‘คำผกา’ ทวีตข้อความแซะ!! ‘จอห์น วิญญู’ อวย!! ‘สส.เกาหลี’ แขวะ!! ‘สส.ไทย’
เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค. 67) คำ ผกา หรือ แขก พิธีกรชื่อดัง ทวีตข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X (ทวิตเตอร์) @kamphaka ระบุว่า...
อยากเห็นจอนลงถนนไม่ไหว พรุ่งนี้นำเลยนะ

เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค. 67) คำ ผกา หรือ แขก พิธีกรชื่อดัง ทวีตข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X (ทวิตเตอร์) @kamphaka ระบุว่า...
อยากเห็นจอนลงถนนไม่ไหว พรุ่งนี้นำเลยนะ
เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค. 67) นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า …
ใน tiktok มีคนนำข้อมูลส่วนตัวผม และ คลิปข่าวของผมไปลง โดยแอบอ้างว่าเป็นทนายเกิดผล ผมไม่ได้เป็นคนสร้าง ติ๊กต๊อก ช่องนี้ หากมีการแอบอ้างว่าเป็นผม และมีคนเสียหาย สามารถดำเนินคดีได้ และ ผมเป็นยินดีเป็นพยานให้ครับ รบกวน เพื่อนๆ ช่วยกดรายงาน ด้วยนะครับ
นอกจากนี้ได้แคปภาพช่อง TikTok ดังกล่าว พร้อมระบุข้อความอีกว่า …
บุคคลนี้แอบอ้างว่าเป็นผม และผมจะดำเนินคดีกับคนที่แอบอ้าง ฝากเพื่อนๆ ช่วยกดรายงานด้วยนะครับ
(5 ธ.ค. 67) นายวิทิตนันท์ โรจนพานิช หรือ ‘หนึ่ง’ คนไทยคนแรกที่ปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และในวันที่ 5 ธันวาคม ของปีนี้ เขาก็มีความตั้งใจ ที่จะขึ้นไปร้องเพลง ‘สรรเสริญพระบารมี’ ให้ทั่วโลกได้รับฟัง
เพจเฟซบุ๊ก ‘Vitidnan Rojanapanich’ ได้โพสต์คลิป ที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี ที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของคนไทยทั้งชาติ
“รอบนี้ 6,141 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ผมร้องเพลงไม่ไหว หมดแรงเพราะความยากและความเสื่อมถอยของร่างกาย ขอลงมาที่ระดับ 5,500 เมตร”
“เตี้ยกว่าแต่…สะท้อนความรักเท่าเดิมและจะไม่เปลี่ยนแปลง”
ทรงพระเจริญ!!
(5 ธ.ค. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรมว.อุตสาหกรรม และนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรมช.พาณิชย์ ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค. 67) สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. จับมือกับสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย หรือ EVAT จัดงานเสวนาในหัวข้อ ‘เช็คลิสต์ความพร้อม การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า’ ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงานมหกรรมยานยนต์ ซึ่งในงานนี้ได้รับเกียรติจากคุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 เข้าร่วมในฐานะของประธานในพิธี และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสมาชิกของสมาคม และบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมรับฟัง ณ ห้องจูปิเตอร์ 4-5 อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า หรือ BEV ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจจากคนไทยอย่างต่อเนื่องนับจากที่มีบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามานำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ กันอย่างต่อเนื่องในตลาดเมืองไทยนับจากปี 2022 และทางสมาคมฯ เองได้เล็งเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ดังนั้น ในปี 2023 จึงได้ขยายการจัดงานรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ Thailand Car Of The Year เพื่อรองรับกับทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการมอบทั้งรางวัลสำหรับรถยนต์สันดาปภายใน/ไฮบริดสำหรับรางวัล Thailand Car Of The Year และได้เพิ่มอีกประเภทคือ รางวัล Thailand EV Of The Year สำหรับรถยนต์พลังไฟฟ้าที่เข้าเกณฑ์การคัดเลือกของทางสมาคมฯ
“สมาคมฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการให้ความรู้ แก่ผู้ใช้รถยนต์ในยุคที่กำลังมุ่งหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงในการใช้พลังงานสะอาด จึงผสานความร่วมมือกับสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ในการจัดเสวนาให้ความรู้ในครั้งนี้” นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) กล่าว
รถยนต์ไฟฟ้ากำลังถูกพัฒนาเข้ามา เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในตลาด นอกเหนือจากรถยนต์สันดาปภายใน และอาจจะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาทดแทน เนื่องด้วยเหตุผลในเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เห็นได้จากตลาดรถยนต์ไทยในปัจจุบันที่มีอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้เป็นโอกาสอันดี สมาคมฯ ได้จัดงานเสวนาให้ความรู้ด้านต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ในหัวข้อ ‘เช็คลิสต์ความพร้อม การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า’ เพื่อสื่อสารองค์ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าไปยังผู้บริโภค โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านยานยนต์ไฟฟ้า มาเป็นผู้บรรยายให้ความกระจ่าง แก่สังคม เพื่อเตรียมพร้อมที่จะปรับตัว นำไปใช้งานยานยนต์ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ในโอกาสข้างหน้าต่อไป
