Sunday, 29 June 2025
ข่าวยานยนต์

เปิดตำนาน 25 ปี Hyundai SANTA FE เตรียมเผยโฉม 5th Gen ‘Born in BOXY’

(28 มิ.ย. 68) ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) พร้อมสร้างแรงสั่นสะเทือนตลาด SUV ครั้งใหญ่ในไทย เตรียมเผยโฉม 5th Generation Hyundai SANTA FE พลิกภาพจำเดิม ๆ ด้วยดีไซน์ใหม่หมดจด ตั้งแต่ภายนอกจรดภายใน สะท้อนแนวคิดดีไซน์ใหม่ 'Born in BOXY' ที่กล้าแตกต่าง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องดีไซน์อย่างลงตัว

SANTA FE คือหนึ่งใน SUV แถวหน้าของ Hyundai ที่ครองใจผู้ใช้ทั่วโลกมานานกว่า 25 ปี โดดเด่นทั้งดีไซน์ การใช้งานแบบอเนกประสงค์ ความทนทาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โดยในปี 2025 นี้ ฮุนไดเตรียมเปิดตัว SANTA FE 5th Generation รถยนต์ SUV ที่จัดเต็มทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะการขับขี่เหนือชั้น พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ชีวิตขั้นสุดในทุกด้าน

เจาะลึกวิวัฒนาการ SANTA FE สุดยอด SUV ที่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ตามยุคสมัย
Gen 1 (2001–2006): จุดเริ่มต้นแห่งความเชื่อมั่น Hyundai SANTA FE รุ่นแรก เปิดตัวในนิวซีแลนด์ช่วงปลายปี 2000 ตัวรถโดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมน พร้อมความแข็งแกร่ง และมีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน หลังจากได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ จึงเพิ่มกำลังการผลิตในปี 2001 ต่อมาในปี 2003 มีการปรับเครื่องยนต์ให้ทรงพลังขึ้น พร้อมเสริมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ซึ่งถือเป็นการสร้างรากฐานความเชื่อมั่นที่ทำให้ SANTA FE ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของรถ SUV ในยุคนั้น

Gen 2 (2007–2012): ก้าวสู่ความพรีเมียม
SANTA FE Gen 2 เปิดตัวครั้งแรกในงาน North American International Motor Show ปี 2006 พร้อมการปรับปรุงใหม่ทั้งดีไซน์ และสมรรถนะที่คล่องตัวและเหมาะกับทุกสภาพอากาศ ยกเครื่องรูปลักษณ์ภายนอกใหม่หมดโดยปรับดีไซน์สู่ความสุขุม เรียบหรู พร้อมเพิ่มเบาะแถวสาม รองรับผู้โดยสารสูงสุดถึง 7 คน โดยยกระดับความไฮเอนด์ด้วยห้องโดยสารด้วยลายไม้ เบาะหนัง และวัสดุสัมผัสแบบ soft-touch ตอบสนองรสนิยมคนเมือง และนำนวัตกรรมระบบนำทางมาใช้ในรุ่นนี้เป็นครั้งแรก 

Gen 3 (2012–2018): ยกระดับทุกด้าน สู่ SUV ยุคใหม่
การมาถึงของ Gen 3 ถือเป็นก้าวกระโดดสำคัญ ด้วยการยกระดับทั้งคุณภาพ ความสบาย สมรรถนะ และเทคโนโลยี โดยใช้แนวทางการออกแบบ “Storm Edge” ที่เน้นเส้นสายเฉียบคมและรูปลักษณ์ที่หรูหราแต่แข็งแกร่ง แพลตฟอร์มใหม่ของเจเนอเรชันนี้แสดงตัวตนของความเป็น “รถครอบครัวครบเครื่อง” อย่างชัดเจนนำเสนอทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง (Sport) และ 7 ที่นั่ง (LWB) เพื่อให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

Gen 4 (2019–2023): ผสานความหรู ความแกร่ง และเทคโนโลยี
Gen 4 เปิดตัวในปี 2018 ต่อยอดความสำเร็จด้วยการอัปเกรดดีไซน์ และนวัตกรรมความปลอดภัยแบบก้าวกระโดด ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้า Cascading Grille อันเป็นเอกลักษณ์ ภายในมอบห้องโดยสารที่กว้างที่สุดในประวัติศาสตร์ของ SANTA FE แนะนำพร้อม Hyundai SmartSense ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ และรางวัลมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากทั้ง Euro NCAP และ ANCAP ทำให้ SANTA FE เจนเนอเรชั่นนี้เป็นหนึ่งใน SUV ที่ปลอดภัยที่สุดในคลาส เป็นอีกบทพิสูจน์ของพัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่งของฮุนได

