Thursday, 10 July 2025
TheStatesTimes

การรถไฟฯ ประกาศ ‘คืนตั๋วเต็มราคา’ ให้ประชาชน ยกเลิกเดินทาง ช่วงสงกรานต์

8 เมษายน 2564 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุม ป้องกัน และลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้กำหนดมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการงดการเดินทาง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 9 - 18 เมษายน 2564 ให้สามารถคืนเงินตั๋วโดยสารได้เต็มราคา 

โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.) ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสาร (รายบุคคล) ไว้ล่วงหน้า หากต้องการงดการเดินทางสามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารเป็นกรณีพิเศษได้เต็มราคา (ก่อนขบวนรถออกไม่น้อยกว่า 1 วัน) และในส่วนของตั๋วโดยสารที่ชำระด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐร่วมกับเงินสด การรถไฟฯ จะคืนค่าโดยสารให้เฉพาะส่วนที่เป็นเงินสดเท่านั้น

2.) ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วหมู่คณะ ตั๋วนำเที่ยวหมู่คณะ ตั๋วสำหรับเช่าขบวนรถพิเศษโดยสาร และตั๋วเช่ารถโดยสารไว้ล่วงหน้า สามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารเป็นกรณีพิเศษได้เต็มราคา (ก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 1 วัน)

3.) กรณีจังหวัดของสถานีต้นทางหรือปลายทางตามตั๋วของผู้โดยสาร ได้ประกาศมาตรการเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด อนุญาตให้คืนเงินค่าตั๋วก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง

4.) ผู้โดยสารที่จองตั๋วทางอินเตอร์เน็ต สามารถยื่นคำร้องขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารเป็นกรณีพิเศษได้เต็มราคา โดยแนบไฟล์ตั๋วอินเตอร์เน็ต ส่งมาที่ E-MAIL [email protected] 

“ประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารเดินทางในช่วงวันดังกล่าว สามารถติดต่อขอคืนเงินได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานีทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564 เป็นต้นไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง” 

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้เตรียมความพร้อมการให้บริการแก่ผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทาง ทั้งการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารสถานี ชานชาลา ที่พักผู้โดยสาร ห้องสุขา และพื้นที่โดยรอบบริเวณสถานี นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง และลงทะเบียนหรือสแกนคิวอาร์โค้ด เช็กอิน / เช็กเอาต์ แอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้งที่ใช้บริการ หรือหากพบเห็นผู้โดยสารที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานี / ขบวนรถ หรือศูนย์ปลอดภัยของการรถไฟฯ โทรศัพท์ 02-5379198

ชลบุรี - เกาะล้านยังปลอดภัยไร้คนติดเชื้อโควิด เมืองพัทยาเข้มมาตรการคัดกรองคนเที่ยวเกาะล้าน

วันนี้ 7 เม.ย.64 นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากที่มีนักท่องเที่ยวชาวจังหวัด นนทบุรี ติดเชื้อโควิด-19 ได้เดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะล้าน ซึ่งทางเมืองพัทยาก็ได้ทราบจากสาธารณะสุขจังหวัดนนทบุรี โดยนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อได้เดินทางมาเที่ยวเกาล้านในวันที่ 3 เมษายน 2564 โดยท่องเที่ยวบนเกาะล้าน และเดินทางกลับในวันที่ 4 เมษายน 2564 หลังจากที่ทราบข่าวทางเมืองพัทยาก็ได้ลงพื้นที่ไปดูแลผู้ที่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวชาวนนทบุรี โดยให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เฝ้าระวังตัวเอง  ไม่ว่าเรือโดยสารที่ข้ามไปยังเกาะล้าน ร้านสะดวกซื้อที่นักท่องเที่ยวชาวนนทบุรีได้เดินทางเข้าไป ซึ่งวันนี้ทางเมืองพัทยาก็ได้ไปยังเกาะล้านก็ยังไม่พบผู้ใกล้ชิดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ติดเชื้อแต่อย่างใด ซึ่งประชาชนที่อยู่บนเกาะล้านยังไม่มีการติดเชื้อโควิด 19