สำหรับวิทยากรในการเสวนาครั้งนี้ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคมของทั้งผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
ซึ่งในช่วงแรกเป็นการให้ข้อมูลในแง่ภาพรวมของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยโดยคุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ซึ่งในปัจจุบัน ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลกช่วงไตรมาส 4 ของปี 2024 อยู่ที่ 12.60% ซึ่งมากกว่าประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ ส่วนในตลาดอาเซียน ไทยถือเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์พลังไฟฟ้า โดยในปี 2023 ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดถึง 78.70% เลยทีเดียว
ส่วนตลาดปี 2024 จากยอดจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึง 31 ตุลาคม รถยนต์ไฟฟ้ามียอดจดทะเบียนรวม 82,218 คัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์นั่งโดยสารซึ่งมีตัวเลขถึง 59,759 คัน แต่แม้ว่าจะมีการขยายตัวของตลาด แต่ในแง่ของระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อรองรับกับการใช้งาน เช่น แท่นชาร์จสาธารณะยังเป็นเรื่องที่จะต้องมีการขยายตัวตามไปด้วย เพราะในปัจจุบัน ประเทศไทยมีอัตราส่วนรถยนต์ไฟฟ้าต่อแท่นชาร์จสาธารณะอยู่ที่ 26 คันต่อ 1 หัวชาร์จ ซึ่งยังถือว่าน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศจีนที่มีอัตราส่วนอยู่ที่ 5.5 คันต่อ 1 หัวชาร์จ
ส่วนเรื่องของระบบการชาร์จเป็นการให้ข้อมูลโดยคุณอภิสิทธิ์ ณัฐวรวโรตม์ สถาปนิกระดับ 8 ทีมพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT ซึ่งดูแลในส่วนการพัฒนาแอปพลิเคชัน EleXa แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับชุมชน EV เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของการเดินทางในอนาคต โดยเน้นไปที่เรื่องของการทำ Roaming ในเรื่องบริการของผู้ให้บริการแท่นชาร์จจากบริษัทต่างๆ ให้มารวมอยู่ในแพลตฟอร์มของ EleXa เพื่อลดจำนวนการติดตั้งแอปพลิเคชันจำนวนมากบนสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้กับเจ้าของรถยนต์ BEV ได้เป็นอย่างดี
ในช่วงท้ายของการเสวนาเป็นการถาม-ตอบในหัวข้อ ‘เช็คลิสต์ความพร้อม การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า’ โดยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น คุณสุรมิส เจริญงาม อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย รศ.ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย คุณตติยะ หลิมวิจิตร กรรมการและเลขานุการ คณะทำงานฝ่ายข้อมูลการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ดร.มานพ มาสมทบ ทีมวิจัยระบบกักเก็บพลังงานศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. และคุณกฤษฎา ธีรศุภลักษณ์ KOL ด้านยานยนต์ไฟฟ้าจากช่อง Welldone Guarantee โดยมี ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน เป็นผู้ดำเนินรายการตลอดการเสวนาในครั้งนี้
ตลอดช่วงของการถาม-ตอบ วิทยากรทั้งหมดต่างไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นประเด็นอยู่ ทั้งเรื่องของการชาร์จ การขับรถลุยน้ำท่วม การเลือกซื้อยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การเซอร์วิส
รถยนต์ไฟฟ้าหลังจากที่จมน้ำ การรับประกันจากบริษัทรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้ากับตลาดมือสอง สงครามราคา หรือเรื่องเกี่ยวกับประกันภัย และอีกหลายประเด็นที่เป็นข้อสงสัยของผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก หรือผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว
(5 ธ.ค. 67) รองศาสตราจารย์ ดร. สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT โดยมีใจความว่า ...
ทำไมต้องเก็บภาษี VAT เป็น 15%?
เพราะคนประเทศนี้มีแนวคิดที่ประหลาดพิกลมากยังไงเล่า หรือกล่าวแรง ๆ ได้ว่าเป็นแนวคิดของพวก ‘ขี้ขอ เอาแต่ได้ และขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมอย่างรุนแรง’ แนวคิดของคนพวกนี้แถอย่างข้าง ๆ คู ๆ ว่า
"เพราะพวกกูมีรายได้น้อยอยู่แล้วทำไมต้องจ่ายภาษีเงินได้อีก"
คนพวกนี้ใช้ตรรกะวิบัติประเภทที่ว่า "กูจะจ่ายภาษีไปทำไม? จ่ายภาษีแล้วกูได้อะไรกลับมา? มีอะไรที่กูจับต้องได้บ้าง?"
นี่คือคนไทยหลายสิบล้านคนที่ไม่ยอมเข้าระบบ ไม่ยอมยื่น ภงด.
