Monday, 21 April 2025
PrideMonth

พรรคกล้า ชวนทุกพรรค ร่วมหนุน Pride Month ชูยุทธศาสตร์ Rainbow Economy บูมศก.ไทย

พรรคกล้า ชวนทุกพรรค ร่วมสนับสนุน Pride Month ผลักดันสู่สมรสเท่าเทียม “กรณ์” ชูยุทธศาสตร์ Rainbow Economy สร้างเศรษฐกิจไทย 

ตามที่ทั่วโลกยกให้เดือนมิถุนายน เป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ หรือ  Pride Month หรือ Pride Parade โดยใช้ธงสีรุ้งเป็นสัญลักษณ์ของสิทธิและความเท่าเทียมของมนุษย์ทุกคน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 นายเทมส์ ไกรทัศน์ รองโฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า กล่าวว่า ความรักก็คือสิ่งสวยงาม ไม่ว่าคู่รักจะมีเพศภาวะหรือนิยามตัวเองว่ายังไง ควรอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันอย่างเท่าเทียม ประเทศไทยจะต้องเป็นความสุขของทุกคน การสมรสเท่าเทียมเป็นสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งจริงๆไม่ควรต้องมาเรียกร้องกฎหมายที่เป็นธรรมและมีความเสมอภาคจะช่วยสร้างให้เมืองไทย เป็นเมืองแห่งสิทธิเสรีภาพ อิสระ เท่าเทียม เปิดกว้าง และปลอดภัย

“ผมอยากเชิญชวนทุกท่าน มาร่วมฉลองในเดือนแห่งความพิเศษ เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQ+ เพียงเปิดใจยอมรับและปรับมุมมอง คุณก็จะเห็นคุณค่าความเท่าเทียมและความน่ารักในความหลากหลาย เพราะทุกคนย่อมได้สิทธิในความภาคภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยมในสิ่งที่ตนเองเป็น โลกเราใช่แค่ หญิง กับ ชาย อย่างที่ทุกคนรู้ หรือแค่ ขาว และ ดำ แต่มีหลายเฉดสี เมืองไทยก็มีความหลากหลาย ไม่ใช่แค่เรื่องเพศ แต่ในทุกๆส่วนของสังคม มีมิติแห่งความหลากหลายแทรกอยู่ นี่แหละคือความสวยงาม” นายเทมส์ กล่าว 

‘LGBTQ+’ ตรวจสุขภาพเฉพาะทางได้ที่ไหนบ้าง มาดูกัน!!

เนื่องจากเดือนมิถุนายนของทุกปีถือเป็น Pride Month สำหรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQ+ ซึ่งปัจจุบันมีการรณรงค์สนับสนุนความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจในตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการดูแลสุขภาพนับเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับประชาชนทุกคนรวมถึงกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ
การตรวจสุขภาพ คือ การตรวจร่างกายในภาวะที่ร่างกายเป็นปกติดี ไม่มีอาการเจ็บป่วย โดยมีวัตถุประสงค์ในการค้นหาปัจจัยเสี่ยงและภาวะผิดปกติ เพื่อให้ทราบแนวทางป้องกันการเกิดโรคร้ายแรง ในทุกช่วงอายุควรเข้ารับการตรวจสุขภาพ ซึ่งสามารถเลือกตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนก็ได้

>> การตรวจสุขภาพในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น
มุ่งเน้นไปที่การตรวจร่างกายทั่วไป (ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง) เพื่อค้นหาความผิดปกติ ประเมิน การเจริญเติบโตตามวัย และเฝ้าระวังด้านพัฒนาการ รวมไปถึงการรับวัคซีนต่าง ๆ ตามกำหนดเวลา เพื่อป้องกันการเกิดโรค



>> การตรวจสุขภาพในกลุ่มวัยทำงาน
สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 - 60 ปี โดยการซักประวัติเพื่อค้นหาความเสี่ยงของโรค โดยเฉพาะในกลุ่มที่ครอบครัวเคยมีประวัติป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง เบาหวาน ประกอบกับการตรวจร่างกายทั่วไป เช่น ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต เพื่อช่วยในการคัดกรองภาวะเสี่ยงของโรค ซึ่งควรตรวจร่างกายอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง


 

- ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง
- ตรวจการได้ยินปีละ 1 ครั้ง
- แบบประเมินสภาวะสุขภาพ เช่น ภาวะซึมเศร้า การใช้ยาและสารเสพติด การดื่มแอลกอฮอล์ การติดนิโคตินในผู้สูบบุหรี่ เป็นต้น
- การตรวจตา สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจวัดสายตาและตรวจคัดกรองโรคต้อหิน ภาวะความดันลูกตาสูง และความผิดปกติอื่นๆ โดยทีมจักษุแพทย์ อย่างน้อย 1 ครั้ง
- การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (Chest x-ray) โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก หรือมีอาการสงสัยว่าเป็นวัณโรคและมะเร็งปอด
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ช่วยคัดกรองภาวะโลหิตจางหรือความผิดปกติอื่นของเม็ดเลือดหรือเกล็ดเลือด

เปิ้ล ไอริณ’ ฟาดแรง!! หลังโดนแบนร่วมงานบางกอกไพรด์ เหตุปมการเมือง ลั่น!! ไม่ยุติธรรม เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครอง

‘เปิ้ล ไอริณ’ เสียความรู้สึกตั้งใจไปร้องเพลงให้กระหึ่มใจกลางเมือง แต่ถูกแคนเซิล ลั่นไม่ยุติธรรมโดนตัดสิทธิ์จากให้มีบทบาท 4 เหลือแค่ 1 แต่เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองแล้ว ไม่ให้ไปงานนี้ เพราะไม่ไปยืนแผ่นดินเดียวกัน หนักแผ่นดิน!! ชี้ดาราแค่หุ่นเชิด ไม่รู้อิงการเมือง หนุน sex worker

(6 มิ.ย. 66) กรณีที่ ‘เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว’ ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่าถูกเจ้าของงานบางกอกไพรด์ 2023 สั่งแบนห้ามร่วมงาน หลังแสดงความเห็นค้านแก้ ม.112 เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งในงานดังกล่าว มีทั้ง ‘ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 รวมทั้ง ‘อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร’ จากพรรคเพื่อไทย และ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมงาน พร้อมด้วยชาว LGBTQIAN+ และศิลปิน ดารามากมาย

ล่าสุด ‘เปิ้ล ไอริณ’ ได้เปิดใจหลังถ่ายรายการ ‘รายการคุยทะลุดรามา’ ช่องเวิร์กพอยท์ ยันตอนแรกต้องทำถึง 4 บทบาท แต่ภายหลังกลับลดจนเหลือบทบาทเดียว ซึ่งทำให้ตนเสียชีวิต แต่พอมาถึงตอนนี้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วที่ช่วยไม่ให้ไป เพราะตอนแรกตนไม่ทราบว่าจะมีนักการเมืองมาร่วมเดินขบวนด้วย

“ตอนแรกเปิ้ลได้รับการติดต่อทาบทามไปงานนั้น โดยเปิ้ลจะมีบทบาท 4 อย่าง หนึ่งเปิดตัว พบนักข่าว เปิดงาน สองจะใช้เพลง money ของเปิ้ล ร้องแห่ตามถนน สามเปิ้ลจะร่วมขบวนแห่ไปด้วย สี่จะต้องมีการขึ้นเวที แต่พอใกล้ถึงเวลาจริงๆ เปิ้ลก็เพิ่งมาทราบว่าทางงานบอกไม่ต้องไปงานที่สนามศุภชลาศัย แล้วให้ไปแค่ที่สยามเลย เราก็บอกว่ามันแคนเซิลง่ายๆ อย่างนั้นเลยเหรอ เรารู้สึกเสียความรู้สึก เราตั้งใจไปคอนเสิร์ต ไปร้องให้กระหึ่มใจกลางเมือง นี่คือความฝันสูงสุดของเปิ้ลเลย แต่เปิ้ลก็ต้องโดนทำลายความฝัน ที่ตอนแรกไม่ทราบสาเหตุ

เปิ้ลว่ามันไม่ยุติธรรมกับเปิ้ล จาก 4 มาเหลือ 1 มันก็โดนตัดสิทธิ์ โดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว แต่มา ณ วันนี้เปิ้ลถือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ช่วยเหลือเปิ้ลเอาไว้ไม่ให้เปิ้ลต้องไปงานนี้ เปิ้ลจะไปทำไม งานที่มีเจ้าภาพงานเป็นตระกูลที่รัฐบาลต้องเข้าไปทำรัฐประหาร เพราะว่าเงินมันเหลือในคลัง 0 บาทแล้ว คุณสร้างหนี้เอาไว้ 84,000 ล้าน ตอนนี้รัฐบาลต้องจ่ายหนี้ข้าวของคุณ ชาวนาที่ผูกคอตายไป รัฐบาลต้องแบกรับภาระเดือนละ 30,000 ล้าน มันใช่หน้าที่ของพวกเราไหมที่เปิ้ลจะต้องไปนั่งซัปพอร์ตเขา อย่าเป็นอัลไซเมอร์ค่ะ จำกันให้ได้ ดีนะที่เปิ้ลไม่ไปยืนแผ่นดินเดียวกัน หนักแผ่นดินค่ะตรงนั้น เปิ้ลไปยืนไม่ได้หรอก” เปิ้ล ไอริณ กล่าว

