Tuesday, 2 July 2024
กอล์ฟ

‘ซิม ณัฐกฤตา’ ระเบิดฟอร์มหวด 12 อันเดอร์ ผงาดนำเดี่ยวจบสองวันแรก ‘ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023’

(24 ก.พ. 66) ‘ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023’ วันที่สองสู้กันอย่างสนุกท่ามกลางแฟนกอล์ฟยังคงเข้ามาชมในสนามกันอย่างเนืองแน่น ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ ผู้ชนะจากรอบคัดเลือกระดับประเทศ National Qualifiers ระเบิดวงสวิงหวดเพิ่มถึง 7 อันเดอร์พาร์ 65 ผงาดขึ้นมานำเดี่ยวที่สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 132 นำ มายา สตาร์ค โปรสวีเดน อยู่ 1 สโตรก ด้าน ว่าน-จารวี บุญจันทร์ รั้งอันดับสามร่วม หลังเก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์ สกอร์รวมตามหลังผู้นำ 2 สโตรก ขณะที่ แหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ ฟอร์มเข้าฝัก หวด 7 อันเดอร์รอบสอง ขึ้นมารั้งที่ 8 ร่วม สกอร์รวมหลังผู้นำ 3 สโตรก

กอล์ฟสตรีรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 จัดขึ้นเป็นปีที่ 16  ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 62 ล้านบาท) และรางวัลโฮลอินวัน รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี รุ่น e:HEV TECH มูลค่า 1,799,000 บาท ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส ระยะ 6,576 หลาพาร์ 72 มีนักกอล์ฟร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 72 คน โดยมีนักกอล์ฟไทยร่วมแข่งขันปีนี้ 11 คน

วันที่สองนักกอล์ฟไทยยังคงโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมขณะที่แฟนกอล์ฟยังคงแห่เข้ามาเชียร์นักกอล์ฟกันอย่างเนืองแน่น

โดย ‘โปรซิม’ ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ ผู้ชนะจาก National Qualifiers โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม วันที่สองทำ 8 เบอร์ดี้เสีย 1 โบกี้ จบรอบสองเก็บเพิ่ม 7 อันเดอร์พาร์ 65 สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์132 ผงาดขึ้นมานำเดี่ยว โดยนำมายา สตาร์ค นักกอล์ฟสวีเดนที่รั้งอันดับสอง อยู่ 1 สโตรก

นักกอล์ฟหน้าใหม่ของแอลพีจีเอ ทัวร์ วัย 20 ปีชาวไทยกล่าวหลังจากขึ้นเป็นผู้นำว่า “วันนี้ไดร์ฟดี เล่นเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตื่นเต้นที่แฟนกอล์ฟมาเชียร์กันเยอะมากๆ แต่พยายามควบคุมตัวเองให้มีสมาธิกับเกม ส่วนวันพรุ่งนี้เล่นแผนเดิมคือหากมีโอกาสพัตต์ทำแต้มก็ตั้งเป้าว่าต้องทำให้ได้ หากทำไม่ได้ก็จะพยายามประคองไม่ให้เสีย ยังคงเหลือการแข่งขันอีกสองวันฝากแฟนกอล์ฟเชียร์ซิมและนักกอล์ฟชาวไทยทุกคนด้วยค่ะ”

‘ว่าน’ จารวี บุญจันทร์ นักกอล์ฟไทยผู้นำร่วมจากวันแรก ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ แม้เริ่มต้นวันที่สองสะดุดเล็กน้อยเมื่อมาเสียโบกี้ที่หลุม 5 แต่หลังจากนั้นแก้ตัวด้วยการเก็บ 4 เบอร์ดี้ จบวันเก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 134  รั้งอันดับ 3 ร่วมกับเนลลี่ คอร์ด้า มือสองของโลกจากสหรัฐฯ, เซลีน บูติเยร์ จากฝรั่งเศส, เอมิลี่ คริสติน พีเดอร์เซ่น จากเดนมาร์ก และเจนนี่ ชิน จากเกาหลีใต้ ตามหลัง 'โปรซิม' ผู้นำอยู่ 2 สโตรก

