Tuesday, 10 June 2025
WeekendNews

รอง ผบ.ตร.เตือนภัยอาชญากรรมทางออนไลน์ ช่วงหยุดยาวเข้าพรรษา 17 รูปแบบ หวั่นอาชญากรใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงหลอกลวงประชาชนตกเป็นเหยื่อ

วันนี้ 17 กรกฎาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เปิดเผยว่า ภายหลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และผู้ว่าฯ นครราชสีมา ได้ส่งต่อข้อความผ่านกลุ่มไลน์สื่อและช่องทางอื่นๆ เพื่อประชาสัมพันธ์หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพปลอมไลน์ส่วนตัว และติดต่อขอยืมเงินกับบุคคลใกล้ชิด พร้อมแจ้งความร้องทุกข์ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้นั้น

สำหรับเรื่องการปลอมหรือแฮ็ก Line หรือ Facebook ไปหลอกยืมเงินนั้น แนะนำว่าหากมีใครทักมายืมเงินควรโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลกลับไปสอบถามก่อนว่าใช่เจ้าตัวจริงหรือไม่ แต่หากมิจฉาชีพอ้างว่าติดประชุมหรือธุระสำคัญอยู่ก็ควรรอให้เสร็จธุระ หรือขอให้เขาโทรกลับมาก่อน คงไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องรีบโอนขนาดนั้น 

ก้าวไกลปล่อยโปสเตอร์ชวนประชาชนร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใบ้หัวข้อแซ่บเพียบ งานนี้สงสัย 'เผาจริง'!

เฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล เผยแพร่โปสเตอร์เชิญชวนประชาชนร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในธีม “ตอกตะปูปิดตาย ทลายระบอบประยุทธ์” โดยโปสเตอร์ถูกออกแบบให้คล้ายคลึงกับการ์ดเชิญงานศพ และมีการบอกใบ้หัวข้ออภิปรายที่น่าสนใจหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจจับระเบิด GT-200 ซึ่งเคยมีคดีทุจริตตลอดหลายปีผ่านมา คดีทุจริตอนุสาวรีย์ การอภิปราย “นักรบไซเบอร์” ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นภาคต่อของการอภิปรายปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของกองทัพ ซึ่งพรรคทำมาตั้งแต่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังยืนยันว่ามีหัวข้อการอภิปราย “บิ๊กเซอร์ไพรซ์” ที่จะอภิปรายโดยรังสิมันต์ โรม แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องใด ซึ่งที่ผ่านมา รังสิมันต์เปิดประเด็นที่แหลมคมและเป็นไฮไลท์ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง

'ธัญวัจน์’ ชี้ เรียกร้อง ‘สมรสเท่าเทียม’ ในยูเครนคือการเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ผลักดันร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเข้าสู่สภา กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดจากภาวะสงครามของยูเครนและรัสเซีย กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศได้ขับเคลื่อนรวบรวมรายชื่อ 28,000 คน ถึงรัฐสภายูเครนและประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ให้พิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อยอมรับบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศยูเครนที่มีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้มาแล้ว 9 ปี นับจากหมุดหมายสำคัญในการจัดงาน #PrideMonth ในปี 2013 จนนำมาสู่มีร่างกฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติเมื่อปี 2015 แต่อย่างไรก็ดีกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศยังไม่สามารถทำได้

“การไม่มีกฎหมายรองรับสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวนั้นไม่ได้หมายความว่ากลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไม่ประสบปัญหา เพราะการที่อยู่ด้วยกันไม่มีกฎหมายประกันสิทธิใด ๆ และยิ่งในภาวะสงครามที่มีการสูญเสีย การพลัดพราก ที่ไม่ต่างจากเพศชายหญิงทั่วไป ส่งผลกระทบทางตรงเมื่อพวกเขาไม่มีกฎหมายรับรองและประกันสิทธิ์ในฐานะคู่สมรส”  