คาดดาราที่ไปไม่รู้ว่าอิงการเมือง ใช้ดาราเป็นหุ่นเชิด งงสนับสนุน
“แล้วเปิ้ลจะบอกอีกสองเรื่อง เรื่องแรก ดาราที่ไปหลายคนไม่รู้ว่ามันอิงการเมืองอยู่ เนื่องจากว่าถ้าดาราไปในเรื่องของการเมืองมันมีค่าใช้จ่ายสูง ไปช่วยหาเสียง ไปการเมือง แต่เขาใช้คำพูดกับเปิ้ลว่าเดินขบวนเพื่อเรียกร้องให้ LGBTQ ได้รับความเท่าเทียม แต่เขาไม่ได้บอกเลยว่ามีนักการเมืองมา ดาราทุกคนไปก็งง แถมยังไปอิงการเปิดตัว Pride Clinic ของ รพ.บำรุงราษฎร์ ซึ่งมีการผ่าตัดแปลงเพศ เท่ากับเอาดาราไปเป็นหุ่นเชิด แต่มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ด้านหลังรึเปล่า

ฉะนั้น คราวหลัง ศิลปินทุกคนต้องระวังคำว่า กทม. ไว้แล้วนะคะ กทม. จัด แต่พอไปถึงปุ๊บ สิ่งที่มันเป็นนโยบายเขาถามให้ละเอียดก่อน อะไรเปิ้ลก็ไม่ติดใจ แต่ท้ายของนโยบายที่เปิ้ลอ่านมาคือ สนับสนุน sex workerแล้วดาราที่ไปมีศิลปินแกรมมี่ด้วย ที่มีพี่เบิร์ด ธงไชย อยู่ด้วย สนับสนุน sex worker เหรอ เปิ้ลงง จุดประสงค์กับสิ่งที่คุณต้องการ กับสิ่งที่เราอุตส่าห์ตั้งใจไปมันคนละเรื่องกันหรือเปล่า ดีใจที่ไม่ได้ไป ถือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเปิ้ลไว้ค่ะ”

โดนตัดสิทธิ์ต้องมีเหตุผล ก่อนหน้านี้เพิ่งสนับสนุนนโยบาย ‘ลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’
“ถามว่าปีนี้มีนักการเมืองหลายพรรคไปเลย ทำให้เรารู้สึกแบบนั้นหรือเปล่า อ้าว แล้วทำไมเปิ้ลถึงโดนตัดสิทธิ์ได้ มันต้องมีสาเหตุสิ เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะก่อนหน้านั้นเปิ้ลเพิ่งออกมาสนับสนุนนโยบายของ ลุงตู่ เปิ้ลกับลุงตู่อาจจะเหมือนกันตรงนี้ อยากพูดอะไรก็พูด

ความจริงก็คือความจริง ทำไมเปิ้ลต้องโดนตัดสิทธิ์ด้วย มีเหตุผลอะไร แล้วคุณชัชชาติ เขาเคยอยู่พรรคไหน มันเป็นคำถามของเด็กอนุบาลที่ไม่น่ามาถามเปิ้ลด้วยซ้ำไป (เขาเปลี่ยนเป็นให้เราไปร่วมงานแทนขึ้นขบวน เราก็เลยไม่คิดที่จะไปงาน?) เปิ้ลไม่อยากตอบคำถามพวกนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะเปิ้ลไม่ได้เป็นหุ้นสื่อค่ะ”

เขาไม่ให้ขึ้นคอนเสิร์ต ขึ้นรถแห่ ส่วนนึงอาจปกป้องเพราะตนโพสต์ข้อความทางการเมือง
“ก็อาจจะเป็นจริงนะคะ เพราะถ้าเกิดเปิ้ลขึ้นเวที ประโยคแรกเปิ้ลคงจะพูดว่า SAVE 112 ก็ดีแล้วที่เขาไม่ให้เปิ้ลไป เขาก็คิดถูกแล้ว ถามว่าเราก็โอเค เลือกที่จะไม่ไปไหม ก็คงจะแตกต่างกัน เปิ้ลก็ออกมาแสดงจุดยืน SAVE 112 ที่อีกกลุ่มต้องการที่จะยกเลิกและแก้ไข มันก็ขัดแย้งกันอยู่แล้ว มันก็อาจจะมีการเห็นต่างบางอย่างแต่ในสิ่งนึงเปิ้ลก็ยังสงสัยว่า งานนี้มีคอนเซ็ปต์ว่ารักความต่าง สนับสนุนความเท่าเทียม คำพูดยังแบบว่า… คำถามต่อไปดีกว่าค่ะ”

