข้าอันดับ 1 ทั้งที่ไม่มีรองเท้าวิ่ง เผย!! บ้านจน อยากหาเงินเลี้ยงดูแม่

(27 ต.ค. 67) สมาชิก TikTok @reforearmyback ซึ่งเป็นครูฝึกทหารพราน ได้โพสต์คลิปของหนุ่มคนหนึ่ง มีความตั้งใจจะมาเป็นทหารพราน เพื่อหาเงินดูแลแม่ ที่อึ้งคือในวันทดสอบร่างกาย เจ้าตัวใส่ชุดเดิม ซึ่งเป็นชุดเดียวกับวันที่มาสมัคร โดยระบุข้อความว่า

น้องคนนี้ใส่เสื้อตัวเดิมกางเกงตัวเดิม ตอนมาสมัคร วิ่งเข้าที่ 1 และเวลาดีที่สุดเพื่อจะสอบเป็นทหารพราน มีเงินเลี้ยงแม่ ขอให้ความฝันน้องสำเร็จ ขอชื่นชมคนนี้ ครับ 

จากนั้นก็ได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบให้ดูวันที่มาสมัครวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งเจ้าตัวชื่อว่า นายจตุพร สาพิราช อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 16 ต.บัวตม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ชุดในวันนั้นคือเสื้อกีฬา และกางเกงขายาวลายพราง ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่มาทดสอบร่างกายในวันที่ 25 ก.ย. และยังไม่เหมาะกับการใส่ทดสอบร่างกาย เพราะทำให้วิ่งไม่ถนัดแน่น้องคนนี้กลับวิ่งทดสอบร่างกายในระยะทาง 2 กม. และเข้ามาเป็นที่ 1 ด้วย

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และอยากสมทบทุนในการช่วยเหลือ รวมทั้งยังอยากซื้อรองเท้าให้ เพราะรองเท้าที่ใส่วิ่งทดสอบร่างกายนั้นไม่ใช่รองเท้าวิ่ง ขณะเดียวกันทราบว่า ทางบ้านมีฐานะยากจน ที่มาสมัครทหารพราน เพราะอยากหาเงินไปเลี้ยงดูแม่

นอกจากนี้ยังมีคนเข้ามาคอมเมนต์บอกว่า 

“ผมเคยเจอพี่เขาครับ มาสอบที่กรมทหารพราน14 พี่เขามีความพยายามมากครับ เห็นบอกมานอนศาลารอรถเมล์แถวกรมมา 2 วัน สู้ๆ ครับเป็นกำลังใจให้ ขอให้พี่ได้เป็นทหารพรานตามที่หวังนะครับ”

‘ทหารพราน’ จากยะลา มาเป็นอาสาล้างบ้านที่ ‘แม่สาย’ เผย!! ทำด้วยความภูมิใจ ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน

(2 พ.ย. 67) มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์เรื่องราวดีๆ ของทหารพรานจากยะลา ซึ่งเป็นจิตอาสา ขึ้นเหนือ ไปทำกิจกรรม ‘ล้างบ้าน’ ที่แม่สาย โดยมีใจความว่า ...

วันที่ผมตัดสินใจ นั่งรถไฟชั้น 3 จากยะลาเข้ากรุงเทพ เพื่อไปกิจกรรมล้างบ้านที่แม่สาย คนรอบตัวถามผมว่า ‘ไปแล้วจะได้อะไร เป็นอาสาแล้วได้เงินหรือเปล่า’ ผมแค่รู้สึกว่าผมภูมิใจที่ตัวเองสามารถทำหน้าที่นี้ได้ ไม่ต้องการอะไรตอบแทน

ปกติผมเป็นทหารพรานอยู่จังหวัดยะลา บ้านเกิดอยู่นราธิวาส ปลายปีก่อนนราธิวาสก็น้ำท่วมหนัก ตอนนั้นผมไปเป็นอาสาช่วยชาวบ้าน ได้ทำงานร่วมกับคนต่างถิ่นเยอะมาก หลายคนเดินทางมาไกล เพื่อช่วยคนในพื้นที่สามจังหวัด พอเห็นข่าวน้ำท่วมแม่สายรอบนี้ ผมเข้าใจดี ว่าน้ำท่วมมันไม่ได้พังแค่บ้าน เศรษฐกิจอะไรก็พังหมด มันสาหัสขนาดผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ในพื้นที่เหมือนโดนสงคราม ยังเป็นโคลนเป็นฝุ่นอยู่ ผมเลยตั้งใจไว้ว่ายังไงก็ต้องเอาแรงไปช่วยตรงนั้นให้ได้