ธัญวัจน์ ยังระบุอีกว่า การเรียกร้องของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในยูเครน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเรียกคืนสิทธิ์ที่ถูกพรากไป แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่ทำให้โลกเราเห็นภาพใหญ่คือ “สงคราม” หรือ “สันติภาพ” ด้วย เพราะสมรสเท่าเทียมคือสัญลักษณ์ของความรักและสันติภาพ 

“เราทุกคนล้วนแล้วแต่อยากที่อยู่ใกล้กับคนที่เรารัก อยากดูแลกัน แบ่งปันกัน สร้างครอบครัวด้วยกัน ในขณะที่สงครามนั้นเกิดจากความเกลียดชังและบ้าคลั่งในอำนาจ ต้องการชัยชนะ แม้จะยืนอยู่บนความพ่ายแพ้ของผู้อื่น เราทุกคนไม่ได้อะไรจากสงครามและความเกลียดชัง”

'นายกฯ' ห่วงใยเด็ก-เยาวชน สั่งตำรวจ-ดีอีเอส ปราบปรามสื่อลามก

(17 ก.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใย กรณีปรากฏเป็นข่าวการจำหน่ายคลิปลามกอนาจารแพร่หลายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน ที่สามารถเข้าถึงโดยง่าย จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฯลฯ ให้เข้มงวดกวดขัน การเผยแพร่สื่อที่ไม่เหมาะสมในโลกออนไลน์ ส่งผลเสียต่อเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นวัยสำหรับการเรียนรู้ โดยขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ต่อกรณีพบการกระทำความผิด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแล ให้คำแนะนำบุตรหลานในการใช้สื่อออนไลน์อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเชื่อว่าสถาบันครอบครัวจะมีส่วนสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชน ป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร เช่นเดียวกับโรงเรียน ต้องช่วยให้เด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้เท่าทันสื่อในโลกออนไลน์ เพื่อใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ให้ได้มากที่สุด พร้อมกับรู้ทันพิษภัยของการเสพสื่อในทางที่ผิด

น.ส.ไตรศุลี ย้ำเตือนว่า การขายคลิปลามกอนาจารมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยกรณีสื่อลามก อายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป เพื่อการค้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

'ดีอีเอส' แนะ 3 ช่องทางช่วยประชาชน หากถูกแอบอ้างชื่อไปสร้างโซเชียลปลอม 

กระทรวงดิจิทัลฯ แนะประชาชน-คนดัง พบถูกแอบอ้างชื่อ/รูปภาพไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอม รีบแจ้งด่วนผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ กดรายงานไปที่เจ้าของแพลตฟอร์ม แจ้งผ่านโทร. 1212 และแจ้งความได้ทั้งเว็บไซต์แจ้งความออนไลน์/ตำรวจ ยืนยันดีอีเอส พร้อมประสานทุกภาคส่วนเร่งปิดบัญชีปลอม และติดตามผู้กระทำผิดเข้ามาดำเนินคดี  

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ที่ผ่านมายังพบแนวโน้มปัญหามิจฉาชีพแอบอ้างนำชื่อและรูปภาพคนอื่น ไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอมทั้งเฟซบุ๊ก เพจปลอม ไลน์ปลอม และ IG เพื่อนำไปหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง เสียชื่อเสียง โดยเฉพาะยิ่งถ้าผู้ที่ถูกแอบอ้างชื่อและโปรไฟล์เป็นดารา หรือคนมีชื่อเสียง ความเสียหายก็จะยิ่งขยายวงกว้าง เนื่องจากมักมีแฟนคลับหรือผู้ติดตามจำนวนมาก โอกาสที่จะมีเหยี่อหลงเชื่อก็ยิ่งเพิ่มจำนวนเช่นกัน ขณะที่เจ้าตัวก็เสี่ยงต่อการสูญเสียชื่อเสียง