ยันไม่ได้อยากดัง
“เปิ้ลใช้เฟซบุ๊กมา 20 ปี ไม่เคยขึ้นจอดำเลย นี่เป็นสาเหตุที่เปิ้ลเสียใจ ที่หลายๆ คนก็เรียกร้องแม่ แล้วสิ่งที่เขาเอามาล่อเราตอนแรก อยากให้เราไป เขาพูดกับเราว่าเราจะได้เป็นแม่เลย เด็กๆ จะได้ไปเจอพี่เปิ้ลด้วย จุดประสงค์ของเรามีเท่านี้ไม่ได้อยากจะดังอะไรทั้งสิ้น แต่เรารู้สึกว่าถ้าเราเห็นภาพทุกคนร้องเพลงเรา เพลงเราไปดังก้องถนนได้ เปิ้ลจะมีความสุข เป็นฝันของเปิ้ล จะเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของเปิ้ลจนวันตายเลยค่ะ แต่ไม่เป็นไร ถ้าเพลงของเปิ้ลอีกฝั่งนึงจะดับลงไป แต่เพลงสรรเสริญพระบารมีจะดังก้องขึ้น มันก็คุ้มค่าแล้วค่ะ”

ย้ำไม่หนุน sex worker
“ตัวเปิ้ลเองไม่ได้สนับสนุน sex worker มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงเปิ้ลจะภาพเซ็กซี่ แต่การที่เราสนับสนุนให้เด็กมีเพศสัมพันธ์เพื่อหารายได้ ยังไงเปิ้ลก็ไม่สนับสนุน จะกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยเปิ้ลก็ค้านตลอด วันนึงถ้าเปิ้ลเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนเรื่องพวกนี้ที่ มันก็คงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของเปิ้ล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังคุ้มครองเปิ้ลอยู่ไม่ให้ได้ไปงานนั้น คนละคลื่นพลังงาน พอพลังงานมันไม่บาลานซ์กัน ทำยังไงก็ไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว

เมื่อก่อน คำว่า ‘บูลลี่’ หรือความคิดเห็นที่กระทบเราเปิ้ลต้องขอบคุณทั้งหมด มันเป็นวัคซีนให้เปิ้ลตอนนี้ เปิ้ลเชื่อเรื่อง ฟิสิกส์ควอนตัม พลังงานมวลรวม ยิ่งเราต้องการจะปกป้องอะไร สิ่งสูงสุดแค่ไหน สิ่งใหญ่โตแค่ไหน พลังงานมวลรวม อุปสรรคปัญหาหรืออะไรต่างๆ มันก็เข้ามาเท่านั้น เปิ้ลรู้ก่อนหน้านี้แล้ว เปิ้ลรู้และรับมือกับมันได้ เพราะเปิ้ลอยู่กับสิ่งนี้มา 30 กว่าปีในวงการแล้ว ก็ไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรในชีวิต เปิ้ลเขียนในเพลงไปแล้วว่าโฟกัสสิ่งใดสิ่งนั้นขยายผล ตัวเปิ้ลไม่ได้โฟกัสเรื่องลบเลย ซึ่งลึกๆ เปิ้ลก็เมตตาพวกเขานะ มันเหมือนจุดดำในกระดาษขาว เปิ้ลมีลิควิดเปเปอร์ในจิตใต้สำนึกที่สามารถลบจุดดำนั้นได้ค่ะ”

ไม่แคร์ถูกแอนตี้ เพราะไม่ได้รับงานในวงการ อยู่อย่างพอเพียง
“ไม่ได้มายด์เลยค่ะ ตอนนี้จริงๆ ไม่ได้จะรับงานในวงการเลย ไม่ได้มายด์เรื่องเงินอยู่แล้ว ตัวเปิ้ลอยู่อย่างพอเพียงนะ ทำเพลง money เห็นเปิ้ลมีบ้านช่อง ดูเฟซบุ๊กเปิ้ลดีๆ สิ ไปส่องดูอีกที เปิ้ลไปเที่ยวบนดอย ที่พักหลักร้อย เปิ้ลใช้เงินอย่างประหยัด เพราะเปิ้ลจะเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์หลังตายเพื่อมอบเป็นการกุศลให้กับเด็ก 5 มูลนิธิเปิ้ลอยู่ของเปิ้ลได้ เพราะลึกๆ แล้วเปิ้ลเป็นคนประหยัด เปิ้ลรู้ว่าเปิ้ลอายุไม่ยืน เปิ้ลเลยรีบสะสมทำความดี”
 

