Monday, 1 July 2024
ค้ายาเสพติดข้ามชาติ

ตำรวจภาค 4 รวบขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 22 กก. ขณะส่งพัสดุ ก่อนส่งต่อไปยังประเทศที่สาม

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.67 ที่ ภ.จว.หนองคาย :  พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย, นายสมภพ สมิตะสิริ ผวจ.หนองคาย, นายคุ้มชน ธารีเกษ จนท.ประสานงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด สาธารณรัฐเกาหลี, ผู้แทนจาก ป.ป.ส. และหน่วยร่วมบูรณาการ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 22 กก. ขณะกำลังส่งพัสดุไปให้ ผู้ร่วมขบวนการในกรุงเทพฯ ก่อนจะส่งไปประเทศที่สาม โดยซุกซ่อนในกล่องพัสดุเครื่องสำอางค์

ตำรวจภาค 4 โดยชุดสืบสวนของ ภ.จว.หนองคาย ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่ส่งยาเสพติดไปยังสาธารณรัฐเกาหลี พบว่ามีต้นทางมาจาก จ.หนองคาย เกี่ยวเนื่องกับกรุงเทพฯ  พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้อำนวยการสั่งการให้ชุดสืบสวนของ ภ.จว.หนองคาย และ สภ.ท่าบ่อ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ อาทิเช่น ป.ป.ส.ภาค 4, ฝ่ายปกครอง, ผู้จัดการร้านแฟลชโฮม สาขาท่าบ่อ เพื่อสืบสวนหาข่าว และวางแผนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติดังกล่าว

ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้สืบสวนทราบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ตามแนวชายแดน จะมีการส่งยาเสพติดทางพัสดุไปให้ผู้ร่วมขบวนการในกรุงเทพฯ เพื่อจะส่งต่อไปยังประเทศที่สาม จึงเฝ้าติดตามจับกุม  ต่อมาเมื่อวันที่ 2 เม.ย.67  เวลาประมาณ 12.40 น. ตำรวจชุดจับกุมได้  พบว่า นายสมพงษ์ อายุ 70 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) กำลังติดต่อขอส่งพัสดุที่ร้านแฟลชโฮม อ.ท่าบ่อ โดยระบุปลายทางพัสดุที่กรุงเทพฯ ตรงตามข้อมูลที่ได้จากการสืบสวน จึงแสดงตัวและขอตรวจสอบพัสดุ พบว่า เป็นเฮโรอีนบรรจุในกล่องครีมกันแดดสีเหลือง จำนวน 111 กล่อง และเฮโรอีนบรรจุในกล่องครีมกันแดดกล่องสีเขียว จำนวน 102 กล่อง น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 22 กิโลกรัม ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ยาเสพติดโทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า รับจ้างมาจากบุคคลที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ในราคา 4,000 บาท ให้ส่งพัสดุไปกรุงเทพฯ ตามที่อยู่ที่ผู้จ้างให้ไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผล ดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการต่อไป

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ในการกวาดล้างจับกุมยาเสพติดตามแนวชายแดนและในพื้นที่ที่มีปัญหา ซึ่งตำรวจภาค 4 ได้กวาดล้างจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้สืบสวนขยายผลกวาดล้างจับกุมผู้ร่วมขบวนการทุกคน และนับจากนี้ จะเพิ่มความเด็ดขาดในการกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในภาคอีสานเหนือ โดยผู้ค้ายาเสพติด จะต้องไม่มีที่ยืนอีกต่อไป  พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวในที่สุด

ตำรวจภาค 4 ทลายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 139 กก. ก่อนส่งออกต่างประเทศ เร่งขยายผลจับกุมผู้สั่งการ

ที่ตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น : เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 139 กก. ภายใต้แผนปฏิบัติการไล่ล่า(เด็ดปีก)นักค้า อีสานเหนือ 252  “No Place for Drug : NPD.P4” ตำรวจ บก.สส.ภ.4 และ ภ.จว.บึงกาฬ ได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติด ทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่ จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยและจะลำเลียงเข้าไปพื้นที่ตอนใน ปลายทางท่าเรือแห่งหนึ่ง จึงวางกำลังตามแนวชายแดน ในพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ  ต่อเนื่อง  อ.บ้านแพง จ.นครพนม  ซึ่งคาดว่าจะมีการลำเลียง ยาเสพติดผ่าน กระทั่งช่วงสายของวันที่ 25 พ.ค.67 ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย ซึ่งเป็นรถกระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน ขอ-90xx ชลบุรี ตรงตามข้อมูลที่ได้จากการสืบสวน ขับขี่อยู่บนถนนสาย 212 อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ และเลี้ยวเข้าถนนสาย 2026 จึงเข้าสกัดจับกุมไว้ได้ บริเวณถนนสาย 2026 บ้านดงชมพู ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ทราบภายหลังว่าผู้ขับขี่คือนายณัฐพล ตรวจค้นรถพบกระสอบห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ 3 กระสอบ ถูกวางอยู่ภายในห้องโดยสาร ตรวจสอบเป็นเฮโรอีนจำนวน 380 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 139 กก. จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผลต่อที่ สภ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษจำคุกในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และมีนายทุนติดต่อมาจ้างให้ลำเลียงยาเสพติดจำนวนดังกล่าวจริง เพื่อไปส่งมอบในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยจะได้ค่าจ้าง 100,000 บาท ทั้งนี้หากเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวหลุดลอดออกไปยังประเทศที่สาม จะมีมูลค่าถึง 280 ล้านบาท จากนี้จะทำการขยายผลถึงเครือข่ายและนายทุนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวว่า ตำรวจภาค 4 ได้ปราบปรามยาเสพติดเชิงรุกตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดยเปิดปฏิบัติการไล่ล่านักค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และสืบสวนขยายผลการจับกุมเพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์ผู้สั่งการ รวมทั้งผู้ร่วมขบวนการทุกคดี นอกจากนี้ยังได้จัดฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพของตำรวจที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด โดยได้จัดฝึกอบรม“นักสืบ 5 G P4+1 รุ่นการสืบสวนเฉพาะทางด้านยาเสพติด” ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างเขี้ยวเล็บให้นักสืบยาเสพติดของภาค 4 พร้อมรับมือกับสถานการณ์ยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวในที่สุด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top