Thursday, 6 June 2024
Shopee

พาส่องกลุ่มสินค้า Hot !! ที่ถูกกวาดลงตะกร้ามากที่สุด ในแคมเปญ ‘Shopee 11.11 Big Sale’ ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง!!!

THE STATES TIMES พามาส่อง!! 2 กลุ่มสินค้า บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ‘Shopee’ ที่กวาดยอดโหดใน 2 ชั่วโมงแรก บนแคมเปญ ‘Shopee 11.11 Big Sale’ ของวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้... โดยทำสถิติแรก ที่ยอดขายรวมพุ่งกว่า 11 ล้านชิ้น ภายใน 5 นาทีแรกเลยทีเดียว

และในส่วนของประเทศไทยเอง ทางเราก็ได้รวบรวมข้อมูลสถิติของกลุ่ม 2 สินค้า ที่มียอดขายพุ่งกระฉูดมากที่สุดใน 2 ชั่วโมงแรก มาให้ชมกันดังต่อไปนี้เลยจ้า....

1.) กลุ่มสินค้า : ผลิตภัณฑ์ซักรีดและอุปกรณ์ทำความสะอาด

ได้แก่ สินค้ากระดาษทิชชู่แบบพกพา, ก้านน้ำหอมปรับอากาศ ซึ่งถูกโกยเข้าตะกร้าไปกว่า 180,000 ชิ้น!!

 

Shopee ประกาศ!! คิดค่าธรรมเนียมการขายของจากผู้ขายทั่วไป สะท้อน!! ถึงเวลาแพลตฟอร์มใหญ่ ได้เวลาโกยเงินกลับ

ธราดล ทนงาน (ดล) เจ้าของเพจ 'ด.ดล Blog' ได้โพสต์ถึงความเคลื่อนไหวสำคัญในวงการค้าขายออนไลน์ที่อาจกระทบต่อผู้ค้าขาย ระบุว่า...

1% ของเราไม่เท่ากัน กับการคิดค่าธรรมเนียมการขายของ Shopee ที่สั่นสะเทือนวงการ E-commerce ไทยอีกครั้ง

ต้องเรียกได้ว่าเป็นประกาศครั้งใหม่อีกครั้งในรอบไม่กี่เดือน ที่สั่นสะเทือนวงการค้าขายออนไลน์บนแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Shopee สำหรับการประกาศเก็บค่าธรรมเนียมการขาย 1% สำหรับที่ไม่ใช่กลุ่มใน Shopee Mall (ผู้ขายทั่วไป)

ต้องบอกว่าการประกาศเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในครั้งนี้ถือว่ามีความน่าสนใจนะครับ เพราะปกติ Shopee จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมในการขายมาก่อน การปรับรอบก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องของค่าธรรมเนียมการชำระเงินทีผู้ขายต้องมีการจ่ายอยู่แล้ว 3%

แม้ตัวเลขเฉลี่ยมันจะเป็นตัวเลขเพียงเล็กน้อยที่ราวๆ 1% เพียงเท่านั้น แต่การปรับครั้งนี้ ถือว่าส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอยู่ในแพลตฟอร์มพอสมควรเลยทีเดียว

ต้องเข้าใจก่อนว่า Shopee นั้นกลุ่มลูกค้า ค่อนข้างที่จะแตกต่างจาก Lazada อย่างชัดเจน ใครเข้ามา Shopee แน่นอนว่าต้องการสินค้าถูกที่สุดเป็นส่วนใหญ่ เพราะระบบได้ออกแบบแพลตฟอร์มมาให้เป็นแบบนี้

ทั้งเรื่อง User Experience ที่มีการเปรียบเทียบราคาอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนลูกค้าตัดสินใจที่จะจ่ายเงิน ยังมีสินค้ามาให้เปรียบเทียบอยู่เสมอ ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่มีโอกาสสูงที่ใครถูกกว่า ก็มักจะมีโอกาสขายได้มากกว่า

