Thursday, 4 July 2024
ตัวประกันไทย

'ทีมงานวันนอร์' แจ้งข่าวดี ผลเจรจา 'ฮามาส' จบแล้ว  พร้อมปล่อยตัวประกันไทย 19 คน ยัน!! ทุกคนปลอดภัย

เมื่อวานนี้ (31 ต.ค. 66) เว็บไซต์สำนักข่าวไทย เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ นายซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์แห่งประเทศไทย ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา ว่า คณะเจรจาที่ถูกแต่งตั้งโดยประธานรัฐสภาไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ซึ่งประกอบด้วย นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ นายเลอพงษ์ ซาร์ยีด ผู้ประสานงานฝ่ายต่างประเทศและนายสัยยิดมุมิน ศักดิ์กิตติชา ได้เข้าเจรจากับฮามาสในการช่วยเหลือตัวประกัน ว่าได้มีการเจรจา 2-3 รอบแล้ว ขณะนี้ถือว่าการเจรจาเสร็จสิ้นสมบูรณ์

“โดยล่าสุดคณะเจรจาได้รับเกียรติจากอยาตุลลอฮ์ อัคตารี ที่ปรึกษาประธานาธิบดีอิหร่าน เป็นเจ้าภาพในการเจรจาระหว่างตัวแทนไทยกับฮามาส โดยใช้ห้องทำงานของที่ปรึกษาฯ ซึ่งอยู่ในบริเวณทำเนียบในการพูดคุยเจรจา โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมประชุม ซึ่งการเจรจาไม่มีปัญหาอะไร ทางฮามาสตกลงและพร้อมที่จะปล่อยตัวประกันคนไทย แต่ติดอยู่ที่เงื่อนไขของเวลาและความปลอดภัย เนื่องจากตัวประกันทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่ฉนวนกาซา การเดินทางเข้า-ออกยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากอิสราเอลโจมตีพื้นที่เส้นทางเข้าออกทั้งหมด ซึ่งหากเดินทางออกมาตอนนี้เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงต้องรอจนกว่าอิสราเอลจะหยุดโจมตี หรือยอมรับการหยุดยิง"นายซัยยิดสุไลมาน กล่าว

สำหรับยอดตัวประกันที่ทางฮามาสแจ้งมามีทั้งหมด 19 คน แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศแจ้งเพิ่มมาอีก 3 คน ซึ่ง 3 คนนี้ยังไม่ได้รับการรับรอง แต่ตนก็ได้ส่งชื่อเพิ่มไปแล้ว จึงยังไม่ได้รับรองมาว่ามี 22 คน แต่ขณะนี้ทั้ง 19 คน ทุกคนปลอดภัย และสุขภาพดีทุกอย่าง และหลังจากนี้คณะเจรจาจะได้รายงานทั้งหมดให้ประธานรัฐสภา และต้องคุยกับทางรัฐบาล เพราะขั้นตอนหลังจากนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลในการดำเนินการเจรจาเรื่องการขนย้ายนำเครื่องบินเข้าไป และประสานขออนุญาตบิน ซึ่งเป็นเรื่องระดับรัฐบาลแล้ว ส่วนการเจรจาถือว่าจบ

นายซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี กล่าวว่า ขณะนี้ฉนวนกาชาดถูกปิดล้อมทั้งทางบกทางทะเล มีช่องทางเดียวที่เข้า-ออก ได้ คือช่องทางราฟาห์ ซึ่งอยู่ใกล้กับอียิปต์ ดังนั้นการจะเปิดหรือปิดขึ้นอยู่กับทางการอียิปต์ ซึ่งจะเปิดช่วยเหลือเมื่อมีความจำเป็นด้านสาธารณภัย ทางรัฐบาลอียิปต์ก็จะเปิดให้ แต่ยังไม่เปิดให้เคลื่อนย้ายบุคคล จึงเชื่อว่าถ้าช่องทางจากกาซาไปชายแดนราฟาห์ปลอดภัย คงเป็นเรื่องที่ไทยจะต้องไปร้องขอจากทางรัฐบาลอียิปต์โดยตรง ทั้งนี้ตนพูดไว้ล่วงหน้า เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะมีการปล่อยตัวประกันแบบไหน แต่เห็นว่าตรงนี้เป็นเส้นทางเดียวที่จะปล่อยออกมาได้ เพราะตรงอื่นไม่มีทางออก นอกจากจะส่งมอบตัวประกันให้อิสราเอลแล้วทางอิสราเอลส่งมอบให้กับไทย ซึ่งเชื่อว่าเงื่อนไขหลังนี้น่าจะเป็นไปได้ยาก

‘เศรษฐา’ ขอบคุณ ‘นายกฯ มาเลฯ’ ช่วยเจรจาปล่อยตัวประกันไทย  เล็ง!! ร่วมมือการค้าชายแดน แก้ปัญหาชายแดนใต้ นำพาสันติสุข

(27 พ.ย.66) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ด่านสะเดา จ.สงขลา เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียว่า วันนี้หนึ่งในเรื่องที่จะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย คือ การขอบคุณที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือตัวประกันให้ได้รับการปล่อยตัว ซึ่งกำลังจะครบกำหนดเงื่อนไข 24 ชั่วโมงที่ขอให้หยุดยิง จึงจะขอให้นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด

นายกฯ กล่าวว่า จะมีการดูแลตัวประกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกคนปลอดภัยดี โดยภาพรวมถือว่าดี และจะพยายามดำเนินการต่อไป เพื่อนำพาออกมาให้หมด วันนี้เข้าใจว่านายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ จะเดินทางไปรับด้วยตัวเอง ส่วนการปล่อยตัวประกันที่เหลือ เราพยายามทำอยู่ เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน ตนจึงไม่อยากพูดไปก่อน ขอให้รอดูต่อไป และจนถึงวันนี้ก็มีการปล่อยตัวประกันทุกวัน ตั้งแต่ 10 คน และ 3-4 คน ตามมา ก็จะพยายามทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง วันนี้ฝ่ายความมั่นคง โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และกำชับลงรายละเอียดอย่างมาก ฉะนั้น ขอความกรุณาในการเผยแพร่ข้อมูล ตนไม่อยากพูดเท่าไร เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัยของตัวประกันสำคัญที่สุด

อย่างไรก็ตาม นายกฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้จะมีการพูดคุยถึงความร่วมมือการค้าชายแดน โดยจะติดตามความคืบหน้าเรื่องที่เคยพูดคุยกันไปแล้วเมื่อครั้งพบประกันเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งปัญหาชายแดนภาคใต้ ซึ่งทางมาเลเซียเคยมีข้อเสนอมาแล้วครั้งนี้ก็จะพูดคุยในรายละเอียด และการตรวจคนเข้าเมือง ส่วนการเปิดด่านถาวรสะเดาได้เมื่อไหร่นั้นขอพูดคุยในละเอียดในวันนี้ก่อน

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ในส่วนคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ซึ่งหมดวาระพร้อมกับรัฐบาลชุดที่แล้ว จะมีการแต่งตั้งทหารหรือพลเรือนนั้น จะต้องให้หน่วยงานไปพูดคุยกันก่อน

'อิสราเอล' เผย!! 2 ตัวประกันไทยในกาซาตายแล้ว คาดตั้งแต่เหตุโจมตี 7 ต.ค. ด้าน 'รมว.กต.ไทย' ลั่น!! ขอให้ปล่อยอีก 6 ตัวประกันคนไทยโดยทันที

(17 พ.ค. 67) กองทัพอิสราเอลเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (16 พ.ค.) ตัวประกันไทย 2 คน ที่เดิมทีเชื่อว่ามีชีวิตรอดอยู่ในกาซา แท้จริงแล้วเสียชีวิตในเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และศพของทั้งคู่ถูกกักอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยรุดออกมาแสดงความเสียใจ และบอกว่าจะติดต่อประสานงานให้ความช่วยเหลือครอบครัวในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

"เราได้แจ้งกับครอบครัว 2 พลเมืองไทยที่ถูกลักพาตัว ซึ่งทำงานในภาคเกษตรกรรมในที่เพาะปลูกแห่งหนึ่งใกล้กับคิบบุตซ์บีรี (นิคมการเกษตรบีรี) ว่าพวกเขาถูกฆาตกรรมในเหตุโจมตีก่อการร้ายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และศพของพวกเขาถูกกักไว้โดยพวกฮามาส" จากการเปิดเผยของดาเนียล ฮาการี โฆษกของกองทัพอิสราเอล

กองทัพอิสราเอลกับกลุ่มครอบครัวตัวประกันและผู้สูญหาย (Hostages and Missing Families Forum) ระบุชื่อชายทั้ง 2 คน ได้แก่นายสนธยา อัครศรี และนายสุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ ซึ่งได้รับการยืนยันจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยเช่นกัน

จากการนับของเอเอฟพีบนพื้นฐานข้อมูลของฝั่งอิสราเอล สำนักข่าวเอเอฟพีเชื่อว่าตอนนี้เหลือตัวประกันไทยที่ยังถูกควบคุมในกาซา อยู่ 6 คน

Hostages and Missing Families Forum ระบุในถ้อยแถลงว่า "ในขณะที่เราเศร้าโศกต่อเหตุฆาตกรรมอันน่าเศร้าของ 2 ตัวประกันไทย มันเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับประชาคมนานาชาติที่ต้องตระหนักว่าวิกฤตตัวประกันมีขอบเขตเกินเลยมากไปกว่าการเป็นประเด็นปัญหาของอิสราเอลแต่เพียงฝ่ายเดียว" พร้อมเรียกร้องการตอบสนองด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน

เอเอฟพีรายงานว่า ไทยมีพลเมืองในอิสราเอลราว 30,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตรกรรม

เหตุโจมตีของพวกฮามาส เล่นงานทางภาคใต้ของอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,170 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน มันกระตุ้นให้อิสราเอลแก้แค้นด้วยการเปิดปฏิบัติการทางทหารในกาซา สังหารผู้คนไปแล้ว 35,272 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้เผยแพร่ถ้อยแถลงเรื่องการเสียชีวิตของตัวประกันไทย 2 ราย ในกาซา ระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟว่า คณะกรรมการด้านการประเมินสถานภาพตัวประกันของรัฐบาลอิสราเอล ได้พิจารณาหลักฐานแวดล้อมที่เชื่อถือได้ และแจ้งว่า ตัวประกันคนไทย 2 ราย จากจำนวนที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว 8 ราย ได้เสียชีวิตแล้ว ประกอบด้วย นายสนธยา อัครศรี และนายสุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ โดยคาดว่าเป็นการเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงต้นของเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2023

ถ้อยแถลงระบุต่อว่า รัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยสถานเอกอัครราชทูต และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดต่อครอบครัวทั้ง 2 แล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประสานงานในการให้ความช่วยเหลือครอบครัวในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

รัฐบาลไทยขอย้ำการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมดโดยเร็วที่สุด รวมถึงตัวประกันคนไทยอีก 6 คน ให้กลับคืนสู่มาตุภูมิโดยปลอดภัย รวมถึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความพยายามอย่างสูงสุดเพื่อบรรลุการเจรจา และนำไปสู่การแก้ไขวิกฤตด้านมนุษยธรรมในกาซาโดยทันที ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศระบุ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top