Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

ตำรวจ บุกจับ!! ‘เอ็ม เอกชาติ’ เซ่นคดี ‘แบงค์ เลสเตอร์’ พร้อมค้นบ้าน!! หลังพบโยงเว็บพนัน ‘curriculum51’

(28 ธ.ค. 67) จากกรณีการเสียชีวิตของนาย ธนาคาร คันธี หรือ แบงค์ เลสเตอร์ แร็ปเปอร์ขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย ซึ่งในระยะหลังๆ มักจะมีคนจ้างให้ แบงค์ เลสเตอร์ กินอะไรแปลกๆ จนกระทั่งมาเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ขณะไปร่วมงานเปิดร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยผลชันสูตรเบื้องต้นแพทย์ระบุว่า หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน 

ต่อมานาย เอ็ม เอกชาติ ที่เดินทางมารดน้ำศพ แบงค์ เลสเตอร์ และเปิดใจว่าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ยืนยันไม่ได้จ้างและไม่ได้รู้จัก แบงค์ เลสเตอร์ เป็นการส่วนตัว แต่ แบงค์ เลสเตอร์ มาช่วยโปรโมทร้านให้ โดยไม่เอาค่าจ้าง เลยบอกไปว่า แบงค์ถ้ามึงกินวันนี้ กูให้มึงแบนละหมื่นเลย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.นิพนธ์ บุญเกิด ผบก.สอท.2  พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2, พ.ต.ท.เสกสรร จินดาพรรณ รอง ผกก.3 บก.สอท.2 พ.ต.ท.คำตัน ทำดี รอง ผกก.3 บก.สอท.2 สนธิกำลังกก.สส.ภ.จว.จันทบุรี จำนวน 30 นาย เข้าตรวจค้นบ้านของนายเอ็ม เอกชาติ ที่ ต.ห้วยสะท้อน อ.ท่าใหม่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายป้องและปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างของตำรวจ  หาพยานหลักฐานความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน curriculum51 

โดยเบื้องต้นพบนายเอ็ม อยู่ภายในบ้าน จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยึดปืน 1 กระบอก ตรวจยึดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม โทรศัพท์มือถือ ซิมโทรศัพท์ ไปตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องใดหรือไม่ 

ทั้งนี้หากพบมีความผิดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป นอกจากนี้มีรายงานว่าระหว่างตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรีที่ได้ออกหมายจับตามความผิดกระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยจะคุมตัวไปฝากขังต่อไป 

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า การที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้าน นายเอ็ม เอกชาติ เนื่องจากคาดว่าเป็นกลุ่มที่มีส่วนพัวพันเว็บพนัน โดยใช้ แบงค์ เลสเตอร์ ทำคอนเทนต์

‘เยาวภา แสงจันทร์’ บล็อกเกอร์สาวไทย เยือน!! 'ฉงชิ่ง' เมืองภูเขา ชี้!! ทีเด็ด ‘หม้อไฟหมาล่า – ผู้ชายหน้าตาดี – บินตรงแค่สามชั่วโมง’

(28 ธ.ค. 67) แม้อากาศจะเย็นยิ่งขึ้นตามการลดลงของอุณหภูมิในฤดูหนาว แต่พื้นที่ชมวิวริมแม่น้ำเจียหลิงในมหานครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ยังคงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเดินเล่นกันอย่างคึกคัก เพื่อรอชมภาพขบวนรถไฟทะลุตึกสูงด้วยตาตัวเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘เยาวภา แสงจันทร์’ หรือ ‘หลี่เพ่ยอิง’ บล็อกเกอร์สาวสายท่องเที่ยวจากไทย

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ สถานีหลีจื่อป้าของทางรถไฟรางเบาในฉงชิ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กชื่อดังบนโลกโซเชียล ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติมาเช็กอินจุด ‘รถไฟทะลุตึก’ กันเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับ ‘ประวิตร’ ชาวไทยที่เผยว่าการมาเที่ยวฉงชิ่งเหมือนแกะกล่องสุ่ม ที่นี่มีภูมิประเทศแบบภูเขาและตึกสูงเรียงรายซับซ้อนชวนให้ประหลาดใจได้เสมอยามเดินสำรวจ