เนลลี่ คอร์ด้า มือสองของโลก ทำ 5 เบอร์ดี้ กับ 1 อีเกิ้ล และเสีย 1 โบกี้ อยากคว้าแชมป์รายการนี้เหมือนที่เจสซิก้า พี่สาวเคยทำได้เผยหลังจบรอบสองว่า “วันนี้ตีหัวไม้สามได้ดีทำให้มีโอกาสทำอีเกิ้ลที่หลุม 10 และทำได้ดีในหลุมพาร์ 5 ตีเข้าไปใกล้กว่าวันแรกทำให้มีโอกาสพัตต์มากขึ้น หลังผ่านไป 36 หลุมขึ้นมาอยู่ในลีดเดอร์บอร์ดได้ จะพยายามผลักดันตัวเองให้อยู่ในสถานการณ์ที่ลุ้นแชมป์ยังมีอีก 36 หลุมให้เล่นหวังว่าจะทำได้ดีในช่วงสุดสัปดาห์นี้”

เซลีน บูติเยร์ นักกอล์ฟสายเลือดไทยสัญชาติฝรั่งเศส ทำ 6 เบอร์ดี้รวดโดยไม่เสียโบกี้ ดีใจที่ได้กลับมาเล่นที่ประเทศไทยกล่าวถึงผลงานตัวเองว่า “วันแรกมีโอกาสพัตต์หลายเบอร์ดี้แต่ทำไม่สำเร็จทำให้ขาดความมั่นใจ แต่วันนี้มีสมาธิกับเกมของตัวเองมากขึ้น ทำให้ผลงานออกมาดีจนเรียกความมั่นใจได้ ยังคงเหลืออีกสองวันที่ต้องเล่นด้วยความมุ่งมั่น เพราะอยากคว้าแชมป์แรกในฤดูกาลนี้ให้ได้ แต่รายการนี้นักกอล์ฟต่างทำสกอร์กันได้ดี ก็จะพยายามตีให้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน”

ด้าน“แหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ ที่โลดแล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้เป็นปีที่ 14 โชว์วงสวิงได้อย่างร้อนแรงเช่นกัน หลังจากทีออฟที่หลุม 10 ทำ 5 เบอร์ดี้รวดในหลุม 11, 12 และ 13,15 และ 18 จากนั้นช่วง 9 หลุมหลังทำเพิ่ม 2 เบอร์ดี้ที่หลุม 2 และหลุม 4 จบรอบสองหวดไปถึง 7 อันเดอร์พาร์ 65  แบบไม่เสียโบกี้ สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 135 ขึ้นมารั้งอันดับ 8 ร่วมกับนักกอล์ฟต่างชาติอีก 6 ราย

‘โปรพราว’ ผงาดแชมป์ ‘พอร์ตแลนด์ คลาสสิก 2023’ ในวัย 19 ปี จารึกชื่อก้านเหล็กสาวไทยรายที่ 7 คว้าถ้วยแอลพีจีเอมาครอง

การแข่งขันกอล์ฟ ระดับแอลพีจีเอทัวร์ รายการ ‘พอร์ตแลนด์ คลาสสิก’ ที่โคลัมเบีย เอดจ์วอเตอร์ คันทรี คลับ เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในวันสุดท้าย

ปรากฎว่า ‘โปรพราว’ ชเนตตี วรรณแสน ก้านเหล็กสาวดาวรุ่งจากไทยที่เพิ่งเริ่มเทิร์นโปรในปีนี้เป็นปีแรก ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กวาดเพิ่ม 9 อันเดอร์พาร์ รวมสกอร์ 4 วัน 26 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ไปครอง ทิ้งอันดับ 2 อย่าง หลิน ซีหยู จากจีน 4 สโตรก รับเงินรางวัลไปนอนกอด 225,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 7.9 ล้านบาท

จากการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ทำให้ ชเนตตี วรรณแสน ในวัย 19 ปี สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 3 ของแอลพีจีเอทัวร์ ที่ผ่านรอบควอลิฟาย และสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ซึ่งยังทำให้เธอกลายเป็นโปรกอล์ฟอายุน้อยสุดอันดับ 2 ที่ได้แชมป์ในปี 2023 ต่อจาก อเล็กซา ปาโน โปรกอล์ฟอเมริกัน

ขณะเดียวกัน ‘โปรพราว’ กลายเป็นก้านเหล็กหญิงจากไทยคนที่ 7 ที่สามารถคว้าแชมป์กอล์ฟระดับแอลพีจีเอมาครอง ต่อจาก เอรียา จุฑานุกาล, โมรียา จุฑานุกาล, ธิฎาภา สุวรรณปุระ, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, ปภังกร ธวัชธนกิจ และอาฒยา ฐิติกุล

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟสาวจากไทยคนอื่น ๆ ในรายการนี้ เอรียา จุฑานุกาล จบ 18 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 7 ร่วม เช่นเดียวกับ อาฒยา ฐิติกุล รับเงินรางวัล 38,536 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท, ปวริศา ยกทวน จบ 14 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 18 ร่วม รับเงิน 18,333 เหรียญสหรัฐฯ

ด้าน ธิฎาภา สุวรรณปุระ จบ 13 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 21 ร่วม รับเงิน 15,840 เหรียญสหรัฐฯ, พรอนงค์ เพชรล้ำ จบ 11 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 34 ร่วม รับเงิน 9,075 เหรียญสหรัฐฯ, โมรียา จุฑานุกาล จบ 9 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 45 ร่วม รับเงิน 6,183 เหรียญสหรัฐฯ และ ปภังกร ธวัชธนกิจ จบ 8 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 49 ร่วม รับเงิน 5,319 เหรียญสหรัฐฯ

'ภูมิกิตติ์' กดลบ 4 ศึกแชมป์สวิง 'บางจาก โอเพ่น 2024' พร้อมคว้าสิทธิ์ ไปแข่งต่อที่ญี่ปุ่น ตามคาด

(10 มี.ค.67) 'บริษัท เดอะ เจ็นซ์ จำกัด' ร่วมกับ 'บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)' ระเบิดศึกดวลสวิงกอล์ฟเยาวชนรายการ 'บางจาก โอเพ่น 2024' สนามแรกของ 'ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์ 2024' ซึ่งแข่งขันระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม 2567 ที่สนามสปริงฟิลด์ รอยัล คันทรี คลับ (คอร์สบี-ซี) จ.เพชรบุรี 

โดย ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ นักกอล์ฟเยาวชนในโครงการกอล์ฟบางจากฯ ในรุ่น Super GENZ (ชาย) โชว์ฟอร์มโหดจัดในรอบสองกดไป 4 อันเดอร์ คว้าแชมป์พร้อมสิทธิ์แข่งญี่ปุ่นไปตามคาดด้วยสกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 140 

ด้าน เขมณัฏฐ์ ศรลัมพ์ ชนะเพลย์ออฟที่หลุม 1 พาร์ 4 พัตต์เบอร์ดี้ลง คว้าแชมป์แรกของทัวร์นี้ไปครอง พร้อมกับสิทธิ์แข่งที่ญี่ปุ่น สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149  โดยมีนายดาว์ปกรณ์ รัตนสุวรรณ (ที่ 2 จากขวา) ประธานจัดการแข่งขัน 'ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์' และนายพงษ์ศิริ ศิริมงคล (ที่ 3 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายปรับปรุงและซ่อมบำรุงสถานีบริการ ประธานชมรมกอล์ฟ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติมอบรางวัลและร่วมแสดงความยินดี