อย่างที่ทราบกันดีเกาะล้านมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งการระบาดรอบ 1 และรอบ 2 ทางเมืองพัทยามีมาตาการให้เกาะล้านมีการปิดเกาะ ซึ่งตอนนี้ทางเมืองพัทยาก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวทั้งจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย และท่าเรือบนเกาะล้านทุกท่าเรือจะมีจุดคัดกรอง ถ้าเกิดกรณีนักท่องเที่ยวมีไข้ขึ้นสูง ทางเมืองพัทยามีเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอยู่บนเกาะล้านคอยดูแล  แต่ถ้าพัก 1-2 ชั่วโมงอาการไข้ยังสูง ทางเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขก็จะทำการส่งตัวให้กับโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

จับโป๊ะ!!… ‘นางงามพม่า’ ยังไม่มีค่าหัว

Special Scoop

จากที่ข่าวใหญ่ในไทยมีการเปิดเผยว่า ‘มิสแกรนด์เมียนมา’ ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ต่อต้านแล้วนั้น

เมื่อวาน (วันที่ 7 เมษายน 2564) พอเอย่าได้ทราบข่าว เอย่าถึงกับต้องเข้าไปหาข้อมูล โดยเอย่าไปดูประกาศจากหนังสือพิมพ์ Global New Light Myanmar ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลทหาร โดยพยายามค้นหาข่าวว่ามีการตั้งข้อหา ‘ฮาน เลย์’ ว่าจริงหรือไม่? เรียกว่าพยายามดูย้อนกลับไปถึงวันที่ 1 มีนาคม กันเลยทีเดียว

แต่สรุปว่าหาไม่เจอจ้า เจอแต่ดารา นางแบบ นักร้องและเซเลบฯ คนอื่นๆ ที่โดนตั้งข้อหาเต็มไปหมด แถมประกาศจับเพิ่งมีช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เองด้วย

(รายชื่อของคนที่โดนข้อหาจากทางคณะรัฐประหารของเมียนมา)

 

เอย่าพยายามมองแล้วมองอีก ก็หาไม่เจอชื่อของนางงามคนนี้แต่อย่างใด มีแต่การรายงานออกมาตามเฟซบุ๊ก แต่ไม่เห็นสื่อหลักอย่าง The Global New Light of Myanmar หรือ IRRAWADDY NEWS แต่อย่างใด

อย่างที่ว่าข่าวนี้นอกจากจะเป็นข่าวปลอมแล้ว ยังเป็นข่าวที่สร้างกระแสให้กับนางงามคนนี้ไม่น้อย ด้วยความหวังผลที่จะได้ลี้ภัยในประเทศไทยนั่นเอง

แต่คำถามของเอย่าคือคิดว่าใครเป็นผู้สร้างข่าวปลอมนี่ล่ะคะ?

ในสังคมทุกวันนี้การวิเคราะห์ข่าวปลอมไม่ยาก ข้อแรกเลยคือใครได้ประโยชน์จากข่าวปลอมนั้น ข้อต่อมาคือมีคนนำข่าวปลอมนั้นไปต่อความยาวสาวความยืดไหม?

เอาเป็นว่า เอย่า เชื่อว่าทุกท่านคงตัดสินเองได้ เพราะเท่าที่เห็นบนเฟซบุ๊กของนางงามคนนี้ ก็มีแต่แชร์เฟซบุ๊กคนอื่น โดยที่แทบไม่ใส่ความเห็นของตัวเองเลย

เอาเป็นว่าไม่ต้องเชื่อเอย่านะคะ อยากรู้ไปหาดูเองได้ค่ะ

สรุป ถ้าเปรียบเทียบกับดารา เซเลบฯ ที่ถูกออกหมายจับแล้ว… สิ่งที่ ‘คุณ’ ทำอยู่...มันต่างกันค่ะ Han!!

ที่มา: AYA IRRAWADEE

 

ราชบุรี - เปิดเมนูสุดซิค ธรรมชาติเย็น ท่ามกลางบรรยากาศริมธาร ในอำเภอสวนผึ้ง

เปิดเมนูสุดซิค “ธรรมชาติเย็น” กับ “เลมอนชีท” ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติติดริมธาร จากร้าน ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe ที่อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี จุดเช็คอินท่องเที่ยวของอำเภอสวนผึ้ง

(7 เม.ย.64) พาไปกันที่ร้าน ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe ตั้งอยู่ริมธารน้ำ ใน ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างตลาดโอ๊ะป่อย กับ เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม รีสอร์ท สวนผึ้ง แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเป็นจุดแลนมาร์คแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย

ร้าน ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe เป็นร้านกาแฟที่อยู่กลางธรรมชาติแบบสุด ๆ โดยเจ้าของร้าน “คุณเป้” สาวชาวราชบุรีนักเรียนนอก ที่บินกลับมาอยู่บ้านที่ประเทศไทยเนื่องจากสถานการณ์โควิด “ธรรมชาติ คาเฟ่” เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะให้ลูกค้าได้ดื่มกาแฟรสชาติที่ดีได้สัมผัสบรรยากาศที่ดีอีกมุมของสวนผึ้ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของ อ.สวนผึ้ง คือ “ภูเขาและลำธาร”

โดยพื้นที่ของร้านทั้งหมด เป็นที่เซลฟี่ และ นั่งพักผ่อนเพื่อเป็นการผ่อนคลายหลังจากที่ต้องเดินทางมาไกลจากต่างจังหวัด จุดเด่นของที่ร้าน คือ ต้นสน 2 ต้นที่จะมีลำต้นเอนเอียงเพื่อรับแดด จากการที่ต้นสนอยู่รายล้อมไปด้วยต้นใหญ่ที่ขึ้นปกคลุม จึงได้นำมาเป็นโลโก้ ของ ร้านธรรมชาติ คาเฟ่ นอกจากนี้ที่บริเวณริมธาร ได้มีการตกแต่งด้วยไม้ไผ่ และ มีต้นกอไผ่ขึ้นสูงใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้เซลฟี่ และนั่งพักผ่อน ชิมอาหาร เมนูเด็ด พร้อมเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านที่มีให้เลือกกว่า 50 เมนู และมีที่นั่งหลายมุม หรือจะลองถ่อแพบนน้ำใส ๆ ไหลเย็นสบาย ๆ

น.ส.นฤมล ศรีสวัสดิ์ อายุ 20 หรือ น้องเวิร์ค บาริสต้าประจำร้าน ร้านจะมีจุดเด่นอยู่ที่ความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย และได้รับความร่มรื่นจากร่มไม้ กลิ่นอายความบริสุทธิ์ทั้งสายน้ำจากลำธาร และ เสียงไผ่กระทบกันเวลาที่มีลมพัดทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน “ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe”

เมนูเครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกหลากหลายเมนูทั้งเมนูร้อน และ เย็น อาทิ Espresso, Americano, Honey Americano, Orange Americano, Cappuccino หรือ Latte ราคาเริ่มต้นที่ 60 – 90 บาท ส่วนเมนู ปั่น 80 – 100 บาท

สำหรับ Special Menu หรือ เมนูซิกเนเจอร์ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า เมนูแรก “ Tham•ma•chart ” เป็นเครื่องดื่มเมนูกาแฟ ที่ใช้เยลลี่สตอเบอร์รี่ วางที่ก้นแก้ว เทด้วยนมสด จากนั้นเท กาแฟที่เชคด้วยความเย็น รสชาติของกาแฟจะกลมกล่อม ราคาแก้วละ 90 บาท

เมนูที่ 2 คือ “ Tham•ma•chart Smoothie ” เป็นเครื่องดื่มเมนู ที่นำ สตอเบอร์รี่ โกโก้ ช็อคชิพ ปั่นรวมกัน แต่งหน้าด้วยวิปครีม แกโนล่า ราคาแก้วละ 120 บาท

ส่วนเมนูที่ 3 คือ Choco Mint เป็นมนูนมชาเขียว ที่ผสมกับโกโก้แท้ 100% รสชาติจะหอมหวานโกโก้ แบบธรรมชาติลงตัว ราคาแก้วละ 80 บาท

นอกจากนี้ยังมี เมนูของหวาน อาธิ ขนม “คานาเล่” เป็นขนมฝรั่งเศสทานคู่กับกาแฟสด จุดเด่นคือสีของขนมจะเข้มทั้งชิ้น ด้านนอกกรอบด้านในนุ่ม ที่สำคัญจะมีส่วนผสมของเหล้าลังเพิ่มความหอมและรสชาติของ คานาเล่ ราคา 60 บาท

และอีก 1 เมนู คือ “เลมอนชีสพาย” ที่มีความกรอบของแครกเกอร์ นุ่มจากครีมชีส และเด้งด้วยเจลลีเลมอนด้านบนอีกชั้น แถมลาดด้วยน้ำผึ้ง ราคาชิ้นละ 80 บาท

