Wednesday, 23 April 2025
ความสุข

'โรงเรียนสิริรัตนาธร' ออกหนังสือแจ้งผู้ปกครอง อย่าตัดสิน-ทำลายความมั่นใจเด็กจากคะแนนสอบ

โรงเรียนสิริรัตนาธร เขตบางนา กทม. ได้มีการออกหนังสือถึงผู้ปกครอง แจ้งเรื่องการสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 

ซึ่งในหนังสือ กล่าวถึงการให้ผู้ปกครองมีทัศนคติกับคะแนนสอบในอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งมีการระบุข้อความบางช่วงบางตอนว่า 

“ … โรงเรียนทราบว่าการสอบในครั้งนี้ อาจจะทำให้ท่านวิตกกังวลว่า นักเรียนของท่านจะทำข้อสอบได้หรือไม่ แต่โปรดเข้าใจไว้ว่าในกลุ่มนักเรียนที่นั่งสอบอยู่นี้ มีนักธุรกิจที่ไม่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์หรือการประพันธ์ภาษาอังกฤษ มีนักคอมพิวเตอร์ที่ไม่สนใจเรื่องคะแนนสอบวิชาเคมี มีศิลปินที่ไม่มีความจำเป็นที่จะรู้เรื่องคณิตศาสตร์ มีนักกีฬาที่สนใจความสามารถทางร่างกายมากกว่าวิชาฟิสิกส์ มีนักการเมืองที่สนใจเรื่องข่าวสารบ้านเมืองมากกว่าวิชาศิลปะ

ถ้านักเรียนในปกครองของท่านทำคะแนนได้สูงสุดนั้น หมายถึงเป็นหนึ่งหรือยืนหนึ่ง แต่ถ้าลูกทำไม่ได้โปรดอย่าทำลายความเชื่อมั่นและความนับถือของพวกเขา บอกลูกว่ามันดีมากแล้ว มันแค่การสอบ มันยังมีอะไรอีกมากในชีวิต บอกลูกท่านว่าไม่ว่าคะแนนสอบออกมาแบบไหน คุณก็รักเขาและจะไม่ตัดสินเขา

‘พี่จอง’ เคลื่อนไหวหลังดรามาเกาะปันหยี ชี้!! ทุกที่ดีทั้งดี ไม่ดี แต่ขอให้มองแต่สิ่งที่ดีๆ

กลายเป็นประเด็นดรามาร้อนแรงบนโลกออนไลน์ หลังจากพี่จอง-คัลแลน ยูทูปเบอร์ชื่อดัง ช่อง ‘Cullen Hateberry’ ได้ลงคลิปไปเที่ยวที่เกาะปันหยี ซึ่งเมื่อคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างพากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่สองหนุ่มถูกเอาเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเดินทาง ของฝากที่ระลึก รวมทั้งของกินที่มีราคาแพงจนเกินไป 

ซึ่งกระแสดรามาที่เกิดขึ้น ทางด้านเจ้าของร้านอาหารและหน่วยงานที่เกาะปันหยี ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมน้อมรับในกระแสข้อวิจารณ์ที่ใช้เหตุผล ส่วนข้อวิจารณ์ที่ไม่เป็นความจริงและกล่าวหามุสลิมเพื่อต้องการเรียกยอดไลก์และสร้างความเสียหายกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมบนเกาะปันหยี ก็อาจจะพิจารณาใช้กฎหมายดำเนินการต่อไป

ล่าสุด (25 ก.ค. 67) พี่จอง ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว (@jung_kt_) โดยได้โพสต์รูปภาพที่นั่งอยู่บนเรือ พร้อมรอยยิ้มที่สดใส และระบุข้อความว่า 

“ผมคิดว่า ทุก ๆ ที่มีทั้งดี และไม่ดี ผมอยากให้ทุก ๆ คน มองแต่สิ่งดี ๆ เราจะเป็นคนที่มีความสุข มองดูที่นี้ครับ”

ทำเอาแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์กันสนั่น เช่น “หนูรู้นะคะ ว่าพี่จองหมายถึงอะไร พี่จองน่ารักที่สุดในโลกเลย” / “เห็นด้วยค่ะ มองแต่สิ่งดี ๆ เราจะมีแต่ความสุข อันไหนไม่ดีก็ปล่อยผ่าน รักพี่จองมากนะคะ พี่ทำให้พวกเรามีความสุข และพี่สมควรได้ความสุขมาก ๆ เช่นกันนะคะ” / “จริงค่ะ ทุก ๆ ที่มีทั้งดีและไม่ดี แต่สำหรับหนู พี่จองคือสิ่งที่ดีที่สุดเลยค่ะ รอยยิ้มของพี่จองทำให้หนูมีความสุขและเป็นพลังใจในการทำงานทุก ๆ วันเลยนะคะ ใจฟูมากๆๆ”

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 : การเกิดเป็นทุกข์ แล้วทำไมยังต้องเกิด?

