Monday, 21 April 2025
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

สตูล - ตำรวจน้ำจัดโครงการ "จิตอาสาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม" ปรับภูมิทัศน์ - เก็บขยะ - ถุงพลาสติก บริเวณชายทะเล ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 9 มอบหมายให้ ส.รน.3 กก.9 บก.รน. จัดกิจกรรมจิตอาสาฯ กก.๙ บก.รน. ภายใต้การบังคับบัญชาของ ว่าที่ พ.ต.อ.วีรฤทธิ์ ดิษเจริญ ผกก.๙ บก.รน. มอบหมาย พ.ต.ท.ศิโรดม สนุ่นดี สว.ส.รน.๓ กก.๙ บก.รน. จัดชุดจิตอาสาตำรวจน้ำสตูล จัดกิจกรรมจิตอาสาฯโครงการ "จิตอาสาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และโครงการ “จิตอาสาพัฒนา (จราจร)” ปรับปรุงภูมิทัศน์ ขีดสีตีเส้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางจราจร              

พ.ต.ท.ศิโรดม สนุ่นดี สว.ส.รน.3 กก.9 บก.รน. จัดชุดจิตอาสาตำรวจน้ำสตูล ร่วมกับ กอ.รมน.จ.สตูล อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ทหารเรือ และหน่วยงานในพื้นที่ จำนวน 50 นาย ร่วมโครงการ "จิตอาสาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม" ปรับภูมิทัศน์ เก็บขยะ ถุงพลาสติก กล่องโฟม บริเวณชายทะเล แนะนำนักท่องเที่ยวและประชาชนให้ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิด “ร้านปันรักษ์ คาเฟ่” ณ อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

ร้าน “ปันรักษ์ คาเฟ่ (Punrak Cafe)” เป็นร้านกาแฟแห่งความภาคภูมิใจ เริ่มต้นจากเมล็ดกาแฟผลผลิตของนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเบญจมะ 1 บ้านดอยสามหมื่น  อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ 

ซึ่งต่อมาคุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้มีแนวคิดในการพัฒนาอาชีพและผลิตภัณฑ์จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างรายได้ เปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน และยกระดับผลิตภัณฑ์กาแฟจากดอยสามหมื่นตั้งแต่การปลูก เก็บ คั่ว บด จนพร้อมเสิร์ฟในแก้วกาแฟหอมกรุ่น ณ ร้านปันรักษ์ คาเฟ่

ร้าน “ปันรักษ์ คาเฟ่” ให้ความสำคัญกับคุณภาพของกาแฟ และเมนูต่างๆทุกประเภท มีการคัดสรร
เมล็ดกาแฟอาราบิก้าสายพันธุ์ดีที่ปลูกอยู่ในระดับความสูง 1,400-1,600 เมตร ซึ่งจะทำให้เมล็ดกาแฟ
มีสารคาเฟอีนที่มีคุณภาพสูงมาก ไม่ว่าจะนำมารังสรรค์เป็นเมนูไหนๆ ก็หอมชื่นใจ ซึ่งภายในร้านปันรักษ์ คาเฟ่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีเมนูเครื่องดื่มรวมกว่า 30 เมนู เมนูซิกเนเจอร์คือ “ปันรักษ์ไอซ์ลาเต้” และ “ปันรักษ์ไอซ์คอฟฟี่” ในราคา 60 บาท รวมถึงเมนูสุดพิเศษ “หนุมานปันรักษ์” ที่มีจำหน่ายเฉพาะ ร้านปันรักษ์ คาเฟ่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็สามารถสร้างความสดชื่นได้ไม่แพ้กัน ซึ่งนอกจากเครื่องดื่มแล้ว ยังมีสินค้า Farmer market ของที่ระลึก OTOP จากฝีมือครอบครัวตำรวจ เช่น กระเป๋าผ้าปักม้ง ลายขวัญดาว ซึ่งผ่านการออกแบบ และปักมือออกมาเป็นลวดลายในแบบเฉพาะของสมาคมแม่บ้านตำรวจวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน

ทลายโกดังเถื่อน!! แอบอ้างชื่อ ‘คิงพาวเวอร์’ ลวงขายสินค้าไร้คุณภาพ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลางตรวจค้นโกดังสินค้า แอบอ้างชื่อคิงเพาเวอร์ หลอกจำหน่ายสินค้าไม่ได้คุณภาพให้กับประชาชน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CBI) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.