จีนได้ปรับปรุงนโยบายวีซ่าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ปี 2024 พร้อมยกระดับความสะดวกสบายด้านการชำระเงิน ภาษา การเดินทาง ฯลฯ เพื่อผลักดันให้ ‘ไชน่า ทราเวล’ (China Travel) หรือ ‘ท่องเที่ยวจีน’ กลายเป็นคำศัพท์ฮิตในตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เมื่อไม่นานนี้ จีนประกาศการผ่อนปรนนโยบายเดินทางผ่าน (transit) แบบฟรีวีซ่า ขยายระยะเวลาพำนักที่ได้รับอนุญาตของนักเดินทางชาวต่างชาติที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์จากเดิม 72 และ 144 ชั่วโมง เป็น 240 ชั่วโมง หรือ 10 วัน และสามารถเดินทางข้ามมณฑลได้ทั่ว 24 มณฑล เขตปกครอง และเทศบาลนคร

กระแส ‘ไชน่า ทราเวล’ หรือ ‘ท่องเที่ยวจีน’ ที่ติดลมบนได้เปิดประตูบานใหม่ในการทำความเข้าใจจีน ทำให้ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยหลงรักการเดินทางท่องเที่ยวจีน ดังเช่น ‘ใจดี’ และเพื่อนๆ ของเธอ ซึ่งเดินทางเยี่ยมชมผาหินแกะสลักต้าจู๋ แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมในฉงชิ่ง เล่าว่าพระพุทธรูปแกะสลักที่นี่แตกต่างกับที่ไทย ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยงามมาก

ข้อมูลจากเอเจนซีการเดินทางท่องเที่ยวท้องถิ่นฉงชิ่งพบว่านอกจากย่านใจกลางเมืองแล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทยยังชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมนอกตัวเมือง เช่น ผาหินแกะสลักต้าจู๋ และระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยนของซื่อชวน (เสฉวน) ที่ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิทัศน์ธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์ มอบประสบการณ์แปลกใหม่แก่นักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ฉงชิ่งยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยแม้ล่วงเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว โดยข้อมูลสถิติจากซีทริป (Ctrip) พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเยือนฉงชิ่ง ช่วงเดือนมีนาคม-พฤศจิกายนของปี 2024 เพิ่มขึ้นราวสามเท่าเมื่อเทียบปีต่อปี เนื่องด้วยอานิสงส์จากข้อตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างจีนกับไทย ซึ่งมีผลบังคับใช้ร่วมกันตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2024

เยาวภา แสงจันทร์ หรือหลี่เพ่ยอิง บล็อกเกอร์สาวไทย เสริมว่าเหตุผลที่ฉงชิ่งเป็นจุดหมายยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยคือการเป็นบ้านเกิดของ ‘เซียวจ้าน’ ผู้ชายที่หล่อที่สุดของจีนตามความเห็นของชาวเน็ตจีน โดยเซียวจ้านเป็นดาราจีนที่มีแฟนคลับชาวไทยอยู่มาก และอีกเหตุผลคือ ‘หม้อไฟหมาล่า’ รสชาติเผ็ดร้อนถูกปากชาวไทยสายแซ่บ

ปัจจุบันที่เข้าใกล้ช่วงหยุดยาวปีใหม่สากลและเทศกาลตรุษจีนของจีน สายการบินบางส่วนในฉงชิ่งได้เริ่มเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินโดยสารแบบไปกลับไทย ซึ่งเยาวภาเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางฉงชิ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะแค่มี ‘พาสปอร์ตหนึ่งเล่ม’ บวกกับ ‘บินตรงสามชั่วโมง’ ก็สามารถมาสำรวจ ‘เมืองภูเขา’ แห่งนี้ได้แล้ว

