Bank of America ถูกปรับ 250 ล้านเหรียญ ฐานเปิดบัญชีปลอม-เก็บค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน
Bank of America ธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา ถูกสั่งให้คืนเงินลูกค้ากว่า 100 ล้านเหรียญ และค่าปรับอีก 150 ล้านเหรียญ เมื่อตรวจพบว่ามีการเก็บค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน จากการหักรางวัลโบนัสบัตรเครดิต และ เปิดบัญชีโดยที่ลูกค้าไม่รู้ หรือไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ เมื่อรวมยอดค่าเสียหายที่ทางธนาคารต้องจ่ายแล้ว นับเป็นค่าปรับที่สูงที่สุดในรอบหลายปีของ Bank of America แต่ที่หนักสุด คือ ภาพลักษณ์อันย่ำแย่ของธนาคารที่พังยับ หลังจากตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ได้สร้างชื่อเสียงในการเป็นสถาบันการเงินที่โปร่งใส น่าเชื่อถือ ให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านการเงิน โดยไม่แสวงหากำไรจากค่าธรรมเนียมส่วนเกิน หรือ การใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการเงินกับลูกค้า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ สำนักคุ้มครองทางการเงินของผู้บริโภค ได้ออกมาแถลงเมื่อวันอังคาร (11 ก.ค.66) ที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนพบการกระทำผิดของ Bank of America ต่อบัญชีลูกค้าหลายแสนราย ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารมาตลอดระยะเวลาหลายปี ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
เป็นเหตุให้ทางการสหรัฐสั่งให้ Bank of America ต้องคืนค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บซ้ำซ้อนให้แก่ลูกค้าเป็นเงินกว่า 100 ล้านเหรียญ บวกค่าเสียหายเพิ่มเติมอีก 90 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าปรับอีก 60 ล้านเหรียญให้กับสำนักงานผู้ควบคุมเงินตราของสหรัฐอเมริกาต่างหากด้วย
ด้าน นายโรหิต โชปรา ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองทางการเงินของผู้บริโภค กล่าวว่า การคิดค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน, การเปิดบัญชีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า และการระงับโบนัสตอบแทน ไม่ทำตามที่เคยแจ้งแก่ลูกค้าโดยไม่มีเหตุสมควร เป็นสิ่งผิดกฎหมายและบ่อนทำลายความไว้วางใจของลูกค้า ซึ่งทางสำนักงานสามารถสั่งยุติการดำเนินการของธนาคารทั้งระบบได้
โดย Bank of America ใช้ระบบที่เรียกว่า ‘Double-dipping scheme’ หรือ ‘ชาร์จค่าธรรมเนียมเบิ้ล 2 รอบกับลูกค้า’ ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีการเบิกเงินเกินบัญชี ทางธนาคารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 35 เหรียญ และจะเก็บค่าธรรมเนียมนี้ซ้ำอีกครั้ง เมื่อลูกค้าทำธุรกรรมเดิม
ตัวอย่างที่มักพบการชาร์จค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนบ่อยครั้ง คือ การตัดค่าบริการรายเดือน เช่น ฟิตเนส ที่หลายครั้งเงินลูกค้าในบัญชีเหลือไม่พอตัด ธนาคารจะทำการปฏิเสธการชำระ พร้อมหักค่าธรรมเนียม 35 เหรียญจากลูกค้า แต่เมื่อลูกค้านำเงินมาเติมในบัญชี ก็จะถูกค่าปรับอีก 35 เหรียญเนื่องจากทำธุรกรรมซ้ำ ทำให้ธนาคารมีรายได้จากสิ่งที่ชาวอเมริกันเรียกว่า ‘ค่าธรรมเนียมขยะ’ มากมายมหาศาลในแต่ละปี
ด้านผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองฯ กล่าวย้ำอีกว่า ระบบ ‘Double-dipping scheme’ ของธนาคารถือเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเมิดมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติด้านการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการโกงลูกค้า ดังนั้นจึงต้องออกมาตรการบางอย่างคว่ำบาตร Bank of America เพื่อให้ธนาคารต้องคืนเงินส่วนนี้ให้แก่ลูกค้าพร้อมค่าปรับ
นอกจากฐานความผิดในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนแล้ว Bank of America ยังโดนข้อกล่าวหาว่ามีการระงับโบนัส สิทธิพิเศษ สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต ที่ไม่เป็นไปตามที่ธนาคารเคยได้แจ้งแก่ลูกค้า ซึ่งโบนัส และ รางวัลพิเศษ เป็นส่วนหนึ่งในการจูงใจให้ลูกค้าสมัครบัตรเครดิตของธนาคารที่พบว่า มีลูกค้าหลายหมื่นรายถูกระงับโบนัสพิเศษหลังจากที่ได้ใช้บัตรเครดิตของธนาคารแล้ว และ ยังพบว่าพนักงานของธนาคารแอบเปิดบัญชี หรือสมัครบัตรเครดิตให้ลูกค้าเพื่อทำยอด โดยไม่ได้แจ้ง หรือได้รับการยินยอมจากลูกค้ามาก่อน ถือเป็นความผิดที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ธนาคารแอบใช้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อหาผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Bank of America ถูกลงโทษจากการปฏิบัติงานที่ผิดกฎหมาย เพราะย้อนกลับไปในปี 2014 Bank of America ต้องจ่ายเงินสูงถึง 727 ล้านเหรียญ เป็นค่าปรับให้กับสำนักคุ้มครองทางการเงินของผู้บริโภคมาแล้ว ด้วยข้อหาหลอกลวงลูกค้าประมาณ 1.4 ล้านราย ให้จ่ายค่าธรรมเนียม ที่ทางธนาคารอ้างว่าสำหรับบริการตรวจสอบเครดิตและรายงานเครดิตที่ลูกค้าไม่เคยได้รับมาก่อน
และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ Bank of America ต้องพยายามประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ตนเองใหม่นานนับสิบปี เพื่อให้เป็นธนาคารที่ชาวอเมริกันไว้ใจได้อีกครั้ง แต่สุดท้ายก็กลับมาทำผิดซ้ำรอยเดิมในหนนี้
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เงินทอง เป็นของสำคัญ ไว้ใจใครไม่ได้ แม้แต่ธนาคาร เราจึงควรหมั่นเช็กบัญชีอยู่เสมอๆ เผื่อว่าจะมีใครแอบมาตัดเงินในบัญชีไปดื้อๆ
เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์