ในปี 2025 เตรียมพบกับ SANTA FE Generation ที่ 5 โดดเด่นด้วยทรงเหลี่ยม กล้าแตกต่างด้วยแนวคิด 'Born in BOXY'

ฮุนไดพลิกแนวทางดีไซน์ ด้วยคอนเซ็ปต์ 'Born in BOXY' รูปทรงเหลี่ยมที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสานการออกแบบแห่งอนาคต เตรียมตื่นตากับงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไม Hyundai SANTA FE Gen 5 ของฮุนไดจะมาพลิกโฉมตลาดรถ SUV ในประเทศไทยไปอย่างสิ้นเชิง

เอ็มจี เดินหน้าทดสอบซอฟต์แวร์ NEW MG IM6 ติดตั้ง!! ระบบตรวจจับความละเอียด ADAS

(28 มิ.ย. 68) บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยเดินหน้าทดสอบฟังก์ชันสำคัญอย่างเข้มข้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเกรดระบบซอฟต์แวร์ครั้งสำคัญของ 'NEW MG IM6' ที่มีกำหนดเปิดตัวภายในเดือนกันยายนนี้ โดยการอัปเกรดดังกล่าวจะเป็นตัวยกระดับฟังก์ชันของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ตอบโจทย์การเป็น “Premium Intelligent e-SUV” อย่างเต็มรูปแบบ

NEW MG IM6 ได้รับการดูแลโดยทีม Product Engineer จาก IM Motors ประเทศจีนและ SAIC MOTOR-CP โดยได้ติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะสำหรับทดสอบระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) และระบบบันทึกข้อมูล (Data Recorder) เพื่อดำเนินการทดสอบภายใต้สภาพแวดล้อมจริงในประเทศไทย การทดสอบครั้งนี้ครอบคลุมการปรับปรุงระบบสั่งการอัจฉริยะ หรือ IM OS และฟังก์ชันการเชื่อมต่ออัจฉริยะให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นกว่าช่วงเปิดตัว โดยรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งาน ทั้งด้านการพัฒนาระบบเดิม และความต้องการฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันโดยได้มีการทดสอบเบื้องต้นตามหัวข้อหลัก ดังนี้ 
1. Advanced Driver Assistance System (ADAS) ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะที่ตรวจจับสภาพถนนและป้ายจราจรในประเทศไทย เสริมความเสถียรในการควบคุมรถ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
2. Intelligent Computing Domain ระบบประมวลผลอัจฉริยะที่ครอบคลุมการทำงานของระบบข้อมูลและความบันเทิงภายในรถ (Infotainment & Entertainment System)
3. Overall Engineering Performance Function ฟังก์ชันการทำงานด้านสมรรถนะทางวิศวกรรมโดยรวม

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การอัปเกรดซอฟต์แวร์ของ NEW MG IM6 ในเดือนกันยายนนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ เอ็มจี ในการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ทั่วไปสู่ ‘รถยนต์ที่พัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง’ ผ่านระบบซอฟต์แวร์อัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยยกระดับสมรรถนะโดยรวม พร้อมเพิ่มความแม่นยำ และการตอบสนองที่รวดเร็ว ตรงกับพฤติกรรมผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น สำหรับการทดสอบระบบในครั้งนี้ เอ็มจีถือเป็นหนึ่งในแบรนด์แรก ๆ และอาจเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่ดำเนินการทดสอบระบบในลักษณะนี้อย่างจริงจัง สำหรับ NEW MG IM6 ถือเป็น The First-ever Premium intelligent e-SUV จากเอ็มจี ที่มาพร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะ IM OS โดยได้รับการสนับสนุนอย่างใกล้ชิดจากบริษัทแม่ในประเทศจีน เพื่อให้รถยนต์รุ่นนี้ตอบโจทย์ความเป็นพรีเมียมอีวีอย่างสมบูรณ์แบบ”

ณ ปัจจุบัน เอ็มจี ได้ส่งมอบรถให้แก่ลูกค้ากลุ่มแรกแล้วกว่า 1,000 คัน โดยจุดเด่นที่ทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาด คือ ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four-Wheel Steering System) ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเลนในความเร็วสูงเสถียรและการกลับรถในที่แคบได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ (Intelligent Air Suspension) ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดแรงกระแทกต่อพื้นถนนถึงห้องโดยสาร แต่ยังสามารถปรับระดับความสูงของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ ตามลักษณะการขับขี่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นคงในทุกการเดินทาง 