NEW MG4 ELECTRIC รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก ที่ได้รับการรับรอง ‘MiT’ ตอกย้ำ!! ถึงความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ ด้วยคุณภาพ และมาตรฐานขั้นสูง

(28 ธ.ค. 67) บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า NEW MG4 ELECTRIC ของบริษัทฯ ได้รับการรับรอง ‘Made in Thailand (MiT)’ ซึ่งถือเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองในหมวดรถยนต์ไฟฟ้า โดยความสำเร็จครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในนวัตกรรมและคุณภาพ แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิต รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้สามารถส่งออกไปสู่ประเทศต่าง ๆ ได้ในอนาคต

ใบรับรอง MiT ถือเป็นมาตรฐานที่ออกโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามระเบียบของภาครัฐ สินค้าที่ได้รับการรับรอง MiT จะได้รับสิทธิพิเศษในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ของภาครัฐ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้รถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทฯ ได้รับการบรรจุในระบบการจัดซื้อของภาครัฐ รวมถึงยังช่วยผลักดันการพัฒนาการขนส่งพลังงานสะอาดภายในประเทศอีกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การรับรอง MiT ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้า ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพ และการเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างบริษัทกับพันธมิตรและผู้บริโภค โดย NEW MG4 ELECTRIC เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ได้รับการรับรอง MiT และถือเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานขั้นสูง

สำหรับข้อได้เปรียบอีกประการของการรับรอง MiT คือการสนับสนุนการขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ โดยอาศัยนโยบายสนับสนุนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย การรับรอง MiT สามารถ ใช้เป็นเอกสารอ้างอิงสำหรับการส่งออก ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศที่ให้ความสำคัญ กับสินค้าไทย การรับรองนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้าในระดับโลก และวางรากฐานอันมั่นคงสำหรับการขยายแบรนด์ไปสู่ระดับโลกได้

นายจ้าว เฟิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯ มีความมุ่งมั่น ในการพัฒนานวัตกรรมและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้ทัดเทียมระดับโลก พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานให้กับผู้บริโภคและพันธมิตร เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อน และผลักดันสินค้าไทยให้เปล่งประกายบนเวทีระดับโลก NEW MG4 ELECTRIC ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรก ของ เอ็มจี ที่เป็นโกลบอลโมเดล โดยได้รับการการันตีจากรางวัลระดับโลก ในเรื่องการขับขี่ที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงการออกแบบที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยครบครัน จนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ EV OF THE YEAR ปี 2023 จากสมาคมสื่อมวลชนสายยานยนต์ไทย โดยรถยนต์รุ่นนี้ ทาง เอ็มจี ได้มีการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูงและระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน แบบไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งถือเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทย เพื่อให้หมดกังวล ในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าระยะยาว พร้อมตอกย้ำถึงความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าชาวไทย"

‘ครูพี่ป๊อป’ พาชมบรรยากาศ การรับเสด็จ ‘พระเขี้ยวแก้ว’ สุดอลังการ!! ยิ่งใหญ่ พร้อมชวนนมัสการ!! สวดมนต์ข้ามปี คืน 31 ธันวา ตักบาตรเช้า 1 มกรา รับปีใหม่

(29 ธ.ค. 67) ครูพี่ป๊อป ดร.ณัฐพงศ์ ได้โพสต์คลิป ลง TikTok บรรยายภาพ บรรยากาศการเดินทางมาถึงของ ‘พระเขี้ยวแก้ว’ โดยมีใจความว่า ...

‘พระเขี้ยวแก้ว’ เสด็จมาถึงเมืองไทย และนี่ก็คือเครื่องบินลําใหญ่ที่สุดของแอร์ไชน่าสําหรับท่านประธานาธิบดีเท่านั้นครับ แต่วันนี้คือการส่งเสด็จพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่เมืองไทย ซึ่งพวกเราคนไทยก็ได้เตรียมการล่วงหน้ารอรับเสด็จมาเป็นปี วันนี้มารออยู่กับผมตั้งแต่เช้าอยู่ด้วยกันทั้งวัน ตั้งแต่ท่านเอกอัครราชทูตจีนท่านหานจูเฉียง ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศ ท่านมาริษ เสงี่ยมพงษ์ สมเด็จวัดโพธิ์ สมเด็จวัดเทพก็มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ในงานนี้ด้วย 

