Wednesday, 18 June 2025
Region

ชลบุรี - ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีฯ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อม รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรีและหัวหน้าส่วนราชการ ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 4 กรกฎาคม 2564

วันที่ 2 ก.ค. 64 ที่ห้องโถงชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อม รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ประกอบพิธีถวายสักการะ และลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 4 กรกฎาคม 2564 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

โดยกิจกรรมภายในงาน ประธานในพิธี เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ฯ พร้อมกล่าวถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติฯ ลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และเยี่ยมชมนิทรรศการ อันเป็นการเสร็จสิ้นพิธี

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นเจ้าฟ้าที่ประชาชนชาวไทยรัก เทิดทูน และศรัทธา พระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์ ผู้มีผลงานดีเด่นของโลก ในสาขาสารเคมีก่อมะเร็ง และพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม ทรงตั้งกองทุนจุฬาภรณ์ มูลนิธิจุฬาภรณ์ขึ้น เพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุข รวมถึงนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีคุณภาพจึงเป็นที่มาในการก่อตั้ง "ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์" โดยมีพระประสงค์ให้เป็นสถาบันวิจัยวิชาการชั้นสูงและจัดการศึกษาทางวิชาการ วิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม การแพทย์และการสาธารณสุข

อีกทั้งยังทรงตระหนักถึงปัญหาผู้ป่วยยากไร้ และปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ จึงทรงดำริให้ก่อตั้ง "ศูนย์การแพทย์ภัทร มหาราชานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์" ขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชน ผู้มีรายได้น้อย เข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างครบวงจร

รวมทั้งเป็นโรงเรียนผลิตแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ นอกเหนือจากนี้ พระองค์ทรงก่อตั้งมูลนิธิ หน่วยงานและโครงการในพระอุปถัมภ์ โครงการบำเพ็ญพระกุศล และด้วยพระราชกรณียกิจอันทรงคุณประโยชน์ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและพสกนิกรเป็นอเนกประการ  รวมทั้งเข้าถึงการให้บริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง

โดยเฉพาะวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ทรงมีความห่วงใย และได้พระราชทานความช่วยเหลือต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องช่วยหายใจ ยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจน เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขไทย และบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ตลอดจนเป็นขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย เสมอมา


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล  ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ปทุมธานี – ผู้ป่วยโควิด 500 คนรอเตียง บิ๊กแจ๊สจับมือสาธารณสุขเพิ่มรพ. สนาม สู้วิกฤตโรคระบาด

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 เวลา 15:00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายแพทย์อภิชน จีนเสวก รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ผู้บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ดูสถานที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 500 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอคอยเตียงเพื่อรับการดูแลรักษาจำนวนกว่า 500 คน

จากสถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานีวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 448 ราย มีผู้ป่วยสะสม 9,656 ราย รักษาหายแล้วกลับบ้านจำนวน 5,233 ราย อยู่ระหว่างการดูแลรักษาจำนวน 4,356 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมจำนวน 67 ราย จากจำนวนที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันที่มีจำนวนมาก ทำให้จำนวนเตียงดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลภาครัฐ และโรงพยาบาลสนามเต็ม จึงทำให้มีผู้ป่วยที่รอคอยรับการรักษาอยู่ที่บ้านกว่า 500 คน จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่ม ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้เห็นว่าวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มีอาคารที่มีความเหมาะสมที่สามารถจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามได้เพื่อรอรับผู้ป่วยมาดูแลรักษา ดีกว่าที่จะให้รอคอยอยู่ที่บ้าน ป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชน

ด้าน นายแพทย์อภิชน จีนเสวก รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ผู้บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นและมีอัตราการ รอคอยเตียงกว่า 500 คน บางส่วนต้องใช้การดูแลแบบ Home Isolation แต่บางส่วนจำเป็นจะต้องเข้าโรงพยาบาลสนามในกลุ่มที่ไม่พร้อมดูแลตัวเองที่บ้านในช่วงเบื้องต้น ระหว่างการรอคอยเตียง หากเรามีโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น จะทำให้ลดจำนวนผู้ป่วยที่รอคอยที่บ้านให้เข้ามาสู่กระบวนการรักษาในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ในกลุ่มที่มีโอกาสที่จะทำให้โรคลุกลามเร็วขึ้น เมื่อมาอยู่ใกล้ชิดหมอจะทำให้เขาปลอดภัยขึ้น จังหวัดปทุมธานีจึงต้องเร่งหาโรงพยาบาลสนาม เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงให้มากขึ้น เนื่องจากเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ

ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานีค่อนข้างวิกฤตแล้ว โดยเฉพาะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ที่ตลาดไท ปัจจุบันจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเท่าไรก็เต็มหมด โรงพยาบาลภาครับก็เต็ม เมื่อมาสำรวจที่ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ทาง อบจ.พร้อมที่จะสนับสนุนในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่นี่ โดยมีการประชุมทำแผนจัดตั้งโรงพยาบาลมา หากไม่ใช้สถานที่ของราชการแล้ว จะไปทำให้สถานที่ภายในหมู่บ้านชุมชน พี่น้องประชาชนมีความตื่นตระหนก จึงต้องมีการดำเนินการที่เร่งด่วน เพื่อให้ที่สถานที่ให้ผู้ป่วยพักรักษา จะให้เขาอยู่กับบ้านแล้วไม่ดูแลเขาไม่ได้ ทั้งนี้ อบจ.ในแต่ละวันมีการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยการเจาะเลือดแรปบิทเทสวันละกว่า 1,500 คน นอกจากนี้ยังมีการออกหน่วยตรวจคัดกรองประชาชนจุดละกว่า 1,000 คน พี่น้องประชาชนมีการตื่นตัวที่จะดูแลตัวเอง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนประมาท การ์ดอย่าตก และช่วยดูแลตัวเองและครอบครัวของท่านให้ดี นอกจากนี้ทาง อบจ.พยายามที่จะหายา และวัคซีน หวังว่าปทุมธานีจะผ่านวิกฤตครั้งที่ไปด้วยกันให้ได้ทั้งจังหวัด


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

นราธิวาส - "บิ๊กอู๊ด" ชี้ หากคุมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ มีโอกาสทยอยเปิดเมืองท่องเที่ยวทั่วไทย

วันที่ 4 ก.ค. 64 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ได้เดินทางมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อมอบสิ่งของบำรุงขวัญและเยี่ยมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ 7 หน่วยงานหลัก ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก รวมไปถึงปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนและช่องทางข้ามธรรมชาติ ที่ทุกหน่วยงานหลักมีความเสียสละ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่ตรวจพบว่ามีการแพร่ระบาดจากพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน จากบุคคลที่ลักลอบข้ามแดนจากช่องทางธรรมชาติ

ต่อมา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้เข้ารับฟังบรรยายสรุป ณ ห้องประชุมชั้น 3 ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก นายปรีชา นวลน้อย ปลัด จ.นราธิวาส นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ฯลฯ

ซึ่งในที่ประชุมมีใจความพอสรุปได้ว่า ขณะนี้ประเทศมาเลเซียได้ประกาศปิดประเทศแบบไม่มีกำหนด โดยยอดผู้หลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติในปี 2563 ที่ผ่านมามีจำนวน 434 คน ส่วนปี 64 จากต้นปีถึงปัจจุบันมีผู้ลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติลดลง เหลือเพียง 172 คน จากมาตรการความร่วมมือของชาวบ้านที่ช่วยชี้เบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ โดยพื้นที่ที่มีการลักลอบเข้าเมืองมากที่สุด คือ สุไหงโก-ลก คิดเป็นร้อยละ 75 และมีมาตรการคัดกรองโรคเข้มข้น จนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จากประเทศเพื่อนบ้านในขณะนี้ มีตัวเลขเป็น 0 และพบว่าที่ระบาดในขณะนี้เป็นการระบาดของกลุ่มบุคคลภายในประเทศเท่านั้น