รวมถึงระบบ One Touch iAD ที่ช่วยในการถอยจอดด้านข้าง (One Touch Side Parking) การจอดและออกจากช่องจอดรถในพื้นที่จำกัด (One Touch Escape) และการถอยหลังอัตโนมัติเมื่อขับเจอซอยตัน (One Touch Reverse) สะดวกสบายด้วยฟังก์ชัน Crab Mode เพื่อปรับมุมทั้ง 4 ล้อ ในมุมเดียวกันเพื่อทำการเคลื่อนรถออกจากพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ NEW MG IM6 ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อน Cooling System เจเนอเรชันใหม่ ที่สามารถลดอุณหภูมิได้ถึง 15 องศาเซลเซียส ภายในเวลาเพียง 30 วินาที พร้อมขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรม 800V Dual SiC Platform ที่ช่วยให้ชาร์จไฟได้เร็วที่สุดในคลาสเดียวกัน และมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) เพื่อมอบประสบการณ์การใช้รถไฟฟ้าที่เหนือระดับและไร้กังวล

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของ เอ็มจี ได้ที่ 

Website: www.mgcars.com 
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand

‘ฟาสต์ ออโต โชว์ 2025’ ชี้แนะปัจจัย!! เลือกรถคันที่ใช่ ถอยคันที่ชอบ ‘รถใหม่ป้ายแดง – รถมือสอง’ เปรียบเทียบ ตัดสินใจ ด้วยข้อมูลแน่น

(28 มิ.ย. 68) เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงาน 'ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025' มหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจรที่มากระตุ้นตลาดรถยนต์ช่วงกลางปี มีรถครบทุกเซ็กเมนต์จาก 10 แบรนด์รถใหม่ป้ายแดงกับโปรโดนใจ และ 5 ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วชั้นนำที่มาพร้อมการรับประกันไมล์แท้   

แต่ก่อนจะไป “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” สำหรับใครที่ยังลังเลเลือกไม่ได้ว่าควรซื้อ 'รถใหม่ป้ายแดง' หรือ 'รถมือสองสภาพดี' พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงานฯ และกูรูสายรถยนต์ ได้ชี้แนะปัจจัยในการเปรียบเทียบเพื่อตัดสินใจ ดังนี้

· งบประมาณ – ถ้ามีงบประมาณที่แน่นอน มีกำลังในการผ่อนชำระที่ชัดเจน ต้องการโปรโมชั่นเยอะ ๆ ควรเลือกซื้อรถใหม่ป้ายแดงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการต่าง ๆ อย่างลงตัว แต่ถ้ามีงบประมาณจำกัด การเลือกซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้มากกว่า เพราะราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และมีตัวเลือกหลากหลายตามงบประมาณ

· สภาพรถ – รถป้ายแดงเป็นรถใหม่ที่ไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน มาพร้อมกับเทคโนโลยีและฟังก์ชันล่าสุด สะดวกสบายในการใช้งาน ส่วนรถมือสองจะมีสภาพตามอายุการใช้งาน และมีตัวเลือกมากกว่าเมื่อเทียบกับมือหนึ่งในราคาเท่ากัน หากมีความรู้เรื่องการเลือกรถมือสอง อาจจะได้รถสภาพดีเหมือนใหม่ หรือตัวท็อปในราคาที่ถูกลง ดังนั้นควรมีการตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อ และเลือกซื้อรถยนต์มือสองที่มีการตรวจประวัติและสภาพรถที่เชื่อถือได้

· ดอกเบี้ย - ดอกเบี้ยรถใหม่มักจะต่ำกว่าดอกเบี้ยรถมือสอง แต่อาจต้องขึ้นอยู่กับเงินดาวน์ของราคารถเพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดี ส่วนรถมือสองหากผู้ซื้อมีประวัติดีสามารถที่รับเงื่อนไขในการซื้อที่ดีและอาจจะไม่ต้องใช้เงินดาวน์  หรือถ้าราคารถไม่สูงมาก สามารถซื้อเงินสดได้เลย ทำให้ไม่เสียดอกเบี้ยและไม่เป็นภาระในระยะยาว

· การรับประกัน - รถใหม่จะมีการรับประกันเต็มรูปแบบ แต่ควรเลือกผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงดีด้านบริการหลังการขาย ทำธุรกิจมายาวนาน มีศูนย์บริการครอบคลุม เชื่อถือได้ สำหรับรถมือสองควรเลือกซื้อกับผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ ตรงไปตรงมา และมีการระบุเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพหรือข้อตกลงต่าง ๆ ไว้ในสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน เพื่อความมั่นใจ