จากช่องติ๊กต็อก @dhamma_tv ได้เผยแพร่คำสอนเรื่อง ‘การเกิดเป็นทุกข์ ทำไมยังต้องเกิด?’ จากรายการ ‘ธรรมะทำไม’ โดย ‘พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท)’ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดด่านใน

คำถาม: ถ้าการเกิดเป็นทุกข์ แล้วทําไมถึงยังให้มนุษย์เกิดอีก? แล้วอะไรจะการันตีว่าถ้าเดินตามทางพุทธศาสนา จะพบความสุขหรือนิพพาน ทั้งที่บางคนก็เกิดมาทุกข์บางคนก็เกิดมาสุข เพราะบางศาสนาหลักการมันง่ายกว่าศาสนาพุทธหรือเปล่า?

พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท): การเกิดหรือไม่เกิด เป็นเรื่องของเรานะ ไม่มีใครมาให้เกิดหรือไม่ให้เกิดนะ ไม่มีเทพหรือศาสดาองค์ใดมาอนุมัติให้เราเกิด เพียงแต่ว่าในคําสอนทางพุทธเจ้า สอนไว้ว่าถ้าไม่อยากเกิดก็ให้ปฏิบัติธรรมให้ได้บรรลุเป็นขั้น ๆ ไป แต่การจะบรรลุธรรมให้สิ้นภพสิ้นชาติ ก็ไม่ได้ทำกันได้ง่าย ๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ ถ้าเรามานะและทำถึง

ยกตัวอย่าง การเรียนจบปริญญาตรี โท เอก มีคนเรียนจบมากมาย คนเรียนไม่จบก็มาก คำถามคือคนที่เรียนไม่จบ ทำไมถึงไม่เรียน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็มีเหตุ มีปัจจัยมากมายต่างกัน เช่น สุขภาพไม่ดี เงินทองไม่พอ เวลาไม่เอื้ออำนวย จึงไม่สามารถกำหนดให้ทุกคนเหมือนกันหมดไม่ได้

ฉะนั้น ตามหลักคำสอนของศาสนาพุทธที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เปรียบเสมือนพระองค์บอกทาง ส่วนการเดินไปถึงจุดหมายหรือไม่เป็นเรื่องของเรา บางคนอยากไปถึงไว ก็รีบเดิน บางคนไม่ได้อยากถึงไว ก็จะเดินช้า ๆ ดังนั้นไม่มีใครมาทําให้เราเกิด หรือไม่เกิด

ส่วนเรื่องที่บอกว่า ‘การเกิดเป็นทุกข์’ พระพุทธเจ้าตรัสสอนอย่างนี้ เพื่อให้เราหาทางออกจากทุกข์ เพราะว่าต้นธารแห่งความทุกข์ มีที่มาจากการเกิด การเจ็บป่วยก็มาจากการเกิด แก่ชราก็มาจากการเกิด หรือแม้กระทั่งความตายก็มาจากการเกิด

สุดท้าย ‘พระนิพพาน’ อยากจะบอกทุกท่านว่าอย่าไปเถียงกัน เพราะจะไม่จบด้วยการเถียง การคุยกันเรื่องนิพพาน ก็เหมือนกันการคุยเรื่องรสชาติ (หวาน เค็ม มัน เผ็ด) แต่ทั้งคู่ไม่เคยกินเลย ต่อให้เถียงกันจนตายก็ไม่รู้เรื่อง ทางเดียวที่จะรู้คือเอาเข้าปากแล้วเคี้ยว ถึงจะรู้ว่านั้นคือรสชาติอะไร 

ดังนั้นในเรื่องของ ‘นิพพาน’ การรู้กับความรู้ ไม่เหมือนกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top