Wednesday, 3 July 2024
กระทรวงดีอี

‘กระทรวงดีอี’ พร้อม ‘คกก.ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ฯ’ จับมือ ‘การีนา’ ปั้น ‘กางเกงแมวโคราช’ เป็นแฟชั่นไอเทมผ่าน ‘เกม Free Fire’ ผลักดันผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยผงาดในดิจิทัลคอนเทนต์ระดับเวทีโลก

วันที่ 10 มกราคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมงานแถลงข่าวความร่วมมือเพื่อส่งเสริม ‘กางเกงแมวโคราช’ เป็นแฟชั่นไอเทมเกมผ่าน ‘เกม Free Fire’ ซึ่งการีนา ขานรับนโยบายส่งเสริมสินค้าวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยผงาดในเวทีโลกผ่านดิจิทัลคอนเทนต์ โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม , นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ , นายจิรพิสิษฐ์ รุจน์เจริญ ประธาน YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce) หอการค้าจังหวันครราชสีมา พร้อม Sea (ประเทศไทย) และ การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) นำโดยนางสาวมณีรัตน์ นุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) ,  ดร.ศรุด วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย) และนายกฤตย์ พัฒนเตซะ
ผู้อำนวยการอาวุโสประจำประเทศไทย บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่การีนา อีสปอร์ต สตูดิโอ กรุงเทพมหานคร 

นายประเสริฐ กล่าวว่าในนามกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และในนามของคนโคราช มีความยินดีอย่างยิ่ง ในการร่วมประชาสัมพันธ์การส่งเสริมกางเกงแมวโคราช ซึ่งเป็น Cultural Product ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายสู่โลกดิจิทัล เชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการต่อยอดและเผยแพร่ Cultural Product สู่เวทีโลก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย และโดดเด่นทางวัฒนธรรม อันแสดงถึงอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่มีเสน่ห์และเรื่องราวที่น่าสนใจ คนไทยมีความคิดสร้างสรรค์ในการประยุกต์พัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ตามสมัยนิยมและสอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน

นายประเสริฐ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลมีความพร้อมให้การสนับสนุนและผลักดันเพื่อให้เกิดเป็น Soft Power จึงทำให้วันนี้ศักยภาพของประเทศไทย มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการนำเผยแพร่สู่ระดับสากล และแนวทางการส่งเสริมของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คือ สนับสนุนให้เกิดการเผยแพร่ Cultural Product สู่ช่องทางดิจิทัล เพื่อเพิ่มคุณค่า เพิ่มการรับรู้และการเข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายและรวดเร็ว โดยกระทรวงดีอีพร้อมดูแลด้านความมั่นคงและปลอดภัยของข้อมูล การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสามารถนำไปต่อยอดผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นๆ ให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป

“ในโลกสมัยใหม่ที่พึ่งพาเทคโนโลยี การผสานร่วมวัฒนธรรม อัตลักษณ์พื้นถิ่น และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเผยแพร่สินด้าวัฒนธรรม (Cultural Products) ผ่านดิจิทัลคอนเทนท์ จะเพิ่มคุณค่าการรับรู้ และสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์อื่นสู่เวทีโลกให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง” นายประเสริฐ กล่าวย้ำ

สำหรับโครงการนี้ การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นธุรกิจดิจิทัลเอนเตอร์เทนเมนต์ภายใด้กลุ่ม Sea (ประเทศ
ไทย) ได้ร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ , กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , กระทรวงวัฒนธรรม , กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นำ ‘กางเกงแมวโคราช’ สินค้าเอสเอ็มอีไทย ที่ต่อยอดมาจากการประกวดออกแบบลายโคราช โมโนแกรม (KORAT MONOGRAM) เข้าสู่โลกดิจิทัลคอนเทนต์ในฐานะแฟชั่นไอเทมใหม่ล่าสุด ภายในเกม Free Fire เกมแบทเทิลรอยัลระดับโลกจากการีนา ที่เข้าถึงผู้เล่นทั่วโลกกว่า 160 ประเทศ โดยจะเปิดตัวกางเกงแมวภายในเกม Free Fire ในประเทศไทย วันที่ 10 มกราคมนี้ และทยอยเปิดตัวในต่างประเทศภายในปี 2567

'ดีอี - ตำรวจไซเบอร์' ทลายเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมรวบบริษัทบัญชีม้า สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท

