Wednesday, 23 April 2025
ชุมนุมทางการเมือง

13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ‘เสธ.แดง - พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล’ ถูกลอบยิงขณะกำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

วันนี้เมื่อ 13 ปีก่อน ‘เสธ.แดง - พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล’ ถูกลอบยิงขณะกำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ท่ามกลางการชุมนุมทางการเมืองที่ตึงเครียด และเสียชีวิต 4 วันต่อมา จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง เป็นชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2494 จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 11, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 22 และโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 63  และจบปริญญาเอกสาขาบริหารรัฐกิจจาก UNIVERSITY OF NORTHERN PHILIPPINES

เสธ.แดง เข้ารับราชการครั้งแรกในกองพันทหารราบที่ 4 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี ในยศร้อยตรี และได้ทำงานเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าช่วงปี พ.ศ.2529 ก่อนได้เลื่อนยศเป็นพันเอกพิเศษ เมื่อปี พ.ศ.2536  และได้เลื่อนยศเป็นพลตรี เมื่อปี พ.ศ.2541 และได้เป็นผู้ชำนาญการกองบัญชาการทหารสูงสุด และกลายเป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกในปีถัดมา

เสธ.แดง เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปก็มาจากคดีความรื้อบาร์เบียร์ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เมื่อ เสธ.แดง ได้กล่าวหา นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นายหนึ่งว่าใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อช่วยเหลือนายชูวิทย์ ทำให้ นายตำรวจคนดังกล่าว ออกมาฟ้องเรียกค่าเสียหาย

ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 ในการชุมนุมใหญ่ของ นปช.( เสื้อแดง) เพื่อขับไล่ ‘รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ และเกิดเหตุการณ์รุนแรงหลายครั้ง ขณะที่ หลายเหตุการณ์มีชื่อของเสธ.แดง เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

กระทั่งมาถึงวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 หลังจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ประกาศใช้มาตรการปิดล้อมพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่แยกราชประสงค์ โดยการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า งดบริการขนส่งสาธารณะ และห้ามผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาด 

ต่อมาเวลาประมาณ 19.20 น. ในขณะที่ เสธ.แดง กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศบริเวณแยกศาลาแดง ได้มีสไนเปอร์ลอบยิงจากระยะไกล เป็นผลให้ เสธ.แดง ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิงจากมุมสูงเข้าที่ศีรษะท้ายทอยด้านขวาและทะลุท้ายทอยด้านซ้าย กลุ่มคนเสื้อแดงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว หลังจากนั้นทางญาติจึงตัดสินใจย้ายไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลในกลางดึกของวันเดียวกัน อาการของ เสธ.แดง อยู่ในสภาพทรงตัวมาตลอด จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ด้วยวัย 59 ปี

‘เต้-มงคลกิตติ์’ ถูก ‘ป.ป.ช.’ เรียกรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมชุมนุม ชู 3 นิ้ว เมื่อปี 63 ชี้!! มีวัตถุประสงค์ล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.67) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มิ.ย.2567 ส่งถึง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ใจความระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนกรณีกล่าวหาท่านว่ากระทำการอันเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีได้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 - 20 ก.ย.2563 และได้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว อันเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

บัดนี้ คณะกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและพิจารณาแล้วเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนว่า ข้อกล่าวหามีมูลความผิด

ฉะนั้น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 คณะกรรมการไต่สวนประสงค์จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ท่านทราบ เพื่อให้โอกาสท่านชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว จึงขอให้ท่านไปพบคณะกรรมการไต่สวน ในวันที่ 18 มิ.ย.2567 เวลา 09.00 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หากจะชี้แจงข้อกล่าวหาก็มีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานไปประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และนำทนายความ หรือบุคคลที่ท่านไว้วางใจไม่เกิน 3 คนเข้าฟังการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top