'ร่างทรง' ผู้รับหน้าที่ในการส่งสารระหว่างเทพและมนุษย์ สิทธิความเท่าเทียมทางเพศ LGBTQ+ ที่ไม่ถูกค้านในเมียนมา

...และแล้ว Pride Month ก็เดินทางมาครบรอบอีกปี  ในขณะที่หลายประเทศมีความเปิดกว้างให้แก่กลุ่ม LGBTQ+ แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่ได้ยอมรับตัวตนของกลุ่ม LGBTQ+ สักเท่าไร   

การร่วมเพศของคนเพศเดียวกัน เป็นอาชญากรรมในกว่า 70 ประเทศ และเป็นโทษประหารชีวิตใน 9 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอิหร่าน ประเทศซาอุดีอาระเบีย, ประเทศซูดาน และประเทศเยเมน  

ในขณะที่บางประเทศการมีเพศสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกันต้องโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ถึงแม้ในบางประเทศจะไม่บังคับใช้กฎหมายจำกัดสิทธิดังกล่าวอย่างจริงจังเนื่องจากโลกที่เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม แต่ในหลายประเทศที่แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายแล้ว แต่จารีตประเพณีของคนในประเทศเหล่านั้นก็ไม่ได้ยอมรับตัวตนของการเป็นกลุ่มชาว LGBTQ+ อยู่ดี

เมียนมาเป็น 1 ใน 4 ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีกฎหมายเอาผิดผู้ที่มีเพศสัมพันธุ์กับคนเพศเดียวกันเช่นกัน โดยมีมาตรา 377 ของเมียนมาระบุว่า...

"การมีความสัมพันธ์ทางเพศแบบผิดธรรมชาติเป็นการก่ออาชญากรรม และผู้ที่กระทำความผิดจะถูกลงโทษโดยการจำคุกไม่เกิน 10 ปี"

โดยกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นในยุคอาณานิคมเมื่อจักรวรรดิอังกฤษเข้าปกครองพม่าในยุคนั้น ศาลอังกฤษจำคุก ออสการ์ ไวลด์ นักเขียนผู้โด่งดัง เพราะ มีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน มันถูกเรียกว่า 'ความรักที่ไม่กล้าเอ่ยนาม' และทำให้มีการนำกฎหมายนี้มาใช้ทั้งในอินเดียและพม่า ซึ่งตอนนั้นถูกผนวกเป็นมณฑลหนึ่งของอินเดีย

นักสิทธิมนุษยชนชาวเมียนมาพยายามจะรณรงค์ให้ยกเลิกกฎหมายมาตรา 377 โดยในปี 2001 กลุ่มผู้พลัดถิ่นแนวร่วมประชาธิปไตยนักเรียนพม่าได้ทำเรื่องขอให้ยกเลิกกฎหมายดังกล่าวแต่ก็ไม่มีผลอะไร

แม้กระทั่งในปี 2015 เมื่อพรรคสันนิบาตชาติประชาธิปไตยหรือ NLD ที่มีนางอองซานซูจีเป็นผู้นำชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีการเรียกร้องจากพรรคฝ่ายค้านให้ยกเลิกกฎหมายฉบับนี้และรณรงค์ให้คนในชาติยุติความชิงชังในกลุ่ม LGBTQ+ แต่ทว่ารัฐบาลของนางซูจีก็ไม่ได้สนใจคำขอและไม่ได้ปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายฉบับนี้เลย

ในปี 2020 เป็นจุดเปลี่ยนของกลุ่ม LGBTQ+ ทางการเมืองเมื่อพรรค People Pioneer Party (PPP) ซึ่งเป็นพรรคที่สมาชิกในพรรคแตกแยกออกจากพรรค NLD เดิมได้ส่งนักการเมืองเกย์คนแรกลงสมัครชิงเก้าอี้ในสภาในเมืองมัณฑะเลย์ โดยคาดหวังว่าจะเข้าไปปรับปรุงสิทธิทางกฎหมาย และการยกเลิกมาตรา 377 เพื่อประโยชน์ของชาว LGBTQ+ ในเมียนมา แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อพรรค PPP พลาดที่นั่งในสภาในการเลือกตั้งในปี 2020

ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ สังคมของเมียนมาเป็นสังคมปิด คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ยอมรับการมีอยู่ของกลุ่ม LGBTQ+ ในเมียนมา และหลายครั้งก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นจากการบูลลี่ของคนในครอบครัวและคนใกล้ตัวเอง อีกทั้งกลุ่มชายรักชายยังถูกห้ามไม่ให้บวชพระในเมียนมาเพราะถือว่าเป็นบัณเฑาะก์ โดยมีการตีความคำว่าบัณเฑาะก์จากคัมภีร์อรรถกถาได้ความว่า บัณเฑาะก์นั้นคือ...

