Wednesday, 23 April 2025
กระทรวงทรัพย์ฯ

ครั้งแรกในรอบ 19 ปี ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ครั้งที่ 5 กระทรวงทรัพย์ฯ มอบกรมป่าไม้เตรียมความพร้อมมุ่งร่วมมือจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ครั้งแรกในรอบ 19 ปี  พาไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้  ครั้งที่ 5 หรือ MMRF5 ระหว่างวันที่ 23 – 25 ส.ค. 65 ที่จังหวัดเชียงใหม่ มอบกรมป่าไม้ เตรียมความพร้อมจัดยิ่งใหญ่ มุ่งสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค ร่วมบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ในปี 2565 นี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้  ครั้งที่ 5 หรือ The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible for Forestry : MMRF5 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2565 โรงแรมเลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่ โดยถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทยในรอบ 19 ปี และนับจากการจัดประชุมครั้งแรก ใน ปี 2007 ณ นครซิดนีย์เครือรัฐออสเตรเลีย การประชุม MMRF ถือเป็นเวทีการประชุมเพื่อสนับสนุนให้ทุกเขตเศรษฐกิจของเอเปค ให้ความร่วมมือระหว่างกันในด้านวิชาการเทคนิค และกระบวนการด้านการเงิน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจให้เกิดความยั่งยืน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการป่าไม้ในแต่ละเขตเศรษฐกิจ ดังนั้น การมารวมตัวกันของเขตเศรษฐกิจจากทั่วโลก จึงเป็นเวทีที่สำคัญในการที่จะแสวงหาความร่วมมือในการร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อคนรุ่นเราและลูกหลานของเราในอนาคต

“จากการประชุม MMRF5 ที่มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ ของกลุ่มเขตเศรษฐกิจเอเปค เพื่อนำไปสู่การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ดังนั้น สำหรับท่าทีของประเทศไทย โดยกระทรวงทรัพยากร   ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการโดยอ้างอิงจาก Themeการประชุม APEC 2022 THAILAND คือ “OPEN. CONNECT. BALANCE.” และถือโอกาสใช้เวทีแห่งนี้เรียกร้องและกระตุ้นให้สมาชิกเอเปคก้าวข้ามความขัดแย้งหันมาให้ความร่วมมือส่งเสริมและพัฒนา โดยเน้นให้เห็นถึงทางเลือก (Scenario) ใน 3 ทางเลือกหลัก คือ หนึ่ง ทางเลือกโดยการดำเนินการตามธุรกิจปกติ (Business-as-usual) ซึ่งหากพิจารณาตามแนวโน้มในปัจจุบัน ยังคงต้องประสบกับปัญหาที่จำเป็นต้องมีการแก้ไขอีกมาก สอง ทางเลือกแบบท้าทาย (Aspiration) สมาชิกเอเปคทุกเขตเศรษฐกิจร่วมกันกำหนดเป้าหมาย โดยอาศัยหมุดหมายหลักเป็นจุดอ้างอิงให้บรรลุเป้าหมาย เช่น การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ข้อตกลงปารีสด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลงมือปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และสาม ทางเลือกที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง (Disruptive)” นายจตุพรกล่าว

กระทรวงทรัพย์ฯ จัดติวเข้มเจ้าหน้าที่ทุกกระทรวง ขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาฯ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์

ปลัด ทส. “จตุพร บุรุษพัฒน์” เป็นประธานเปิดสัมมนาเพื่อขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ที่กรมป่าไม้จัดขึ้น เชิญเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจาก 20 หน่วยงาน เข้าร่วมสัมมนา มุ่งสร้างความเข้าใจทั้งรายละเอียด แนวทางการขับเคลื่อน สู่ความสำเร็จในการปฏิบัติ  

วันนี้ (2 พ.ค. 66) เวลา 10.00 น. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกทส.) ได้เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา “เพื่อขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติให้เกิดผลสัมฤทธิ์”และ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวรายงาน โดยมีผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านนโยบายและแผนของหน่วยงานผู้รับผิดชอบการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการแห่งชาติ จาก 20 หน่วยงานเข้าร่วม รวม 150 คน ณ ห้องเมจิก 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร พร้อมจัดให้มีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live กรมป่าไม้ หัวข้อสำคัญการประชุมสัมมนาที่กรมป่าไม้จัดขึ้นในครั้งนี้ประกอบด้วย การบรรยาย แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่การปฏิบัติ โดย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรป่าไม้ คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ประธานอนุกรรมการจัดทำร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติและร่างแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ และการอภิปรายการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่การปฏิบัติภายใต้ภารกิจของแต่ละหน่วยงาน  

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การประชุมสัมมนาในวันนี้ จะช่วยให้การขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติเกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อให้ประเทศไทยได้พื้นที่ป่าไม้ที่เหมาะสมกับความสมดุลของระบบนิเวศ  และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนด้วยเป็นกรอบการขับเคลื่อนการป่าไม้ในภาพรวมของประเทศ  แม้ว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ แต่การขับเคลื่อนนโยบายและแผนดังกล่าว ให้เกิดการบริหารจัดการป่าไม้ทั้งระบบ  มีเอกภาพและยั่งยืน เกิดดุลยภาพกับการพัฒนา ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ  จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเชื่อมโยงและบูรณาการ การดำเนินงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  

“การที่กรมป่าไม้จัดประชุมสัมมนาในครั้งนี้ จึงนับเป็นการสร้างโอกาสสำคัญที่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านนโยบายและแผนของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีความเข้าใจที่สอดคล้องตรงกัน ทั้งในส่วนของรายละเอียด และแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่การปฏิบัติ รวมทั้งมีโอกาสร่วมอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนะในประเด็นการดำเนินงานสู่การปฏิบัติภายใต้ภารกิจของแต่ละหน่วยงาน  ตลอดจนสร้างการบูรณาการการดำเนินงาน  เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ ให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย การมีพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศอย่างน้อยในอัตราร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ ประกอบด้วย ป่าอนุรักษ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 และป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละ15 ของพื้นที่ประเทศภายในปี พ.ศ. 2580” นายจตุพร กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top