‘สุริฏฐ์ปรียา’ คว้าดับเบิ้ลแชมป์รายการ ‘ช้าง โอเพ่น 2024’ ได้สิทธิ์บินไปแข่งต่อที่ญี่ปุ่น ด้วยสกอร์รวมสองวัน 6 อันเดอร์พาร์ 

(8 เม.ย.67) ‘บริษัท เดอะ เจ็นซ์ จำกัด’ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย ‘น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง’ ลุยต่อสนาม 2 คัดเยาวชนสู้ศึกที่ญี่ปุ่น กับรายการ ‘ช้าง โอเพ่น 2024’ แข่งขันระหว่างวันที่ 6-7 เมษายน 2567 ที่เลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ (คอร์สเอ-บี) จ.เพชรบุรี 

สำหรับการแข่งขันในสนามนี้ ‘เดอะ เจ็นซ์’ จะคัดเลือกนักกอล์ฟเยาวชนที่ทำสกอร์ได้ดีที่สุดจากรุ่น Junior GENZ (อายุ 11-14 ปี) ทั้งชายและหญิง จำนวน 2 คน ร่วมสมทบกับรุ่น Super GENZ (ชายและหญิง) ที่ได้สิทธิ์แข่งขันไปแล้วในสนามที่ 1 เพื่อเป็นตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Yonex Junior Golf Championship 2024 ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม นี้ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยนักกกอล์ฟหญิงที่ชนะในรายการ Yonex Junior Golf Championship 2024 จะได้สิทธิ์แข่ง Japan LPGA Tour ในรายการ Yonex Ladies Tournament 2025 อีกด้วย

‘ช้าง โอเพ่น 2024’ เป็นอีกหนึ่งรายการที่เก็บสะสมคะแนนของ Junior Golf Scoreboard อีกทั้งยังเป็นรายการเก็บคะแนนสะสมรายการที่สองของ ‘ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์ 2024’ แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 รุ่น คือ Special GENZ (ชายและหญิง) อายุ 19-23 ปี, Super GENZ (ชายและหญิง) อายุ 15-18 ปี และ Junior GENZ (ชายและหญิง) อายุ 11-14 ปี แข่งขันแบบเก็บคะแนนสะสมเพื่อคัดเลือกนักกอล์ฟชายและหญิง จำนวน 12 คน เข้าโครงการกอล์ฟของ ‘บางจาก’  ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนทุนแข่งขันเพื่อพัฒนาฝีมือ และสิทธิ์แข่งขันในรายการ SJDTour International Amateur Championship ที่ประเทศสิงคโปร์  

หลังจบการแข่งขันในรอบสุดท้าย (7 เม.ย. 67) ผลปรากฏว่า สุริฏฐ์ปรียา พฤกษานุบาล ฟอร์มฮอตจัด รอบแรกเก็บแต้มตุน 4 อันเดอร์ รอบสุดท้ายเก็บเพิ่มอีก 2 อันเดอร์ จบสองวันกดไปถึง 6 อันเดอร์พาร์ 138  คว้าแชมป์รุ่น Junior GENZ (หญิง) พร้อมตั๋วบินไปแข่งญี่ปุ่น ด้านฝ่ายชายในรุ่นนี้ แชมป์เป็นของ รัฐวิชญ์ รัฐชัยอนันต์ คว้าถ้วยพร้อมสิทธิ์แข่งที่ญี่ปุ่น ไปด้วยสกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 147 (73-74) สำหรับรุ่น Super GENZ (ชาย) ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ตามเป้า สองวันทำไป 3 อันเดอร์พาร์ 141 (70-71) และในรุ่น Super GENZ (หญิง) ต้องดวลกันถึงเพลย์ออฟ ระหว่าง ศศิศรร์ จงศรีอดิศรณ์, เขมมินทรา งามเหลา และเอริสา บิณฑจิตต์ ที่จบรอบสุดท้ายเข้ามาเท่ากันที่ 5 โอเวอร์พาร์ 149 หลังจบการดวลเพลย์ออฟปรากฏว่า ศศิศรร์ ใช้ความนิ่งเซฟพาร์ลง คว้าแชมป์รุ่นนี้ไปครองได้สำเร็จ