สำหรับรูปแบบการหลอกลวงที่พบบ่อยจากบัญชีโซเชียลสวมรอยเหล่านี้ ได้แก่ หลอกยืมเงิน หลอกขายของ หลอกลงทุน หลอกร่วมทุน โดยเหยื่อที่หลงเชื่อจะสูญเงินโดยไม่ได้รับสินค้าหรือผลตอบแทนใดๆ นอกจากนี้ ยังมีการหลอกลวงที่เป็น Romance Scam หรือหลอกให้หลงรักและสูบเงินเหยื่อผ่านทางออนไลน์ ขณะที่ บางกรณีจะเป็นการแอบอ้างตัวตนคนดัง สร้างเฟซบุ๊กปลอมเพื่อใช้เป็นพื้นที่โพสต์เนื้อหา หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อหมิ่นประมาทผู้อื่น เป็นต้น 

นางสาว นพวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้เสียหายซึ่งถูกแอบอ้างชื่อไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอม เข้าถึงช่องทางความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เพื่อเร่งยุติการขยายวงของความเสียหาย เร่งประสานงานเพื่อปิดบัญชีปลอม และติดตามมิจฉาชีพมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ ขอให้ผู้ที่ถูกแอบอ้างตั้งสติ และดำเนินการผ่าน 3 ช่องทางดังต่อไปนี้ประกอบกัน เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการประสานการปิดบัญชีโซเชียลที่แอบอ้าง ได้แก่ 

1.) แจ้งรายงานไปที่แพลตฟอร์มโซเชียล โดยการ report ไปยังเว็บไซต์ผู้ให้บริการ Social Network ที่ถูกแอบอ้าง ซึ่งทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และ IG มีเมนูให้รายงานบัญชีปลอมโดยตรงอยู่แล้ว จากนั้นรอขั้นตอนการตรวจสอบของทางแพลตฟอร์ม

2.) ช่องทางของกระทรวงดิจิทัลฯ ที่สายด่วน โทร.1212 OCC ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ในสังกัดดีอีเอส + ช่องทางอื่นๆ ภายใต้การดูแลของกระทรวงฯ 

และ 3.) แจ้งตำรวจ ทั้งการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) โดยให้รวบรวมหลักฐานไว้ เช่น capture จับภาพหน้าจอสนทนา หรือหน้ารูป Profile ที่ถูกปลอมขึ้นมา 

'เฉลิมชัย' รุกลึกทุกตำบลทั่วประเทศ เร่งขับเคลื่อนโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรแพลตฟอร์มใหม่เป็นครั้งแรกของประเทศ

'อลงกรณ์' เผยความคืบหน้าตั้งกลไกใหม่ครบ 7 พันตำบลเดือนหน้าเพื่อสร้างศักยภาพใหม่ภาคเกษตรของไทย

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเปิดเผยวันนี้ว่า กระทรวงเกษตรฯ และทุกภาคีภาคส่วนกำลังเร่งขับเคลื่อนโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากทุกจังหวัดเป็นกลยุทธ์ใหม่ในการพัฒนาเชิงพื้นที่ครอบคลุมลึกลงไปใน 70,000 หมู่บ้าน 7 พันตำบล 878 อำเภอรวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วยแนวทางการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนโดยตนได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาการเกษตรระดับจังหวัดและคณะกรรมการพัฒนาการเกษตรระดับอำเภอ 878 อำเภอ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาภาคการเกษตรของไทยโดยเฉพาะปัญหาความยากจน หนี้สินและความเหลื่อมล้ำ นอกจากนี้ได้สั่งการให้เร่งจัดตั้งกลไกพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบลหมู่บ้านให้เสร็จโดยเร็ว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเกษตรกรรมยั่งยืนกล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบลคาดว่าจะครบ 7,435 พันตำบล ภายในเดือนหน้าซึ่งเป็นการผนึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับทุกภาคีภาคส่วนในแต่ละตำบลโดยเฉพาะ กระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นกลไกการพัฒนาภาคเกษตรอย่างยั่งยืน 