10 เมษายน 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
และสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการราชการแทน ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการจับกุม “ปฏิบัติการ Cyber Strike” ใน 2 ปฏิบัติการ 

1. ทลายบริษัทบัญชีม้าที่สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท โดยตำรวจไซเบอร์ได้รับข้อมูลจากระบบแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th ว่าคนร้ายหันมาใช้บัญชีธนาคารในชื่อนิติบุคคลในรูปแบบบริษัท และห้างหุ้นส่วนจำกัด ทำให้เหยื่อหลงเชื่อและเกิดความไว้ใจว่าไม่น่าจะเป็นบัญชีธนาคารของกลุ่มมิจฉาชีพ และได้เข้าตรวจสอบ พบผู้เสียหายจำนวน 153 ราย (เคสไอดี) มีมูลค่าความเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 897,253,861 บาท และมีผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายแล้วนับพันล้านบาท จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องได้จำนวน 19 ราย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ บจก. และ หจก. จำนวน 43 จุดทั่วประเทศ อาทิพื้นที่ กทม. ปทุมธานี สมุทรปราการ อ่างทอง สุพรรณบุรี ราชบุรี ชลบุรี ปราจีนบุรี พิษณุโลก ขอนแก่น เป็นต้น และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 12 ราย พร้อมส่งดำเนินการตามกฎหมายในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยปราการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด

2. ทลายเว็บพนันออนไลน์ huayland.net พร้อมเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี สามารถยึดของกลางและทรัพย์สินมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยได้สืบสวนทราบว่า มีผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเครือข่าย “หวยแลนด์” พบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจำนวน 9 เครือข่าย ได้แก่ 1.jaywii , 2.jaywiiplus , 3.jay1000 , 4.Ih69 , 5.rachahuay , 6.huayland , 7.kerry899 , 8.linetang88 และ 9.huay1plus ซึ่งมีสมาชิกผู้เล่นกว่า 59,000 คน ต่อมาได้มีการขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรวม 29 ราย และกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหายจำนวน 17 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 13 จุด, จ.ชุมพร จำนวน 3 จุด และ จ.กาญจนบุรี จำนวน 1 จุด จากการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นทั้ง 17 จุด สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้รวมทั้งสิ้น 17 ราย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก เช่น เงินสด 47 ล้านบาท อายัดเงินในบัญชีธนาคารกว่า 20 ล้านบาท นาฬิกาหรู (Patek Philippe, Rolex, TAG Huer) จำนวน 6 เรือน โฉนดที่ดิน 26 ชุด รถยนต์ Porsche Cayenne จำนวน 1 คัน เป็นต้น 

“ตามนโยบายของรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้ความสำคัญและเร่งรัดกับการปราบปรามความผิดที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ ที่หลอกลวงเหยื่อในรูปแบบต่างๆ ทำให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก และได้สั่งการให้กระทรวงดีอี  สตช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีผลชัดเจนใน 30 วัน ซึ่งกระทรวงดีอีได้มีการผนึกกำลังหลายภาคส่วน และเร่งดำเนินการการทำงานให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดน ในการดำเนินการขยายผลจับกุมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ ซิมผี บัญชีม้า โดย บช.สอท. ได้แจ้งให้ กระทรวงดีอีดำเนินการปิดเว็บพนันออนไลน์ในช่วงระหว่างวันที่ 1 - 9 เม.ย. 67 จำนวน 7,612 URLs และตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 - 9 เม.ย. 67 กระทรวงดีอีดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย พนัน ไปแล้ว 31,503 URLs เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน ในการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้ง

‘กระทรวงดีอี’ มอบอุปกรณ์ศูนย์ดิจิทัลชุมชน 500 ศูนย์ทั่วประเทศ ภายใต้โครงการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน สร้างสังคมแห่งภูมิปัญญาและแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตกับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

วันที่ 27 มิถุนายน 2567  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบอุปกรณ์ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 500 ศูนย์ทั่วประเทศ ‘โครงการเช่าอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน’ ภายใต้โครงการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน โดยมีนายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยนายธีรวุฒิ ธงภักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , นางอำไพ จิตรแจ่มใส รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนางสาวรัตนา จรูญศักดิ์สิทธิ์ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ตลอดจนผู้บริหารศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 6 แห่ง เข้ารับมอบอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน ณ ห้องประชุม MDES1 ชั้น 9 สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และผู้แทนศูนย์ดิจิทัลชุมชนทั่วประเทศ เข้าร่วมรับมอบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