เอาจริงๆ ตรงนี้ค่อนข้างต่างจาก Lazada ที่จะไม่ค่อยเห็นการเปรียบเทียบราคาในทุกๆ ขั้นตอนของการซื้อแบบ Shopee ทำให้ผมมองว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของ Shopee มักจะเน้นที่ของถูกที่สุดเป็นหลัก

เมื่อแบรนด์ยักษ์ใหญ่เริ่มหนีไปสร้างช่องทางการขายของตนเอง

ถ้าใครสังเกต เราจะเห็นได้ว่าช่วงนี้แบรนด์หลายแบรนด์ยักษ์ใหญ่ เริ่มโปรโมตช่องทางการขายของแพลตฟอร์มตัวเองหรือเว็บไซต์ของตัวเอง แทนที่จะพึ่งพา marketplace เป็นช่องทางหลักเหมือนเมื่อก่อน

ซึ่งเมื่อเราได้เห็นเทรนด์ที่ชัดเจน เรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ เพิ่มขึ้น มันก็เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ในอนาคต อะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะขึ้นไปถึง 5% 10% ก็ได้ใครจะไปรู้ ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์ม E-commerce ของจีน
 

Shopee กระอัก!! ขาดทุนหนักต่อเนื่อง เล็งปลดคน ShopeePay - ShopeeFood ในไทยกว่าครึ่ง

วันที่ 13 มิถุนายน 2565 เว็บไซต์ Dealstreetasia รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า ‘ช้อปปี้’ (Shopee) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซในสิงคโปร์ ประกาศปลดพนักงานจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย

สำหรับประเทศไทยนั้น แหล่งข่าวของ Dealstreetasia ระบุว่าจะมีการปลดพนักงานในส่วนของ ShopeePay และ ShopeeFood มากถึง 50% ทั้งนี้ พนักงานของ Shopee ที่ถูกปลดทั้งหมดจะได้รับการแจ้งผ่านทางอีเมล

Dealstreetasia ยังระบุอีกว่าการปลดพนักงานจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกประกาศภายในการประชุม Town Hall ระหว่างประเทศของบริษัทฯ ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่ได้มีการชี้แจงรายละเอียดที่ชัดเจนจากคณะผู้บริหารว่าเหตุใดจึงต้องปลดพนักงานจำนวนมากขนาดนี้

ตำรวจไซเบอร์รับแจ้งความแล้วกว่า 60 ราย กรณีผู้เสียหายผูกบัญชีธนาคารไว้กับ Shopee แต่ถูกหักเงินชำระค่าสินค้าโดยไม่ทราบสาเหตุ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์ความคืบหน้ากรณีผู้เสียหายหลายรายผูกบัญชีธนาคาร หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้ากับแอปพลิเคชันซื้อขายของออนไลน์ ต่อมาพบว่าถูกหักเงินในบัญชีชำระค่าสินค้าโดยไม่ทราบสาเหตุ  

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 65 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ประชาสัมพันธ์เตือนภัยเกี่ยวกับการผูกบัญชีธนาคาร หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้าออนไลน์นั้น ปัจจุบันพบว่าได้มีผู้เสียหายกว่า 60 ราย ความเสียหายรวมกว่า 1 ล้านบาท โดยผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนยังสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุทั่วประเทศ และแจ้งผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.com เพื่อให้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้ทางคดียังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเชื่อมโยงต่างๆ รวมถึงประสานงานไปยังบริษัทแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการที่ผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้เข้าไปกรอกข้อมูลทางการเงินผ่านเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอม แล้วนำข้อมูลที่ได้ไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ  ทั้งนี้ได้รับรายงานว่า Shopee ได้ประกาศปิดช่องทางการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อตรวจสอบและป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ และการซื้อขายของออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่องและจริงจัง พร้อมสร้างการรับรู้แนวทางป้องกันให้ประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 269/5 ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการ  ที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือความผิดตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้พึงระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลทางการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยมีแนวทางป้องกัน ดังต่อไปนี้
1. หลีกเลี่ยงการให้หักเงินในบัญชีธนาคารอัตโนมัติ ใช้วิธีเก็บเงินปลายทาง หรือชำระสินค้าผ่าน QR code แทน
2. บัญชีธนาคารที่ผูก หรือเชื่อมไว้กับแอปพลิเคชันซื้อสินค้าออนไลน์ ควรมีจำนวนเงินในบัญชีไม่มาก  
3. หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก ไม่รู้ที่แหล่งมา ควรดาวน์โหลดใน  AppStore หรือ Playstore เท่านั้น  

