(18 ต.ค. 67) เริงวุฒิ มิตรสุริยะ บรรณาธิการและนักเขียน เจ้าของหนังสือชื่อดัง เช่น บุพเพสันนิวาสในประวัติศาสตร์อยุธยา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวบรรยายถึง บรรยากาศงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ว่า
คำแรกที่พบกับเจ้าของบูธ หรือเจ้าของสำนักพิมพ์ที่ไปเปิดบูธ ผมจะถามว่า "เป็นงัยปีนี้ขายดีไหม?"
แน่นอนว่าหลายคนอาจจะนำข้อมูล หรือไม่อยากพูดมาก เพราะเกรงครหาหมั่นไส้ แต่ส่วนใหญ่ต่างพูดไปในทางเดียวกันว่า "ปีนี้ดีเลย" แม้แต่คุณเหม่ง แห่งบูธ สมาคมนักเขียน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บูธสมาคมนักเขียน ไม่เคยมีประวัติเลยว่าจะมีคนมาต่อคิวเพื่อจ่ายเงินค่าหนังสือ ปีนี้มีให้เห็น
บางแห่งอย่างบูธ สำนักพิมพ์แสงดาว พบคุณจรัญ หอมเทียนทอง ที่ทำหน้าที่อยู่โยงเป็นกำลังใจทีมงาน ก็บอกว่าปีนี้แนวโน้มดี คนคึกคักทุกวัน บูธแสงดาวปีนี้ก็คึกคักขึ้นเพราะมีเลือดใหม่หลายคนเพิ่มเข้ามา ช่วยป้ายยากันครึกครื้น ลูกค้าคนไหนมาหาหนังสืออะไรเป็นบอกและแนะนำได้หมด
ไม่ต่างจากอีกหลายสำนักพิมพ์ แน่นอนว่ามีเพียงสำนักพิมพ์เพียงไม่กี่แห่งที่บอกว่า ยอดตก และเราเข้าใจได้ว่าที่ยอดตกก็เพราะ ในอดีตเคยเป็นดาวเด่นของงานปีหลัง ๆ ไม่มีหนังสือใหม่ เคยทำยอดเอาไว้สูง ปีนี้ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น ขายแต่เล่มก่อนมีเล่มใหม่นิดหน่อย ยอดขายเลยตกลง แต่ไม่ได้เสียหายอะไร
หลายสำนักพิมพ์พนักงานขายเคยนั่งเหงา ๆ เบื่อ ๆ ปีนี้ก็คึกคักมีงานให้วุ่นวายเพิ่มขึ้นเพราะมีคนมาหยุดและจ้องหาหนังสืออยู่ตลอดเวลา
เศรษฐกิจไม่ดีอยู่หลายปี และงานหนังสือหาความนิ่งไม่ได้อยู่หลายวาระ บรรดาสำนักพิมพ์ที่ยังใช้โลกทัศน์เก่ามอง ปีนี้เลยพลาดอย่างมาก บางสำนักจากเคยมีสองสามบูธก็ลดจำนวนบูธจองเหลือ หนึ่งหรือสองล็อค ยอดขายแทนที่จะทำได้ดี เลยตกลงตามจำนวนพื้นที่การขาย บางเจ้าบอกหยุดก่อน แต่มาเดิน เห็นคนมางานนี้ และใช้จ่ายกับหนังสือ ถึงกับร้องว่าเสียดาย
อยากฟันธงว่า งานหนังสือครั้งหน้า มีนาคมหรือเมษายน บรรดาสำนักพิมพ์ที่เคยเข็ด ๆ ขยาด ๆ จะกลับมา ปีนี้เราแทบไม่ได้ยินอีกแล้วว่า ราคาเช่าบูธแพง ต่างจากงวดที่แล้วอย่างชัดเจน ทั้งที่ค่าเช่ายังแพงอยู่เช่นเดิม เพิ่มเติมมาอีกนิดหน่อย
