สหรัฐสั่งปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ หลังยูเครนยิงขีปนาวุธอเมริกันใส่รัสเซีย
(21 พ.ย. 67) สหรัฐอเมริกาสั่งปิดสถานทูตอเมริกันในกรุงเคียฟ เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (20 พ.ย.67) นี้ หลังกองทัพยูเครนใช้ขีปนาวุธของอเมริกันโจมตีรัสเซีย หวั่นเป็นเป้าหมายการโจมตีกลับจากฝ่ายรัสเซีย
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งกล่าวว่า ทางสถานทูตในกรุงเคียฟจำเป็นต้องปิดทำการ (ชั่วคราว) เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีทางอากาศจากรัสเซีย ด้านกรีซ สเปน และ อิตาลี ก็ได้สั่งให้ปิดสถานทูตของตนเช่นกัน ส่วนสถานทูตฝรั่งเศสยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ได้ออกประกาศเตือนภัยพลเมืองฝรั่งเศสในยูเครนถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจยกระดับกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ได้
ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ได้ถูกยกระดับขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ออกคำสั่งทิ้งทวนก่อนลาตำแหน่ง อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธระยะไกลของอเมริกันโจมตีเข้าไปในพรมแดนรัสเซียได้
โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการตอบโต้ที่ รัสเซียได้ขอกองกำลังเสริมจากเกาหลีเหนือกว่า 10,000 นายเข้าไปช่วยรบในยูเครน อีกทั้งยังเป็นการครบรอบ 1,000 วัน สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่เห็นหนทางยุติ ด้านกองทัพยูเครนก็ไม่รอช้า จัดการยิงขีปนาวุธ ATACMS 6 ลูกข้ามฝั่งไปยังแคว้นเบรียนสค์ ชายแดนทางภาคตะวันตกของรัสเซียในทันที
ด้านโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน กล่าวว่า เมื่อเรามีประเทศเพื่อนบ้านที่บ้าคลั่ง ก็ต้องคุยกันด้วยขีปนาวุธเท่านั้น
แต่หลังจากที่กองทัพยูเครนใช้ขีปนาวุธของสหรัฐ โจมตีดินแดนรัสเซียแล้ว โฆษกประจำตัว วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียก็ได้ออกมากล่าวว่าสหรัฐอเมริกากำลังราดน้ำมันลงในเปลวไฟ ซึ่งรัสเซียก็พร้อมที่จะตอบโต้ด้วยกำลังเช่นกัน
จึงทำให้ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาในกรุงเคียฟ มีแต่สัญญาณเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังสนั่น และข่าวลือเรื่องการใช้ขีปนาวุธร้ายแรงของรัสเซียแพร่สะพัดไปทั่วโลกโซเชียลในยูเครน
ประกอบกับคำสั่งปิดสถานทูตอเมริกันในกรุงเคียฟในวันนี้ ยิ่งสร้างความหวั่นวิตกว่า สงครามขีปนาวุธระหว่างรัสเซีย-ยูเครนมาแน่ แม้ว่าทางการสหรัฐฯ จะยืนยันว่าเป็นเพียงการปิดทำการชั่วคราว ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเปิดได้ตามปกติภายในสัปดาห์นี้ก็ตาม
