Wednesday, 7 May 2025
TheStatesTimes

‘ลูกศุภชัย โพธิ์สุ’ ร้อง!! ‘กกต.’ จัดเลือกตั้ง นายก อบจ.นครพนมใหม่ ส่งศาลรธน. วินิจฉัย ยุบ!! เพื่อไทย เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ‘ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง’

(23 มี.ค. 68) สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ จำนวน 47 จังหวัด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เสร็จสิ้นลงว่า มีเรื่องร้องเรียนกว่า 180 เรื่อง

แหล่งข่าวจากกกต. เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า นางสาว ศุภพานี โพธิ์สุ อดีตผู้สมัครนายกอบจ.นครพนม หมายเลข 2 และอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาอบจ.นครพนม ในนาม ‘กลุ่มนครพนมร่วมใจ’ รวม 30 คน เรียกว่า ผู้ร้องที่ 1 ถึงผู้ร้องที่ 30 ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม และคณะกรรมการ กกต. ว่า ผู้สมัครนายกอบจ.นครพนม และผู้สมัครสมาชิกสภาอบจ.นครพนม ในนามพรรคเพื่อไทย ผู้ช่วยหาเสียงและผู้มีสิทธิเลือกตั้งและพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยมีรายชื่อ เรียกว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 ถึงผู้ถูกร้องที่ 38 ดังนี้

1.นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.นครพนม หมายเลข 8 พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 1
ทั้งนี้ นางสาว ศุภพานี ได้รับคะแนนการเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 2 จำนวน 118,352 คะแนน แพ้ให้กับนายอนุชิต หงษาดี อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.นครพนม หมายเลข 8 ที่ได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 จำนวน 167,169 คะแนน

2.นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคเพื่อไทย และผู้ช่วยหาเสียงของนายอนุชิต หงษาดี ผู้ถูกร้องที่ 2

3.นายดนัย สิทธิวัชระชัย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ช่วยหาเสียงของนายอนุชิต หงษาดีและผู้ถูกวางตัวเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 3

4.นายชาญชัย คำจำปา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้ช่วยหาเสียงของนายอนุชิต หงษาดีและผู้ถูกวางตัวเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 4

5.นางสาว มนพร เจริญศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และผู้ช่วยหาเสียงของนายอนุชิต หงษาดี ผู้ถูกร้องที่ 5

6.นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงของนายอนุชิต หงษาดี ผู้ถูกร้องที่ 6

7.นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้ช่วยหาเสียงของนายอนุชิต หงษาดี ผู้ถูกร้องที่ 7

8.พรรคเพื่อไทย โดย นางสาว แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 8

9.ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ในนามพรรคเพื่อไทยทุกเขตเลือกตั้ง เป็นผู้ถูกร้องที่ 9 ถึงผู้ถูกร้องที่ 38

รายงานข่าวระบุว่า คำร้องของผู้ร้องขอให้ผู้อำนาจการเลือกตั้งการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนตามอำนาจหน้าที่และเสนอให้คณะกรรมการ กกต.วินิจฉัยการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึงผู้ถูกร้องที่ 38 เป็นการกระทำอันฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2566 มาตรา 65 (1) (2) (5) หรือไม่ และให้ส่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึงผู้ถูกร้องที่ 7 และ ผู้ถูกร้องที่ 9 ถึงผู้ถูกร้องที่ 38 และให้มีคำสั่งดำเนินคดีอาญากับผู้ร้องที่ 1 ถึงผู้ถูกร้องที่ 7 และ ผู้ถูกร้องที่ 9 ถึงผู้ถูกร้องที่ 38 และบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้คำร้องของผู้ร้องขอให้ส่งคำร้อง สำนวนไต่สวนให้คณะกรรมการ กกต. เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยและมีคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92

รวมถึงขอให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง เสนอความเห็นไม่รับรองผลการเลือกตั้ง และจัดให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.นครพนม ใหม่ ตลอดจนจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกอบจ.นครพนมใหม่ ในเขตเลือกตั้งนั้นต่อไป

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการ กกต.ได้รับคำร้องเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 อย่างไรก็ตามเป็นการรับคำร้องไว้ในเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนแต่อย่างใด

ทีมงานแอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ โพสต์!!ขอบคุณ ‘พี่เกลือ เป็นต่อ’ ให้เกียรติพากย์บท ‘พระยาทรงฯ’ ชี้!! ‘ห้าว-ปากแจ๋ว’ สมใจ ยินดีมากที่ได้ร่วมงาน

(23 มี.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘2475 Dawn of Revolution’ ได้โพสต์ข้อความประทับใจ เกี่ยวกับ ‘พี่เกลือ เป็นต่อ’ โดยมีใจความว่า ...