โดยนายประเสริฐ กล่าวแสดงความยินดีพร้อมย้ำว่ารัฐบาลได้มีนโยบายที่จะนำพาประเทศไทยก้าวสู่ ‘ไทยแลนด์ 4.0’ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจรากฐานของประเทศให้เข้มแข็งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงได้ให้มีประสิทธิภาพสูงครอบคลุมทั่วประเทศ

นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้ดำเนินโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพื่อเป็นการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ที่จัดตั้งอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ผลักดันให้เกิดสังคมแห่งการสร้างภูมิปัญญาและการเรียนรู้ (Knowledge Base Society) เป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของเด็ก เยาวชน และประชาชนในชุมชน สามารถสืบค้นข้อมูล เรียนรู้ได้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และส่งเสริมการค้าขายสินค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน อีกทั้งยังเป็นการขยายการให้บริการอินเทอร์เน็ต ทั้งทางด้านข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีไปสู่ส่วนท้องถิ่น ลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการให้บริการของภาครัฐเพิ่มมากขึ้น โดยมีความมุ่งหวังให้ประเทศไทยมีการพัฒนาไปข้างหน้าพร้อมกันทุกด้าน ทั้งคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดประโยชน์ กับประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืน

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า สดช. ได้จัดให้มี ‘ศูนย์ดิจิทัลชุมชน’ ภายใต้กิจกรรมการเช่าอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน โครงการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ดิจิทัลและบุคลากรสนับสนุน เป็นการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในระดับท้องถิ่น ซึ่งกระจายอยู่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่เข้าถึงและมีความสะดวกในการใช้บริการ เช่น วัด มัสยิด ที่ทำการหมู่บ้าน สหกรณ์ องค์กรปกครองส่งท้องถิ่น โรงเรียน ห้องสมุด ค่ายทหาร เป็นต้น เพื่อลดช่องว่างทางด้านดิจิทัลให้กับชุมชน ประชาชนทุกกลุ่มและทุกพื้นที่ให้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และการเชื่อมโลกที่จะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ สามารถใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษา การสร้างรายได้ การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ในปัจจุบัน กิจกรรมการเช่าอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน กำลังจะสิ้นสุดสัญญา โดย เอสเอ คอนซอเตียม (SA Consortium) ซึ่งเป็นคู่สัญญา ยินดีสนับสนุนอุปกรณ์ตามโครงการฯ ให้แก่หน่วยงานที่เป็นที่ตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 500 แห่ง

นายภุชงค์ กล่าวว่า  โดยในวันนี้ มีผู้บริหารศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 6 แห่ง เข้าร่วมรับมอบอุปกรณ์ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ได้แก่  1) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน มูลนิธิออทิสติกไทย , 2) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน เคหะชุมชนบางชัน , 3) ศูนย์ดิจิทัลชุมชนมัสยิดประเสริฐอิสลาม , 4) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน วัดทองบน , 5) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน วัดกระทุ่มเสือปลา และ  6) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน บางพูนพัฒนา และผู้แทนศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 494 แห่ง เข้าร่วมรับมอบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในชุมชนสามารถใช้บริการศูนย์ดิจิทัลชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถบริหารจัดการศูนย์ดิจิทัลชุมชนได้เองอย่างยั่งยืนต่อไป สำหรับอุปกรณ์ที่ได้มอบให้กับศูนย์ดิจิทัลชุมชน มีจำนวน 24 รายการ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 5,000 เครื่อง ชุดโปรแกรมติดตั้งคอมพิวเตอร์ จำนวน 5,000 เครื่อง เครื่องพิมพ์ Multifunction จำนวน 500 เครื่อง อุปกรณ์กระจายสัญญาณไร้สาย จำนวน 500 เครื่อง โทรทัศน์ LED TV จำนวน 500 เครื่อง กล้องถ่ายรูปดิจิทัล จำนวน 500 เครื่อง กล้อง โทรทัศน์วงจรปิดชนิดเครือข่าย จำนวน 500 เครื่อง และชุดสตูดิโอ จำนวน 500 ชุด เป็นต้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top