Tuesday, 22 April 2025
Smartphone

'อียู' เตรียมบังคับผู้ผลิตสมาร์ตโฟนใช้หัวชาร์จ USB-C เหมือนกันหมด ด้าน Apple แย้ง 'ถ่วงนวัตกรรม'

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สหภาพยุโรป (อียู) เตรียมบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนใช้หัวชาร์จไฟชนิด USB-C เป็นมาตรฐานแบบเดียวกันหมด ด้านบริษัท Apple ผู้พัฒนาหัวชาร์จแบบ ‘ไลต์นิง’ สำหรับไอโฟน แย้ง!! เป็นการถ่วงนวัตกรรม

โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ทางคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ออกกฎระเบียบใหม่ โดยมีเป้าหมายในการออกกฎเพื่อลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ที่ชาร์จไฟของเดิมที่มีอยู่เมื่อซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่

ปัจจุบัน ผู้บริโภคในยุโรป ซึ่งมีประชากรราว 450 ล้านคน มีหัวชาร์จให้เลือกใช้งาน 3 ประเภทหลักๆ คือ ‘ไลต์นิง’ ของ Apple, ไมโครยูเอสบีที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ และ USB-C ที่เป็นแบบใหม่ ซึ่งใช้งานแพร่หลายมากขึ้น 

แต่ตามข้อเสนอของอียู จะกำหนดที่ชาร์จแบบ USB-C ให้เป็นมาตรฐานสากลสำหรับยุโรป และทันทีที่รัฐบาลของชาติสมาชิกและรัฐสภายุโรปอนุมัติ ก็จะส่งผลสะเทือนต่อตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลก 

ท่องเที่ยวอุ่นใจและปลอดภัย ไปกับ ตร.ท่องเที่ยว!! ด้วยแอปพลิเคชัน “Tourist Police i lert u”

วันนี้ 15 ธ.ค.64 พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวแพลตฟอร์ม “ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling)” อันเป็นการขานรับนโยบายการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวบนเว็บไซต์ Entry Thailand มุ่งหวังจะช่วยอำนวยความสะดวกและบูรณาการการปฏิบัติต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

ในการนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยได้ร่วมมือกับบริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด พัฒนาแอปพลิเคชันในการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยว ผ่านแอปพลิเคชัน Tourist  Police i lert u บน Smartphone โดยใช้ระบบ Global positioning System หรือ GPS การใช้งานเพียงนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ กดปุ่มขอความช่วยเหลือ

พร้อมกับ “ข้อความขอความช่วยเหลือและภาพถ่าย” ระบบจะส่งตำแหน่งสถานที่จุดเกิดเหตุ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องของนักท่องเที่ยวที่ขอความช่วยเหลือ ส่งไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 1155 และเจ้าหน้าที่อยู่บนพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ Call Center 1155 จะติดต่อกลับไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่นักท่องเที่ยวได้แจ้งไว้ตามที่ลงทะเบียนในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยจะใช้การสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันกับนักท่องเที่ยว ซึ่งในปัจจุบันสายด่วน 1155 สามารถรองรับได้ 5 ภาษา คือ อังกฤษ, จีน, รัสเซีย, ญี่ปุ่น และเกาหลี และจะเพิ่มการให้บริการในภาษาฝรั่งเศส, เยอรมัน, อาเซียน และอาหรับ รวมเป็น 9 ภาษาในปี 2565

 

โสมร่างกม. ห้ามนักเรียนใช้สมาร์ทโฟน หวั่นทำเด็กเป็นซึมเศร้า-สมาธิสั้น

(5 พ.ย. 67) สำนักข่าว Koreanherald ของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีใต้กำลังพิจารณาห้ามใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียน สืบเนื่องจากพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกำลังพิจารณาร่างกฎหมาย ซึ่งจะห้ามนักเรียนใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวในระหว่างชั้นเรียน

รายงานระบุว่า ร่างกฎหมายนี้มาจาก สส โช จุงฮุน และเพื่อนสมาชิกรัฐสภาอีก 10 คนจากพรรคเดียวกันกำลังผลักดันร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ ในโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อปกป้องสุขภาพจิตของนักเรียน

สส โช ระบุว่า กฎหมายลักษณะนี้มีบังคับใช้ในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ในขณะที่การเสพติดโซเชียลมีเดียกลายเป็นปัญหาร้ายแรง เรื่องนี้เกิดขึ้นในเกาหลีใต้เช่นกัน โดยพบว่าเด็กอายุระหว่าง 3-9 ปี ร้อยละ 25 และเด็กอายุระหว่าง 10-19 ปีร้อยละ 40.1 เสพติดสมาร์ทโฟนมากเกินไป ดังนั้นเพื่อปกป้องสุขภาพจิตของพวกเขา เราจึงเสนอให้จำกัดการใช้สมาร์ทดีไวซ์ในโรงเรียน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาที่เจาะจง หรือในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

ความคืบหน้าดังกล่าวสอดคลองกับงานวิจัยจากหลายสถาบันทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ที่ออกมาระบุคล้ายกันว่า พฤติกรรมการใช้งานมือถือสมาร์ทโฟนมากเกินไป อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพจิต และสุขภาวะทางการรู้คิดของเยาวชนได้ การเสพติดและสิ่งรบกวนสมาธิไม่ใช่ปัญหาเดียวเท่านั้นที่ทำให้เกิดความกังวล ในหลายกรณี พบว่านักเรียนยังใช้ฟังก์ชันของโทรศัพท์เพื่อบูลลี่หรือแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเพื่อนร่วมชั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังระบุเช่นกันว่า เกมและวิดีโอสั้นๆ ที่ช่วยกระตุ้นความคิดได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น แต่ทำให้การติดสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าและโรควิตกกังวล

ข้อมูลล่าสุดของ Health Insurance and Review Assessment Service สนับสนุนข้อเรียกร้องดังกล่าว เนื่องจากจำนวนการเข้าพบจิตเวชสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีพุ่งสูงขึ้นถึง 65 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา นักศึกษาประมาณ 250,000 คนเข้าโรงพยาบาลในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพียงปีเดียว คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของการเข้าพบทั้งหมดในปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ผลสำรวจโดย Macromill Embrain ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าผู้ปกครองของนักเรียนร้อยละ 69 สนับสนุนแนวคิดการจำกัดการใช้โทรศัพท์ของนักเรียน มีเพียงร้อยละ 12.6 ที่คัดค้าน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top