• อาสิตตบัณเฑาะก์ คือ ชายที่อมอวัยวะเพศของชายอื่น
• อุสุยยบัณเฑาะก์ คือ ชายที่ชอบพอใจในการดูกิจกรรมร่วมเพศระหว่างชายกับชาย
• โอปักกมิยบัณเฑาะก์ คือ บุคคลที่ถูกตอน เช่น ขันที และรวมถึงบุคคลที่ผ่าตัดแปลงเพศในปัจจุบัน
• ปักขบัณเฑาะก์ คือเป็นบัณเฑาะก์ในช่วงข้างแรม (มีอารมณ์กำหนัดบางวัน) แต่ช่วงข้างขึ้นไม่เป็น
• นปุงสกัปบัณเฑาะก์ คือ ผู้มีความบกพร่องทางเพศสภาพ ไม่ปรากฏเพศที่แน่ชัด นับเป็นความบกพร่องทางร่างกายแต่กำเนิด

แม้ในประเทศไทยจะมีการตีความบัณเฑาะก์ว่า 'อาสิตตบัณเฑาะก์' และ 'อุสุยยบัณเฑาะก์' สามารถบวชได้ 'ปักขบัณเฑาะก์' สามารถบวชได้ในวันที่ไม่มีกำหนัด ส่วน 'โอปักกมิยบัณเฑาะก์' และ 'นปุงสกัปบัณเฑาะก์' นั้น ไม่สามารถบวชได้ ... แต่ในเมียนมานั้น ชาวเมียนมาจะไม่อนุญาตให้บัณเฑาะก์บวชเลย เพราะเกรงกลัวความเสื่อมเสียในพุทธศาสนาและความอับอายทางสังคมที่จะตามหาหลังจากเกิดเรื่อง

แม้กลุ่มชายรักชายจะถูกขัดขวางลิดรอนสิทธิในทางสังคมและการเมือง แต่ในทางความเชื่อเรื่องการทรงเจ้าจะพบว่า 'ร่างทรง' หรือ 'นัตกะด่อว์' ในเมียนมานับวันจะมีกลุ่มคนข้ามเพศมากขึ้น โดยในทุกปีจะมีเทศกาลทรงเจ้าของเมืองต่องปะโยง ในเมืองมัณฑะเลย์ โดยสมาชิกเกินกว่า 90% เป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่มหญิงข้ามเพศและกลุ่มเกย์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนทรงเจ้า จนถูกขนามนามว่า 'เทศกาลชาวเกย์' เพราะคนเมียนมาเชื่อว่าร่างทรงที่เป็นกลุ่มเพศทางเลือกจะมีพลังสูงกว่าเพศหญิงหรือชาย เนื่องจากกลุ่มเพศทางเลือกไม่ใช่หญิงและชาย จึงทำให้ร่างทรงที่เป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 เป็นต้นมา 

นัตกะด่อว์ ถือว่าเป็นร่างทรงที่ได้รับการเคารพนับถือและยังสร้างความบันเทิง โดยทำหน้าที่ในการส่งสารระหว่างเทพและมนุษย์ ภาพของนัตกะด่อว์ มักเป็นกะเทยหรือผู้หญิงข้ามเพศ เพราะคนพม่าเชื่อว่ามีพลังอำนาจมากกว่าคนปกติทั่วไป 

ตำแหน่งนัตกะด่อว์ เป็นตำแหน่งของอำนาจและศักดิ์ศรีที่ได้รับการยอมรับในสังคม ทุกปีจะมีการเฉลิมฉลองของกลุ่มนัตกะด่อว์ 

ดังนั้นพื้นที่ของนัตกะด่อว์ จึงกลายเป็นพื้นที่ที่แสดงตัวตนของกลุ่ม LGBTQ ในเมียนมาที่ยิ่งใหญ่และได้รับการยอมรับจากสังคม 