พี่เกลือ กับ แอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

ตอนเราคิดจะหาคนพากย์ งานแอนิเมชัน๒๔๗๕ เรามีพี่นกสินจัยและฉัตรชัย ที่วางไว้ตั้งแต่ต้น รวมทั้ง พี่ดี้และพี่สุเมธ ที่ยินดีร่วมงานอย่างมาก ซึ่งพี่ๆเหล่านี้ เราได้คุยไว้ตั้งแต่ตอนทำงานเพลงในหลวงครับ 

พี่เกลือล่ะมาไง?

งานหินของแอนิเมชันคือ เราต้องหาคนพากย์เป็น “ลุงดอน” ซึ่งเป็นผู้ดำเนินเรื่อง และมีบทพูดเยอะมาก สุดท้ายเราได้อาวอ มาพากย์และช่วยคุมงานพากย์ทั้งหมดครับ 

ระหว่างพากย์กันอยู่ อาวอแกก็อยากได้ดารามาเพิ่ม จึงลองโทรหาพี่เกลือ ถามว่าว่างมั้ย มาพากย์การ์ตูนกันหน่อย ปกติพี่เกลือจะไม่ค่อยว่าง งานเยอะ แต่วันนั้นพี่เกลือว่างพอดี และบ้านก็อยู่ไม่ไกล พี่เกลือเลยแวะมาแจม 

มาถึงห้องอัดก็นั่งเลือกว่าจะให้พากย์เป็นอะไร (เลือกกันสดๆหน้างาน) เราก็เห็นบทพระยาทรงฯ คู่ปรับปรีดีที่เป็นคนห้าวๆ และปากแจ๋ว ก็เลยให้พี่เกลือพากย์บทพระยาทรงฯ ซึ่งก็ออกมาปากแจ๋วสมใจครับ  (และพี่เกลือยังพากย์เป็นทหารหนวดที่ชอบชักปืนขู่ด้วยครับ) 

พากย์เสร็จผมก็ใส่ซองให้พี่เกลือ แกยังถามว่า ได้เงินด้วยเหรอ ผมก็บอกว่าต้องให้สิครับ (ถึงจะมีไม่มาก แต่ต้องให้) และผมไม่กล้ารบกวนมาก เลยขอถ่ายรูปเก็บไว้รูปเดียว 

หลังจาก แอนิเมชัน ออก ดูพี่เกลือจะประทับใจมาก คอยแชร์คอยติดตามผลงานเราตลอด และถ้ามีการทำภาคต่อหรือเรื่องใหม่ พี่เกลือบอกว่ายินดีมาร่วมงานกันอีก 

ขอขอบคุณพี่เกลือมาอีกครั้งครับ 

ปล.พี่เกลือได้ค่าพากย์เท่าพี่ดี้เลยครับ

‘ดร.หิมาลัย’ ลุย!! แผนการจัดการน้ำ ฝายธงน้อย กางแผนเสริมระบบระบายน้ำ ลดผลกระทบ ‘อุทกภัย’ พร้อมพัฒนา!! โรงไฟฟ้าพลังน้ำธงน้อยเพื่อชุมชน

(23 มี.ค. 68) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานโครงการฝายธงน้อย จังหวัดน่าน ครั้งที่ 2 โดยมี นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน, นายทรงยศ รามสูต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน, นายมังกร ศรีเจริญกุล สมาชิกวุฒิสภา, นางวาสนา ยศสอน สมาชิกวุฒิสภา, นายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดี พพ. รวมถึงผู้แทนจากกรมเจ้าท่า กรมชลประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมมาลากุล 1 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568

ดร.หิมาลัย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือแนวทางบริหารจัดการน้ำจากโครงการฝายธงน้อยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมเดินหน้าพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำธงน้อยเพื่อใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน “วันนี้ทุกฝ่ายมารวมกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในการบริหารจัดการน้ำ เราต้องมั่นใจว่า ประชาชนจะได้รับการดูแล และโครงการฝายธงน้อยจะสร้างประโยชน์สูงสุด เราจะทำงานเชิงรุกเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปพร้อมกัน” ดร.หิมาลัย กล่าว

โดยได้จัดทำแผนบรรเทาทุกข์โครงการแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่

แผนระยะสั้น (พ.ศ. 2568–2570) ประกอบด้วยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำหอยโข่ง การระบายน้ำผ่านทางผ่านปลา และการขุดลอกตะกอนดินทรายในลำน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เหนือฝาย ลดความเสี่ยงต่อปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะสามารถช่วยระบายน้ำในช่วงที่น้ำหลากได้ถึง 50 ลบ.ม /วินาที

แผนระยะยาว (เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2570 เป็นต้นไป) ประกอบด้วยการก่อสร้างอาคารระบายน้ำฉุกเฉิน จำนวน 2 ช่อง พร้อมพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอขอรับงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2569 โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2570 ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำธงน้อยมีเป้าหมายในการผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาดประมาณ 11.10 ล้านหน่วยต่อปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 6,438 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และมีความสามารถในการช่วยระบายในช่วงน้ำหลากได้ถึง 220 ลบ.ม/วินาที  พร้อมทั้งสามารถจัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าได้อีกด้วย

