Tuesday, 2 July 2024
ความสัมพันธ์ไทยจีน

‘พรรคกล้า’ พบทูตจีนคนใหม่ร่วมถก ศก.สองประเทศ โฟกัส ‘e-Commerce - ท่องเที่ยว - อุตสาหกรรมสีเขียว’

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค, นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค, นายเทมส์ ไกรทัศน์ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส.ภูเก็ต เข้าพบ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ‘คนใหม่’ โดยได้มีการหารือประเด็นเศรษฐกิจการค้า โดยเฉพาะเรื่อง e-Commerce รวมถึงประเด็นการท่องเที่ยวที่ไทย ที่เฝ้ารอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีน โดยท่านทูตพร้อมร่วมมือกับพรรคกล้า ในการประสานงานด้านนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่อไป

นายกรณ์ กล่าวว่า ท่านทูตได้แสดงความยินดีกับพรรคกล้าที่มีอายุครบ 2 ปี เมื่อวานนี้ โดยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันเรื่องเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ช่วงปีที่ผ่านมา ยอดการค้าระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก มีการพูดคุยกันถึงโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมสีเขียว และการพัฒนาธุรกิจ e-Commerce ระหว่างกันในอนาคต

‘ท่านใหม่’ เตือนไทย อย่าหลงเชื่อพวกคนแดนไกล ทำลาย ‘สัมพันธ์ - ต่อต้าน’ และถึงขั้นรบกับจีน 

ไม่นานมานี้ ‘ท่านใหม่’ หม่อมเจ้า จุลเจิม ยุคล ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนสติคนไทยและรัฐบาลไทย หลังจากระยะหลัง เริ่มวางบทบาทที่อาจจะไปกระเทือนความสัมพันธ์อันดีกับประเทศจีน ด้วยการหลงเชื่อกลุ่มประเทศจากแดนไกล ว่า... 

ประเทศไทยต้องไม่เป็นยูเครนสอง

อย่าคิดทำลายมิตรภาพที่ดีระหว่างประเทศจีน และประเทศไทย ไปหลงเชื่อพวกคนแดนไกล

ขณะนี้ประเทศไทย เรา รัฐบาลเรา ก็ประพฤติปฏิบัติอย่างเดียวกันกับยูเครน นั่นคือ ได้ไปทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ก่อตั้งพันธมิตรตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ในการต่อต้านภัยคุกคามจากจีน โดยจะมีญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์เข้ามาผสมโรงด้วย 

พูดง่ายๆ ก็คือเอาประเทศไทยเข้าเป็นพันธมิตรกับอเมริกา ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของนาโต้ และสมุนบริวารเพื่อตั้งตัวเป็นศัตรูกับจีน ‘ต่อต้านจีน’ กระทั่งอาจเตรียมที่จะทำสงครามกับจีนด้วย (หวังว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น)

ไปตั้งความตกลงนี้กันอย่างปกปิดเงียบเชียบโดยคนไทยทั้งประเทศไม่มีใครรู้เห็น จนกระทั่งสถานทูตสหรัฐฯ นำข้อตกลงนี้ออกมาเผยแพร่ คนไทยจึงเพิ่งรับรู้กันในระยะไม่กี่วันมานี้ จึงมีการกล่าวขานกันอย่างกว้างขวางว่า “นี่คือการกระทำที่ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านอย่างเดียวกันกับยูเครน”

...ไม่สำเหนียกเลยว่าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-จีน นั้นมีแต่ความเป็นพี่น้องกัน 
...ไม่มีครั้งไหนที่ไทยเดือดร้อนแล้วจีนจะไม่ให้ความช่วยเหลือ 
...ไม่ว่าจากศึกเหนือเสือใต้หรือจากภัยพิบัติ หรือจากปัญหาเศรษฐกิจ จีนก็เอื้อเฟื้อช่วยเหลือตลอดมา 
...ไม่เคยกระทำการใดๆ ที่เป็นภัยต่อประเทศไทยเลย 

แม้กระนั้นก็มิได้สำนึกในบุญคุณ กลับทรยศต่อมิตรไปคบคิดกับคนแดนไกล (อเมริกา) มาก่อความขัดแย้งใหญ่ขึ้นในภูมิภาค ในพระราชอาณาจักรเรา ที่มีแต่ความสงบสุข มาเป็นเวลากว่า ร้อยๆ ปี

สถานทูตจีน ย้ำสัมพันธ์ 2 ประเทศแน่นแฟ้น ชู การค้า-การลงทุน พุ่งหลักแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เคลื่อนไหวโพสต์ตามคำถามเกี่ยวกับเรื่องชาวจีนมีส่วนเกี่ยวข้องธุรกิจสีเทาในไทย ฝ่ายจีนมีความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวอย่างไร ซึ่งทางโฆษกสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ก็ได้มองว่า พร้อมหนุนให้รัฐบาลไทยจัดการ หากพบการทำผิด แต่ไม่อยากให้คนไทยเหมารวมว่าคนจีนทั้งหมดไม่ดี การทำผิดเกิดขึ้นเฉพาะบุคคลบางกลุ่มเท่านั้น

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ยังได้เปิดเผยถึงแง่มุมความสัมพันธ์ไทย-จีน ทั้งเรื่องการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจระหว่างประเทศร่วมกัน เนื่องจากมองว่าไทยและจีนต่างก็เป็นเมืองพี่ เมืองน้อง โดยมีใจความตอบคำถาม ดังนี้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีสื่อไทยตั้งคำถามต่อโฆษกสถานทูตจีนเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าและการไปมาหาสู่กันระหว่างจีน-ไทย ดังต่อไปนี้

Q: คุณคิดว่าความสัมพันธ์จีน-ไทยในปัจจุบันเป็นอย่างไร ความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองประเทศได้พัฒนาเป็นอย่างไร
A: จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดี หุ้นส่วนที่ดี และพี่น้องที่ดี หลายปีมานี้ทั้งสองประเทศได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อเผชิญกับโรคโควิด-19 และได้เอาชนะความยากลำบากร่วมกัน ซึ่งส่งผลให้ 'จีนไทยพี่น้องกัน' ของประชาชนทั้งสองประเทศมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เยือนประเทศไทย ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ และหารือกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ทั้งสองประเทศประกาศจะสร้างประชาคมระหว่างจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน และมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งได้ชี้นำทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในยุคใหม่อย่างชัดเจน ด้วยการควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การแลกเปลี่ยนการเยือนและความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศย่อมจะนำไปสู่ระดับสูงครั้งใหม่ 

จีนเป็นประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดและตลาดสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของไทย ในปี 2565 ยอดมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับไทยสูงถึง 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน สินค้าเกษตรของไทยที่ส่งออกไปจีนมีมูลค่า 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในปี 2565 จีนได้กลายเป็นประเทศที่ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทย โดยมีมูลค่าเงินลงทุน 77,381 ล้านบาท ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-ไทยตั้งอยู่บนหลักการเอื้อผลประโยชน์แก่กันและความร่วมมือแบบ win-win และได้ส่งผลประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ให้แก่การพัฒนาและประชาชนของทั้งสองประเทศ 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top