Monday, 1 July 2024
ถนนข้าวสาร

‘ถนนข้าวสาร’ เตรียม 7 ทางออก รองรับนทท.งานฮาโลวีน มั่นใจ!! สถานที่ปลอดภัย ไม่ซ้ำรอยอิแทวอนแน่นอน

(31 ต.ค. 65) ที่ถนนข้าวสาร เขตพระนคร นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวถึงมาตรการความปลอดภัยในการจัดงานฮาโลวีน ที่ถนนข้าวสารวันที่ 31 ต.ค.นี้ ว่า เนื่องจากถนนข้าวสารมีการจัดงานเทศกาลฮาโลวีนในทุก ๆ ปีอยู่แล้วก่อนการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยของพื้นที่จึงมีความพร้อม โดยได้มีการประสานงานกับเขตพระนคร ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ อปพร. ทั้งเรื่องรถพยาบาล จุดคัดกรองสำหรับตรวจอาวุธและความปลอดภัยต่าง ๆ ซึ่งจะมีตัวสแกนทั้งหัวถนนและท้ายถนน

และจากเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นในงานเทศกาลฮาโลวีน ที่อิแทวอน เกาหลีใต้ ที่ผ่านมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น ทำให้ตนกลับมาทบทวนเรื่องเส้นทางการออกจากพื้นที่ในโซนของถนนข้าวสารมีกี่จุด ตรงไหนบ้าง ซึ่งจากเดิมจะให้ออกแค่เพียง 2 ทาง คือ หัว-ท้ายของถนน เมื่อสำรวจแล้วพบว่า จะมีทางออกจากพื้นที่ถนนข้าวสารได้เพิ่มอีกรวมเป็นทั้งหมด 7 เส้นทาง ซึ่งในวันนี้ (31 ต.ค.) ก่อนเริ่มงานจะมีการนำป้ายประชาสัมพันธ์ทางออกมาติด ซึ่งป้ายประชาสัมพันธ์นั้นมี 3 ภาษา คือ ไทย-อังกฤษ-จีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นและสามารถออกจากพื้นที่ได้หากเกิดเหตุไม่คาดคิด

นายสง่า กล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของถนนข้าวสารกับถนนเส้นที่เกิดอุบัติเหตุในย่านอิแทวอนนั้น เท่าที่ทราบมีลักษณะต่างกันเพราะพื้นที่ที่เกิดเหตุมีลักษณะลาดชันตามภูมิประเทศซึ่งเป็นภูเขา และความกว้างของถนนประมาณ 4-6 เมตร เท่านั้น ต่างจากสภาพของถนนข้าวสารซึ่งเป็นถนนลักษณะราบและไม่มีฟุตปาธ อีกทั้งยังมีความกว้างของถนนกว่า 14 เมตร ยาว 400 เมตร

ส่วนเรื่องความปลอดภัยในสถานบันเทิง ที่ผ่านมาได้เรียกประชุมผู้ประกอบการให้ตรวจตราร้านของตนเองอยู่เสมอตามนโยบายของราชการที่กำชับมาเรื่องความปลอดภัยในสถานบันเทิง รวมทั้งซักซ้อมหากเกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งเจ้าหน้าที่เขตพระนครได้ออกตรวจสถานบันเทิงในข้าวสารอยู่เป็นประจำ จึงไม่น่ากังวลและขอให้มั่นใจในความปลอดภัย

สำหรับประมาณการณ์นักท่องเที่ยวที่จะมาในงานฮาโลวีนปีนี้ นายสง่า ระบุว่า คาดว่าจะมีประมาณ 20,000 คน ซึ่งไม่น่าเป็นห่วงนัก เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ถนนข้าวสารยังเคยรองรับนักท่องเที่ยวมาแล้วกว่า 50,000 คน


ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/1631633/ 

เสียงแตก!! หลังสงกรานต์ข้าวสารคืนแรก ยุติก่อนเวลากำหนด เหตุปริมาณนักท่องเที่ยวแออัดเกิน หวั่นเกิดเหตุอันตราย

(14 เม.ย.66) ตำรวจยุติสงกรานต์ถนนข้าวสาร เมื่อคืน 13 เม.ย. เหตุปริมาณนักท่องเที่ยวแออัด ไม่สามารถระบายคนออกมาได้ หวั่นซ้ำรอยเหตุสลดอิแทวอน โดยสน.ชนะสงคราม ได้ประกาศปิดทางเข้าชั่วคราวเพื่อระบายคน และลดความแออัด แต่มีนักท่องเที่ยวบางส่วนไม่พอใจ พยายามดันรั้วตำรวจ