ดร.หิมาลัย ได้กล่าวอีกว่า ถึงแม้จากผลการวิเคราะห์ทางอุทกวิทยา โครงการฝายธงน้อยมิใช่สาเหตุของน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองน่าน  ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจและร่วมบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน ได้บูรณาการความช่วยเหลือร่วมกับทุกภาคส่วน และขอยืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนินโครงการภายใต้หลักความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยจะดำเนินการควบคู่กับมาตรการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง

‘ดร.อานนท์’ โพสต์เฟซ!! มหาวิทยาลัยไล่ออก ‘นักศึกษาปริญญาเอก’ เหตุใช้ ChatGPT ทำข้อสอบมาส่ง!! นศ.โต้กลับ Professor ป้อนข้อมูลเอง

(23 มี.ค. 68) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า …

คำพิพากษาจะออกมายังไงหนอ มหาวิทยาลัยไล่นักศึกษาปริญญาเอกออก ถอดวีซ่าด้วย ข้อหาทุจริต เพราะใช้ Generative AI และ Large language model อย่าง ChatGPT ทำข้อสอบมาส่ง

นักศึกษาฟ้องศาล บอกว่ามีหลักฐานว่า professor ป้อนข้อมูลให้ ChatGPT เอง จนออกมาเหมือนคำตอบของเขา ฟ้องกันใหญ่โต 

ท่าทางจะเป็นตำนานเหมือนกันครับ ผมรอฟังคำพิพากษาเลยครับ

‘ปตท.–GPSC-Solar PPM’ สนับสนุนการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ณ วัดสระเกศฯ ส่งเสริมการใช้พลังงานจากธรรมชาติ เพื่อลดค่าใช้จ่ายของทางวัด

(23 มี.ค. 68) ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) และนายกฤษณ์ พรพิไลลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด (Solar PPM) ร่วมถวายระบบ Solar Rooftop ขนาด 100 กิโลวัตต์ แด่พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง) เพื่อปรับปรุงระบบไฟฟ้าของวัดให้เป็นระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใช้งานภายในอาคารบำเพ็ญกุศล 1-2 และเมรุ โดยสามารถลดค่าไฟฟ้าของวัดได้ถึงร้อยละ 50 ภายใน 1 เดือน นับเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่วัดและเป็นการสนับสนุนเพื่อสาธารณประโยชน์ให้แก่วัดและชุมชนในพื้นที่อีกด้วย

‘จิรายุ’ ฝากฝ่ายค้าน!! อย่าใช้ภาษาตลาดล่าง ต่ำสะดือ อย่าเหยียดเพศ วอน!! ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ยัน!! นายกฯ ไม่รู้สึกกดดัน

(23 มี.ค. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าว ถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ว่า ตนฟังฝ่ายค้าน ‘ออกแขก’ ทั้งแสดงความดูถูก เหยียดเพศ หยาบคาย มาตลอดสัปดาห์ ถึงขนาดลงทุนใช้ภาษาต่ำสะดือซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะออกจากปากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม และพูดเสมอว่าอยากทำการเมืองใหม่ มีบางช่วงที่เลยเถิดขนาดบอกตนเองเป็นขบวนการไรเดอร์   เลยทำให้พอเห็นว่าอภิปรายสองวันนี้น่าจะเป็นหนัง ‘ภารตะ’ วิ่งไล่ไปมาตามต้นไม้ กว่าจะหาประเด็นได้ คนฟังก็คงจะหลับเสียก่อน 

ส่วนกรณีรอง หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่านายกรัฐมนตรีมีภาวะความกังวลมากในการอภิปรายครั้งนี้ ตนแนะฝ่ายค้านว่า อย่าไปคิดแทนคนอื่น เพราะดูจาก 2-3วันมานี้ ท่านนายกรัฐมนตรีมีความสุขสดชื่น และถือว่าพร้อม ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เพราะที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทำงานเต็มที่ เตรียมข้อมูลที่จะชี้แจงผลงานของรัฐบาลในรอบ 6 เดือนอย่างแน่นปึกเรียกว่าฝีมือระดับ ‘Wonder Woman’ เลยทีเดียว

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า ความกดดันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะแตกต่างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะความกดดันจะไม่ได้ตกอยู่กับฝ่ายรัฐบาลหรือนายกฯ แต่จะกลับไปตกอยู่ที่ฝ่ายค้านที่จะต้องอภิปรายให้ปังไม่ใช่เอาแค่ข่าวเก่าข่าวแปะมาอภิปราย คนฟังจะหลับคาจอ