แต่ก็เป็นคนไทยกลุ่มนี้แหละที่ใช้ 30 บาทรักษาทุกโรค ได้รับเงินหมื่น ฯลฯ คือใช้สวัสดิการและสาธารณูปโภคของประเทศอยู่ทุกวัน โดยหลอกตัวเองอย่างจริงจังว่า พวกกูไม่น่าจะต้องจ่ายภาษี
ประเทศนี้ประหลาดมากจนต้องเรียกว่า AMAZING THAILAND เพราะมีคนไทย 4 ล้านคนจ่ายภาษีเงินได้เพื่อเลี้ยงคนอีกหลายสิบล้านคนที่เชื่อว่าตัวเองไม่ควรต้องจ่ายภาษีเงินได้ แต่เชื่อว่าตัวเองควรจะได้รับสวัสดิการมากขึ้นเรื่อย ๆ
ประเทศนี้ประหลาดจริง ๆ เพราะยอดภาษีที่เก็บได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มากกว่ายอดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากว่าเท่าตัว แถมยังมากกว่าภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยซ้ำ จนเป็นยอดเก็บภาษีสูงสุดของประเทศนี้
ดังนั้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 15% จึงหมายถึงรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวของรัฐ
นี่หมายถึง ‘การรีดภาษีทางอ้อม’ จากคนไทยหลายสิบล้านคนที่หลอกตัวเองว่าไม่ควรต้องจ่ายภาษีเงินได้นั่นเอง
เพื่อที่รัฐบาลจะได้เอาภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บเพิ่มได้กว่าเท่าตัวนี้ มา ‘ปรนเปรอ’ คนพวกนี้ด้วยนโยบายประชานิยมต่อไปชั่วกาลนาน
‘รัฐบาล’ รีบ!! รีดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 15% เลยครับ รีบทำเลย รีบทำทันที และอย่าลืมช่วยลดภาษีเงินได้ให้คนเสียภาษี 4 ล้านคน รวมทั้งช่วยลดภาษีเงินได้นิติบุคคลตามที่รับปากด้วยนะ
(5 ธ.ค. 67) นางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ลูกสะใภ้ ของนายณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกุลกิจ อดีตนายกอบจ. ต้องปะทะกับค่ายพลังประชารัฐ ผู้สมัครหมายเลข2 พตท.อนุรักษ์ จิรจิตร อดีต ผู้ช่วยรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สมัยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่ได้ พรรคประชาชน ตบเท้ามาร่วม เดินสาย ร่วมรบเพื่อหวังให้เมืองตาก เปลี่ยนเป็นเมืองที่พัฒนา และทันสมัย ล่าสุด ก่อนการเลือกตั้งโค้งสุดท้ายพบว่ามีการทำลายป้ายผู้สมัครกันในหลายพื้นที่ เช่น อำเภอ พบพระ อำเภอ อุ้มผาง
วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และดูแลด้วยเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม
เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค. 67) ‘World Forum ข่าวสารต่างประเทศ’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ผ้ากรอม้า’ โดยมีใจความว่า ...
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2024 ยูเนสโกขึ้นทะเบียน ‘ผ้ากรอม้า’ เป็น ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ ตามที่กัมพูชายื่น
ผ้ากรอมา (Krama) คือ ‘ผ้าพันคอทอมือ’ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศกัมพูชา ผ้ากรอม้า เป็นเครื่องแต่งกายดั้งเดิมของกัมพูชา สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ เช่น ใช้พันคอ โพกศีรษะ ต่างผ้าเช็ดหน้า เคียนเอว ห่มคลุมกันแดดฝน หรือใช้เป็นเปลสำหรับทารก
(5 ธ.ค. 67) เจนเซ่น หวง ให้มุมมองเกี่ยวกับโอกาสของไทยในยุค AI ว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของวงการเทคโนโลยีที่ทุกประเทศมีโอกาสเท่าเทียมกัน ไม่เหมือนกับยุคซอฟต์แวร์หรือสมาร์ทโฟนที่ถูกครองตลาดโดยประเทศมหาอำนาจ ดังนั้นการพัฒนา Sovereign AI จึงเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยในการก้าวสู่ยุค AI อย่างมีศักยภาพและความเป็นตัวของตัวเอง
อุตสาหกรรมโลกกำลังจะถูกรีเซตใหม่ ครั้งนี้ไม่เหมือนกับซอฟต์แวร์ที่สหรัฐอเมริกาครองตลาดมานานกว่า 40 ปี ไม่เหมือนอินเทอร์เน็ตหรือสมาร์ทโฟน นี่คือแพลตฟอร์มใหม่เอี่ยม ทุกคนกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่จุดเดียวกัน
(5 ธ.ค. 67) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านไอจีชื่อว่า ‘ingshin21’ พร้อมภาพประกอบ ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศครอบครัวอบอุ่นและชื่นมื่น มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์พี่สาว นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีน.ส.พินทองทา นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีน.ส.แพทองธาร และหลาน ๆ นำพวงมาลัยมอบให้นายทักษิณ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 โดยมีข้อความระบุว่า …
Happy Father's Day @ home ขอให้พ่อมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ รักพ่อที่สุดในโลกค่ะ