(4 พ.ค.66) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.๒ บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สุทธเสนา สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทปราการ ที่ 277/2566 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ในความผิดตาม “พระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2560 มาตรา 242, 243 และ 246

โกดังเก็บสินค้า ถนนบางนา-ตราด ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากมีประชาชนได้แจ้งแบะแสและได้รับการประสานความร่วมมือจาก บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล King Power ว่ามีการแอบอ้างโดยการปลอมเป็นเพจเฟซบุ๊ก

‘บิ๊กก้อง’ ยัน!! บชก.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง-เชื่อมโยงคดีใดๆ กรณีชุดคอมมานโดบุกค้นบ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ พร้อมอาวุธครบมือ

(26 ก.ย. 66) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท./โฆษก บช.ก. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. และ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. ร่วมแถลงความคืบหน้าคดี ลูกน้องคนสนิทของ กำนันนก ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต

ทั้งนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ได้ตอบถึงกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ถูกตรวจค้นบ้านพัก รวมถึงนายตำรวจใกล้ชิดถูกดำเนินคดีอาจมีส่วนเชื่อมโยงจากคดีกำนันนกหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า คดีนี้ บชก.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในทางใดตั้งแต่เริ่มต้น และไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด หลังจากนี้ก็ยังจะสามารถทำงานร่วมกันได้ไม่มีผลอะไรเปลี่ยนแปลง

ส่วนกรณีภาพบันทึกการตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ปรากฎชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด ลงพื้นที่ปฏิบัติการพร้อมด้วยอาวุธครบมือนั้น แม้หน่วยคอมมานโดจะอยู่ใต้สังกัดของ บชก. ส่วนในทางปฏิบัติก็จะรับงานตรงกับ สตช.สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ ตนพอรับทราบอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ทราบรายละเอียดอะไรเลย

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมดูแลและอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้ การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต. คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ประสานความร่วมมือกับ กรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร  การลดและป้องกันอุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.2567 โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกในเส้นทางหลัก ,เส้นทางรอง โดยเฉพาะในจุดที่มีการจราจรหนาแน่น พิจารณาการเปิดช่องทางเดินรถพิเศษ (Reversible Lane) โดยเปิดช่องทางพิเศษขาออก 9 สายทาง 10 จังหวัด รวมระยะทาง 219 กิโลเมตร ส่วนขากลับเปิดช่องทางพิเศษ 9 สายทาง 14 จังหวัด รวมระยะทาง 238 กิโลเมตร รวมทั้งกำหนดเส้นทางรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ห้ามเดินรถ ซึ่งได้เทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้ ได้เพิ่มทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) รวม 8 เส้นทาง เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด และได้กำชับสถานีตำรวจทางหลวงทั้ง 41 สถานีทั่วประเทศ จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ประสานรถยก รถสไลด์ พร้อมแก้ปัญหาและอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนผู้ใช้ทาง กรณีเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสีย ที่ต้องการความช่วยเหลือ ดำเนินการอย่างรวดเร็วทันท่วงที พร้อมทั้งมีมาตราการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก

ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การขับรถเร็ว ,ขับรถขณะเมาสุรา ฯลฯ หากมีอุบัติเหตุจราจรที่มีคู่กรณี หรือมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกราย และดำเนินคดีให้ครบทุกข้อหา ส่วนผู้ขับขี่ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ให้ขยายผลถึงผู้จำหน่าย ผู้ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร การบริการและประชาสัมพันธ์ เตรียมความพร้อมหน่วยบริการตำรวจทางหลวง จำนวน 205 หน่วย ที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักทั่วประเทศ ให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนเข้าพักและใช้บริการได้  ซึ่งในหน่วยบริการ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องพัก อาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ และมีจุดตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้น โดยได้รับความร่วมมือจาก สถาบันอาชีวะฯ ในพื้นที่ และประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลที่สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 หรือ Facebook ตำรวจทางหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ การดูแลและอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 เป็นไปตามนโยบายของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ต้องการให้พี่น้องประชาชน ได้รับความสะดวกความปลอดภัย ในการเดินทาง และมีความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้ โดย ตำรวจสอบสวนกลาง จะยังคงทำหน้าที่ในการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องต่อไปในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากพบอุบัติเหตุหรือต้องการสอบถามเส้นทาง โทรสายด่วน 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับโรงพยาบาลตำรวจ ร่วมใจจัดโครงการ CIB Love รวมใจบอกรักในหลวง นำโปสการ์ดแจกจ่ายให้บุคลากรของโรงพยาบาลตำรวจ ผู้ป่วย และผู้มาใช้บริการ ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