ประชาชนต้องรับรู้ เคาะ!! ทุก ‘บล.’ ต้องเผย ‘ข้อมูล-งบการเงิน’ ผ่านทุกช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ 16 มิ.ย.นี้

ถึงเวลาโกยกำไร!! เมื่อยักษ์ใหญ่ด้าน Tech Company ในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม พร้อมใจลดแคมเปญการตลาด แต่หันไปโฟกัสที่การสร้างรายได้มากขึ้น ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มเห็นผลกำไรเป็นบวกหลังติดลบมานานนับ 10 ปี นำโดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง ‘Lazada’ ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่พลิกทำกำไรได้เมื่อปี 2564 โดยมีกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท 

จากนั้น ในปี 2565 Shopee และ Grab สามารถพลิกฟื้นจากที่มีตัวเลขผลประกอบการขาดทุน กลับมาทำกำไรได้เป็นครั้งแรกเช่นกัน 

ในขณะที่ Robinhood แพลตฟอร์มสัญชาติไทย ในเครือ SCB X แม้จะมีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องมาตลอด 3 ปี แต่ทางบริษัทมั่นใจว่า จะพลิกกลับมาทำกำไรได้ในปี 2568 
 

‘กรมพัฒน์ฯ’ จับมือ ‘Shopee’ จัดโปรโมชัน แจก Coins-ส่วนลด 50% หวังกระตุ้นยอดขายให้ผู้ประกอบการชุมชนผ่านไลฟ์สด ดีเดย์ 18 ต.ค.นี้

(16 ต.ค.66) นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ Shopee จัดกิจกรรมดันยอดขายผ่านไลฟ์สด ในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2566 โดยได้คัด 3 ร้านค้า ที่ชนะรางวัล Shopee Award of Thailand e-Commerce Genius 2023  เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ประกอบการชุมชน ภายใต้การส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย คือ

1.ร้านขนมทันจิตต์ เวลา 20.00 - 20.30 น.
2.ร้านรสหนึ่ง เวลา 20.30 - 21.00 น.
3.ร้าน Pick Me Please เวลา 21.00 - 21.30 น.

โดยจะไลฟ์สด บนแอปพลิเคชัน Shopee (search ‘สุขใจซื้อของไทย') หรือเข้าเว็บไซต์ https://shopee.co.th/dbdonline พร้อมรับโปรโมชัน 2 ต่อ ต่อที่ 1 : แจก Coins รวมกว่า 6,000 Coins ตลอดช่วงเวลาการไลฟ์ของทั้ง 3 ร้าน และต่อที่ 2 : โค้ดส่วนลด 50% ลดสูงสุด 100 บาท

>> ของดีนำมาขาย

สำหรับสินค้าที่นำมาจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นสินค้าคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรเพื่อผู้บริโภค ได้แก่ ร้านทันจิตต์ เผือกทอดรูปตะแกรง ที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่องกว่า 40 ปีจากรุ่นสู่รุ่น และปัจจุบันได้ยกระดับการผลิตจาก ในครัวเรือนสู่โรงงานที่ได้มาตรฐาน

ร้านรสหนึ่ง สินค้า OTOP จ.สิงห์บุรี ปลาช่อนแม่ลาแดดเดียวของดีเมืองสิงห์บุรี สูตรดั้งเดิม รสกลมกล่อม ไม่เค็มเกินไป ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นกางมุ้งตาก ไม่มีแมลงกวน ทำให้สะอาด ปลอดภัย ผลิตใหม่สดทุกวัน ไม่มีสารกันเสีย