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทุ่มเทเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เราสามารถควบคุมบุคคลที่แอบลักลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติได้ แต่อย่าประมาทการปฏิบัติหน้าที่ต้องมีความเข้มงวด ปล่อยปะละเลยหรือละหลวมเมื่อใดเขาอาจจะจ้องแอบลักลอบเข้ามาในประเทศได้ และยากต่อการควบคุมหากโควิด19 จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาระบาดอีกครั้ง

หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้เดินทางไปยังสะพานด่านพรมแดน โดยมี พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชกร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส นำชมการจัดกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางธรรมชาติ ที่มีแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งมีความกว้างประมาณ 50 ถึง 70 เมตร เป็นเขตแบ่งพรมแดนกับพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งง่ายต่อการลักลอบเดินทางข้ามมายังพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งปัจจุบันที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมป้องกันชายแดน ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่สลับสับเปลี่ยนกันตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่งก่อนเดินทางกลับ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า การทำงานนั้นต้องบูรณาการกันและเฝ้าระวัง สิ่งสำคัญถ้าพบเห็นการลักลอบเข้าเมืองนั้น ต้องมีมาตรการในการป้องกันประสานทาง จนท.สาธารณสุข โดยภาพรวมการทำงานมีความเข้มแข็งจากการบูรณาการทั้งจังหวัด

ส่วน ตม.เป็นการเสริมการป้องกันลักลอบเข้าเมือง นโยบายของรัฐบาลที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีมาตรการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องฉีดยาวัคซีนป้องกันครบโดส และต้องผ่านการตรวจหาเชื้อภายใน 72 ชั่วโมง ถ้าได้ผลดีผมเชื่อว่าคงขยายไปเมืองท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ ถ้าป้องกันการแพร่ขายได้ก็จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ เพราะว่าต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวก็จะมีการจับจ่ายใช้สอยสร้างรายได้ให้กับคนไทยเรา


ภาพ/ข่าว  กรียา นราธิวาส

นครพนม - องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร พระราชทาน ถวายแด่ "พระราชมงคลวัชโรดม" พระเกจิเมืองนครพนม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร พระราชทาน ถวายแด่พระราชมงคลวัชโรดม พระเกจิอายุ 101 ปี

วันที่ 4 กรกฎาคม 2564  ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม หมู่ที่ 4 ตำบลก้านเหลือง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร พระราชทาน ถวายแด่พระราชมงคลวัชโรดม หรือ หลวงปู่แสง จันทวังโส อายุ 101 ปี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดนครพนม โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ ชัยธันยาภัทร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครพนม พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 พลตำรวจตรี ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้นำชุมชุมชนท้องถิ่นร่วมประกอบพิธี

พระราชมงคลวัชโรดม (แสง จันทวังโส) เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัด เปี่ยมด้วยคุณธรรมและเมตตา เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีอายุ 101 ปี 80 พรรษา มีนามเดิมว่า นายแสงวงศ์ วงษ์ตาผา เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2463 แรม 6 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 บิดาชื่อนายบุญจันทร์ มารดาชื่อนางสิงห์ เป็นชาวบ้านโพนตูม ตำบลก้านเหลือง อำเภอนาแก

ท่านได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ด้วยการบรรพชาเป็นสามเณรหน้าไฟเพื่ออุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณให้กับคุณตาที่ล่วงลับ เมื่ออายุ 19 ปี ที่วัดศรีสำราญจิต บ้านดอนโทน หมู่ที่ 5 ตำบลก้านเหลือง มีพระครูนาครธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดศรีสำราญจิตเป็นพระอุปัชฌาย์ และเมื่อเสร็จพิธีอุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณแล้ว เจ้าอาวาสไม่ยอมให้ลาสิกขาและพาเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ตามจังหวัดขอนแก่น จังหวัดร้อยเอ็ด จนถึงจังหวัดอุบลราชธานี และได้เข้าจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านแก้ง อำเภอเขมราฐเรื่อยมา

