Wednesday, 23 April 2025
คณะกรรมาธิการ

‘ไผ่ ลิกค์’ ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้!! ต้องมีกฎหมายรองรับ หลังเยาวชนเริ่มใช้อย่างแพร่หลาย

(1 ส.ค. 66) นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุญัตติด่วนที่ตนเสนอไป เพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยตนเห็นว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับและวิธีรับมือกับการบริโภค และการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่สภาพความเป็นจริงเราสามารถพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย มีการนำเสนอเพื่อผลกำไรผ่านทางช่องทางสื่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการเสียภาษีทำให้รัฐเสียประโยชน์ 

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ในส่วนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้รับผลกระทบจากปริมาณการรับซื้อลดลงอย่างมาก ทั้งจากมาตรการด้านสุขภาพและการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จนทำให้ราคาใบยาสูบตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลข้อดีข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า โทษต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นที่สงสัยว่าเป็นโทษต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด 

"ผมจึงขอเสนอให้สภาฯ มาศึกษา และวางแนวทางเพื่อออกกฎหมายในการกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้เด็กและเยาวชนมีการใช้การอย่างแพร่หลาย ทั้งที่แนวทางบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย ยังไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนหรือไม่ มีแต่การกล่าวอ้างว่า ไอของบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงต้องมีการออกมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น" นายไผ่ กล่าว

คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ร่วมกับมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ และสโมสรโรตารีสาทร ภาค 3350  บริจาคเครื่องมือบริการทางการแพทย์ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช

วันนี้ (14 พฤษภาคม 2567 ) เวลา 09.30 นาฬิกา ณ ทำเนียบองคมนตรี พระราชอุทยานสราญรมย์ นายสุวพันธุ์  ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา พร้อมด้วยนายวิทยา  ผิวผ่อง ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษา ติดตาม และสืบสานแนวพระราชดำริ /กรรมาธิการวิสามัญ /นางเธียรรัตน์  นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ และนางณัฐฏ์นันท์ญา  อัศวณิชย์ชากร กรรมการบริหาร สโมสรโรตารีสาทร ภาค 3350   สนับสนุนเครื่องมือบริการทางการแพทย์ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โดยมีศาสตราจารย์ เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม  วัฒนชัย องคมนตรี ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช  เป็นผู้รับมอบ
  
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเครื่องผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ที่ได้นำมามอบในครั้งนี้ ทางมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้รับบริจาคจาก นางสาวกุลพรภัสร์  วงศ์มาจารภิญญา ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ โดยเครื่องผลิตออกซิเจน มีขนาด 5 ลิตร จำนวน 200 เครื่อง มูลค่า 5,580,000 บาท เพื่อใช้ประโยชน์ในการบริการทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ทั้ง 21 แห่ง ทั่วประเทศ ตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ที่มุ่งมั่น สนับสนุน ด้านสาธารณสุขของประเทศ 

สำหรับสโมสรโรตารีสาทร ภาค 3350 ได้บริจาคตู้อบเด็กให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เด่นชัย จังหวัดแพร่ และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย รวมมูลค่ากว่า 200,000  บาท

'ธนกร-รวมไทยสร้างชาติ' ดักทาง 'กมธ.นิรโทษกรรม' ถอยปลดล็อก ม.112 เชื่อ!! คนไทยทั้งชาติรับไม่ได้ หากให้มีการนิรโทษฯคนหมิ่นสถาบันฯ

(12 ก.ค. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์หลังจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน โดยกมธ.ไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องนิรโทษกรรมคดีมาตรา 110 และ คดีมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นคดีที่มีความอ่อนไหว และ คดีที่มีความรุนแรง ตามมาตรา 289 ด้วยการลงมติได้ ว่า 

“ตนขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาตามหลักการกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในหมวด 2 มาตรา 6 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ระบุว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้ หากกรรมาธิการฝืนให้ลงมติให้คดีที่ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสถาบันฯ ให้ได้รับการนิรโทษกรรม อาจเสี่ยงต่อการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญได้”

เมื่อถามว่า การที่กมธ. ไม่สามารถลงมติได้ว่าไม่รวมคดีที่มีความอ่อนไหว ม.110, ม.112 และคดีร้ายแรง สะท้อนถึงความไม่ชัดเจนเรื่องข้อกฎหมายหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า 

“ความจริงแล้วถ้ายึดหลักการกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมถึงจารีตประเพณีรากเหง้าของประเทศแล้ว ตนเชื่อว่า กรรมาธิการจะไม่เสียงแตกแบบนี้ เพราะทุกคนต่างทราบดีอยู่แล้วว่า หากเราไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์คงไม่มีประเทศไทยในวันนี้ ซึ่งการจะนิรโทษกรรมผู้ที่หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์จึงไม่ควรเกิดขึ้น ควรจะใช้ช่องทางอื่นเพื่อจะขอพระราชทานอภัยโทษจะเป็นทางออกที่ดีกว่า”

“แม้ว่ากมธ.นิรโทษกรรม ไม่มีข้อยุติเรื่องคดีม.110,112 โดยมีข้อสรุปให้ส่งเรื่องเสนอต่อสภาฯ และให้สส. เป็นผู้พิจารณาในรายละเอียด ของการบัญญัติเป็นกฎหมายก็ตาม ผมมองว่า การที่กมธ.ไม่ชี้ชัด ไม่มีข้อสรุปว่าจะไม่รวมคดีอ่อนไหวในการนิรโทษกรรมนั้น ก็ทำให้สังคมคิดได้ว่า เป็นการอะลุ่มอล่วย เห็นด้วยในการกระทำผิดโดยปริยายหรือไม่ ส่วนตัวขอคัดค้าน และหากถูกเสนอกฎหมายเข้าสภา ผมและสส.พรรครวมไทยสร้างชาติก็จะลงมติไม่เห็นด้วยให้มีการนิรโทษฯ ให้คนหมิ่นสถาบัน และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็รับไม่ได้เช่นกัน” นายธนกร ย้ำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top