ทั้งนี้ตนหวังว่าในการอภิปรายจะไม่มีภาษาตลาดล่างต่ำสะดือออกมาอีก ทั้งนี้เพื่อยกระดับรัฐสภาไทยอย่างที่คนรุ่นใหม่คาดหวังกันไว้ให้เป็นสภาระดับสากลซึ่งฝ่ายค้านควรจะช่วยกันนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างที่คาดหวังไว้

‘กฟผ.’ ชวนอัพเดท!! เทรนด์เทคโนโลยี โอกาสทางธุรกิจ ‘สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า’

(23 มี.ค. 68) นายสายัณห์ ปานซัง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารธุรกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดงาน EGAT EV : Charge Up Your Business งานสัมมนาสำหรับผู้สนใจในธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยนำเสนอข้อมูลทางธุรกิจ แนวคิด เทคโนโลยี และโอกาสความร่วมมือที่จะสามารถต่อยอดให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่การให้บริการในธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เช่น การขายเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การติดตั้ง ดูแล บำรุงรักษา ตลอดจนผู้ประกอบการที่ต้องการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเพื่อสร้างรายได้เพิ่มต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 300 คน ณ อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 

นายสายัณห์ ปานซัง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารธุรกิจ กฟผ. เผยว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา กฟผ. ได้ร่วมขับเคลื่อนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EleX by EGAT การให้บริการแอปพลิเคชัน EleXA เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการพัฒนาระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า BackEN EV เพื่อร่วมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของประเทศ ผ่านการนำเสนอข้อมูล แนวคิด เทคโนโลยี และแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน รวมถึงสนับสนุนภาคธุรกิจที่มองหาโอกาสในการลงทุนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน 

ด้านนางณิศรา ธัมมะปาละ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการธุรกิจนวัตกรรมพลังงาน กฟผ. เสริมว่า กฟผ. มีความตั้งใจที่จะส่งมอบความรู้ ข้อมูล และประสบการณ์ รวมถึงขยายผลนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการ EGAT EV Business Solutions โดยเฉพาะระบบ BackEN EV ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสถานีและใช้ผ่านแอปพลิเคชัน EleXA เจ้าของสถานีสามารถควบคุมและตรวจสอบการทำงานของสถานีชาร์จแบบเรียลไทม์ รองรับเครื่องชาร์จได้หลากหลายยี่ห้อและการใช้งานพร้อมกันได้จำนวนมาก ชาญฉลาดด้วยระบบแสดงผลและวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ พร้อมรายงานข้อมูลการใช้งานและรายงานทางบัญชี ทำให้ผู้ประกอบการสามารถปรับกลยุทธ์และดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง สร้างรายได้และการเติบโตอย่างยั่งยืน ปัจจุบันจึงมีผู้ประกอบกิจการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เข้ามาใช้บริการ BackEN EV มากกว่า 110 ราย และตั้งเป้ารุกขยายตลาดไปยังกลุ่มบริษัท องค์กร ผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจติดตั้งโซลาร์เซลล์ สถานีบริการน้ำมัน และบริษัทที่ติดตั้งระบบไฟฟ้า

นอกจากนี้ กฟผ. ยังเตรียมเปิดตัวโครงการ EGAT Academy เพิ่มขีดความสามารถบุคลากรในธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อออกใบรับรองมาตรฐานอาชีพสาขาวิชาชีพบริการยานยนต์ สาขายานยนต์ไฟฟ้า อาชีพช่างเทคนิคติดตั้งและซ่อมบำรุงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและความมั่นคงเชื่อถือได้ให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า 

สำหรับผู้สนใจธุรกิจในการประกอบธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในด้านต่าง ๆ สามารถติดต่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ EGAT EV Business Solutions กฟผ. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Page: EGAT EV เว็บไซต์ egatev.egat.co.th และ Line OA: @BackenEV

‘สุนทร-กระวี’ ใครเหนือชั้นกว่ากัน!! ลงชิงชัย!! สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช

(23 มี.ค. 68) ถ้าผลของคดีเป็นไปในทางบวกในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ก็ขอแสดงความยินดีกับ “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช พรรคภูมิใจไทย ที่ศาลฏีกานัดอ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กล่าวหามุกดาวรรณทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในการเลือกตั้งปี 2566

แต่ถ้าผลทางคดีออกมาเป็นลบก็ขอแสดงความเสียใจต่อมุกดาวรรณ ที่จะต้องพ้นจากตำแหน่ง สส.หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ที่อาจจะยาวนานถึง 10 ปี และต้องจ่ายค่าจัดการเลือกตั้งใหม่อีกหลายล้าน พร้อมกับการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง กกต.ก็ต้องจัดเลือกตั้งใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างลง

กล่าวสำหรับพรรคภูมิใจไทยยังถือว่าเป็นพรรคทางเลือกของคนใต้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เพียงแต่ว่า พรรคภูมิใจไทยส่งส่งใครลงรักษาฐานตรงนี้ไว้ ถ้าเล็งไปในสายของ “เลื่องสีนิล” ก็จะมีไสว เลื่องสีนิล เป็นตัวเลือกส่งเข้าประกวด แต่บทบาททางการเมืองในฐานะเป็นครู ยังถือว่าไม่โดดเด่นมากนัก แต่มุกดาวรรณก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอคนของตัวเองเข้าแข่งขัน