กระทั่งวันที่ 3 ตุลาคม 2482 ท่านอายุได้ 22 ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีพระครูบริหารเกษมรัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอุย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระดม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยหลังอุปสมบทได้มุ่งมั่นเล่าเรียนด้วยปฏิภาณไหวพริบที่ดีเลิศจนสำเร็จการศึกษาแผนกธรรม นักธรรมชั้นตรี–โท–เอก ตามลำดับ ทั้งยังได้เล่าเรียนอักขระเลขยันต์และวิทยาคมต่าง ๆ จนเชี่ยวชาญ

ท่านเป็นพระภิกษุผู้ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย คอยเทศนาธรรมโวหารโปรดญาติโยมและชาวบ้านในละแวกนั้น

หลายปีต่อมาจึงได้กลับบ้านเกิด มาจำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม และด้วยเป็นพระที่มีความสมถะ ปฏิบัติดี มีความรู้ลึกซึ้งแตกฉาน ในช่วงที่มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ชุกชุม ได้นำสมุนไพรที่อยู่ในป่าลึกภูดงน้อย ตำบลก้านเหลือง มาช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวบ้านจนหายป่วย จึงมีชาวบ้านและลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก แวะเวียนมากราบไหว้และทำบุญไม่ขาดสาย

ด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและดูแลการเจ็บป่วยของชาวบ้าน จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร นามพระครูอุดมรังสี และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย รวมทั้งเป็นเจ้าคณะตำบลก้านเหลือง

และในครั้งนี้ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระราชมงคลวัชโรดม พุทธาคม ธรรมพิสิฐ มหาศณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี" พระราชาคณะชั้นราช มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป คือ พระครูปลัด 1 พระครูสังฆรักษ์ 1 พระครูสมุห์ 1 และพระครูใบฎีกา 1


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

สุโขทัย - อบจ.สุโขทัย ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน แก่ประชาชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้มีรายได้

วันที่ 5 กรกฏาคม 2564 นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย มอบหมายให้ นางกัลยากร จั่นแก้ว เลขานุการ อบจ. นางสาวศรีสุรางค์ จูทอง หัวหน้าสำนักปลัด อบจ. พร้อม บุคลากรในสังกัด อบจ.สุโขทัย ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือ ตามโครงการ อบจ.สุโขทัย ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน ประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้มีรายได้น้อย ในพื้นที่ จ.สุโขทัย รายละ 3,000 บาท ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในเขต ต.บ้านกล้วย ในเขต ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย ณ สำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี และในเขต ต.ไกรนอก ต.กกแรต ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ  ณ หอประชุม อบต.ไกรนอก

โดยมีนายเชนท์ ผาสุก สมาชิกสภา อบจ.สุโขทัย อ.เมือง เขต 1 นายประทีป สุริเย สมาชิกสภา อบจ.สุโขทัย อ.เมือง เขต 2 นายลูกคิด ไกรสีกาจ สมาชิกสภา อบจ.สุโขทัย อ.กงไกรลาศ เขต 1 นายพัฒ ตั้งเบญจผล สมาชิกสภา อบจ.สุโขทัย อ.กงไกรลาศ เขต 2 ผู้นำท้องที่-ท้องถิ่น และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่มอบเงินตามโครงการดังกล่าว

ชลบุรี - พัทยา แจงภาพ ปชช.รอรับแจกของในโซเชียล เป็นการวางระบบตามมาตรการป้องกันโควิด

ตามที่มีภาพนำเสนอ ในสื่อโซเชียลเป็นภาพผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังเข้าคิวรอรับแจกอาหารบริเวณชายหาดเมืองพัทยา จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา และเป็นที่สนใจต่อสาธารณชนอยู่ในขณะนี้นั้น

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า จากภาพที่เห็นหากมองมุมเดียวก็จะเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านจากผลกระทบโควิด-19 แต่ถ้ามองภาพรวมจะเห็นได้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ยังมีคนไทยผู้ใจบุญอีกเป็นจำนวนมากที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกันในยามทุกข์ยาก ในภาพก็จะเป้นกลุ่มลูกหลานของเพื่อนของตนเองที่ขออนุญาตทางเมืองพัทยาเตรียมอาหารมาแจกจ่ายให้ประชาชน