สำหรับร้าน ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe ตั้งอยู่ริมธารน้ำ ใน ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างตลาดโอ๊ะป่อย กับ เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม รีสอร์ท สวนผึ้ง เปิดทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ ทั้งแตเวลา 08.30 – 17.00 น. โทรสอบถามเส้นทางหรือรายละเอียดได้ที่หมายเลข 061-495-5989 หรือ ติดตามข่าวสารต่าง ๆ  ได้ทาง เฟสบุ๊คแฟนเพจ ชื่อ กาแฟกุมภาพันธ์ ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe


ภาพ/ข่าว  ตาเป้ จ.ราชบุรี

 

“ราเมศ”เผย ปชป. ห้าม รมต.-ส.ส.-ผู้บริหารพรรค จัดงานเลี้ยงเด็ดขาด ป้องกันโควิด

เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่เกิดขึ้นว่า ด้วยความร่วมมือของทุกคนจะเป็นแนวทางป้องกันการแพร่กระจายได้ดีที่สุด และมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นพวกเราทุกคนมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และจะต้องเข้มงวดเรื่องการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันมากขึ้นด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ใช้ช้อนกลาง การเว้นระยะห่างทางสังคม และควรติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด 

ไม่ควรมีการใช้สิทธิพิเศษเพื่อยกเว้นจากมาตรการป้องกันที่สำคัญ ซึ่งในส่วนของพรรคได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีข้อกำหนดที่ทุกคนตัองปฏิบัติอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรี ส.ส. อดีต ส.ส. หัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด อดีต ส.ก. ส.ข. ผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกพรรคทุกคน ต้องยึดหลักมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด ห้ามจัดงานเลี้ยงหรือรวมกลุ่มกันในช่วงนี้เด็ดขาดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ทำการพรรคได้มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิดแล้ว

มท.1 ยืนยัน ไม่จำเป็นต้องล็อคดาวน์ประเทศ วอน ประชาชนเคร่งครัดมาตรการสาธารณสุข ป้อง โควิด-19

เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนที่จะเดินทาง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ต้องระมัดระวัง ป้องกันตัวจากเชื้อโควิด-19 ด้วย และขอให้ทุกคนทำในสิ่งที่เป็นมงคล หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและการรวมกลุ่ม เสี่ยงต่อการระบาดของโควิด-19 

พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า ที่นายกรัฐมนตรีมอบผู้ว่าราชการจังหวัดในการตัดสินใจออกมาตรการต่างๆในการป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่เอง ส่วนตัวเห็นด้วยและเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด เพราะสถานการณ์แต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดจะเป็นตัวชี้ว่าควรจะมีมาตรการที่เหมาะสมอย่างไร โดยคำนึงถึงผลกระทบด้านอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะกระทบด้านเศรษฐกิจ และยังไม่จำเป็นที่จะต้องล็อคดาวน์ประเทศ ถ้าประชาชนทุกคนมีมาตรการป้องกันตนเองอย่างดีที่สุด การระบาดก็จะสามารถควบคุมได้ การปิดกิจการไม่ให้คนไปรวมกลุ่ม ก็จะกระทบกับเศรษฐกิจ แต่ถ้าทุกคนใช้ระบบดูแลตัวเอง สิ่งอื่นก็ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดส่งผลต่อเศรษฐกิจ 

พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า ส่วนแผนการเปิดประเทศนำร่องพื้นที่ จ.ภูเก็ต ในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ จะมีการทบทวนหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา เข้าใจว่าต้องมีการประเมินแนวทางอีกครั้ง โดย ศบค. และ ครม. จะพิจารณาร่วมกัน 

States TOON ep.8

‘พี่ตู่’ นัดชุมนุม

แต่คุ้น ๆ เหมือนงานในอดีต?