· ค่าบำรุงรักษา - รถใหม่มีค่าบำรุงรักษาน้อยกว่าในช่วงแรกที่มีการรับประกันและฟรีค่าบำรุงดูแลรักษาตามที่บริษัทกำหนด ส่วนค่าบำรุงรักษารถมือสองขึ้นอยู่กับสภาพของรถและประวัติการซ่อม ดังนั้นการตรวจสอบสภาพรถก่อนซื้อจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะการได้รถมือสองสภาพดีจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้

· ค่าเสื่อมราคา – รถป้ายแดงจะสูญเสียมูลค่าทันทีหลังออกจากโชว์รูม ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ จากนั้นค่าเสื่อมราคาจะลดลงตามความต้องการของตลาด ส่วนค่าเสื่อมราคาของรถมือสองจะลดลงตามอายุการใช้งาน ซึ่งราคาขายต่อจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ สภาพรถยนต์ ระยะทางการใช้งาน และความต้องการของตลาดรถมือสอง ณ เวลานั้น ๆ

ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลของรถทั้งสองแบบ เพื่อให้ได้รถคุณภาพดีที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการ งบประมาณ และตอบโจทย์ในการใช้งานมากที่สุด ซึ่งในงาน 'ฟาสต์  ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025' มีทั้ง “รถใหม่โปรโดนใจ รถมือสองไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” ให้ได้เปรียบเทียบคุณภาพและราคา โดยเฉพาะรถมือสองที่คัดเกรดมาเป็นอย่างดีพร้อมรับประกันซื้อคืน 100% หากไม่ตรงตามเงื่อนไข 5 ข้อ คือ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และเงื่อนไขข้อที่ 6 ล่าสุด 'รับประกันไมล์แท้' ทุกคัน

พร้อมขอฝากกิจกรรมสำหรับนักซิ่งฟันน้ำนม กับการแข่งขันจักรยานขาไถ 'Strider Racing @Fast Auto Show Thailand 2025' บนสนามแข่งมาตรฐาน สำหรับเยาวชนอายุ 2 - 4 ปี จัดแข่ง 2 รุ่น คือ รุ่น Enjoy และรุ่น Racing รวม 14 รุ่น เพื่อชิงถ้วยและเหรียญรางวัล ในวันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม สมัครออนไลน์ได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน ศกนี้ ติดตามรายละเอียดได้ที่  https://form.jotform.com/251512312965453 หรือสมัครหน้างานในวันแข่งขัน

พบความครบเครื่องเรื่องรถในงาน 'ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025' ระหว่างวันที่ 2 - 6 กรกฎาคม ศกนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ 102-103

‘มาสด้า’ ชวนลูกค้า!! ร่วมค้นหาความสุข สร้างแรงบันดาลใจ ผ่านปรัชญา ‘JOY DRIVES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต’

(28 มิ.ย. 68) ภายใต้ความสับสนวุ่นวายในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์โลกที่กำลังเกิดขึ้น หลายคนกังวลใจกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน มาสด้าเชิญชวนลูกค้าออกมาร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจและค้นหาความสุขในแบบของตนเอง เพราะมาสด้าเชื่อว่าในทุกรายละเอียดของชีวิตมีความสุขขับเคลื่อนเราเสมอ เฉกเช่นเดียวกับมาสด้าที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยปรัชญา 'JOY DRIVES LIVES' หรือความสุขขับเคลื่อนชีวิต สื่อสารถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมีส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์ และมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์การใช้ชีวิต

นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าเชื่อเสมอว่าความสุขคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต เราจึงมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ความสุขให้กับผู้คนในทุกช่วงเวลาและพร้อมเดินทางไปด้วยกัน เพื่อค้นพบความสุขที่มากกว่าการขับขี่ในทุกเส้นทาง ให้ทุกรายละเอียดของชีวิตมีความสุขขับเคลื่อนเสมอ นั่นคือที่มาของปรัชญาใหม่ของแบรนด์ 'JOY DRIVES LIVES' หรือความสุขขับเคลื่อนชีวิต เพื่อให้มั่นใจว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้าจะนำมาซึ่งคุณค่าและความสุข เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของลูกค้า โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นหัวใจหลักในการสร้างความเชื่อมโยง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ มาสด้าจึงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Customer Experience Management หรือการบริหารประสบการณ์ลูกค้าที่มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถมาสด้า ที่ไม่ได้มีเพียงการขับขี่ที่สนุกสนานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากแบรนด์ในทุก ๆ Touchpoint เริ่มตั้งแต่การมีปฏิสัมพันธ์ผ่านระบบออนไลน์ไปจนถึงประสบการณ์ที่ได้สัมผัสจากผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าและผู้คนได้ตระหนักถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ รอบตัว ตลอดจนมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์ เพื่อถ่ายทอดหลักปรัชญาการทำงาน สร้างความรักความผูกพันระยะยาวกับลูกค้า ตามแนวทางการบริหารงานที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง (Customer Centric) สิ่งเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดลงไปในทุกองค์ประกอบของการทำงาน เพราะมาสด้าเชื่อว่า “ความสุขในการขับขี่รถยนต์” (Joy of Driving) จะนำไปสู่ “ความสุขในการใช้ชีวิต” (Joy of Living) และมาสด้าตั้งใจส่งมอบความสุขเหล่านี้ไปยังลูกค้าทุกคน จะดีกว่าไหมถ้าคนเราค้นพบความสุขที่อยู่ระหว่างทางโดยในบางครั้งอาจถูกมองข้ามไป ลองหยุดพักจากการรอคอยความสุขที่ยิ่งใหญ่หรือสิ่งที่หวังไว้ในอนาคต แล้วมาเติมเต็มชีวิตด้วยความสุขเล็ก ๆ ที่เราก็สร้างขึ้นเองได้ เพื่อให้ทุกวันขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและใช้ชีวิตให้มีความหมายตามแบบฉบับของตนเอง

ดังนั้น มาสด้าจึงถ่ายทอดเรื่องราวการดำเนินชีวิตของครอบครัวอันแสนอบอุ่น ผ่านภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง Joy Drives Lives เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมองหาความสุขในรายละเอียดของชีวิต และต่อยอดด้วยการมุ่งเน้นความเชื่อที่ว่า ความสุข คือพลังขับเคลื่อนชีวิต มาสด้าจึงสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการขับขี่ แต่เป็นการเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยความสุขในทุกช่วงเวลา ดังนั้น เพื่อสื่อสารแนวคิดนี้ให้ชัดเจนขึ้นจึงได้นำเสนอบทเพลง 'Joy is in the details' บอกเล่าเรื่องราวจากหิ่งห้อยตัวน้อยผ่านสถานการณ์ของผู้คนต่าง ๆ หลากหลายมิติ เช่น การใช้เวลากับครอบครัวหรือคนรัก การก้าวข้ามขีดจำกัด และการนึกถึงอดีตที่น่าจดจำ เป็นต้น ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ล้วนดูธรรมดา แต่หากมองลึกลงไปในอริยาบททุกคนล้วนมีรอยยิ้มและกำลังมีความสุขในชีวิต

“บางครั้งความสุขอาจเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่มาสด้าเชื่อว่าเราจะค้นพบด้วยตัวเองได้ เพียงลองมองลึกลงไปในรายละเอียด เราอาจพบความสุขที่อยู่ระหว่างทางที่บางครั้งอาจถูกมองข้ามไป ในช่วงที่ผ่านมา มาสด้าได้ทำการสำรวจสถิติคนไทย ผ่านแบบทดสอบ Mazda Joy Research เพื่อทำความเข้าใจความสุขในรูปแบบต่าง ๆ ตามด้วยการสร้างการรับรู้ในความหมายใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พบว่า คนไทยกว่า 2 ใน 3 จากกลุ่มตัวอย่าง มีความสุขน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ เพราะเราสร้างเงื่อนไขการมีความสุขด้วยการผูกมัดไว้กับความคาดหวัง มาสด้าจึงได้สร้างความตระหนักถึงว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริง และสร้างความเชื่อมโยงต่อการสื่อสารเพื่อให้เห็นรายละเอียดความสุขในชีวิต” นายภพนิพิฐ กล่าวเสริม

สำหรับลูกค้าที่ต้องการติดตามการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาและบทเพลงอันไพเราะอันลึกซึ้งที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ JOY DRVIES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต รวมถึงการออกไปค้นหาความสุขของคุณร่วมกับแบรนด์มาสด้า สามารถกดเข้าผ่านลิงก์ดังต่อไปนี้
• รับชมภาพยนตร์โฆษณาภายใต้สโลแกน 'JOY DRIVES LIVES' ได้ตามช่องทาง 
• Mazda official YouTube – Full VDO: ภาพยนตร์โฆษณา https://www.youtube.com/watch?v=wYhA68ocA8g
• Facebook: ถ่ายทอดเรื่องราวความสุขขับเคลื่อนชีวิต https://www.facebook.com/share/r/1EM8oLW4AR/
• TikTok บทเพลง 'Joy is in the details'
 Music : https://vt.tiktok.com/ZSkG28nHE/ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top