จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปมเสนอชื่อ ‘พิชิต ชื่นบาน’ ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าขาดคุณสมบัติในความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ต่อมา ได้มีข่าวออกมาว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนถัดไป
สำหรับเรื่องการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และอาจจะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั้น ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ เคยได้เอ่ยถึงไว้เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ในงานปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ภายใต้แนวคิด ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน’ ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของพรรค ตามที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ได้นำชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (ในขณะนั้น) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
โดยน.ส.แพทองธาร ได้ให้สัมภาษณ์ ไว้ว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะประกาศให้ประชาชนทราบว่าเราพร้อม พรรคเพื่อไทยพร้อมฟูลทีม สำหรับจุดเด่นของทั้ง 3 คนนั้นไม่เหมือนกันเลย บอกแล้วว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ทั้ง 3 คนไปทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเลือกแคนดิเดตเบอร์ 1 มาจากอะไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใครคือเบอร์ 1 2 3 ทุกบัญชีเราเสนอชื่อเต็มหมด ไม่ว่าจะเป็น สส.เขต / ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงความชัดเจนของรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย เพราะอาจจะเป็นแรงดึงดูดให้ประชาชนเลือกพรรค น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับแคนดิเดตนายกฯ 3 คนของพรรคเพื่อไทย ไม่มีใครเหมือนกันเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ไหนก็ทำงานร่วมกันอยู่ดี นี่คือสิ่งสำคัญ วันนี้จะอาศัยแค่พรรคเพื่อไทย เราต้องชนะไปด้วยกัน ประชาชนต้องออกมาเลือกอนาคตของตัวเองไปพร้อมกับพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่ามั่นใจกว่าพรรคอื่นหรือไม่ที่มีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ในขณะที่พรรคอื่นมีคนเดียว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าเราเจออะไรกันมาเยอะ และเราตั้งใจกันจริง ๆ ในเรื่องนโยบาย พวกเราทั้ง 3 คนพร้อมเป็นตัวเลือกให้ประชาชน เพราะเราอยากได้นายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย เพื่อพลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้เป็นจริงได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวต่างประเทศถามว่า หลังการเลือกตั้งจะไปร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร บอกว่าเร็วเกินไปที่จะพูด ขอโฟกัสที่การเลือกตั้ง สนใจผลการเลือกตั้งของพรรคเราเป็นอันดับแรกก่อน
ผู้สื่อข่าวถามนายเศรษฐาว่ามองแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า แม้ทั้ง 3 มีบุคลิกที่ต่างกันแต่เราทำงานเป็นทีม นายชัยเกษม ก็มาด้วยความอาวุโส เป็นนักวิชาการทางด้านกฎหมาย เป็นบุคคลที่มีคุณภาพของพรรค ส่วนหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ นั้น ขอให้เป็นทีละขั้นตอน ขอให้ผ่านวันที่ 14 พ.ค. แล้วค่อยว่ากันอีกครั้ง เราจะพยายามไปพบปะพี่น้องให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขอให้รอฟังนโยบาย ซึ่งจะมีการประกาศตัวเลขบางตัว ซึ่งน่าตื่นเต้น
ผู้สื่อข่าวถามนายชัยเกษมว่า รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ ที่ได้ตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง นายชัยเกษม กล่าวว่า “ไม่เห็นมีเหตุที่จะต้องตื่นเต้น”
ระหว่างนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวเสริมติดตลกว่า "เก่าแล้วๆ" นายชัยเกษม กล่าวต่อว่า “รู้สึกเฉยๆ เพราะโอกาสเป็นนายกฯ จะมาลงที่ตนมันยาก” ทำให้ น.ส.แพทองธาร หัวเราะ นำศีรษะพิงไหล่นายชัยเกษม พร้อมกล่าวว่า "อาจารย์พูดแบบนี้ได้อย่างไร" ขณะที่ นายเศรษฐากล่าวเสริมว่า "อ.ชัยเกษม พูดถ่อมตัวมาก"