ในปัจจุบันกลุ่ม LGBTQ+ ในเมียนมาถูกเปิดมากขึ้นตามสังคมที่เปลี่ยนไป แต่อย่างไรก็ดีหากมองข้ามกฎหมายที่ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้บังคับใช้เหล่ากลุ่ม LGBTQ+ ก็สามารถอาศัยและทำงานในเมียนมาอย่างปกติสุข

‘BENZ BKK บางนา’ ร่วมฉลอง ‘Pride Month’ จัดโชว์รูมต้อนรับทุกเพศ พร้อมจัดแคมเปญให้ ‘เบนซ์คันโปรด’ เป็น ‘พื้นที่ปลอดภัย’ สำหรับทุกคน

เมื่อไม่นานมานี้ เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป-บางนา Mercedes-Benz Experience Center ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จับมือ สีพ่นรถยนต์ระดับพรีเมียม GLASURIT (สีนกแก้ว) ผู้นำด้านสีพ่นรถยนต์ระบบสีสูตรน้ำสุดยอดเทคโนโลยีสีจากประเทศเยอรมนี ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล ‘Pride Month’ ด้วยสีสันแห่งความหลากหลาย ภายใต้แคมเปญ Pride Month Pride Ride ยกโชว์รูม และรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์คันโปรด ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน พร้อมเนรมิตทางม้าลายสีรุ้ง เชื่อมต่อทุกพื้นที่ @โชว์รูมเบนซ์ บีเคเค บางนา 

นางสาวตวงรัตน์ ลิขิตพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็น Lifestyle Showroom และสร้างให้เกิด Pride vibes จึงตกแต่งโชว์รูมพร้อมเชื่อมความหลากหลายด้วยพื้นที่ปลอดภัยกับ ‘รถเบนซ์คันโปรด’ ทั่วทั้งโชว์รูม โดยเริ่มตั้งแต่ทางม้าลายสายรุ้งด้านหน้า พร้อมด้วยโปรโมชั่น และกิจกรรมพิเศษอัดแน่นตลอดเดือน มิถุนายนนี้ ไม่ว่าจะเป็น

โชว์รูม : ที่โชว์รูมเบนซ์ บีเคเค บางนา เปิดให้บริการทุกวัน มีรถทดลองขับรองรับบริการมากกว่า 15 รุ่น พร้อมผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ ให้คำแนะนำ และตอบคำถามทุกข้อสงสัย และเพียงนัดหมายทดลองขับ รับฟรี! BKK’s Pride Goodie Bag (Limited Edition)

Benz BKK Certified : MID YEAR DEALS ดีลดีที่สุดกลางปี กับรถเบนซ์มือสอง ไมล์น้อยสภาพนางฟ้า พิเศษ!เมื่อจองและทำสัญญาทางการเงินกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ภายในงาน ระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 รับฟรี!บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท และ 21-23 มิ.ย. 3 วันเท่านั้น!! กับงาน Benz BKK Certified Executive Car Day รับทันที! The New iPAD Air M2 มูลค่า 26,100 บาท เมื่อจองรถในกลุ่ม Mercedes-EQS, S-Class และ Marshall Minor4 มูลค่า 4,990 บาท เมื่อจองรถรุ่นอื่นๆในงาน

ศูนย์บริการหลังการขาย : เพียงนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ รับทันที! BKK’s Pride Goodie Bag (Limited Edition), ที่ศูนย์บริการซ่อมสี และตัวถัง เมื่อเปิดใบเคลม มูลค่า 100,000 บาทขึ้นไป รับฟรี! กระเป๋าเดินทางBKK Travel Trunk มูลค่า 7,990 บาท

Workshop : ทุกวันเสาร์ตลอดเดือนมิถุนายน พบกับกิจกรรมเวิร์คชอป Marbling Art Workshop จากร้านดัง @marblinmarblin งานศิลปะบนพื้นผิวน้ำ พิมพ์ลงโมเดล ให้เป็นแรร์ไอเทมตัวเดียวในโลกสำหรับคุณ (สำหรับลูกค้าที่นำรถเข้ารับบริการและมียอดใช้จ่าย 10,000.- บาทขึ้นไป) รวมถึงลูกค้าที่จองรถในงานระหว่างวันที่1-30 มิถุนายน 2567

BKK Café : เมนูพิเศษ ‘BKK Rainbow Cakes’ เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มแก้วโปรด นอกจากนั้น ก็ยังมีการออกแบบปลอกแก้ว (Cup Sleeve) ลายพิเศษ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองอีกด้วย

‘ภูมิธรรม’ เผย ‘Pride Month’ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยัน!! รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ‘สมรสเท่าเทียม’