(18 ก.ค.67) ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ ร่วมใจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดกิจกรรม CIB Love รวมใจบอกรักในหลวง โดย คุณรงรอง ภูริเดช ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง/ภริยา พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธานในพิธี โดย ร.ต.ท.หญิง สายพิณ สมพงษ์ ภริยานายแพทย์ใหญ่  (สบ 8)/กรรมการบริหาร สมาคมแม่บ้านตำรวจระดับผู้บัญชาการ และ พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจให้การต้อนรับ 

โอกาสนี้ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ เพียรเลิศ รอง ผบก.อก.บช.ก พร้อมคณะกรรมการชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกิจกรรมด้วย

โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ เปิดโต๊ะแจกโปสการ์ดให้บุคลากรของโรงพยาบาล ประชาชน ผู้มาใช้บริการ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ จากนั้นประธานชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมคณะเดินไปจุดต่าง 4 จุด คือหอผู้ป่วยข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บ, ห้องผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ, หน่วยเวชระเบียน แผนกการเงิน ศูนย์เวรเปล และ ห้องตรวจกุมารเวชกรรมและหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม แจกโปสการ์ดให้ผู้ที่ไม่สามารถร่วมกิจกรรม ได้ลงนามถวายพระพร ผู้ป่วยบางคนที่ไม่สามารถเขียนได้ ใช้คำพูดให้นางพยาบาลช่วยเขียนแทน โดยเฉพาะเด็กๆร่วมลงนามถวายพระพรจำนวนมาก

ร.ต.ท.หญิง สายพิณ สมพงษ์ ภริยานายแพทย์ใหญ่ (สบ 8)/ กรรมการบริหาร สมาคมแม่บ้านตำรวจระดับผู้บัญชาการ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาประชาสัมพันธ์โครงการนี้ให้กับข้าราชการตำรวจ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ผู้ป่วย และประชาชนที่มาใช้บริการได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่าโรงพยาบาลตำรวจจะเปิดโต๊ะนำโปสการ์ดให้ประชาชน ผู้มารับบริการ และประชาชนทั่วไป ร่วมลงนามถวายพระพร ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร และโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ขออนุญาตเผยแพร่ภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีภาพบุคคลในกิจกรรมดังกล่าว

"ศูนย์กลางข่าวสาร ประสานฉับไว ใส่ใจบริการ เพื่อตำรวจและประชาชน"

‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ นำโปสการ์ดกว่า 7.2 แสนใบ จากปชช. ถวายในหลวง เพื่อแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

(28 ก.ค. 67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จัดกิจกรรม ‘CIB LOVE รวมใจบอกรักในหลวง’ เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษาในปีนี้  เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ผ่านโปสการ์ดพระราชกรณียกิจของพระองค์ โดยตลอดทั้งเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมแสดงความจงรักภักดีผ่านการ์ดอวยพรที่เขียนด้วยลายมือ ส่งความรักถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่าน กิจกรรม ‘CIB LOVE รวมใจบอกรักในหลวง’  ก่อนนำมารวบรวมใส่ไว้ในกล่องที่เต็มไปด้วยความรัก ความเคารพ และคำอวยพรจากประชาชนทั้งประเทศ ก่อนถวายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทย ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567
.
พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือผู้บัญชาการก้อง กล่าวว่า  "ในวันนี้ ผมและพวกเรา ตำรวจสอบสวนกลาง ( CIB) จะขอทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ ในการนำส่งต่อโปสการ์ดที่แสดงความรักความเทิดทูนที่ทุกคนถ่ายทอด เขียนถึงพระองค์ท่าน ถวายแด่ในหลวง  โดยกิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อปวงชนชาวไทย และเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจกับประชาชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความรักต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี และชื่นใจที่มีประชาชนต่างเข้าร่วมกิจกรรม และร่วมบอกรักท่านมากมายขนาดนี้"
.
โดยกิจกรรมหลักในโครงการ CIB LOVE ที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รวบรวมและส่งต่อกล่องดังกล่าวแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ  CIB LOVE Postcard: ที่มีการนำเสนอพระราชกรณียกิจต่างๆของในหลวง , คลิปวิดีโอ ‘CIB LOVE’ : ตำรวจ CIB บอกรักในหลวง รวมทั้ง การเชิญชวนน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ประกวดวาดภาพแสดงความรัก และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในหลวง ในหัวข้อ “สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามพระราชปณิธาน” จาก4 ระดับชั้น ระดับชั้นละ 3 รางวัล ได้แก่ ระดับประถมศึกษา , ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น  , ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนปลาย และระดับอุดมศึกษา ( มหาวิทยาลัย) ชิงทุนการศึกษารวมกว่า 72,000 บาท  
.
โดยในวันงาน พล.ต.ท.จิรภพ หรือ ผู้บัญชาการก้อง ได้มอบเงินรางวัลพร้อมใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ชนะรางวัลประกวดภาพวาดในทุกระดับชั้นด้วยตนเอง พร้อมกล่าวชื่นชมและให้กำลังใจเด็กๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีคุณภาพต่อไป