แข่งขันกับใคร…ในสายตาผมมีอยู่ 2 คน คนแรก คือ กระวี หวานแก้ว อดีต สจ.ฉวาง คนย่านกะเบียด ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สว.ณัฐกิตติ์ หนูรอด เป็นคนทำข้อมูล ชงข้อมูลให้กับ สว.ณัฐกิตติ์ เพื่อนำไปหารือในสภา หรือประสานส่วนราชการในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

กล่าวถึง สจ.กระวี ทำหน้าที่อยู่ในสภาฯอบจ.นครศรีฯร่วม 7 ปี ช่วงเป็น สจ.ก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์อยู่ไม่น้อย

เท่าที่ประมวลได้ และนำมาเสนอ เช่น

1.เรื่องการพัฒนาเขาศูนย์ให้เป็นเหล่งท่องเที่ยว "จุดชมวิวทะเลหมอก "ของ จ.นครศรีธรรมราช และภาคใต้ ถ้าย้อนไปในอดีตเขาศูนย์เป็นแดนสนธยา กับการเปิดศึกแย่งชิงกันจองพื้นที่ขุดหาแร่แบบไม่มีสัมปทาน เป็นฐานที่ตั้งของคนอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างจากรัฐ ประชาชนเปิดฉากสู้รบกันเอง เพื่อแย่งพื้นที่ขุดหาแร่ จนรัฐบาลต้องประกาศปิดเขาศูนย์ เขาศูนย์อากาศดี ไม่แตกต่างจากคีรีวง จึงได้รับรู้การพัฒนาและยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ทุกวันนี้มีจุดให้ชมทะเลหมอก มีรีสอร์ตเกิดขึ้นมากมาย

2.เรื่องการบริหารจัดการน้ำ (น้ำแล้ง และน้ำท่วม)จากอ่างเก็บน้ำคลองกะทูน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะจะกินพื้นที่ ฝั่งตะวันตก-ฝั่งเหนือของนครศรีธรรมราชทั้งหมด (พิปูน ฉวาง ช้างกลาง นาบอน ถ้ำพรรณรา และทุ่งใหญ่ ไปต่อเขต จ.สุราษฏร์ธานี  

3.เป็นผู้เสนอและติดตามการของบประมาณโครงการขยายถนนสาย 4015 นครศรีธรรมราช- สุราษฎร์ธานี สายใน( นครศรีฯ- บ้านส้อง)เพราะเป็นถนนสายสำคัญ ที่ผ่านมาทางลานสกา แหล่งท่องเที่ยวที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย คือ บ้านคีรีวง ไปยังช้างกลาง (เขาธง เขาเหมน วิวาห์ในม่านหมอก) ฉวาง พิปูน ต่อเขต อ.เวียงสระ ถนนเส้นนี้ สำคัญสำหรับการท่องเที่ยว และการขนส่งพืชผลทางการเกษตรเช่นผลผลิตทุเรียน ไม้ยางพารา ซึ่ง อ.พิปูนถือว่าผลิตผลไม้ทุเรียนที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อยประดับประเทศและมีปริมาณมากที่สุดใน จ.นครศรีธรรมราชหรือภาคใต้ เชื่อมต่อไปยัง แหล่งท่องเที่ยวอื่นใน อ.พิปูน ต้นน้ำตาปี แหล่งน้ำจืดที่สะอาดที่สุดในประเทศไทย ไปวัดพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ จันดี และไปยังจุดชมวิวทะเลหมอก เขาศูนย์ ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง บนยอดเขาศูนย์ กำลังก่อสร้าง รูปหล่อ พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และถนน 4015 ยังเชื่อมต่อไปยัง อ.เวียงสระ สุราษฎร์ธานี อีกด้วย

4.โครงการเชื่อมต่อถนนสาย 4189 อ.พิปูน- อ.นบพิตำ ข้ามเทือกเขาหลวง นครศรีธรรมราช ซึ่งเป๋นถนนสายพระราชดำริ ที่มีการใช้งานสัญจรไปมาอยู่ก่อนแล้วจนถึงปี 2531 ได้เกิดภูเขาถล่ม ทะเลโคลนและไม้ซุงมาปิดกั้นเส้นทาง ในพื้นที่ อ.พิปูน ถนนก็ไม่ได้มีการใช้งานตั้งแต่บัดนั้นะเป็นต้นมา ซึ่งตอนนี้มีการรื้อฟื้นถนนเส้นนี้ เพื่อให้กลับมาสัญจรไปมาอีก แค่ต้องมีขั้นตอนของอุทยานแห่งชาติเขาหลวงที่เขาเป็นเจ้าของพื้นที่