ร้าน Pick me please หมูหยองกรอบคั่วเตาถ่าน ซึ่งได้เลือกใช้เนื้อหมูเฉพาะส่วนไร้มันมาปรุงด้วยสูตรลับเฉพาะ และนำมาคั่วบนเตาถ่านด้วยเวลากว่า 4 ชั่วโมง จนกรอบ และมีลักษณะเป็นชิ้นหมูหยองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปราศจากผงชูรสเเละสารกันเสีย การันตีความอร่อย เหมาะกับผู้บริโภคที่รักสุขภาพทุกวัย

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นยอดขาย ยังช่วยสร้างการมองเห็นให้กับร้านค้ามากขึ้น และถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมฉลอง ในโอกาสการสถาปนากรมพัฒนาธุรกิจการค้าครบรอบ 100 ปี ซึ่งช่วยตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ของกรมฯ ในการเดินหน้าส่งเสริมและผลักดันให้ธุรกิจของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างมืออาชีพ ส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้

>> ร้านค้า 400 ร้านบนแอปพลิเคชัน

โดยตลอดทั้งปีนี้ กรมฯ มีแผนร่วมมือกับ Shopee อย่างต่อเนื่องในการมอบสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการออนไลน์ไทย เพื่อช่วยส่งเสริมการขาย ขยายโอกาสทางการตลาดออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการ

ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการรายย่อยของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่จำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ อยู่บนแอปพลิเคชัน Shopee จำนวนกว่า 400 ราย การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อสินค้า ตามวัน เวลา ดังกล่าวข้างต้น หรือสอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมการใช้นวัตกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สายด่วน 1570 โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5961 และ www.dbd.go.th

‘Nokia 3210 - Nokia 215’ บุกตลาดมือถือ ด้วยจอขนาดใหญ่ พร้อมเกมงูสุดคลาสสิก อัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ เปิดตัววางจำหน่ายในไทย 27 พ.ค.นี้ ราคาเริ่มต้นที่ 1,490 บาท

(25 พ.ค.67) เอชเอ็มดี ประเทศไทย เดินเครื่องรุกตลาดฟีเจอร์โฟนคลาสสิก รุ่นตำนานแห่งยุค Y2K อย่างมีสไตล์ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ประกาศพร้อมจำหน่ายฟีเจอร์โฟน 4G อย่างเป็นทางการ 2 รุ่น Nokia 3210 เวอร์ชันปี 2024 ในราคาจับต้องได้ 1,990 บาท พร้อม Nokia 215 4G (2024) ในราคาเพียง 1,490 บาท ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. นี้ ชูดีไซน์การกลับมาของ Nokia 3210 ที่คงเอกลักษณ์ดั้งเดิม เพิ่มเติมคือเพรียวบาง ทันสมัย อัปเกรดฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ กล้อง 2MP แฟลช และไฟฉาย รองรับแอปพลิเคชัน Cloud ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึง โซเชียลมีเดีย ยูทูบ ข่าวสาร สภาพอากาศ มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 1,450 mAh อึดทน ใช้งานได้กว่า 1-2 สัปดาห์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง พร้อมเกมงูสุดคลาสสิก