ต้องบอกว่าขนาดที่กรุงปักกิ่งเนี่ย คนจีนที่เข้าไปกราบ ยังไม่สามารถเข้าเฝ้าได้ใกล้ชิดขนาดนี้นะครับ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง สถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน ‘ไทย – จีน’ 
วิจิตร เป็นเจดีย์ มีกระจกล้อม 3 ด้าน

แล้ว‘พระเขี้ยวแก้ว’ จะอยู่กับเราคนไทยนะครับตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมเปิดให้เข้าชมนะครับ ไปจนถึงวันวาเลนไทน์ บนโลกใบนี้เนี่ยมีพระบรมสารีริกธาตุส่วนฟันเนี่ยหรือว่าพระเขี้ยวแก้วเหลือเพียงแค่สองชิ้นเท่านั้นนะครับ ชิ้นที่หนึ่งเนี่ยอยู่ในประเภทศรีลังกา

ชิ้นที่สองก็อยู่ที่นี่แล้ว เราสามารถที่จะกราบนมัสการ ได้ใกล้มากถือว่าเป็นโชคดีของคนไทยครับ เราจะมีพระอาจารย์มาจากวัดหมิงซื่อ คอยนั่งปฏิบัติสวดมนต์เฝ้าพระธาตุตลอด 24 ชั่วโมงสลับสับเปลี่ยนจากกันไปเหมือนกับ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อที่จะทําให้ทางรัฐบาลจีนเนี่ย มั่นใจนะครับว่าพระธาตุมาอยู่ในประเทศไทย ต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน

ผมคุยกับพระอาจารย์ซึ่งท่านมาจาก วัดหลินฮวงซื่อ นะครับ รวมถึงพี่น้องสื่อมวลชนชาวจีนบอกว่า ไม่คิดเลยว่าคนไทยจะรักพระพุทธศาสนา กันมากมายขนาดนี้ 

มีกิจกรรมทำวัตรกันทุกเช้าเย็น เราสามารถมากราบนมัสการได้ตั้งแต่วันพ่อไปจนถึงวันวาเลนไทน์นะครับ

โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ จะอากาศดีมาก มีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในค่ำคืนวันที่ 31 นี้ด้วย

แล้วก็ตักบาตรตอนเช้าวันที่ 1 มกราคม รับปีใหม่

ก่อนที่พวกเราจะน้อมส่งเสด็จพระธาตุกลับกรุงปักกิ่งด้วยกัน ในวันวาเลนไทน์ที่ 14กุมภาพันธ์

‘สโกมาดิ’ พร้อมยกระดับโรงงานผลิตสกู๊ตเตอร์ ‘บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก’ ในไทย พร้อมเปิดโมเดลใหม่!! ขยายดีลเลอร์ ปั้นคอมมูนิตี้ ขยายเพิ่มฐานลูกค้า ให้มากขึ้น

(28 ธ.ค. 67) นายแม็กซิม วองเดอเรเกน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) หรือ Scomadi กล่าวว่า เราเป็นแบรนด์สกู๊ตเตอร์สไตล์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก ที่ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลก ที่ผ่านมาเราเน้นการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่เป็นตลาดสำคัญของธุรกิจรถจักรยานยนต์

รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตและส่งออกประจำภูมิภาค ผ่านการนำเสนอโมเดลรถสกู๊ตเตอร์ทรงคลาสสิกขนานแท้ ที่ใช้งานในชีวิตจริงได้อย่างคล่องตัว สำหรับผู้ขับขี่ทุกไลฟ์สไตล์ ตามแนวคิด Timeless design with high functionality