‘อนุทิน’ ลุยถนนข้าวสาร ส่องความพร้อมวันที่ 2 ผับเปิดได้ถึงตี 4 ย้ำ!! แค่ตรวจเยี่ยมตามปกติ แต่สถานบังเทิงต้องทำตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสถานบริการย่านถนนข้าวสารเพื่อดูความเรียบร้อย หลังจากที่ได้มีการขยายเวลาให้สถานบริการที่ได้รับอนุญาตเปิดถึงตี 4 เป็นวันที่ 2

นายอนุทิน เปิดเผยว่า จากการไปตรวจเยี่ยมแหล่งสถานบริการ 2 วันที่ผ่านมา ทั้งย่าน RCA และถนนข้าวสาร สถานการณ์เรียบร้อยดี ทางผู้ประกอบการก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บรรยากาศคึกคัก มีแนวโน้มไปในทางที่ดี ที่จะช่วยให้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว

ซึ่งในย่านถนนข้าวสารแห่งนี้ เป็นแหล่งที่มีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวหมุนเวียนมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง การมาของตนมาเพื่อตรวจเยี่ยม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ไม่ได้มาจับผิด แต่สถานบริการต้องปฏิบัติตามกฎหมาย

เน้นย้ำ 3 ข้อ คือ ต้องไม่มีอาวุธ, ไม่มียาเสพติด และไม่มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ สำหรับในย่านถนนข้าวสารมีสถานบริการที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง 4 แห่ง ที่สามารถเปิดได้ถึงตี 4

นอกเหนือจากนั้น หลังเที่ยงคืนห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามเปิดเพลงเสียงดัง แต่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งดื่มกินกันได้ต่อ ทั้งนี้ ในอนาคตมีแผนจะไปตรวจเยี่ยมแหล่งสถานบริการในต่างจังหวัดด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยวันเวลาและสถานที่

'สตม.' จัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ให้บริการ Mobile Service ตรวจคนเข้าเมืองเคลื่อนที่แก่นักท่องเที่ยว บริเวณถนนข้าวสาร

ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม. จัดกิจกรรมตามโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. 

เมื่อวานนี้ศุกร์ ที่ 22 ธันวาคม 2566 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล  อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.ภานุมาศ บุญญลักษณ์ รอง ผบช. สตม. , พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช. สตม. , พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช. สทส.ปรก.รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช. สตม. , พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รองผบช. สตม. , พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช. สอท. ปรก.รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.ประสาธน์  เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 , นำข้าราชการตำรวจจิตอาสาในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 70 คน มาร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา พระราชทาน 904 วปร. “เราทำความดี   ด้วยหัวใจ” โดย กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้เปิดให้บริการ Mobile service เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว บริเวณถนนข้าวสาร และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีการให้บริการ ดังนี้

1.บริการขออยู่ต่อเพื่อการท่องเที่ยวประเภท ผ.30 , ผผ.30 และ TR.

2.บริการ Re-entry permit งานอนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก

3.บริการการรับแจ้งอยู่เกิน 90 วัน

4.บริการรับแจ้งที่พักอาศัย ตาม ม.38

ผบช.สตม. ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์หลักของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับประชาชนในทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ บริเวณถนนข้าวสารเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยว นอกจากมาให้บริการประชาชนแล้ว ยังเป็นการสอดส่องดูแลความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งอาจจะแฝงตัวเข้ามาในประเทศไทยของเราอีกทางหนึ่งด้วย 

กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ยังถือเป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆของ สตม. อาทิเช่น การขออนุญาตเพื่ออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “e-Extension” คนต่างด้าวสามารถดำเนินการกรอกข้อมูลได้ด้วยตนเองตลอดเวลา ผ่านระบบออนไลน์บนอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ และเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันตัวบุคคล และรับสติ๊กเกอร์วีซ่าโดยใช้เวลาไม่เกิน 3 นาทีเท่านั้น

หลังจากกิจกรรมเสร็จสิ้นก็มีการทำความสะอาด บริเวณการให้บริการ และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ แก่ส่วนรวม

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top