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า HMD เดินเครื่องกลยุทธ์ รุกตลาดฟีเจอร์โฟนคลาสสิกในประเทศไทยปีนี้ ด้วยการปล่อย 2 ฟีเจอร์โฟน 4G ระดับตำนาน ปลุกกระแสพร้อมกันในตลาด ทั้ง Nokia 3210 ที่มาพร้อมการพัฒนาเพื่อสอดรับไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้บริโภคปัจจุบันในเวอร์ชันปี 2024 และ Nokia 215 4G (2024) อัปเกรดฟีเจอร์การใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์ วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ตั้งเป้าจับกลุ่มผู้บริโภคทุกช่วงวัย ตอกย้ำจุดแข็งแบรนด์ ส่งมอบโทรศัพท์ที่มีคุณภาพ ผ่านกระบวนการผลิต และทดสอบด้วยมาตรฐานระดับสากล ครบเครื่องทั้งฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ มั่นใจคุณภาพความอึด ทนทานตลอดการใช้งาน ในราคาสบายกระเป๋า มองฟีเจอร์โฟนยังเป็นที่ต้องการและมีแนวโน้มเติบโตในตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการเป็นเครื่องเสริม หรือสำหรับทำงานโดยเฉพาะ และกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการโทรศัพท์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เน้นหน้าจอขนาดใหญ่คมชัด เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ตัวเครื่องจับถนัดมือ และปุ่มกดขนาดใหญ่

Nokia 3210 เวอร์ชันปี 2024 เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการกับสีดำ Grunge Black ในราคา 1,990 บาท ชูดีไซน์ย้อนยุคอย่างมีเอกลักษณ์ เพรียวบางแต่ทันสมัย พร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ กล้องคมชัดด้วยความละเอียด 2MP พร้อมแฟลชและไฟฉาย ตอกย้ำการใช้งานที่ยาวนานกับแบตเตอรี่ขนาด 1450 mAh1 ประหยัดพลังงาน สามารถใช้งานได้นานกว่า 1-2 สัปดาห์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และที่สำคัญเป็นรุ่นที่มาพร้อมระบบรองรับ Cloud Phone Apps ซอฟต์แวร์ที่ให้คุณเข้าถึงโซเชียลบนระบบออนไลน์โดยไม่ต้องติดตั้งในเครื่อง ได้ชิปเซต Unisoc T107 มาขับเคลื่อน และยังมาพร้อม RAM 64 MB และ ROM 128 MB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุดถึง 32GB พร้อมกันนี้ ด้านระบบปฏิบัติการซอฟต์แวร์ คือ S30+ รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. วิทยุ FM แบตเตอรี่ขนาด 1,450 mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้ ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB-C และที่ขาดไม่ได้คือเกมงูสุดคลาสสิก

นอกจากนี้ HMD ยังมาพร้อมกับ Nokia 215 4G (2024) ปรับโฉมใหม่ ด้วย 2 สีหลัก สีดำ (Black) และสีส้ม (Peach Peach) ตอกย้ำความทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ ในราคา 1,490 บาท อัปเกรดฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์บนหน้าจอขนาดใหญ่ IPS LCD ความละเอียด QVGA ขนาด 2.8 นิ้ว ให้ความชัดคมในทุกมิติ พร้อมแป้นพิมพ์ปุ่มกดขนาดใหญ่ ให้สัมผัสนุ่ม ตอบสนองฉับไว ตัวเครื่องจับง่ายกระชับมือ และด้านหลังมีความโค้งมนสไตล์คลาสสิก ใช้ระบบปฏิบัติการ S30+ พร้อม RAM 64 MB และ ROM 128 MB ชิปเซ็ตประมวลผล Unisoc T107 และรองรับ 4G เพิ่มคุณภาพในการโทรผ่านเครือข่ายที่คมชัดผ่าน VoLTE พร้อมระบบ Cloud Phone Apps ซอฟต์แวร์ที่ให้คุณเข้าถึงโซเชียลบนระบบออนไลน์โดยไม่ต้องติดตั้งในเครื่อง ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 1,450 mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้ พร้อมเพลิดเพลินกับเกมสุดคลาสสิกอย่างเกมงู และเกมรถ

ฟีเจอร์โฟน Nokia 3210 และ Nokia 215 4G พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 นี้เป็นต้นไป ผ่านตัวแทนจำหน่าย HMD ทั่วประเทศ ร้าน TG Fone ทั่วประเทศ และทางช่องทางออนไลน์ Nokia Official Shop ใน Shopee Mall และที่ LazMall ใน Lazada


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top