จับตา ศบค. แถลงวันนี้ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด ตัวเลขทะลุ 405 ราย กทม. ติดเชื้อ 95 ราย

ทะลุไม่หยุด รายงานข่าวจาก ศบค. วันนี้ 8 เมษายน มีผู้ติดเชื้อโควิดถึง 405 ราย มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ 95 ราย จับตาดูการแถลงของ ศบค. วันนี้โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ในเวลา 11.30 น. ยกระดับมาตรการเข้มป้องกันการแพร่ระบาด

จุรินทร์ ปลื้มดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2 เดือนติดกัน อานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและราคาพืชผลการเกษตรปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

วันที่ 8 เมษายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่าดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภคโดยรวมในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ทุกภาค และทุกอาชีพ โดยเฉพาะในอนาคต ปรับขึ้นมาอยู่ในช่วงเชื่อมั่นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องด้วยประชาชนเชื่อมั่นในมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจและราคาพืชผลการเกษตรดีขึ้นจากมาตรการเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และประชาชนมีความคาดหวัง ในแง่ดีต่อวัคซีน Covid-19

นายจุรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนมีนาคม 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ ระดับ 47.5 เทียบกับระดับ 45.5 ในเดือนก่อนหน้า เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 38.1 มาอยู่ที่ระดับ 40.2 และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต พบว่า ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 50.4 มาอยู่ที่ระดับ 52.3

เมื่อจำแนกรายภูมิภาค พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากระดับ 46.1 มาอยู่ที่ระดับ 49.6 และภาคใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 47.0 มาอยู่ที่ระดับ 48.5 เมื่อจำแนกรายอาชีพ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 45.8 มาอยู่ที่ระดับ 49.3 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว 

ส่วนกลุ่มเกษตรกรปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 46.8 มาอยู่ที่ระดับ 47.7 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคา สินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และกลุ่มพนักงานของรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 51.4 มาอยู่ที่ระดับ 52.5 ซึ่งปรับตัวมาอยู่ในระดับเชื่อมั่นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส Covid-19 น้อยที่สุด

กล่าวโดยสรุป แนวโน้มความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มมั่นใจ ที่จะจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่มีสถานการณ์ปัญหาร้ายแรงอื่นเพิ่มเติม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ เศรษฐกิจไทยค่อย ๆ ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องขึ้นเป็นลำดับ

บึงกาฬ - กกล.สุรศักดิ์ฯบูรณาการ ไล่จับเรือบรรทุกยาเสพติดหนีพลิกคว่ำกลางโขง

กองกำลังสุรศุกดิ์มนตรี บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) โดย ร้อย.ฉก.ทพ.2106 ฉก.ทพ.21 ร่วมกับหลายฝ่ายดักซุ่มริมน้ำโขงพบเรือต้องสงสัย 2 ลำติดเครื่องยนต์วิ่งข้ามน้ำโขงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเข้ามาจอดริมตลิ่งฝั่งไทย จึงได้ส่งสัญญาเพื่อตรวจค้น แต่เรือทั้ง 2 ลำได้รีบขับแล่นหนีจะข้ามน้ำโขงกลับไป เรือลำหนึ่งได้เฉียวชนกับโขดหินที่น้ำโขงกำลังลดมาก ทำให้เรือพลิกคว่ำสิ่งของในเรือกระจายไหลตามน้ำไป รุ่งเช้า จนท.ออกเคลี่ยร์พื้นที่พบยาเสพติดทั้งยาบ้าและไอซ์จำนวนมาก

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 เม.ย.ที่หน้าศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายวราดิศร อ่อนนุช ปลัดจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่13 และรองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ดาบทอง อุภัยพรม ผกก.สภ.ปากคาด พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ หน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ  ฝ่ายปกครองอำเภอบึงกาฬและปากคาด แถลงผลการตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ได้ จำนวน 1,345,540 เม็ด และยาไอซ์ 62 กิโลกรัม รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 122,643,200 บาท หลังทหาร ตำรวจ นรข.และฝ่ายปกครอง ร่วมกันตรวจยึดได้ริมแม่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ

ทั้งนี้จากการสืบทราบของ พ.อ.มงคล ห่อทอง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่13 และรองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดข้ามน้ำโขงเข้ามาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้าชาวไทยจำนวนมาก ที่บริเวณริมน้ำโขงบ้านเวินโดน หมู่ 8 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ หลังจากทางภาคเหนือมีการสู้รบกันระหว่างทหารพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทำให้การขนย้ายยาเสพติดเข้าไทยยากลำบาก จึงหันมาทะลักส่งเข้าไทยทางภาคอีสาน ดังนั้น ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงต่อ กกล.สุรศักดิ์มนตรี เฝ้าระวังตรวจเข้มตามแนวชายแดนริมน้ำโขง กระทั่งเวลาประมาณ 04.30 น.เช้านี้ ร.ท.บุญทัน นกกระโทก ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2106 หน่วยเฉพาะกิจ ทพ.21 ได้บูรณาการร่วมกับ หน่วยเรือ นรช.รัตนวาปีและ นรข.บึงกาฬ ตร.ชุดสืบสวน สภ.ปากคาด ตร.กก.สืบสวน ภ.จว.บีงกาฬ ชุดสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ตชด.244 บึงกาฬ และปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอปากคาดและอำเภอบึงกาฬ ร่วมกันลาดตระเวนทั้งบนบกและในแม่น้ำโขง เวลาดังกล่าวขณะชุดลาดตระเวนในน้ำโขงสังเกตเห็นเรือหาปลาติดเครื่องยนต์ 2 ลำแล่นข้ามน้ำโขงมาจอดใกล้ริมตลิ่ง จึงแสดงตัวขอตรวจค้น คนขับเรือพร้อมผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยกันประมาณลำละ 3 คน เห็นท่าไม่ดีจึงได้ขับเรือเร่งเครื่องยนต์หลบหนีอย่างรวดเร็วทันที แต่เรือ 1 ใน 2 ลำเกิดแล่นพลาดท่าไปชนโขดหินห่างออกไป 150 เมตรซึ่งน้ำโขงเริ่มลดลงทุกวัน ทำให้เรือพลิกคว่ำทั้งคนและสิ่งของตกน้ำไปด้วย แต่เรืออีกลำคนขับก็แล่นวนกลับมารับเพื่อนขึ้นเรือกลับไปด้วย แต่ จนท.ก็ไม่กล้าเสี่ยงเข้าเคลียร์พื้นที่ เนื่องจากยังมืดค่ำอยู่เกรงจะได้รับอันตราย

และเช้าวันนี้ได้ร่วมกันออกลาดตะเวนตามลำแม่น้ำโขง พบกระสอบปุ๋ยสีขาวขนาดใหญ่จำนวน 2 กระสอบ ลอยเข้ามาติดริมฝั่งโขง ในพื้นที่บ้านเวินโดน ต.ปากคาด อ.ปากคาด เป็นยาบ้า 570,000 เม็ดและไอซ์ 62 กิโลกรัม ที่บ้านต้าย ต.นากั้ง อ.ปากคาด  1 กระสอบและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พบอีก 1 กระสอบที่บริเวณลำน้ำโขง ปากห้วยหนองมุม บ้านท่าสุขสันต์ ต.ปากคาด นับยาบ้าได้ 380,000 เม็ด ค่าสุดตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด สภ.เมืองบึงกาฬ ฝ่ายปกครองมีกำนันตำบลไคสี หมู่ที่ 2 ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ พบกระสอบปุ๋ยลอยมาติดอยู่บริเวณริมน้ำโขง ปากห้วยผาคาง อีก 1 กระสอบยาบ้า 391,540 เม็ด

ช่วงหัวค่ำก่อนหน้านี้ น.ต.วชิรวิทย์ ใจสัตย์ หน.สน.เรือบึงกาฬ ร่วมกับพวกออกลาดตระเวนบนถนสาย 212 บึงกาฬ-ปากคาด พบชายต้องสงสัยขี่รถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ ฮอนด้าโซนิค ทะเบียน 1 กฉ 1166 สุพรรณบุรี ขี่รถจอดอยู่บริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 105  ท้องที่บ้านโนนยาง  ต..หอคำ  อ.เมืองบึงกาฬ  จึงยึดรถเพื่อสอบถาม แต่ชายคนดังกล่าวได้ทิ้งรถ จยย.วิ่งหลบหนีฝ่าความมืดไปได้ เข้าตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 4,000 เม็ดวางอยู่ข้างหลักกิโลเมตรจึงทำการตรวจยึด จึงรวมกันนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน รวมของกลางยาบ้า 4 รายการ จำนวน 1,345,540 เม็ด มูลค่า 107,643,200 บาท และไอซ์ 62 กิโลกรัม มูลค่า 15,000,000 บาท รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 122,643,200 บาท นำของกลางส่ง พงส.สภ.ปากคาดและสภ.บึงกาฬ สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย


ภาพ/ข่าว  เกรียงไกร  พรมจันทร์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top