สำหรับประเทศไทยในปี 67 นี้เราได้ชูรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่น Turismo Electronica เป็นโมเดลหลักประจำปี นอกจากเอกลักษณ์สวยงามมีระดับตามแบบฉบับสโกมาดิ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ใช้งาน ด้วยสมรรถนะจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันก็ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดเพิ่ม 2 รุ่น ได้แก่ Technica 200i Adventure Series ABS และ Technica 200i Urban Series ABS” ที่มาพร้อมระบบเบรค ABS และตัวเลือกสีใหม่ พร้อมให้ออกเดินทางไปกับโร้ดทริปแบบมีสไตล์ สอดรับเจตนารมณ์การเป็นแบรนด์ที่รองรับความต้องการของคนรักสกู๊ตเตอร์คลาสสิก ทั้งในเชิงฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ และไลฟ์สไตล์ อย่างครบครันที่สุด

นายแฟรงก์ แซนเดอร์สัน ผู้ร่วมก่อตั้งสโกมาดิ กล่าวว่า สโกมาดิ ถือกำเนิดจากความหลงใหลในรูปลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลาของรถสกู๊ตเตอร์แบบดั้งเดิม ผสานกับความรู้ด้านวิศวกรรมรถจักรยานยนต์ ที่สั่งสมจากการเป็นเจ้าของสำนักแต่งรถสกู๊ตเตอร์ และประสบการณ์การทำงานกว่า 60 ปี แรงบันดาลใจนี้นำมาสู่การสร้างสรรค์รถสกู๊ตเตอร์สโกมาดิคันแรกในปี 2548 ณ ประเทศอังกฤษ ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี

ทั้งนี้ เรามีการพัฒนารถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงยึดมั่นในดีเอ็นเอ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก อย่างเข้มข้น สะท้อนในการออกแบบทั้งโครงรถ ตัวถังเหล็ก เส้นสายโค้งมน เบาะหนังเย็บอย่างปราณีต ไปจนถึงไฟ LED ทรงกลม ที่รักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวครบถ้วน ผสานนวัตกรรมทันสมัย เช่น ระบบเบรค หน้าจอดิจิทัล และสมรรถนะเหนือระดับ เพื่อครองใจนักขับขี่ผู้มีใจรักความคลาสสิกในทุกยุคสมัย

นายพรเศก ภาคสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในบปี 2568 นี้สโกมาดิ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้ชุมชนคนขับสโกมาดิ ผ่านกิจกรรมทดลองขับขี่ และกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนการขยายดีลเลอร์ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้สนใจสามารถชมรถรุ่นต่าง ๆ รวมถึงให้ลูกค้าปัจจุบันสามารถเข้ารับบริการจากสโกมาดิได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ในปีหน้าสโกมาดิยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชีย ด้วยการยกระดับมาตรฐานโรงงานผลิตในไทย เพื่อรองรับความต้องการและการส่งออก รวมถึงเตรียมขยายการดำเนินธุรกิจในทวีปยุโรป ด้วยการทำใบรับรองมาตรฐานยูโร เพื่อให้สามารถจำหน่ายรถรุ่นใหม่ได้ในหลายประเทศ ทั้งหมดนี้จะทำให้สโกมาดิสามารถสร้างความสำเร็จในฐานะแบรนด์ สกู๊ตเตอร์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิกที่ครองใจผู้ขับขี่ทุกคน

‘โตโยต้า ถนนสีขาว’ รณรงค์!! เดินทางปลอดภัย ‘ช่วงปีใหม่’ ภายใต้แนวคิด!! ‘ยิ่งเร็ว ยิ่งสูญเสียเร็ว’ เพื่อการสูญเสียจากอุบัติเหตุ

(28 ธ.ค. 67) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เดินหน้ารณรงค์ขับขี่ปลอดภัยช่วงปีใหม่ ภายใต้โครงการ โตโยต้าถนนสีขาว ผ่านข้อความสื่อสาร ‘ยิ่งเร็ว.. ยิ่งสูญเสียเร็ว’ เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมส่งมอบความมั่นใจทั้งก่อนและหลังการเดินทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน ด้วยการให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 7 ระบบสำคัญ รวม 33 รายการ พร้อมทั้งให้บริการจุดพักรถ ณ บริเวณทางหลวงขาออกไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อส่งมอบความสุข และความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง บริษัทฯ พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จึงจัดให้มีบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 7 ระบบสำคัญ รวม 33 รายการ ในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถนำรถยนต์ไปตรวจเช็ก ตั้งแต่วันนี้ - 31มกราคม 2568 ที่ศูนย์บริการผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ

นอกจากนี้ โตโยต้า ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐจัดจุดพักรถ ให้บริการ น้ำดื่ม ผ้าเย็น และขนม แก่ประชาชนที่จะเดินทางออกไปยังภูมิภาคต่างๆ จำนวน 4 แห่ง ระหว่างวันที่ 27-29ธันวาคม 2567

1) นครราชสีมา อำเภอ ปากช่อง ณ บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ ริมถนนมิตรภาพ
2) เพชรบุรี อำเภอ เขาย้อย ณ จุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ checking point ตลาดพูนทรัพย์ ต.สระพัง
3) นครสวรรค์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ ณ จุดบริการประชาชนริมบึง ถนนสาย 117 ต.บางม่วง
4) ชลบุรี อำเภอ บ้านบึง ณ ศูนย์ปฏิบัติการร่วม(ด่านหลัก) จุดสกัด 344 ขาเข้า เยื้องบริษัท คิวเอ็ม บี

โตโยต้า มุ่งมั่นรณรงค์ขับเคลื่อนสังคมแห่งความปลอดภัยในการเดินทาง และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง สังคมคนขับรถดี’ ด้วยการขับขี่ตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามกฎจราจร มีวินัย และน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทางเพื่อผลักดันสังคมไทยมุ่งสู่ ‘เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน’ (Sustainable Development Goals) ต่อไป

‘กระทรวงศึกษาฯ’ เผยรายชื่อ!! ‘เด็ก - เยาวชน’ ที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ‘อริณชย์ - อริสา’ ทายาทนักธุรกิจใหญ่ ‘วิชัย ทองแตง’ ได้รับรางวัลนี้ด้วย

(28 ธ.ค. 67) ประกาศผลการคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2568

เด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ที่มีผลงานโดดเด่นและได้รับการคัดเลือกตามประกาศฯ ของกระทรวงศึกษาธิการนี้ จะได้เข้าเยี่ยมคารวะรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี และรับโล่เกียรติคุณจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันพุธที่ 8 มกราคม 2568 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

ในรายชื่อของเด็กและเยาวชนดีเด่น ที่ได้รับรางวัล เนื่องจากสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยนั้น ได้ปรากฏรายชื่อ 

นายอริณชย์ ทองแตง จากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพมหานคร ในลำดับที่ 423

และ นางสาวอริสา ทองแตง จากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพมหานคร ในลำดับที่ 424

ซึ่งเยาวชนดีเด่น ทั้งสองคนนี้ เป็นหลานชาย และหลานสาว ของ นายวิชัย ทองแตง นักธุรกิจรุ่นใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จมากมาย ซึ่งภายหลังนั้นได้วางมือทางด้านธุรกิจ และได้หันไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม รวมทั้งได้ปั้นสตาร์ตอัป นักธุรกิจรุ่นใหม่เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยต่อไป

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ต้อนรับผู้แทน หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ (27 ธ.ค.67) น.อ.หญิง นงลักษณ์ สิงหโกวินท์ รอง ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ให้การต้อนรับผู้แทนหน่วยรบพิเศษของ กองทัพบก สหรัฐอเมริกา Special Force Readiness Evaluation (SFRE) Team โดยมอบหมายให้ SFC Paul Jedlicka เข้าดูความพร้อมในด้านการแพทย์ และขอเข้าเยี่ยมดูงาน ในหน่วย ER/ ICU/ WARD/ X-RAY/ BLOOD BANK/ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