ชายมาเก๊า วัย 70 ปี ผู้เสียหายกรณี ‘ดิไอคอน’ แจ้งความตำรวจ ปคบ. จ่ายไป!! 2.5 แสน ได้กาแฟมาแค่ 20 ซอง แม่ข่ายบอก ของขาดตลาด

(20 ต.ค. 67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอิทธิเดช ธเนศวัฒนะ ตัวแทนผู้เสียหายชาวต่างชาติพา มิสเตอร์เค (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ผู้เสียหายชาวมาเก๊า เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. กรณีร่วมลงทุนกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป

นายอิทธิเดช เปิดเผยว่า ผู้เสียหายรายนี้คือผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ไปร่วมลงทุนในกลุ่มธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยลงทุนเปิดบิลดีลเลอร์ 2 บิล เป็นจำนวนเงินทั้งหมดประมาณ 250,000 บาท โดยผู้เสียหายรายนี้ได้รับการชักชวนจากผู้เสียหายชาวไทยที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง เชิญชวนว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ได้กำไร

จึงตกลงตัดสินใจร่วมลงทุนและมีโอกาสได้เดินทางมาอบรมการขายออนไลน์ที่ส่วนกลาง ในประเทศไทย ช่วงปลายปี 2566 และได้มีโอกาสเจอกับ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล และได้เจอกับบอสที่เป็นดารา ซึ่งปกติแล้วผู้เสียหายก็รู้จักอยู่บ้างผ่านทางโทรทัศน์

โดยผู้เสียหายรายนี้บอกกับตนว่า หลังจากลงทุนเปิดบิลกับดิไอคอนกรุ๊ปแล้วได้สินค้าไม่ครบ อาทิ กาแฟ ที่ปกติแล้วจะได้ประมาณ 100 ซอง แต่กลับได้เพียง 20 ซอง ซึ่งได้ทักท้วงไปกับแม่ข่ายที่ดูแลผู้ลงทุนแถบทวีปเอเชีย กลับได้คำตอบว่าสินค้าขาดตลาด

จนมาพบข่าวที่ปรากฏขึ้น ก็รู้สึกตกใจจึงได้ประสานกับเพื่อนคนไทยในฮ่องกงเพื่อที่จะเดินทางจากมาเก๊ามาแจ้งความที่ประเทศไทยในวันนี้

นายอิทธิเดช กล่าวอีกว่า ขณะที่ผู้เสียหายตัดสินใจลงทุนกับธุรกิจไอคอนกรุ๊ป ก็มีคนพยายามพูดหว่านล้อมให้หาสมาชิกเพิ่ม แต่ตัวผู้เสียหายรายนี้เองเน้นขายสินค้า เพราะชาวต่างชาติ ทั้งฮ่องกงและมาเก๊ารวมถึงประเทศในแถบเอเชียต้องการอยากจะลองสินค้าของประเทศไทย

ทั้งนี้ในวันพุธที่ 23 ต.ค. นี้ ตนเตรียมที่จะประสานพาผู้เสียหายจากต่างประเทศเดินทางทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มอีก ซึ่งมีทั้งผู้เสียหายชาวไทยและชาวต่างชาติ

