Tuesday, 22 April 2025
คะแนนนิยม

'ฝ่ายค้าน' จ่อยื่นยุบ 'ภูมิใจไทย' ปมใช้นโยบายกัญชา 'ลวงคะแนนนิยม'

วันที่ (17 ต.ค. 65) นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ ผู้ช่วยเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงผลการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถึงการพิจารณาเตรียมยื่นต่อองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อเอาผิดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เสนอเรื่องให้ที่ประชุมฝ่ายค้านพิจารณา และเตรียมทำรายละเอียดเพื่อยื่นต่อองค์กรที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พรรคก้าวไกล ยื่นให้ตรวจสอบการปรับปรุงพระราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 9 และการปรับปรุงภูมิทัศน์, เอาผิด นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฐานะอดีตรมช.หาดไทย กรณีนโยบายเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน เพราะกรณีดังกล่าวมีโทษทางอาญาและยังอยู่ในอายุความ แม้นายนิพนธ์จะพ้นจากตำแหน่งรมช.มหาดไทยไปแล้ว และเอาผิดนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กรณีปกปิดโรคระบาดในสุกร คือ โรคอหิวาต์แอฟริกาสุกร (เอเอสเอฟ)

นายสุขุมพงษ์ กล่าวด้วยว่า จะยื่นต่อศาลฏีกาเพื่อตั้งกรรมการไต่สวนอิสระเพื่อเอาผิดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อกรณีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีการตรวจสอบการครอบครองนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และกรณีไม่ชี้มูล จีที-200 และเตรียมยื่นให้ไต่สวนจริยธรรมและพฤติกรรมของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมม กรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ และมีกรณียื่นยุบพรรคที่เกี่ยวข้องกับนโยบายกัญชาเสรี รวมถึงยื่นเรื่องให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีการออกประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวกับกัญชา ซึ่งเข้าข่ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมต่อกรณีการเตรียมยื่นยุบพรรคที่เกี่ยวกับนโยบายกัญชา ว่า เบื้องต้นคือพรรคภูมิใจไทย เพราะการประกาศนโยบายกัญชาเสรีนั้นเข้าข่ายพฤติกรรมที่นำไปสู่การยุบพรรค ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 ในประเด็นการให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยไม่ชอบ เนื่องจากการประกาศนโยบายที่หาเสียงเมื่อตอนปี 2562 เกี่ยวกับนโยบายกัญชา อาทิ การให้ครัวเรือนปลูก การปลดล็อก เป็นต้น ทั้งนี้กรณีดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ ประมวลกฎหมายยาเสพติดซึ่งรัฐสภาให้ความเห็นชอบ

‘ฟิลิปปินส์’ เผชิญเงินเฟ้อหนัก ทำค่าครองชีพประชาชนพุ่งสูง ฉุดฐานความนิยมของประธานาธิบดี ‘บองบอง มาร์กอส’ ร่วง 15%

(3 ต.ค. 66) ‘นายเฟอร์ดินานด์ บองบอง โรมูอัลเดซ มาร์กอส จูเนียร์’ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เผชิญกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของคะแนนนิยมในตัวเขา เนื่องจากราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นในประเทศที่บ่อนทำลายการสนับสนุนจากประชาชน

‘Pulse Asia’ องค์กรสำรวจความนิยมได้เผยแพร่ผลสำรวจครั้งล่าสุดในวันที่ 2 ตุลาคม โดยเป็นผลจากการสำรวจที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 กันยายน ซึ่งชี้ว่า 65% ของผู้ตอบแบบสำรวจ 1,200 คน ให้ความเห็นชอบกับผลงานของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์

แม้ดูเหมือนว่าจะยังเป็นตัวเลขให้การรับรองที่ค่อนข้างสูง แต่ถือว่าลดลงอย่างมากถึง 15% จากผลสำรวจในเดือนมิถุนายน ที่ประชาชนพอใจกับการทำงานของเขาสูงถึง 80% และยังเป็นการลดลงครั้งแรกในการสำรวจผลการทำงานของบุตรชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส พ่อผู้โด่งดังอีกด้วย

‘โรนัลด์ โฮล์มส์’ ประธาน Pulse Asia กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และบริการขั้นพื้นฐาน รวมถึงคำมั่นสัญญาว่าจะลดราคาสินค้าเหล่านี้ลง ดูเหมือนจะเป็นต้นเหตุให้การให้การเห็นชอบในการทำงานของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

‘มาร์กอส จูเนียร์’ ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรด้วย พยายามที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อในประเทศ แต่การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่างๆ ยังเกินเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2-4% แม้ว่ารัฐจะมีมาตรการแทรกแซง เช่นการลดภาษีอาหารแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อต่อปีของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 6.6% ณ สิ้นเดือนสิงหาคม

‘ซารา ดูแตร์เต’ รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ก็ประสบปัญหาคะแนนนิยมลดลงเช่นกัน โดยลดลง 11% มาอยู่ที่ 73%

‘LINE TODAY’ เปิดโผนักการเมืองยอดนิยมเดือน ก.ย. 67 ‘นายกฯ อิ๊ง’ ผงาดที่ 1 ฟาก ‘รมว.พีระพันธุ์’ ติดโผด้วย