“นับเป็นครั้งแรกที่มีโครงสร้างและระบบการพัฒนาภาคเกษตรที่หยั่งลึกลงถึงตำบลหมู่บ้านชุมชนใน 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานครเพื่อดึงพลังชุมชน (Community Empowerment) ออกมารวมพลังการแก้ไขปัญหาในอดีตและปัจจุบันรวมทั้งการพัฒนาสู่อนาคตที่ดีขึ้น ซึ่งมีปลัดอำเภอ เกษตรตำบล อบต. และอาสาสมัครเกษตร (อกษ.) เป็นแกนหลักร่วมกับตัวแทนภาคเอกชนภาควิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิในหมู่บ้านตำบลเชื่อมโยงกับคณะกรรมการพัฒนาการเกษตรระดับอำเภอระดับจังหวัดและศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมหรือศูนย์ AIC แต่ละจังหวัดโดยมีหน้าที่จัดทำและขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรแบบยั่งยืนภายใต้แพลตฟอร์มการพัฒนาหลากหลายรูปแบบ

 

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ ที่ 24 กรกฎาคม 2565 : พระพยอม กลฺยาโณ

ชีวิตยังไงก็ต้องเจอ 
กับคำว่า ‘วิกฤต’
ดังนั้นต้องหัดเรียนรู้และเข้าใจ
ว่าในทุกวิกฤต
ย่อมมีโอกาสเสมอ
เราต้องผ่านไป...
ด้วยความชาญฉลาด
และสติปัญญา...

พระพยอม กลฺยาโณ

หล่อไม่สร่าง!! 'เก่ง-แซม-หนุ่ม-กบ-วิลลี่' 5 นักแสดงรุ่นเก๋ากับความหล่อระดับตำนาน

โอ้ยย...พ่อคุณ คิดว่าบอยแบนด์นัดซ้อมเต้นเตรียมขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ แต่ที่แท้เป็นแค่กองถ่ายละคร ที่นักแสดงรุ่นเก๋ามาประชันบทบาทกันในละครเรื่อง 'ฟ้าทานตะวัน' รุ่นใหญ่เขาเรียงแถวกันมาขนาดนี้เลยนะ!!

ละครน่าติดตามสุดๆ!! 

มาไล่เรียงอายุให้ชัดๆ กันนะ

>> เก่ง ชาติชาย อายุ 49 ปี
>> แซม ยุรนันท์ อายุ 60 ปี
>> หนุ่ม คงกระพัน อายุ 49 ปี
>> กบ ทรงสิทธิ์ อายุ 55 ปี
>> วิลลี่ แมคอินทอช อายุ 52 ปี

'กลุ่มประชาสังคมฯ' ร้อง 'ประธานสภา'  จัดการ 'จิราพร' อภิปรายเหมืองทองคำบิดเบือน

กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ บุก สภา ร้อง 'ชวน' ตรวจสอบจริยธรรม-ชงป.ป.ช.ฟัน 'จิราพร' พูดบิดเบือนข้อเท็จจริงในศึกซักฟอก ยันไทยยังไม่ได้รับความเสียหาย 'ประยุทธ์' ใช้ ม.44 ปิดเหมืองเป็นอำนาจโดยชอบของรัฐบาลไทย

วานนี้ (22 ก.ค. 65) ที่รัฐสภา กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ นำโดย นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ รองประธานกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอให้สอบสวนจริยธรรม น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) จากพฤติการณ์อภิปรายกรณีเรื่องเหมืองแร่ทองคำโดยไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในสภา เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยนางวันเพ็ญ กล่าวว่า กลุ่มของตนเป็นกลุ่มประชาชนผู้ร้องในคดีเหมืองทองคำต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ดำเนินการสอบสวนกรณีบริษัทประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำโดยมิชอบด้วยกฎหมายในหลายกรณี ซึ่งคดีดังกล่าวนี้ บางส่วนก็มีการชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐและมีการสั่งฟ้องไปยังศาลแล้ว บางคดีก็อยู่ระหว่างการสั่งฟ้องไปยังอัยการ และบางส่วนก็อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งรวมทุกประเด็นแล้วมีมากกว่า 40 ประเด็น