แต่จากยะลาไปแม่สาย มันก็ลำบากเรื่องการเดินทาง สนามบินอยู่ไกล ไม่มีรถไฟต่อตรง ต้องนั่งหลายต่อ ส่วนตัวผมเองไม่ได้มีทุนมาก มีแค่แรงที่ช่วยได้ พอเห็นมูลนิธิกระจกเงาประกาศรับสมัครอาสาบินฟรี ผมก็สมัครเลยแบบไม่ลังเล

ถึงแม่สายวันแรก ผมได้ไปขุดโคลนแถวเกาะทรายซอย 8 ทั้งหน้าบ้าน ในบ้านเป็นโคลนหมดเลย ผมตะลึงนะ แบบ โห้! โคลนในบ้านสูง 60 เซน มองไม่ออกเลยว่าตรงไหนเป็นพื้นที่ต่ำหรือสูง ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับบ้านผม ผมคงพูดไม่ออก แล้วยิ่งบ้านนี้เป็นคนแก่อยู่คนเดียว ถ้าต้องจัดการโคลนคนเดียวหมดนี้ เขาคงทำไม่ไหว

ขุดโคลนบ้านหลังแรกเสร็จ ผมเหนื่อยมาก แต่ก็ภูมิใจมากนะ ตลอดเวลาที่เข้าไปช่วย เห็นเจ้าของบ้านพยายามซัพพอร์ต ขาดเหลืออุปกรณ์อะไรเขาก็ไปหามาให้ ได้อยู่จนถึงวันที่ส่งมอบบ้านให้เขา เขาไม่ต้องมาขอบคุณผมก็ได้ แค่บ้านสะอาด เจ้าของบ้านดีใจที่ได้กลับเข้าบ้าน แค่นี้ผมก็รู้สึกมีคุณค่ากับตัวเองแล้ว

มาอาสารอบนี้ ผมสนุกกับชีวิตตัวเองมาก ได้เจอคน เจอพื้นที่ใหม่ ได้ทำงานร่วมกับคนที่ไม่ได้รู้จักกัน ไม่ได้นัดกัน อยู่ดีๆ กลายมาเป็นทีมเดียวกัน เพื่อนอาสาบางคนรับราชการ เป็นเจ้าของบริษัท เป็นผู้พันทหารอากาศ แต่เขาก็ยังหาเวลามาทำอาสาสมัคร นี่คือเปิดโลก เปิดประสบการณ์ให้ผมเลย

อยากบอกทุกคนว่า หากคุณคิดอยากช่วยก็มาเถอะ ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง ก็เอากำลังมาช่วยได้ ตอนทำอาจจะเหนื่อย แต่เหนื่อยแค่แปปเดียว นอนพักเดี๋ยวก็หายแล้ว

อัฟฟาน วาแม (ปัง) อายุ 32 ปี 
อาสาล้างบ้าน รุ่นบินลัดฟ้า
เดินทางจากใต้สุดเมืองยะลา 
มาช่วยชาวบ้านที่แม่สาย เหนือสุดแดนสยาม

ขอขอบคุณ Fly AirAsia
สนับสนุนเที่ยวบินเพื่อภารกิจอาสาล้างบ้าน
ตั้งแต่ 15 - 31 ตุลาคม 2567

วันนี้เป็นวันสุดท้าย 
ที่อาสาจากกิจกรรมบินลัดฟ้าปฏิบัติภารกิจ
ขอขอบคุณอาสาล้างบ้านทุกคน
จากทั่วประเทศ ทุกวิธีการเดินทาง
ที่สละทั้งร่างกายและเวลา
มาช่วยชาวบ้านผู้ประสบภัยอุทกภัย

ศูนย์อาสาล้างบ้านกระจกเงา อ.แม่สาย จ.เชียงราย 
ล้างบ้านไปทั้งหมด 230 หลังคาเรือน
และหลังจากนี้ เราจะเข้าสู่หน้างานซ่อมสร้างบ้าน เพื่อซ่อมแซมชาวบ้านที่พังเสียหายจากน้ำท่วม ให้พร้อมเข้าอยู่

สนับสนุนงานภัยพิบัติของมูลนิธิกระจกเงา
ได้ที่ กองทุนภัยพิบัติ (Special Force) 
โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่บัญชี 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์

