Wednesday, 3 July 2024
กระเป๋าเงินดิจิทัล

‘เศรษฐา’ โชว์นโยบาย ‘กระตุ้นศก. ครั้งใหญ่’ หนุนเงินผ่าน ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ใช้จ่ายร้านค้าใกล้บ้าน

(17 มี.ค.66) ที่อาคารยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นเวทีงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ เปิดตัวนโยบายใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน ณ ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

นายเศรษฐา ได้กล่าวถึงที่ผ่านตนได้เล็งเห็นถึงปัญหาความยากลำบากของประชาชน ได้เห็นปัญหาเศรษฐกิจที่รายได้น้อยลงสวนทางรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ที่สร้างช่องว่างความเหลื่อมในสังคมให้กว้างขึ้น และเห็นถึงปัญหาทางสิทธิที่ประชาชนถูกรัฐกัดกัน โดยเฉพาะสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นประชาธิปไตยของประชาชน

ตนจึงขอฝากให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนที่ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน ได้เป็นตัวแทนประชาชน นำนโยบายของพรรคเพื่อไทยแก้ไขปัญหาความเป็นเป็นให้พี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ การประกาศนโยบายใหม่ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยการสร้าง ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ (Digital Wallet) ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้จับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันใกล้บ้าน พร้อมเงินติดกระเป๋าที่รัฐจะแจกให้ทุกคน แต่เงินดิจิทัลนี้จะใช้จ่ายได้ เฉพาะกับร้านค้าชุมชน และต้องอยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร เท่านั้น เงินดิจิทัลนี้ มีอายุการใช้งาน 6 เดือน และร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารรัฐในภายหลัง นโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนระดับชุมชน เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งตั้งแต่ระดับชุมชนขึ้นไปจนระดับประเทศ

นอกจากนี้ นายเศรษฐายังพูดเสริมถึงแนวทางการต่างประเทศของพรรคเพื่อไทยที่จะเปิดประตูการค้าและสร้างโอกาส ให้คนไทยได้มีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของรัฐบาลในการเป็นผู้เจรจาและเชื่อมสายสัมพันธ์กับนานาประเทศ เรียกความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในเวทีโลกให้กลับคืนมา

ประชาชนจะได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมายท้ังจาก การค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวที่จะเติบโตขึ้นหลายเท่า และดึงดูดเงินจากต่างประเทศให้เข้ามาฝากในเมืองไทย เพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย แล้วพาสปอร์ตไทยจะต้องมีอิทธิพลพาคนไทยเดินทางไปได้ทั่วโลก

‘สมศักดิ์’ นำทีมหาเสียงพี่น้องชาวม้ง จ.ตาก ชู นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ยกระดับคุณภาพชีวิต

(8 เม.ย.66) สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย สุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบาย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หมู่บ้านชิบาโบ ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อพบปะกับพี่น้องชาวม้ง กว่า 300 คน พร้อมเดินเยี่ยมชมวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน พร้อมกับแนะนำ เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดตาก เขต 2 เบอร์ 4 ของพรรคเพื่อไทย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก

สมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมา เนื่องจากอยากมาเยี่ยมพี่น้องชาวม้งนานแล้ว เพราะพี่น้องประชาชนมีประเพณีชนวัว ที่ตนก็ชื่นชอบและเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐ อาจยังไม่เข้าใจ แต่ตนก็พยายามผลักดันกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ เพราะรู้ดีว่า การทำให้วัวมีคุณภาพ มีราคาสูงนั้นมีความสำคัญมาก พรรคเพื่อไทย จึงส่งเสริมเรื่องวัว เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของชุมชน อีกทั้งยังจะส่งเสริมให้การชนวัวถูกกฎหมาย ลดขั้นตอนการขออนุญาตตามกฎหมาย รวมถึงเป็นการสนับสนุนการเลี้ยง การดูแลรักษา ตลอดจนใช้วิชาการเข้ามาส่งเสริมให้วัวมีคุณภาพได้ราคาสูง รวมทั้งจะส่งเสริมการชนวัวเพื่อสร้างราคาวัวชน และวัวพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ให้ได้ราคาดีด้วย

นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเติมเงินในกระเป๋าดิจิทัล คนละ 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน อย่างในหมู่บ้านชิบาโบ มีประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 พันคน เมื่อคูณกับเงินดิจิทัลคนละ 1 หมื่นบาท จะเป็นเงินถึง 10 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่า จะมีเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจในหมู่บ้านนี้ถึง 10 ล้านบาท จะช่วยทำให้พี่น้องประชาชน อยู่ดีกินดีขึ้น รวมถึงพรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายพักหนี้เกษตรกรทั้งต้นและดอก เป็นเวลา 3 ปี พร้อมส่งเสริมที่ดินทำกินแบบถูกกฎหมายด้วย ส่วนเรื่องไฟฟ้า ตนเข้าใจว่า บางพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งการขอไฟฟ้า ก็ต้องใช้เงิน และใช้เวลารอนานหลายปี แต่ถ้าพี่น้องประชาชน มีผู้แทนฯที่ประสานงานกับรัฐบาลได้ การขอไฟฟ้า ก็จะง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลา เพราะเรื่องนี้ สามารถเร่งรัดได้ เนื่องจากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนโดยตรง

'เพื่อไทย' แจง 10 ประเด็น 'กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท' ไม่ใช่สกุลเงินใหม่ ตรวจสอบโปร่งใส ใช้จ่ายได้จริง

(19 เม.ย.66) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ โฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ชี้แจงเพิ่มเติม 10 ประเด็น 'กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท' ดังนี้...

1. กระเป๋าเงินดิจิทัลไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไปในนั้น เพื่อนโยบายการคลังที่ตรงจุด สามารถเอามาแลกเป็นเงินบาทได้ทุกเมื่อ

2. เหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร ไม่มีการถูกทุบ ไม่มีการขาดทุน ไม่มีการสร้างมูลค่า ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้ ไม่มีราคาตก-ราคาขึ้น เพราะทุกเหรียญมีค่าเท่าเงินบาทเสมอ รับประกันโดยรัฐบาล

3. กระเป๋าเงินดิจิทัล ไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้นต่อความมั่นคงของระบบการเงิน ไม่เกี่ยวกับทุนสำรองระหว่างประเทศ เพราะไม่ใช่การสร้างสกุลเงินใหม่

4. กระเป๋าเงินดิจิทัล เงิน 10,000 บาท ลงถึงมือประชาชนทุกคน (16 ปี ขึ้นไป) ทุกบาททุกสตางค์ ใช้จ่ายจริง ซื้อของได้จริง ไม่มีการสูญหายของงบประมาณ ตรวจสอบได้ทุกธุรกรรมตลอดเส้นทาง

5. กระเป๋าเงินดิจิทัล ไม่ใช่กรณีเดียวกับ Bitcoin Luna USDT ตามมีผู้กล่าวอ้าง เหล่านั้นออกโดยเอกชนและมุ่งหมายเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน กระเป๋าเงินดิจิทัลคือเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไป ออกโดยรัฐบาล ไม่ใช่สกุลเงินคู่ขนานกับเงินบาท


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top