ซึ่งในทุกระลอกของการแพร่ระบาดก็จะเห็นคนไทยใจดีออกมาช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ให้สังคมมากขึ้น แต่ต้องมีการขออนุญาตกับทางเมืองพัทยาเพื่อเป็นไปตามมาตรการการควบคุมและป้องกันโรคระบาดของ ศบค. เป็นการเน้นย้ำการรักษาและปฏิบัติตามาตรการเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้นในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งประชาชนที่มารับแจกจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ดูแลไม่ให้เกิดภาวะเสี่ยงตลอดจนจบกิจกรรม


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ยะลา - ศปก เบตง เปิดพื้นที่หมู่บ้านและชุมชน หลังครบ 14 วัน ในการสอบสวนโรคไร้ผู้ป่วยเพิ่มตั้งเป้าเปิดเมือง

ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอเบตง เปิดพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนที่ปิดตามคำสั่ง ศบค.ยะลา เพื่อผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมภายหลังถูกปิดพื้นที่เสี่ยงเพื่อทำการสอบสวนโรคครบ 14 วัน ไร้ผู้ป่วยเพิ่ม นายอำเภอเบตงกำชับอย่าประมาทให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายภายในเดือนตุลาคมนี้ ประชาชนในพื้นที่ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เมืองเบตงในการเตรียเปิดเมืองเพื่อรองรับการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.64 ที่จุดปิดพื้นที่เสี่ยงชุมชนกุนุงจานอง ในเขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตงและผอ.ศปก.อ.เบตง เป็นประธานเปิดหมู่บ้านพื้นที่เสี่ยงหลังปิดครบ 14 วัน เพื่อทำการสอบสวนโรค โดยมี นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อม สมาชิกสภาเทศบาล คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา สาขาเบตง ผู้นำชุมชน หัวหน้าส่วนราชการ และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ร่วมทำพิธีละหมาดฮายัต เพื่อขอให้ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เกิดความสงบสุขและผ่านพ้นภัยจากโรคไวรัสโควิด-19 โดยเร็ว

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่าสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ ข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยยืนยันสะสม 244 ราย แยกเป็นผู้ป่วยในอำเภอเบตง 242 ราย พบใน state Quarantine 2 ราย กำลังรักษา 108 ราย รักษาหายแล้ว 131 ราย ส่งต่อ 1 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย พร้อมทั้งแผนการฉีดวัคซีนทุกกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่อำเภอเบตง เดือนกรกฎาคม 2564 ให้ได้จำนวน 6,582 คน ซึ่งขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 6,427 คน คิดเป็น 17% จากเป้าหมาย 37,087 คน และตั้งเป้าหมายภายในเดือนตุลาคมนี้ ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เมืองเบตงในการเตรียมพร้อมเปิดเมืองรองรับการท่องเที่ยว

ส่วนมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ได้มีการคัดกรองเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่อื่น ๆ ณ ด่านตรวจคัดกรอง กม.23 การตรวจคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงระหว่างวันที่ 5-11 กรกฎาคม 2564 ในชุมชนและหมู่บ้านพื้นที่เสี่ยง มาตรการควบคุมดูแลการขนส่งสินค้าเข้า-ออกระหว่างประเทศและการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านด่านพรมแดนเบตง พร้อมกำชับแคมป์ก่อสร้าง โรงงานงดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในพื้นที่

นอกจากนี้ในวันนี้ได้ทำการเปิดพื้นที่เสี่ยง จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย 1.บ้าน กม.32 ม.2 ต.อัยเยอร์เวง 2.บ้านธารมะลิ ม.4 ต.อัยเยอร์เวง 3.บ้านบาแตตูแง ม.2 ต.ธารน้ำทิพย์ 4.ชุมชนบูเก็ตตักโกร ต.เบตง 5.ชุมชนกือติง ต.เบตง และ 6.ชุมชนกุนุงจนอง ต.เบตง เนื่องจากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลังจากปิดพื้นที่มาแล้วกว่า 14 วัน

สำหรับมาตรการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมตามคำสั่ง ศบค.ยะลา ที่ 132/2564 ขณะนี้มีร้านค้าและสถานประกอบการในพื้นที่ที่ได้ยื่นคำร้องและผ่านการประเมินแล้วจำนวน 8 ราย หากร้านค้าหรือสถานประกอบการใดที่จะขออนุญาตเปิดกิจการสามารถยื่นคำร้องต่อ ศปก.อำเภอได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รวมทั้งมาตรการรับซื้อส่งออกผลไม้จังหวัดยะลาตามคำสั่ง ศบค.ยะลา ที่ 108/2564 ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนสถานประกอบการต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลาและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมมือกัน เบตงรวมพลัง DMHTTA (อยู่ห่างไว้ ใส่แมสก์กัน หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจหาเชื้อโควิด ใช้แอพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะ) และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้ 100%


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

ขอนแก่น - ชาวขอนแกนยืนรอต่อคิวลุ้นรับทองคำ จากการฉีดวัคซีนแน่นห้องประชุม ขณะที่เจ้าหน้าที่จัดเก้าอี้ให้นั่งอยู่กับที่ ลดการสัมผัสและเว้นระยะห่าง พร้อมส่งทีมแพทย์-พยาบาล ตรวจคัดกรองและให้บริการวัคซีนในทุกขั้นตอน

ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอพล จ.ขอนแก่น ตลอดทั้งวันมีประชาชนที่ได้รับการยืนยันการฉีดวัคซีนจาก รพ.พล ทยอยเดินทางมายืนยันตัวตนและเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามแผนการฉีดวัคซีนของ รพ.พล ที่ดำเนินการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 20 ก.ค.ตามแผนการบริหารจัดการวัคซีนจากสำนักงานสาธาณสุขจังหวัดและคณะกรรมการควบคุมโรค จ.ขอนแก่นได้กำหนดไว้ โดยในวันนี้ไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค. เป็นรอบคิวการฉีดวัคซีนของคนในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล ทำให้มีประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิ์ทยอยกันเดินทางมาฉีดวัคซีนกันอย่างต่อเนื่อง โดยมี นพ.ประวีร์  คำศรีสุข ผอ.รพ. และ นายกิตติโชติ  เตรียมวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล คอยกำกับควบคุมการฉีดวัคซีนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ซึ่งในการจัดจุดฉีดวัคซีนของศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยหน่วยฉีดวัคซีนเครือข่ายบริการสุขภาพ อ.พล ซึ่งนอกจากการลงทะเบียนและการตรวจวัดความดัน และการตรวจคัดกรองตามระบบที่กำหนดแล้ว ภายหลังจากการพบแพทย์ จะเข้าสู่ขั้นตอนของการฉีด ซึ่งพบว่า ที่หน่วยฉีดแห่งนี้ ได้จัดให้ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ได้นั่งประจำที่ ตามแถวที่กำหนด แถวละ 11 คน โดยเมื่อครบจำนวนคนแล้ว ทีมแพทย์และพยาบาล จะทำการยืนยันตัวบุคคลในขั้นตอนสุดท้ายแล้วจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการฉีดแบบล้อลาก คือให้ผู้ที่รับการฉีดวัคซีนนั้นได้นั่งอยู่กับที่ ตั้งแต่ขั้นตอนการยืนยันรายชื่อ การฉีดวัคซีน การให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีน รวมไปถึงพักรอ 30 นาที และ ออกเอกสารนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ที่ทุกคนจะนั่งอยู๋กับที่โดยไม่ต้องขยับตัวไปไหน โดยมีทีมแพทย์ และพยาบาล คอยสังเกตอาการและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และเมื่อครบกำหนดพักรอ 30 นาที ทุกคนจะเดินผ่านจุดบริการของเทศบาลเมืองเมืองพล ในการร่วมลุ้นรับรางวัลทองคำหนัก 1 สลึง 3 เส้น ที่ผู้มีจิตศรัทธาและเทศบาลเมืองเมืองพล ได้จัดเตรียมไว้ สำหรับการร่วมรับโชคให้กับผู้ที่มารับการฉีดวัคซีนตามที่รัฐบาลได้รณรงค์ให้คนไทยทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

