Monday, 19 May 2025
คุณตา

พ่อค้าหอยทอดวัย 89 แจงเหตุหอยทอดดำในงานงิ้ว เผย!! ไม่คุ้นแรงไฟ เดิมทีภรรยาที่เสียไปเป็นคนทอด

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 โพสต์เรื่องราวที่ลูกค้ารายหนึ่งซื้อหอยทอดในงานงิ้วสมอทอด พิกัดหน้าร้านทองพัฒนา เป็นภาพหอยทอดในกล่องที่มีลักษณะบางส่วนไหม้เกรียมจนเป็นสีดำ ระบุข้อความเชิงผิดหวังที่คุณภาพไม่เหมือนเดิม มองว่าหากร้านทอดไหม้ ก็ไม่ควรจะนำมาขาย เพราะลูกค้าซื้อมากินไม่ได้ซื้อมาทิ้ง ซึ่งเสียความรู้สึกมากเพราะโมโหหิว โดยเหตุการณ์ถูกระบุเกิดขึ้นภายในงานงิ้วอำเภอบึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข่าวช่อง 3 ได้รายงานว่า จากการตรวจสอบร้านหอยทอดดังกล่าว พบว่ามี นายเดโช อายุ 89 ปี เป็นเจ้าของร้าน โดยกำลังทอดหอยทอดขายให้กับลูกค้า เมื่อสังเกตหอยทอดในกระทะบางส่วนนั้นมีสภาพไหม้เกรียมจริงคล้ายกับที่ลูกค้าโพสต์ไว้

นายเดโช เผยว่า สาเหตุที่หอยทอดบางส่วนไหม้ เนื่องจากคนทอดคนเก่า คือ ภรรยาของตน ได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยกระทะที่ใช้เป็นสเตนเลสขนาดใหญ่ ตนจึงอาจควบคุมไฟยังไม่ได้ ไฟอาจจะแรงไปจนหอยทอดไหม้ดังกล่าว ตนนั้นตระเวนขายตามงานทั้ง จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ จ.มหาสารคาม ก็ได้ข่าวว่าที่คนพูดว่าร้านตนสกปรก ไม่สะอาด อะไรแบบนี้

‘ตาวัย 70’ สานฝันชีวิต ขี่ซาเล้งจาก 'อุบลฯ' ไป 'ตราด' หวังเห็นทะเลสักครั้ง อาศัยนอนปั๊ม คอยเก็บขวดขาย เพื่อหาค่าน้ำมัน ประคองตัวให้ถึงจุดหมาย

(7 มี.ค.67) ที่ปั๊มน้ำมัน บนถนนหมายเลข 24 ก่อนถึงสี่แยกไฟแดง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวพบกับคุณตาท่านหนึ่ง นอนอยู่บนรถซาเล้ง จอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อภายในบริเวณปั๊ม โดยท้ายรถมีถุงขนาดใหญ่ 3 ถุงที่ใส่ขวดพลาสติก และกระป๋องเครื่องดื่มที่กินหมดแล้ว

แต่ที่สะดุดตาคือมีป้ายที่เขียนด้วยลายมือมีข้อความว่า “ผู้เฒ่าเลาะเก็บขยะสัญจร จากน้ำยืนอุบล ถึง จ.ตราดเด้อครับ” จึงได้เข้าไปสอบถาม

คุณตาเล่าว่า คุณตาชื่อ นายหลอย ทาพิลา อายุ 70 ปี เป็นชาวบ้านบุเปือย ต.บุเปือย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันอาศัยอยู่คนเดียว เพราะเลิกรากับภรรยานานหลายปีแล้ว ส่วนลูกๆ ก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวหมด ที่บ้านคุณตาไม่มีที่ทางทำกิน ต้องอาศัยเก็บขวด เก็บของเก่า ตามถังขยะและตามข้างทางนำไปขายเลี้ยงชีพ จะไปรับจ้างใครก็ไม่ไหว เพราะอายุเยอะแล้ว

วันนี้ที่ตัดสินใจออกเดินทางมาถึงที่อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เพราะมีเป้าหมายว่าจะเดินทางไป จ.ตราด เพราะอยากเห็นทะเลและเกาะช้าง ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นน้ำทะเล คิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตก็อยากจะเห็นทะเลกับเขาสักครั้ง จึงตัดสินใจควบรถซาเล้งคู่ใจออกเดินทางทันที

โดยออกเดินทางจากบ้านตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.67 ที่ผ่านมา และมีเงินติดตัวมา 200 บาท อาศัยเก็บของเก่าตามข้างทางขายพอได้เติมน้ำมันไปเรื่อยๆ ค่ำไหนก็นอนนั่น โดยจะเน้นนอนตามปั๊มน้ำมัน เพราะมีน้ำให้อาบมีแสงสว่างไม่น่ากลัว

ส่วนอาหารการกินก็ซื้อบ้าง มีคนสงสารให้บ้าง บางทีก็อาศัยข้าววัดบ้าง คิดว่าสักวันก็น่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ แต่ที่กังวลใจอยู่บ้างก็คือเรื่องเจ้ารถซาเล้งคู่ใจ ไม่รู้ว่าจะงอแงตามทางหรือไม่ แต่ก็จะพยายามไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงจุดหมาย ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปให้เห็นกับตาให้ได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top