Friday, 25 April 2025
WEF

‘แพทองธาร’ นำคณะ!! บินดาวอส ประชุม ‘World Economic Forum’ โชว์!! วิสัยทัศน์รัฐบาล ย้ำ!! ศักยภาพประเทศไทย ขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัล

(19 ม.ค. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ระหว่างวันที่ 20-25 ม.ค. 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส

โดยมีผู้แทนรัฐบาลไทยที่ได้รับเชิญและร่วมคณะ ได้แก่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นางนลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย และนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ

การประชุม WEF AM25 จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 55 ภายใต้หัวข้อหลัก “Collaboration for the Intelligent Age” เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุดในการสนับสนุนการค้าการลงทุน ซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ในบริบทของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันที่สลับซับซ้อนและท้าทาย

โดยนายกฯ จะใช้เวที WEF แสดงวิสัยทัศน์และนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทยที่จะขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และขยายโอกาสของภาคเอกชนไทยในตลาดโลก

เนื่องจากการประชุม WEF นับเป็นเวทีที่มีอิทธิพลสูงมากต่อความตระหนักรู้ของสาธารณชนและสื่อมวลชนชั้นนำระดับโลก ทั้งยังจะมีการพบหารือทวิภาคีกับระหว่างผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ องค์การระหว่างประเทศ และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของโลก โดยเฉพาะจากภูมิภาคยุโรป

ทั้งนี้นายกฯ จะเดินทางจากไทย ในวันที่20 ม.ค.นี้ ถึงท่าอากาศยานนครซูริก สมาพันธรัฐสวิส ในจันทร์ที่ 20 ม.ค. เวลา 14.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ซึ่งเวลาที่นครซูริกช้ากว่ากรุงเทพฯ 6 ชั่วโมง) และจะปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 20-25 ม.ค. 2568 และจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันเสาร์ที่ 25 ม.ค.

'อลงกรณ์-เอฟเคไอไอ.' เปิดเวที 'ก้าวต่อไปไทยแลนด์' เชิญ 'ท็อป-จิรายุส' เจาะลึกเทรนด์ใหม่ปัจจัยเสี่ยงจากการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก(WEF)

รายงานข่าวจากสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII Thailand) เปิดเผยวันนี้ว่า สถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII Thailand) ร่วมกับสถาบันทิวา(TIVA:Transformation Valley Institute) จัดงานเอฟเคไอไอ. ฟอรั่ม ในหัวข้อ “ก้าวต่อไปไทยแลนด์ เทรนด์ใหม่จากสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum 2025)“

โดยมีวิทยากรที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนประเด็นแนวโน้มโลกในมิติเศรษฐกิจการเมืองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยีกับแนวทางการรับมือของประเทศไทย ได้แก่อดีตรัฐมนตรีอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII Thailandและอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ นายชยดิฐ หุตานุวัชร ประธานสถาบันทิวาและนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา (ท็อป-จิรายุส)ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัดจะมาอินไซด์และตีโจทย์สาระสำคัญของการประชุมประจำปี 2025 ของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (World Economic Forum) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

อลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII Thailand)กล่าวว่า ฟอรัมนี้จะอัพเดทเทรนด์ของโลกปี2025ในมิติต่างๆและปัจจัยความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อมกับประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นสงครามภาษีศุลกากร(Tariff War)ที่จะนำไปสู่สงครามการค้ารอบใหม่ สงครามเอไอ(AI War)ที่จะเปลี่ยนโลกแบบดิสรัปรุนแรงเหมือนที่อินเตอร์เน็ตเคยเปลี่ยนโลกมาแล้วพร้อมกับการเกิดสงครามเทคโนโลยีครั้งใหญ่ ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายใหม่ที่มาเร็วและแรง

ภายใต้สถานการณ์ที่ยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามของภาวะโลกร้อนและโลกรวนรวมทั้งปัญหาภูมิเศรษฐศาสตร์ (Geoeconomics) และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์(Geopolitics)
สงครามสู้รบและการเผชิญหน้าในภูมิภาคต่างๆ 

คำถามที่ต้องร่วมกันหาคำตอบคือ ประเทศไทยจะมีทางออกอย่างไรและต้องปรับตัวรับมืออย่างไรทั้งในมุมของภัยคุกคามและโอกาสในวิกฤต  “เราช้าไม่ได้อีกแล้ว กระสุนนัดแรกถูกยิงออกมาแล้ว สัญญาณอันตรายที่WEFกังวลใจอย่างยิ่งคือกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐออกคำสั่งขึ้นภาษีศุลกากรทันทีที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 21 มกราคมที่ผ่านมาโดยหลายประเทศเริ่มตอบโต้สหรัฐเช่น แคนาดา เม็กซิโกและจีน

นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐยังสั่งให้ทีมเศรษฐกิจศึกษาเพื่อวางแผนการเรียกเก็บภาษีต่างตอบแทนหรือแบบตอบโต้ (Reprocical Tariff) กับประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าสหรัฐ โดยการบังคับใช้ภาษีอาจมีผลเร็วที่สุดวันที่ 1 เมษายนนี้ซึ่งประเทศไทยและอาเซียนอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐ มีการคาดการณ์ว่าการค้าที่อิงกับกลุ่มภูมิรัฐศาสตร์อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกได้มากถึง 6.75 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 226 ล้านล้านบาท) นี่คือตัวอย่างของผลกระทบที่ประเทศไทยยากจะหลีกเลี่ยงและยังมีภาษีคาร์บอนหรือCBAMของอียูที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีนี้ย่อมส่งผลต่อการส่งออกของไทยโดยตรง เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องระดมวิสัยทัศน์ความรู้และประสบการณ์ของทุกภาคส่วนมาช่วยประเทศของเรา จึงขอเชิญมาร่วมแสดงความคิดเห็นและมุมมองในการสัมมนาของเอฟเคไอไอ. ในวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 – 13.00 น. ณ TVA Hall สวนเสียงไผ่ ทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพมหานคร“

สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด
ที่ LineOA FKII Thailand: https://lin.ee/BgPCPvd
ติดต่อสอบถาม คุณวรวุฒิ 091-1805459
ติดตาม FKII Thailand
Facebook : www.facebook.com/FKIIThailand
Youtube : www.youtube.com/@FKIITHAILAND
TikTok : www.tiktok.com/@fkiithailand
X : https://x.com/FKIITHAILAND
LineOA : https://lin.ee/BgPCPvd
Line Voom : https://shorturl.at/FdqZs


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top