นายกิตติโชติ  เตรียมเวชวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล กล่าวว่า ในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล มีประชากรกว่า 8,000 คน ซึ่งเป้าหมายของการฉีดวัคซีนตามที่รัฐบาล และ ทางจังหวัดกำหนดนั้นคือให้ได้ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งเท่ากับว่าคนในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล จะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 คนและในจำนวนนี้แยกเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคประมาณ 3,000 คน ดังนั้นเมื่อรัฐบาลได้กำหนดให้ อปท.และทุกพื้นที่ โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้ลงพื้นที่เชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่ได้มารับการฉีดวัคซีนกันให้มากที่สุด เทศบาลฯจึงร่วมกับผู้ใจบุญ แจกโชคให้กับผู้ที่มาฉีดวัคซีนด้วยการจับสลากทองคำ น้ำหนัก  1 สลึง  3 เส้นให้กับผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค.

“ผู้ที่จะมาสิทธิ์ได้ลุ้นรับโชคนั้นจะต้องเป็นคนในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล และมีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเทศบาลฯเท่านั้น โดยจำกัดให้เฉพาะกับผู้สูงอายุ คือเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนนั้นได้มารับวัคซีนตามที่รัฐบาลได้จัดสรรให้ ดังนั้นวันนี้วันแรกของการฉีดวัคซีน รอบคิวของเทศบาลและพื้นที่ตำบลข้างเคียงทำให้มีประชาชนมายืนรอต่อคิวแบบ New Normal รับการฉีดวัคซีนกันตั้งแต่ช่วงเช้า”

นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล กล่าวต่ออีกว่า เมื่อผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วและเป็นคนในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล และมีทะเบียนบ้านในเขตเทศบาลฯเจ้าหน้าที่จะให้บัตรชิงโชค โดยที่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับบัตรที่มีต้นขั้วและเรียงลำดับหมายเลข จะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดเพื่อให้ส่งเอกสารชิงรางวัล ขณะที่ประชาชนทั่วไปจะได้รับคูปองส่วนลดร้านอาหารในเขตเทศบาลฯที่มีเข้าร่วมกว่า 50 ร้าน ที่ทั้งลดแลกแจกแถมให้กับผู้ที่มาฉีดวัคซีนที่ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ครั้งสำคัญของคน อ.พล อย่างไรก็ตามเมื่อครบกำหนดการฉีดวัคซีนในวันที่ 9 ก.ค.แล้ว เจ้าหน้าที่จะรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบรายชื่อ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนและเป็นคนในเขตเทศบาลฯได้ลุ้นรับทองคำที่เป็นรางวัลใหญ่ 3 รางวัล รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาได้มาร่วมบริจาค โดยจะทำการจับรางวัลในวันที่ 16 ก.ค.ที่จะถึงนี้

ตราด - ทัพเรือภาคที่ 1 เปิดหลักสูตรทบทวนการประมงกับความมั่นคงของชาติ และไทยอาสาป้องกันชาติทางทะเล

ทัพเรือภาคที่ 1 ยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง จัดหลักสูตรทบทวน การประมงกับความมั่นคงของชาติและไทยอาสาป้องกันชาติทางทะเลระหว่างวันที่ 4 - 6 ธันวาคม 2564 ณ วัดตะกาดร่วมสุข ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จว.ตราด

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขต ทัพเรือภาคที่ 1 มอบหมายให้ นาวาเอก กรัณย์ กลิ่นบัวแก้ว รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการฝึกอบรมไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขต ทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรความมั่นคงของชาติ และไทยอาสาป้องกันชาติทางทะเล ณ วัดตะกาดร่วมสุข ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จว.ตราด ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ มีสมาชิกอาชีพประมง และอาชีพต่อเนื่องจากประมง สมัครเข้ารับการอบรมรวมทั้งสิ้น 65 คน การอบรมในหลักสูตรดังกล่าว ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย และระเบียบปฏิบัติของกรมเจ้าท่า การติดต่อสื่อสารกับกองทัพเรือ ความสำคัญของ ทสปช.ในทะเล การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กฎหมายการทำประมงและการติดต่อสื่อสารกับวิทยุชายฝั่งของกรมประมง การอนุรักษ์ทรัพยากรกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง อีกทั้งกล่าวคำปฏิญาณตามครูฝึก ทำให้ผู้ที่ผ่านการอบรมทุกคน ไม่เพียงแต่ได้รับความรู้จากการอบรมเพียงเท่านั้น แต่ยังได้มิตรภาพที่ดีจากครูฝึกและเพื่อนร่วมรุ่น อีกด้วย

พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขต ทัพเรือภาคที่ 1 ได้กล่าวให้โอวาทผ่านระบบวิดีทัศน์ว่า การดำเนินการ อบรม การประมงกับความมั่นคงของชาติและไทยอาสาป้องกันชาติทางทะเลในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายให้ชาวประมงและผู้มีอาชีพทำการประมง ในท้องถิ่น ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลต่าง ๆ จว.ตราด ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน มีความรู้ทางวิชาการที่ได้รับจากการอบรมไปประกอบอาชีพให้เกิดผลดีต่อตนเองต่อเศรษฐกิจของชาติ สามารถเป็นเครือข่ายเป็นหูเป็นตาในการให้ข่าวสารกับทางราชการ ร่วมมือในกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รู้จักบทบาทหน้าที่ของการเป็นสมาชิกศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความเสียสละ และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติบ้านเมืองต่อไป


ภาพ/ข่าว  กองกิจการพลเรือนทัพเรือภาคที่ 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

พิจิตร – ผู้ว่าฯ เผย แรงงานติดเชื้อโควิดขอกลับบ้านเพียบ ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วย 11ราย รอลุ้นผลตรวจ 213 ราย

วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เป็นประธานในพิธีรับมอบรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย  Biosafety Mobile Unit ที่ พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร ได้ดำเนินการใช้งบประมาณ 3.8 ล้านบาท จัดซื้อรถตรวจหาเชื้อโควิดเคลื่อนที่จำนวน 2 คัน ที่ติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยเพื่อมอบให้ นพ.กมล กัญญาประสิทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร นำไปบริหารจัดการปฏิบัติการเชิงรุกในการตรวจหาเชื้อโควิด ซึ่งรถทั้งสองคันดังกล่าวนับเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการ Swab ให้กับกลุ่มเสี่ยงและเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จะให้บริการประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดที่เกิดขึ้น

ซึ่งภายหลังจากรับมอบรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยแล้ว นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้มีชาวพิจิตรที่ไปทำงานในกรุงเทพและปริมณฑลต่างติดต่อขอกลับบ้านกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสงสัยตัวเองว่าจะติดเชื้อโควิดซึ่งตอนนี้หาที่ตรวจก็ไม่ได้ หาที่รักษาหรือหาเตียงเพื่อนอนรักษาก็ไม่มีที่ใดว่างดังนั้นจึงประสานขอกลับมาในแต่ละวันก็มีประมาณ 10-20 ราย ซึ่งจังหวัดพิจิตรก็ต้องอ้าแขนรับเนื่องจากเป็นคนพิจิตรกลับมาก็ต้องดูแลกัน ล่าสุดได้มีการประชุมวางแผนให้เพิ่มเตียงใน รพ.สนาม-รพ.พิจิตร-รพ.ชุมชนต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ยังมีเตียงว่างประมาณ 100 เตียง รวมถึงได้ขอให้ อบจ.พิจิตร เพิ่มเตียงในโรงพยาบาลสนามเพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์ที่ส่อเค้าว่าจะหยุดไม่อยู่แต่มั่นใจว่าช่วงนี้ยังคงรับมือได้

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. 64 จนถึงวันนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดเดินทางมาจากพื้นที่สีแดงมีกว่า 50 คนแล้ว ทำให้ล่าสุดวันนี้ จงพิจิตรมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 11 ราย ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 80 ราย และต้องรอลุ้นผลตรวจกลุ่มเสี่ยง 213 ราย ทำให้ขณะนี้พิจิตรมีผู้ป่วยสะสมแล้ว 233 ราย รักษาหาย 141 ราย อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top