สรุปผลการแข่งขันรายการ “ช้าง โอเพ่น 2024” (รอบสุดท้าย)  มีดังนี้

รุ่น Special GENZ (ชาย) ที่ 1 ปุณยวัจน์ จงศรีอดิสรณ์ คว้าแชมป์รุ่นนี้ไปด้วยสกอร์ 6 โอเวอร์พาร์ 150 (76-74) ที่ 2 วินทกร สุวรรณเมือง สกอร์รวม 8 โอเวอร์พาร์ 152 (75-77) ที่ 3 อครชัย สกุลลี้ สกอร์รวม 13 โอเวอร์พาร์ 157 (78-79)  

รุ่น Special GENZ (หญิง)  ที่ 1 เกณิกา บุญประเสริฐ  สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 148 (71-77)  ที่ 2 หทัยรัตน์ คลังเมือง สกอร์รวม 9 โอเวอร์พาร์ 153 (80-73) ที่ 3 ธีรฏา แต้มมาลา สกอร์ 21 โอเวอร์พาร์ 165 (87-78)

รุ่น Super GENZ (ชาย) ที่ 1 ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ สกอร์รวมสองวันที่ 3 อันเดอร์พาร์ 141 (70-71) ที่ 2 พิศิษฐ์ คมกล้า สกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 146 (75-71) ที่ 3 ชัยพัฒนา เจนสายกลาง สกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 147 (72-75)    

รุ่น Super GENZ (หญิง) ที่ 1 ศศิศรร์ จงศรีอดิสรณ์ นักกอล์ฟเยาวชนในโครงการกอล์ฟบางจาก เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ในสนามนี้ ชนะเพลย์ออฟไปด้วยสกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 (75-74)  ที่ 2 เอริสา บิณฑจิตต์ สกอร์ 5 โอเวอร์พาร์ 149 (77-72) ชนะเคาน์แบ๊ค เขมมินทรา งามเหลา ส่วน เขมมินทรา จบที่ 3 สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 (72-77)

รุ่น Junior GENZ (ชาย) ที่ 1 รัฐวิชญ์ รัฐชัยอนันต์ สกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 147 (73-74) ที่ 2 สุรพิชญ์ พิชยเสาวภาคย์ สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 (78-71) ที่ 3 ฐิติวัฒน์ ปิตุรงคพิทักษ์ สกอร์รวม 6 โอเวอร์พาร์ 150 (76-74)

รุ่น Junior GENZ (หญิง) ที่ 1 สุริฏฐ์ปรียา พฤกษานุบาล คว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปตามคาด พร้อมสิทธิ์แข่งที่ญี่ปุ่น จบสกอร์รวมสองวันที่ 6 อันเดอร์พาร์ 138 (68-70) ที่ 2 ณชา สถิตย์สัมพันธ์ สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 148 (73-75)  ที่ 3 ณัทชารีย์ คุณปสุต สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 (75-74)  

รายการต่อไปเป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมรายการที่ 3 “ดิทโต้ แชมเปี้ยนชิพ 2024” ซึ่งเป็นรายการที่มีการเก็บคะแนนสะสมของ World Amateur Ranking แข่งขันระหว่างวันที่ 19-21 เมษายน 2567 ที่แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรี คลับ จ.นครราชสีมา

สำหรับผู้ปกครองและนักกอล์ฟที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Official Line : @genzgolf  หรือโทร. 065 696 2229

‘MAZDA’ คิกออฟ!! MAZDA AJGA THAILAND JUNIOR CHAMPIONSHIP 2024 สานฝันเด็กไทย ก้าวสู่ 'โปรกอล์ฟระดับโลก' ผู้ชนะได้สิทธิตะลุยถิ่นลุงแซม