‘ทนายรณณรงค์’ เข้าให้ปากคำคดี ‘ทนายตั้ม’ ย้ำ!! ห่างกันนานแล้ว ยัน!! ไม่รู้จัก ‘เจ๊อ้อย’

(16 พ.ย. 67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พนักงานสอบสวนได้เรียก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือ ทนายรณณรงค์ เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับคดีของทนายตั้ม ก่อนเข้าให้ปากคำทนายรณรงค์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ตำรวจสอบสวนกลางเรียกมาสอบพยานคดีทนายตั้ม ยังไม่รู้ว่าจะถามประเด็นอะไรบ้าง แต่น่าจะเป็นคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจจะปมเงินเรื่องของเงิน 71 ล้านด้วย ตนกับทนายตั้มห่างกันแล้ว ตั้งแต่ทนายตั้มเริ่มรวยขึ้น ก็ไม่ได้กินข้าวด้วยกัน ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้าย

นายรณณรงค์ กล่าวว่า ทนายตั้มได้ชวนตนไปบ้าน ชวนไปกินไวน์และกินข้าว แต่ตนยังไม่เคยได้ไป มีการบอกและเล่าให้เพื่อนฟังว่าบ้านที่ซื้อมาราคาเท่าไหร่ และตกแต่งบ้านไปกี่บาท รู้สึกแปลกใจเรื่องราคาบ้าน แต่ไม่เคยถามว่าเอาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อบ้านหลังนี้ เพราะค่าจ้างทนายตั้มมีราคาที่ค่อนข้างแพง

เมื่อถามว่า ผิดปกติกับการทำอาชีพทนายความหรือไม่เพราะร่ำรวยผิดปกติ นายรณณรงค์ ระบุว่า ถึงจะค่าจ้างแพงแต่เงินมันกระโดดไปหน่อย ถ้าทำสำนักงานและมีเรทราคาค่อนข้างสูงและเปิดเป็น10 ปี จะไม่แปลกใจ แต่ถ้าหากเพิ่งเปิดสำนักงานแต่รับเรทขนาดนี้เลย แต่เปิดมาไม่กี่ปีตนก็มองว่ามีความแปลก แต่อยู่ในวิสัยที่ซื้อบ้านได้ในราคานี้ ถ้าหากดูจากค่าจ้างของทนายตั้ม

ถามต่อว่า มีการพูดถึงเรื่องเจ๊อ้อยให้ฟังบ้างหรือไม่ นายรณณรงค์ ย้ำว่า จำไม่ได้ ไม่ได้สำคัญ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักเจ๊อ้อยมาก่อน มารู้จักพร้อมนักข่าว ถ้าหากตำรวจถามเรื่องอะไรก็จะตอบให้หมดเพราะตนเป็นพลเมืองดี ส่วนที่เข้ามาให้ปากคำในวันนี้อาจจะเป็นไทม์ไลน์ที่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงในคดีที่เกิดขึ้นหรือไม่ ทางทนายรณณรงค์ ระบุว่า ต้องเกี่ยวแหละ ไม่งั้นทางตำรวจคงไม่เรียกมา

ไม่ได้กังวลและไม่แปลกใจที่ต้องมาสอบปากคำในวันนี้ แค่แปลกใจว่าทำไมเพื่อนสนิทคนอื่นไม่โดนบ้าง ผมห่างกับทนายตั้มที่สุดแล้ว

เมื่อถามว่าในกลุ่มเพื่อนมีใครคุยกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ว่า ให้ข้อมูลว่าอย่างไร นายรณณรงค์ บอกว่า ไม่มีใครมีข้อมูล และไม่มีใครรับรู้ด้วย ถ้ารู้คงไม่ได้มายืนในจุดนี้

ส่วนจะมีโอกาสเข้าไปเยี่ยมเพื่อนบ้างหรือไม่ นายรณณรงค์ เผยอีกว่า ยังไม่ใช่ช่วงเวลาแบบนี้ รอให้สถานการณ์นิ่ง ไม่มีนักข่าวมาเฝ้า ให้เป็นเรื่องของอนาคต

ทั้งนี้ นายรณณรงค์ เชื่อว่า ตนเชื่อว่าในวันที่ทนายตั้มถูกจับแล้วอ้างว่าไปปฏิบัติธรรมนั้นเป็นความจริง เพราะเวลาที่มีเรื่องทนายตั้มมักชอบไปปฏิบัติธรรม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top