นางวันเพ็ญ กล่าวว่า การที่ประเทศไทยยุติการทำเหมืองแร่ทองคำของ บริษัทอัครารีซอสเซส จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2559 โดย การใช้มาตรา 44 ตามคำสั่งที่ 72/2559 ประกอบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นอำนาจโดยชอบของรัฐบาลไทยซึ่งให้สัมปทานเมื่อรัฐบาลเห็นว่าประชาชนร้องเรียนเรื่องผลกระทบ จึงใช้อำนาจโดยการระงับไม่ต่อใบอนุญาตเหมืองแร่ทองคำและโรงงานโลหะกรรมที่สิ้นอายุลงตามปรกติ เอาไว้เพื่อตรวจสอบ จนนำไปสู่การตรวจสอบตามข้อร้องเรียนพบว่าบริษัททำผิดกฎหมายหลายกรณี ซึ่งกรณีที่ว่านี้แม้ว่าประเทศไทยจะถูกดึงเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ แต่การต่อสู้ในชั้นนี้ ประเทศไทยมีจุดแข็งในการต่อสู้เนื่องจากขณะที่ใช้มาตรา 44 ประเทศไทยยังมีพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) แร่ พ.ศ. 2510 ซึ่งมีมาตรา 9 ตรี กับ 9 ทวิ คุ้มครองไว้ จึงทำให้ประเทศไทยนั้นไม่เสียเปรียบทางด้านกฎหมาย เพราะว่ากฎหมายได้คุ้มครองไว้ว่าไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้บริษัทเอกชน

คืบหน้า!! 'ไทยสมายล์บัส' เริ่มปล่อยรถเมล์อีวีลงถนนกทม.บ้างแล้ว ยัน!! อีก 77 เส้นทาง มีรถเพียงพอ พร้อมบริการปชช. เร็วๆ นี้

ผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก เยี่ยมชมกิจการโรงงานผลิตและประกอบรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด พร้อมมั่นใจรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า จะเพียงพอต่อความต้องการ เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ที่บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วยนายปิยะ โยมา ผู้อำนวยการสำนักการขนส่งผู้โดยสาร คณะผู้บริหารและขนส่งจังหวัด เยี่ยมชมสายการผลิตและประกอบรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า โดยฝีมือของคนไทยที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ภายในรถโดยสารฯ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนทุกเพศทุกวัย 

อาทิ ทางขึ้นวีลแชร์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ รวมทั้งระบบตั๋วที่มีเทคโนโลยีเชื่อมโยงกับขนส่งสาธารณะอื่นๆ ยกระดับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย 

ซึ่งขณะนี้รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด มีการใช้งานในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว และมีแผนดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่อง พร้อมมั่นใจว่าอีก 77 เส้นทาง จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในเร็วๆ นี้แน่นอน ซึ่งตอบโจทย์นโยบายของกรมการขนส่งทางบกในการส่งเสริมการใช้รถพลังงานสะอาด ช่วยลดมลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน

จากนั้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมคณะฯ เยี่ยมชมกิจการของบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ที่อำเภอบางปะกง เป็นโรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนแห่งแรกที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเตรียมแผนขยายกำลังการผลิตสู่ 50 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีตามแผนในอนาคต สู่ผู้นำด้านนวัตกรรมแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดของไทยและอาเซียน ที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบสำรองไฟฟ้าได้เองครบทุกกระบวนการ โดยมีคุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด คุณคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานผู้บริหารบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) และคุณชาญยุทธ ฉายาวัฒนะ ผู้บริหารบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top