เหล่านี้คือผลงานอันเป็นฝีมือของ สจ.กระวี ที่ควรได้รับการพิจารณา และให้โอกาสคนพื้นที่ได้ทำงาน

คนที่สองคือสุนทร รักษ์รงค์ อดีตนักศึกษากิจการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เคยทำหน้าที่ผู้จัดการวงมาลีฮวนน่า วงดนตรีเพื่อชีวิตชื่อดัง จากนักศึกษากิจกรรมก็เดินเข้าสู่นักเคลื่อนไหวทางสังคมการเมือง จับงานด้านการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา และชาวสวนปาล์ม กับการผลักดัน “สวนยางยั่งยืน” ปลูกพืชชนิดอื่นเสริมในร่องยาง สร้างรายได้ใหม่

จากนักกิจกรรมนักศึกษาในรั้วมหาลัยสู่การเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคม โดยเฉพาะประเด็นสิทธิของเกษตรกร ทั้งเรื่องยาง ปาล์ม ที่ดินทำกิน หนี้สิน และอื่นๆ

ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขต 8 นครศรีฯ ในนามพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนมา 18000 กว่าคะแนน แต่พ่ายแพ้ให้กับมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล วันเวลาเปลี่ยนไป สุนทรเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทย

เมื่อมาเป็นนักการเมือง ต้องกล้านำเสนอนโยบาย เพื่อแก้ไขปัญหา โดยวิธีการร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับผิดชอบ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานของ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.แรงงานฯ เข้าใจว่าน่าจะมีภารกิจในการร่วมกันยกร่างนโยบายด้านการเกษตร เพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า เช่น นโยบายยางพารา นโยบายปาล์ม เป็นต้น

“หมดยุคการกำหนดนโยบายจากบนลงมาข้างล่าง โดยที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม เพราะผู้มีส่วนได้เสียต้องออกแบบและกำหนดอนาคตของตนเอง 

ต้องสร้างอำนาจกำหนดใหม่ให้ประชาชนก่อน จึงสามารถใช้วาทกรรม “การทำงานการเมืองที่ยึดโยงกับผลประโยชน์ของประชาชน”

เส้นทางการต่อสู้ของสุนทรลูกชาวบ้าน จากแกนนำประท้วงราคายางข้างถนน สู่อดีดบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย และได้รับเลือกตั้งจากชาวสวนยางทั่วโลกเป็นอดีตบอร์ดยางระดับสากล(GPSNR) 2 สมัย 

มีโอกาสได้ประชุมในเวทีระดับสากล ที่ประเทศสิงคโปร์ ฝรั่งเศส และอังกฤษ อีกทั้งยังได้รับโอกาสให้เป็นประธานร่วม(CO-Chairman) ของ GPSNR ในปี 2567

สุนทรจึงร่วมกับภาคีเครือข่าย ช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนยาง สิ่งที่ภาคภูมิใจคือการเอาพี่น้องชาวสวนยางชายขอบ หรือชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์และคนกรีดยาง เข้าสู่ระบบ นั่นคือสามารถขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทยได้ เป็น “เกษตรกร”ได้

ในเวทีระดับสากล เมื่อมีข้อกำหนดของ EU ที่เรียกว่า EUDR ไม่รับซื้อยางจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า ก็ต่อสู้ด้วยข้อกฎหมายว่า หลังมติ ครม.26 มิถุนายน 2561 ประเทศไทยไม่มีสวนยางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ยังวัดแปลงไม่แล้วเสร็จ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของชาวสวนยาง รัฐให้สิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินแล้ว

ถ้าผลทางคดีออกมาในทางลบสำหรับมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล “สุนทร-กระวี” จึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมของพรรคภูมิใจไทย ถ้าตัดกันด้วยดีเบตสู้สุนทรไม่ได้ แต่กระวีเหนือกว่าในแง่ของคนในพื้นที่

‘เอกนัฏ’ ดึง ‘ดีเอสไอ’ ติดดาบคดีพิเศษ กำราบ!! โรงงานตัวแสบ ที่ดื้อด้าน ลั่น!! ถอนรากถอนโคน ทั้งขบวนการ หมายหัวต้นตอ!! นำเข้าขยะอันตราย

(23 มี.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เปิดปฏิบัติการตรวจสุดซอย ในการเข้าตรวจสอบเชิงรุกดูแลโรงงานและผู้ประกอบการเกี่ยวกับการบำบัดกำจัดกากอุตสาหกรรม ตลอดจนการผลิตสินค้าให้ได้ตามมาตรฐาน โดยใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้น และต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน แต่ก็ยังพบว่ามีผู้ประกอบการที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ยังคงจงใจฝ่าฝืนคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ลักลอบประกอบกิจการโรงงานอย่างไม่มีความเกรงกลัว และยำเกรงต่อกฎหมาย จึงได้ประสานความร่วมมือกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม ในการยกระดับบางกรณีที่เข้าลักษณะและองค์ประกอบเป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีและลงโทษกับผู้กระทำความผิด และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด

นายเอกนัฏ เปิดเผยด้วยว่า เบื้องต้นได้ร่วมหารือกับ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะที่ปรึกษาดีเอสไอ โดยมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงกรณี บริษัท ทีแอนด์ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ที่จดประกอบกิจการหลายประเภทที่เกี่ยวข้องกับรีไซเคิลจัดการของเสีย และวัตถุอันตราย แต่พบว่าประกอบกิจการที่ฝ่าฝืนกฎหมายโรงงาน และกฎหมายวัตถุอันตรายอย่างร้ายแรงในหลายประการ เช่น มีการจัดการขยะอันตรายไม่ถูกต้อง และปล่อยสารเคมีอันตรายสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ข้างเคียง และแม้จะถูกสั่งหยุดกิจการ ยึดอายัดของกลาง ดำเนินคดี รวมถึงยึดใบอนุญาต แต่ก็ยังคงมีการลักลอบกระทำผิดอยู่ จนเชื่อว่าคงมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง

“กรณี บริษัท ทีแอนด์ทีฯ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการกระทำความผิดซ้ำซาก โดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง จึงต้องยกระดับมาตรการลงโทษ ตลอดจนใช้กลไกของ ดีเอสไอ ในการขยายผลกวาดล้าง ขุดรากถอนโคนไปถึงต้นตอของขบวนการอย่างรัดกุม” นายเอกนัฏ ระบุ

ด้าน น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาได้ร่วมกับ ชุดตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เข้าตรวจจับกุม บริษัท ทีแอนด์ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด หลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็พบว่า ยังคงลักลอบกระทำความผิด ที่สุด กรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงมีคำสั่งยึดใบอนุญาต แต่ก็ยังพบว่า มีการลักลอบเคลื่อนย้ายของกลางที่เป็นวัตถุอันตรายไปยังพื้นที่จังหวัดอื่น ทั้ง จ.ฉะเชิงเทรา หรือ จ.สมุทรสาคร อีก จึงมีความจำเป็นต้องยกระดับเพื่อจัดการกับกรณีบริษัทที่ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายเช่นนี้ โดย รมว.อุตสาหกรรม ได้กำชับและขอให้ทาง ดีเอสไอ ดำเนินการขยายผลให้ถึงต้นตอและจัดการขบวนการนำเข้าพลาสติก ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมให้ถึงที่สุด

“กระทรวงอุตสาหกรรม วางแนวปฏิบัติร่วมกับ ดีเอสไอ หากพบกรณีที่มีของกลางและกากของเสียอุตสาหกรรมในปริมาณที่มาก และมีผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษจะเชิญ ดีเอสไอ ร่วมตรวจเพื่อยกระดับการสืบสวนขยายผลหาข้อเท็จจริง และลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดเพื่อให้เข็ดหลาบโดยเร็วที่สุด” น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุ

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม เร่งตรวจสอบและขยายผลขบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและเร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยกระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันจะดำเนินการเชิงรุกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ลดปัญหาการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม และสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ประชาชนในทุกพื้นที่

‘เกลือ เป็นต่อ’ โพสต์เฟซ!! หลังทัวร์ลง!! จากเหตุ ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ มอบ ‘คอร์สปรับพฤติกรรม’ ให้เกรียนคีย์บอร์ด พร้อมอนุโมทนาให้เจริญขึ้น

(23 มี.ค. 68) จากกรณีที่นายกิตติ เชี่ยววงศ์กุล หรือที่รู้จักในชื่อ ‘เกลือ เป็นต่อ’ ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลว่า “ทีนี้เด็กๆ เห็นความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกันรึยังลูก?” จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยมีสื่อและเพจบางเพจนำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ เรียกกระแสทัวร์จากผู้ที่ไม่เห็นด้วยเข้ามาคอมเมนต์โจมตีอย่างดุเดือด ถึงขั้นมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย

ความคืบหน้าล่าสุด นายกิตติ ได้ออกมาตอบกลับผ่านคอมเมนต์ใต้โพสต์ของตัวเอง โดยระบุว่า…

“ผ่านเวลามาประมาณสองวันแล้วคิดว่าคนที่อยากจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นคงจะหมดลงแล้ว บางท่านเห็นด้วย บางท่านไม่เห็นด้วย ผมก็ได้อ่านบ้าง แต่ข้อความทั้งหมดส่วนใหญ่ก็จะมีอีกทีมอ่าน ผมจึงมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับทุกท่านโดยแบ่งเป็นสามกลุ่มดังนี้ 