(21 เม.ย.67) มาสด้าแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ร่วมมือกับ The Agency Recruiter เอเจนซี่ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหาทุนการศึกษาด้านกีฬาให้เยาวชนจากทั่วโลก เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่สนใจกีฬากอล์ฟได้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อก้าวสู่การเป็นโปรกอล์ฟมืออาชีพในอนาคต พร้อมโอกาสในการรับทุนการศึกษาจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นการจุดประกายความฝันครั้งสำคัญของเยาวชนไทยสำหรับการก้าวไปสู่ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟระดับโลก นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นครั้งนี้ อยู่ภายใต้โครงการ ‘MAZDA AJGA THAILAND JUNIOR CHAMPIONSHIP 2024’ จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสและเป็นการจุดประกายให้กับนักกอล์ฟทั้งเยาวชนชายและเยาวชนหญิง ได้มีโอกาสก้าวสู่การเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพมากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่ชนะเลิศจากการแข่งขันในครั้งนี้จะคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันกอล์ฟในทัวร์นาเมนต์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทันที ซึ่งการเดินทางไปเล่นที่สหรัฐอเมริกาจะมีโค้ชจากโรงเรียนชื่อดังและมหาวิทยาลัยชั้นนำมาคอยสังเกตุการณ์ทักษะฝีมือการเล่นของแต่ละบุคคลคน หรืออาจได้รับการเสนอทุนการศึกษาเพื่อปูทางก้าวสู่เส้นทางการเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพในโอกาสต่อไป

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า 
“ถือเป็นการเปิดโอกาสครั้งสำคัญสำหรับเยาวชนไทย ที่ทางมาสด้าได้สิทธิ์จากทัวร์นาเมนต์กอล์ฟเยาวชนชื่อดังระดับโลกมาจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย สำหรับแบรนด์มาสด้าเรามีความเชื่อในคุณค่าของการ uplift ประสบการณ์การใช้ชีวิต มีจิตวิญญาณความเป็นนักสู้ Challenger Spirit ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและกล้าที่จะลุกขึ้นสู้ เสมือนกับการเป็นนักกีฬาที่ต้องมีความขยันอดทน หมั่นฝึกฝนทักษะ มีความมานะอุตสาหะ ต่อสู้กับตนเองและสภาพแวดล้อม เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคตต่อยอดไปจนถึงการเล่นกอล์ฟระดับอาชีพ”

สำหรับกำหนดการจัดการแข่งขัน MAZDA AJGA THAILAND JUNIOR CHAMPIONSHIP 2024 จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 ครั้ง และ 2 สนาม โดยสนามแรกจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2567 ที่สนามกอล์ฟ Lotus Valley Golf Resort จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนักกอล์ฟเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 132 คน ส่วนสนามที่ 2 เตรียมจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 ส่วนสถานที่จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป ซึ่งการคัดเลือกสำหรับสนามที่ 2 ทางมาสด้าและพันธมิตรยังคงได้สิทธิ์ในการจัดการแข่งขัน โดยจะเปิดโอกาสให้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเฉพาะลูกค้าเจ้าของรถยนต์มาสด้าและสมาชิกครอบครัวมาสด้าเท่านั้น ที่มีเยาวชนอายุระหว่าง 12-19 ปี ซึ่งมีความใฝ่ฝันอยากเดินทางสู่การเป็นโปรกอล์ฟ โดยเตรียมจัดการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักกอล์ฟเยาวชนขึ้นในเดือนกันยายน 2567 เพื่อคัดเลือกนักกอล์ฟที่ทำผลงานดีที่สุด จำนวน 24 คน เป็นเยาวชนชาย 12 คน และเยาวชนหญิงอีก 12 คน เข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top