โดยมีผู้แทนของหน่วยงานดังกล่าว ร่วมแนะนำขีดความสามารถของหน่วย หน้างานอีกด้วย 

ผู้อำนวยการสวนสัตว์ยืนยัน วิทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin) หนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดในวงการคริปโตฯ ผู้ร่วมก่อตั้งและสร้างเหรียญ Ethereum (ETH) มอบเงิน 10 ล้านบาท จริง 

ตามที่เพจ ‘ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง’ รายงาน ‘วิทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin) หนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดในวงการคริปโตฯ ผู้ร่วมก่อตั้งและสร้างเหรียญ Ethereum (ETH) มอบเงิน 10 ล้านบาท เพื่อสร้างบ้านใหม่ให้หมูเด้ง

“หลังจากครั้งที่เเล้วซื้อผัดกระเพรามาฝาก รอบนี้ คุณ Vitalik Buterrin สนับสนุนเงิน 10,000,000 บาท ในโครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่า เพื่อสร้างบ้านใหม่ให้หมูเด้ง เเล้วเจอกันกับบ้านใหม่หมูเด้งเร็วๆ นี้“

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม 2567  ผู้สื่อข่าวได้การเปิดเผยจาก นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กรณี ที่นาย ทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin)ได้มาเยี่ยมชมน้องหมูเด้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้วโดยทางด้านสวนสัตว์เปิดเขาเขียวกับทางด้านนายนาย ทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin)ได้หารือกันเบื้องต้นซึ่งทางด้านทาลิกมีความสนใจที่จะมอบเงินสนับสนุนเพื่อเข้าโครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่าของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพื่อนำมาสร้างบ้านให้กับน้องหมูเด้ง หลังจากนั้นทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวนั้นได้ไปสอบถามและปรึกษาทางด้านกฎหมายก่อนหน้านี้แล้วจนกระทั่งถึงปัจจุบันทางด้านทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin)ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน 10 ล้านบาท โดยวันนี้ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวได้รับเช็คเงินสดมาแล้วจำนวน 5 ล้านบาท และหลังจากนี้ทางด้านสวนก็เปิดเขาเขียวจะออกแผนผังบ้านน้องหมูเด้งและภายในปีหน้าทางด้านนาย ทาลิก บูเทอริน’ (Vitalik Buterin)จะเดินทางมามอบเงินอีก 5 ล้านบาท

กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบคลิป 'อย่าเล่นกับระบบ!' เตือนเมาไม่ขับ ขับขี่ปลอดภัย เป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ประชาชนสัญจรปลอดภัย

วันนี้ (28 ธ.ค.67) พล.ต.ต.หญิง สมพร พูลเกษม ผู้บังคับการกองสารนิเทศ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คุมเข้มในการดูแลการจราจร และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วง 10 วัน ควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงจัง เน้นย้ำถึงการสร้างจิตสำนึกและพฤติกรรมการขับขี่ที่ปลอดภัย

กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงร่วมรณรงค์เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาอย่างหนาแน่น โดยจัดทำคลิปประชาสัมพันธ์ชุด “อย่าเล่นกับระบบ!” เพื่อรณรงค์เมาไม่ขับ ขับขี่ปลอดภัย โดยมี “กุนซือมือฉมัง” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หรือ ผู้การจ๋อ และ “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ” พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. หรือ สารวัตรแจ๊ะ ร่วมเตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อให้หลีกเลี่ยง 5 พฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ เมาแล้วขับ , ง่วงแล้วขับ , ไม่สวมหมวกกันน็อค , ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด “ไม่งั้นอาจถูกระบบเวรกรรมเล่นงาน!”

นอกจากนี้ ผู้บังคับการกองสารนิเทศ กล่าวว่า คลิปประชาสัมพันธ์ชุดนี้ กองสารนิเทศจัดทำเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้ประชาชนสัญจรปลอดภัย ซึ่งจะถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน และจออัจฉริยะบริเวณทางแยกป้อมจราจร โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยเตือนสติประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ และช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ และขอให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนคำนึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรและการมีวินัยในการขับขี่ เพื่อให้เทศกาลปีใหม่นี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและปลอดภัยสำหรับทุกคน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top