(26 ก.ย. 67) การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของนักการเมืองประจำเดือนกันยายน ของ Line Today พบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก้าวกระโดดขึ้นมาครอง อันดับ 1 หลังจากที่ในเดือนสิงหาคมติดอยู่ที่อันดับ 11 คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมากถึง 4.5 พันคะแนน

ขณะที่ อันดับ 2 ตกลงมาจากอันดับ 1 ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งหลังจากถูกยุบพรรค พบว่าคะแนนลดลงมากถึง 16,803 คะแนน หลังจากที่ในเดือนสิงหาคมได้รับคะแนนโหวตสูงถึง 19,794 คะแนน

ส่วนในอันดับที่ 3 คือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่คะแนนนิยมพุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสัญญาณบวกหลังได้นั่งเก้าอี้ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเป็นนิมิตหมายที่ดีของ ‘ประชาธิปัตย์’ ที่จะมีโอกาสกลับมาทวงบัลลังก์ทางการเมือง

สำหรับผลโหวตสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของนักการเมืองในปัจจุบัน ประจำเดือนกันยายน ซึ่งเปิดโหวตตั้งแต่วันที่ 1-20 กันยายน ที่ผ่านมา โดยผลปรากฏว่า 10 อันดับแรกมีดังนี้…

อันดับ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 4,764 คะแนน คิดเป็น 37.59%
อันดับ 2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2,991 คะแนน คิดเป็น 23.6%

อันดับ 3 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน 1,355 คะแนน คิดเป็น 10.69%
อันดับ 4 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 681 คะแนน คิดเป็น 5.37%

อันดับ 5 นายชวน หลีกภัย 585 คะแนน คิดเป็น 4.62%
อันดับ 6 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 428 คะแนน คิดเป็น 3.38%

อันดับ 7 นายทักษิณ ชินวัตร 336 คะแนน คิดเป็น 2.65%
อันดับ 8 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล 313 คะแนน คิดเป็น 2.47%

อันดับ 9 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 181 คะแนน คิดเป็น 1.43%
อันดับ 10 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 131 คะแนน คิดเป็น 1.03%

ผลโพลเผยคนอเมริกันมอง 4 ปีของไบเดน ทำสหรัฐแตกแยก ทิ้งผลงานผู้อพยพทะลัก

(22 ม.ค.68) ผลสำรวจจาก Rasmussen Reports ระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าในช่วงการเป็นประธานาธิบดีของโจ ไบเดน ระหว่างปี 2021-2024 ทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่มีความแตกแยกมากขึ้น

ผลสำรวจที่จัดทำขึ้นออนไลน์ในช่วงกลางเดือนมกราคมในการสำรวจผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,220 คน พบว่า 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าอเมริกาแตกแยกมากขึ้นหลังจากการดำรงตำแหน่ง 4 ปีของไบเดน ขณะอีกที่ 30% มองว่า ระดับความแตกแยกในประเทศยังคงเหมือนเดิมเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่ไบเดนจะเข้ามาดำรงตำแหน่ง

มีเพียง 16% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า รู้สึกว่าประเทศมีความแตกแยกน้อยลง ในขณะที่ 2% ไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว

การบริหารงานของไบเดนได้เผชิญความท้าทายกับปัญหาการอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจากชายแดนใต้ของสหรัฐฯ โดยมีตัวเลขผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายทำสถิติสูงสุดติดต่อกันถึง 3 ปี มีผู้ย้ายถิ่นผิดกฎหมายมากกว่า 8 ล้านคนที่ข้ามเข้ามาในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 ตามข้อมูลจากกรมศุลกากรและการป้องกันชายแดน (CBP)

ในอีกแง่หนึ่ง ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดย Ipsos และ Reuters การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม โดยมีการสำรวจความคิดเห็นจากผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ จำนวน 1,077 คน  ระบุว่า คะแนนความนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สูงถึงเกือบครึ่งของผู้สำรวจความเห็น โดยร้อยละ  47% ของผู้ตอบความเห็นแสดงจุดยืนให้การสนับสนุนทรัมป์ หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นครั้งที่สองในพิธีสาบานตนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ณ อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจดังกล่าว พบว่า 58% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของทรัมป์ในการอภัยโทษผู้ต้องโทษประมาณ 1,500 คนที่ถูกตัดสินลงโทษจากเหตุการณ์ประท้วงที่อาคารรัฐสภา ขณะที่ 29% สนับสนุนการจัดการของประธานาธิบดีคนที่ 47 ในเรื่องการเมืองและความยุติธรรม

ในขณะเดียวกัน 46% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยกับนโยบายของทรัมป์ในด้านการตรวจคนเข้าเมือง โดย 56% สนับสนุนข้อเสนอที่ว่า สหรัฐฯ ควร "ลดจำนวนผู้ขอลี้ภัยที่ได้รับอนุญาตให้ข้ามพรมแดนอย่างมีนัยสำคัญ"

สำหรับคะแนนความนิยมของทรัมป์ในช่วงเริ่มต้นของวาระแรกนั้นอยู่ที่ 43% และสูงสุดที่ 49% ในปี 2017 ก่อนที่จะลดลงเหลือ 34% เมื่อสิ้นสุดวาระ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top