1.กลุ่มคนที่เห็นคุณค่า และเข้าใจความหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผมดีใจและชื่นชมเป็นอย่างมากที่ได้เห็นทุกคนมาช่วยกันให้ข้อมูลความรู้นี้ แก่บุคคลที่อาจจะยังไม่เข้าใจให้ได้เข้าใจความหมายและคุณค่าของเศรษฐกิจพอเพียง พวกท่าน่ารักและมีจิตใจดีมากครับ และผมเชื่อว่าในการดำเนินชีวิตต่อไปของท่าน จะเป็นการการันตีได้ว่าท่านจะมีภูมิคุ้มกันที่ดีในชีวิต และสามารถผลิตและรับความสุขกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวได้อย่างแน่นอน

2.กลุ่มที่ไม่เห็นด้วย และพยายามเข้ามาโต้แย้ง แสดงทัศนคติของท่าน แต่ยังใช้ถ่อยคำสุภาพ ผมก็จะบอกท่านว่าการที่ท่านไม่เชื่อ ไม่เห็นด้วย ก็แล้วแต่ตัวท่านเช่นกัน เพราะการที่ท่านจะชื่อสิ่งใดหรือไม่เชื่อสิ่งใด ประโยชน์อยู่ที่ตัวท่านไม่ใช่ตัวผม ถ้าทัศนคติแบบนี้ทำให้ท่านมีความสุขในสังคม ไม่ร้อนรุ่มเที่ยวเกลียดชังใคร มองโลกและปัญหาอย่างมีความสุข ก็ตามสบายได้เลย และบุคคลประเภทชอบมาตั้งคำถามให้ผม หรือบุคคลอื่นพยายามตอบ โดยคำถามนั้นท่านไม่ได้ต้องการคำตอบจริงๆ(ซึ่งท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่าท่านคิดสิ่งใดอยู่ เราทุกคนก็รู้เช่นกันว่าตอบท่านไปก็เปล่าประโยชน์) ก็ต้องบอกว่า พวกเราไม่ใช่ครูบาอาจารย์ของท่าน ท่านควรจะหาความรู้ด้วยตัวเอง ตั้งคำถามและโต้แย้งให้ตัวเองให้เป็นจะได้ไม่เดือดร้อนกับผู้อื่น ฉะนั้นนี้คือเหตุผลที่ผมจะไม่ตอบคำถามใดๆกับท่าน แต่ก็ขอบคุณที่ยังมีความสุภาพครับ

3.เอาล่ะถึงกลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มที่อยากจะคุยด้วยมากที่สุด การที่ท่านไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมเขียนนั้น ความคิดของผมให้ไปอ่านที่ข้อ2. แต่การที่ท่านใช้วาจาสอดเสียด รุนแรงด่าทอ หรือแม้กระทั่งการพยายามทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น(ใครไม่ได้ทำตามนี้ไม่ต้องร้อนตัวกันนะครับ) เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และผิดกฏหมาย ฉะนั้นผมขอมอบโอกาสนี้ในการมอบคอร์สการปรับพฤติกรรม(ด้วยสิ่งไม่พึงพอใจ) มันจะเป็นอย่างนี้นะครับ เดี๋ยวจะมีซองๆนึงส่งไปหาท่านที่บ้าน เนื้อความคงจะประมาณว่าเชิญท่านมา เพื่อจะให้ท่านมาร่วมทำบุญด้วยกัน เงินนี้ผมจะนำไปทำบุญซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนสื่อการเรียนการสอน ซึ่งต้องใช้เงินมากประมาณนึงเลยทีเดียวฉะนั้นท่านอ่านจะต้องช่วยเหลือผมมากหน่อยนะครับ หวังว่าการมอบสิ่งไม่พึงพอใจครั้งนี้ จะสามารถปรับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของท่านได้ หากท่านคิดได้ ผมก็ขออนุโมทนา ให้บุญกุศลนี้ส่งผลให้ท่านเจริญยิ่งขึ้นไป หากท่านยังคิดไม่ได้ถึงแม้ว่าผมได้มอบบทเรียนนี้แก่ท่าน ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเราทำบุญร่วมกันไปแล้ว ผมก็คงจะได้มอบบทเรียนแก่ท่านได้อีกในชาติถัดไป

ส่วนใครที่กลับตัวกลับใจได้ ก็พิมพ์ข้อความมาขอโทษที่ใต้โพสนี้นะครับ จะถือว่ายกเว้นให้ ส่วนใครที่พยายามจะลบข้อความก็ต้องบอกว่าได้มีทีมพยายามเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้แล้วถ้าท่ารอดได้ ก็ถือว่าแต้มบุญท่านสูงมาก

ส่วนทุกท่านที่อยู่ในที่นี้มีใครอยากจะร่วมทำบุญกับผมครั้งนี้ ก็สามารถทำบุญร่วมกันได้นะครับ เดี๋ยวผมจะแปะข้อมูลทั้งหมดไว้ด้านล่าง เมื่อได้รับข้อความนี้แล้ว เชิญกล่าวอนุโมทนาด้วยกันเทอญ สาธุ!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top