ผมไปเดินครั้งก่อนวันศุกร์ ไปแบบแว๊บ ๆ เหมือนไอ้แมงมุมโหนสลิงตัวเองลงจอดแว๊บเดียวแล้วชิ่งกลับมา วันนี้วันพฤหัสเลือกเวลาที่คิดว่าน่าจะเป็นวันที่คนน้อยที่สุด เพราะพรุ่งนี้เย็นวันศุกร์คนเลิกงานน่าจะมาที่นี่กันเยอะ ไม่ต้องพูดถึงเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงซึ่งจะเป็นเสาร์อาทิตย์สุดท้ายที่คนเยอะแน่นอน
ปรากฏว่าไปถึง ตอนเที่ยงกว่า ๆ ดูเหมือนคนไม่เยอะมาก แต่เดินไปเดินมา เอะ คนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนนักศึกษาเดินกันให้ควั่ก คนทำงานคนวัยเบบี้บูมที่ว่างงานแล้วก็มาเดินชิว ๆ เลือกหยิบหนังสือกลับไปอ่านคนละสามสี่เล่ม ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก
อดคิดไม่ได้ว่าทำไมจู่ ๆ ปีนี้ งานมหกรรมหนังสือถึงคึกคักขึ้นมาได้ คำตอบคงไม่ใช่เพราะตรีมงานเรื่องผีแน่ ๆ อาจจะมีผลบ้างแต่ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่คิดไปว่าน่าจะมาจากสภาพทางการเงินทางเศรษฐกิจที่ดูผ่อนคลายขึ้น บรรยากาศทางการบ้านการเมืองที่ไม่บีบเค้น แม้ต้องผ่านพ้นช่วงน้ำท่วมไป แต่ภาวะงานที่เงินหมื่นไหลเข้ากระเป๋าคนจนก่อนหน้านี้ ก็ช่วยกระตุ้นเป็นบอมทางการเงินเล็ก ๆ ให้กระเป๋าตังค์คนทั่วไปพลอยคึกคักขึ้น อาจเป็นภาวะทางจิตวิทยาก็ว่าได้ หลังจากคนรัดเข็มขัดกันมาจนท้องกิ๋วก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็ผ่อนคลายลง
บรรยากาศทางสังคมที่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ วนเวียนอยู่แต่เรื่องเดิม ๆ อวดรวย ขับรถหรู โชว์ของแพงและถูกจับกุม ประเทศที่ทนายหน้าหอสองสามคนออกทีวีแทบทุกช่องทางให้ได้เห็นและเริ่มเป็นผู้ทรงอิทธิพล กับมูลนิธิที่ช่วยเหลือประชาชนคนเสาะหาแหล่งช่วยเหลือทำหน้าที่แทนตำรวจ จนผู้คนเคยชิน ทำให้คนอยากกลับไปหาอะไรแปลกต่างหรือที่คุ้นเคยทำด้วยตัวเองมากขึ้น การเดินงานหนังสือ ซื้อหนังสือ เลยเป็นมุมกลับที่กระตุ้นให้บรรยากาศดีขึ้น
อ้อ...มีนิดหนึ่ง ไปงานหนังสือ ตอนเดินเข้างานผ่านประตูหมายเลขอะไรจำไม่ได้ เขาขึ้นปกหนังสือโชว์ หนังสือขายดีในงาน และหนังสือโดดเด่นของงานอะไรทำนองนั้น ผมไปยืนดู อดคิดไม่ได้ ใครเป็นคนเลือกหนังสือดีเด่นหรือหนังสือแนะนำอะไรพวกนี้หว่า....นี่คือหนังสือที่ชูหน้าชูตาคนไทยแล้วจริง ๆ เหรอ?
มีเวลาอีกไม่กี่วัน ไปเดินงานหนังสือกันครับ ปีนี้บรรยากาศดีเลย ดีกว่าตามข่าว บอสเยอะเกินจำเป็นก็แล้วกัน ขอบอก
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 จะจัดถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2567นี้ ที่ฮอลล์ 5 - 7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์