(15 มิ.ย.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยการนำของท่านนายกรัฐมนตรี ประกาศสนับสนุนทุกความหลากหลาย ได้ผนึกกำลังภาครัฐและภาคเอกชนฉลองเทศกาล Pride Month เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ LGBTQIAN+ ตลอดช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า โอกาสในการขยายธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SME และสร้างมูลค่าเพิ่มทางการค้าโดยการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ด้วย

ซึ่งล่าสุด ได้รับรายงานจากนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ถึงการวิเคราะห์การจัดงาน Pride Month ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวและการค้า และการบรรลุเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) ภายใต้นโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND ของรัฐบาล ที่มุ่งกระจายการท่องเที่ยวสู่ 55 จังหวัด 'เมืองน่าเที่ยว' ที่มีศักยภาพเสริมแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจผ่านการเป็นศูนย์กลางการจัดงาน Event ระดับโลก ซึ่งการจัดงานเทศกาล Pride Month จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรของผู้บริโภคกลุ่ม LGBTQIAN+ (Pride Friendly Destination) ทั้งไทยและต่างชาติที่มีแนวโน้มจำนวนเพิ่มมากขึ้นและเป็นกลุ่มผู้บริโภคกำลังซื้อสูง

ข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด Ipsos ซึ่งทำการสำรวจประชาชน จำนวน 22,514 คน จาก 30 ประเทศในทวีปอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2566 ระบุว่า ร้อยละ 9 ของประชากรโลกที่บรรลุนิติภาวะระบุตนเองว่าเป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และประชากรไทย ร้อยละ 9 ก็ระบุตนเองว่าเป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเช่นกัน อย่างไรก็ดี แม้จำนวนประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศในปัจจุบันอาจมีสัดส่วนไม่มากนัก แต่คาดการณ์ว่าประชากรที่อยู่ใน Gen Z (เกิดหลังปี 2540) มีแนวโน้มระบุตนเองเป็นผู้มีหลากหลายทางเพศมากกว่าประชากรกลุ่ม Millennial, Gen X และ Baby Boomer จึงเห็นได้ว่ากลุ่ม LGBTQIAN+ นี้ถือเป็นตลาดผู้บริโภคสำคัญที่สามารถมีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจของไทยได้ นอกจากนี้ ผลสำรวจของ LGBT Capital บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินยังพบว่า ในปี 2566 กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศทั่วโลกมีกำลังซื้อสูงถึง 4.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในไทยมีกำลังซื้อ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้การจัดงานยังมีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้กับธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจการจัดอีเวนต์ ธุรกิจบริการด้านอาหาร ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ผ่านการจัดกิจกรรมภายในงานเฉลิมฉลอง อาทิ การจัดนิทรรศการแสดงสินค้า แฟชั่นโชว์การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายในงานรวมทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจบริการขนส่ง ที่ให้บริการรองรับผู้เข้าร่วมงานก็ยังได้ประโยชน์ร่วมด้วย และช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น โดยไทยเริ่มจัดงานเฉลิมฉลอง Pride Month เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2542

และปัจจุบันมีการจัดงานอย่างแพร่หลายในจังหวัดต่าง ๆ อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังชุมชนในทุกภูมิภาค สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวและการจำหน่ายสินค้าและบริการให้กับท้องถิ่น โดยในปี 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน Pride Month มากกว่า 860,000 คน สามารถสร้าง เงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท

และเพื่อสนับสนุนให้ไทยมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 และได้ประโยชน์สูงสุดในเชิงเศรษฐกิจ ต้องเดินหน้าส่งเสริมความเท่าเทียมทางสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นถึงการยอมรับและปฏิบัติต่อบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างเสมอภาคและยั่งยืน ผ่านการสร้างระบบนิเวศที่พร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยเฉพาะการพัฒนายกระดับธุรกิจบริการของไทยให้ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความประทับใจและมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งการนำ Soft Power ของไทยมาใช้ดึงดูดและออกแบบการจัดงานของไทยให้โดดเด่น พร้อมกับการจำหน่ายสินค้าและบริการของไทย ตลอดจนส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงและนันทนาการ อาทิ ซีรีส์วายและซีรีส์ยูริของไทยที่ได้รับการยอมรับจากตลาดต่างประเทศ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแสดงถึงความเปิดกว้าง อีกทั้งเป็นกระบอกเสียงในการสร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นการส่งเสริมความเท่าเทียมของผู้มีความหลากหลายทางเพศที่สอดแทรกไปกับการผลักดันสินค้าและบริการชุมชนสู่ตลาดโลก และรัฐบาลเดินหน้า ผลักดัน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมให้สำเร็จด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top