หรือ สนับสนุนเข้ากองทุนมูลนิธิกระจกเงา
ได้ที่ เทใจดอทคอม
https://taejai.com/th/project/mirror_fund_ot
(สามารถลดหย่อนภาษีได้)

นครพนม-แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงข่าวทหารพราน 'Seal Stop Safe' สกัดยาเสพติดชายแดน รวบ 3 ผู้หาขนยาไอซ์ 658 กิโลกรัมพร้อมยาบ้ากว่าแสนเม็ด ริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านอำเภอบ้านแพง 

เมื่อวันที่ (12 ก.พ. 68) เวลา 15.00 น. ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 บ้านปากห้วยม่วง ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24) พร้อมด้วยพลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์  ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พลเรือตรีณรงค์ เอมดี ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง,พันเอกศิวดล ยาคล้าย ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 ( ร.3 ), พันเอกอินทราวุธ  ทองคำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21,นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 , นายอำเภอบ้านแพง พร้อมกับหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาว สปป.ลาว 3 ราย 

พร้อมตรวจยึดยาเสพติดประเภท 1 ยาไอซ์ จำนวน 16 กระสอบ 658 กิโลกรัม/ก้อน และยาบ้า  58 มัด จำนวน 116,000 เม็ด รถตู้ 1 คัน เรือกีบติดเครื่องยนต์ 2 ลำ ที่บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขงบ้านแพงใต้ ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม โดยร้อยโท วันชาติ  เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 21 ได้นำกำลังพลหน่วยขึ้นตรงกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากฝั่ง สปป.ลาวเข้ามายังพื้นที่ฝั่งไทยเพื่อนำเข้าสู่พื้นที่ตอนใน บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขงบ้านแพงใต้ ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพงจึงได้ประสานกำลังกับหน่วยงานฝ่าวความมั่นคงที่เกี่ยวข้องซุ่มเฝ้าตรวจ พบเรือกลีบ จำนวน 2 ลำรถยนต์(รถตู้)จำนวน 1 คันพร้อมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน เป็นชาวสปป.ลาว ประกอบด้วย ท้าวดำ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 16 ปี บ้านนาข่า เมืองคูนคำ แขวงคำม่วน สปป.ลาว-ท้าว ลี (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 17 ปี บ้านทางแยกหลักซาว เมืองปากกะดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว และท้าวพง อภัยโส อายุ 30 ปี อยู่บ้านดอน เมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป. ลาว พร้อมของกลาง 4 รายการ คือยาไอซ์ จำนวน 16 กระสอบ น้ำหนัก 658 กิโลกรัม/ก้อน,ยาบ้า 58 มัด 116,000 เม็ด,เรือกลีบเล็กพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ-รถยนต์ (รถตู้) จำนวน 1 คัน ทางหน่วยได้นำของกลางมาตรวจนับอีกครั้ง ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21

และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสามคนรับสารภาพว่าได้รับค่าจ้าจากนายทุนชาวลาวให้นำของกลางมาส่งที่ฝั่งไทยแลกค่าจ้างคนละ 20,000 บาทก่อนจะมาถูกจับกุมเสียก่อน โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 /ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนาย และทุกภาคส่วน ที่ได้มีการบูรณาการกำลัง ได้ทุ่มเทเสียสละ แรงกายแรงใจ ร่วมกันสกัดกั้น ป้องกันและปราบปราม การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ปฏิบัติภารกิจในการเสริมสร้างความมั่นคงป้องกัน/ปราบปราม ต่อการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ในทุกภารกิจต่อไป

ซึ่งหลังจากวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดมอบนโยบายปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ในห้วงที่ผ่านมาในพื้นที่ชายแดนซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2  มีสถิติการจับกุมในพื้นที่อําเภอชายแดนของจังหวัดนครพนม จำนวน 139 ครั้งผู้ต้องหา 237 ราย โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 16,707380 เม็ด, ไอซ์ 778 กิโลกรัม, เฮโรอีน 67 กิโลกรัม และเคตามีน 320 กิโลกรัม การจับกุมในพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 7 จังหวัด 25 อําเภอ จํานวน 428 ครั้ง ผู้ต้องหา 626 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 74,168,318 เม็ด, ไอซ์ 2,566,308 กิโลกรัม, เฮโรอีน 123.95 กิโลกรัม, เคตามีน 573.83กิโลกรัม, และอื่น ๆ (ยาอี 1,490 เม็ด. happy Water 800 ซอง, ฝิ่น 0.66 กรัม)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top