Monday, 9 June 2025
NewsFeed

'ทัปเปอร์แวร์' เตรียมประกาศล้มละลาย หลังเผชิญวิกฤติหนี้กว่า 700 ล้านเหรียญ

(17 ก.ย. 67) ทันโลกกับ Trader KP รายงานว่า Tupperware Brands Corp. ผู้ผลิตกล่องใส่อาหารชั้นนำของโลก กำลังเตรียมยื่นขอคุ้มครองล้มละลาย หลังประสบปัญหาการแข่งขันอย่างหนักและไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการชำระหนี้ได้ Bloomberg รายงานข้อมูลสำคัญดังนี้...

1) #ปัญหาหนี้สิน Tupperware มีหนี้สินมากกว่า $700 ล้าน ซึ่งเป็นภาระที่บริษัทต้องจัดการท่ามกลางความท้าทายจากการแข่งขัน

2) บริษัทได้ติดต่อที่ปรึกษากฎหมายและการเงินแล้ว และอาจยื่นขอคุ้มครองล้มละลายในศาลเร็ว ๆ นี้

3) หุ้นร่วงหนัก -  หุ้นของ Tupperware ร่วงลง 57.5% ในช่วงการซื้อขายปกติ และอีก 16.7% ในช่วงการซื้อขายหลังเวลาทำการ โดยหุ้นตกลงรวม 74.5% ในปีนี้

4) ผลกระทบจากการแข่งขัน - แม้ Tupperware จะเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ภาชนะเก็บอาหารพลาสติก แต่กลับต้องเจอกับการแข่งขันจากแบรนด์อื่น ๆ ที่ผลิตสินค้าคล้ายกันในราคาที่ถูกกว่า

5) ความพยายามปรับโครงสร้าง - ปีที่แล้วบริษัทเปลี่ยนแปลงผู้นำและบอร์ดบริหารเพื่อพยายามฟื้นฟูกิจการ แต่ปัญหาต่าง ๆ ยังคงทับถม รวมถึงการเตือนเรื่องความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องและการยื่นรายงานทางการเงินล่าช้า

Tupperware ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1946 เผชิญกับแรงกดดันที่รุนแรงในการหาทางออกเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ

'อลงกรณ์' พอใจ 'เอฟเคไอไอบิสซิเนส ฟอรั่ม' ประสบความสำเร็จเชื่อมโยงธุรกิจไทย-เกาหลี บรรลุข้อตกลงจับคู่ธุรกิจการลงทุนกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ-สุขภาพ-สิ่งแวดล้อมพร้อมขยายความร่วมมือกับโกลบอลESG

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานเอฟเคไอไอ ไทยแลนด์( FKII Thailand)เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานเปิดงาน FKII Global Business Forum : THAI - KOREA COLLABORATION และบรรยายพิเศษเรื่อง อนาคตความร่วมมือระหว่างประเทศไทย-เกาหลี (Thailand - Korea Collaboration Outlook)ซึ่งจัดร่วมกับสถาบันทิวา โดย นายชยดิฐ หุตานุวัตรและการบรรยายพิเศษเรื่องการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจของเกาหลีในเอเซีย (Korea-Asia Economic Cooperation)โดย อดีตรัฐมนตรี ดร.ลี นัมคี ( Dr. Lee Nam Kee ) ประธานสมาคมโคเอก้า( Korea-Asia Economic Cooperation Association : KOAECA) ณ สวนเสียงไผ่ สถาบันทิวา ทาวน์อินทาวน์

งานดังกล่าว เปิดโอกาสให้ ผู้ประกอบการเกาหลีในนามสมาชิก KOAECA ได้นำเสนอ Profile ของบริษัทและสิ่งที่ต้องการในการเชื่อมโยงธุรกิจกับไทย และแนะนำผู้ประกอบการไทยโดย คุณชนานนท์ นรภูมิพิภัชน์ CEO บริษัท ทิวา แคปิตอลคอนซัลแทนซี่ จำกัด อีกทั้งมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเกาหลีและไทย 4 ฉบับ ได้แก่ 1) N-Biotek กับ TVA Capital Consultancy Ltd. 2) KNJ Engineering & Health กับ EnvitechLtd. 3) Mealbon Inc. กับ Neo Venture Solutions Ltd. และ 4) Global ESG Association กับ TVA Instituteโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมเช่น

ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษาเอฟเคไอไอ. ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันสร้างชาติ รศ.ดร.อาณัฐชัย รัตตกุล รองประธานเอฟเคไอไอ. นายสุปรีย์ ทองเพชร ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอี) ดร.กนก อภิรดี อดีตผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย นายปรพล อดิเรกสาร อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ศจ.ดร.ฐาปนา บุญหล้า ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษเรื่อง โอกาสการลงทุนในประเทศไทย(Investment Opportunity in Thailand)โดย นางสาวฐนิตา ศิริทรัพย์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และได้รับเกียรติจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ได้ส่งคุณคิมมินเฮ (Ms. Kim Minhye) ที่ปรึกษาด้านพาณิชย์ (Commercial Attache) มาร่วมงาน

FKII Thailand (Field for Knowledge Integration and Innovation) เป็นองค์กรความร่วมมือเพื่อส่งเสริมองค์ความรู้และนวัตกรรม ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (Non- Profit Organization) ในรูปของวิสาหกิจเพื่อสังคม 100% โดยมี คุณอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเป็นประธานคณะกรรมการและมี คุณชยดิฐ หุตานุวัชร์ ผู้บริหารสถาบันทิวา เป็นผู้อำนวยการ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการและภาคีภาคส่วนต่าง ๆ ทางด้านการพัฒนาโดยองค์ความรู้ นวัตกรรมและเชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ FKII Thailand มีพันธกิจมุ่งเน้นจะสร้างเศรษฐกิจนวัตกรรม (Innovation Economy)

ติดตาม FKII Thailand
FB: FKIIThailand https://shorturl.at/87OHy
LineOA: FKIIThailand https://lin.ee/BgPCPvd
 
FKII Thailand มุ่งมั่นสร้างสรรค์ ความร่วมมือ ร่วมทุน ร่วมค้า ระหว่างประเทศ

ช็อก!! ตำรวจญี่ปุ่นจับลูกสาวประธานใหญ่ 'ยามาฮ่า' หลังใช้มีดแทงพ่อของเธอ คาด!! เกิดจากปัญหาร้าวฉานภายในที่รุนแรง เดชะบุญประธานใหญ่ไม่ตาย

สื่อญี่ปุ่นรายงานข่าวว่า นาย ฮิดากะ โยชิฮิฮิโระ วัย 61 ปี ประธานบริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ถูกทำร้ายร่างกายโดยบุตรสาวของตัวเองภายในบ้านที่เมือง อิวาตะ ในจังหวัดชิสุโอกะ เมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ (16 กันยายน 2567) ที่ผ่านมา

โดยตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุม ฮิดากะ ฮานา บุตรสาว วัย 33 ปีของนาย โยชิฮิฮิโระ ผู้ก่อเหตุ ที่ใช้มีดทำครัวแทงพ่อของตัวเอง จนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย แต่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหา 'พยายามฆ่า' แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าบุตรสาวของประธาน ยามาฮ่า ยอมรับข้อกล่าวหาหรือไม่

ตำรวจท้องที่ให้ข้อมูลว่า พวกเขาเคยได้รับสายด่วนฉุกเฉินจาก ฮิดากะ ฮานะ ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน โทรมาแจ้งว่า พ่อทุบตีเธอ ทำให้ตำรวจต้องรีบมาตรวจสอบถึงบ้าน แต่ไม่มีอะไร แต่วันต่อมา ฮานะ โทรแจ้งตำรวจอีกครั้งในเรื่องเดิม ก่อนจะก่อเหตุแทงพ่อตัวเองในบ้านตามข่าว

ด้าน ฮิดากะ โยชิฮิฮิโระ ที่ถูกลูกสาวทำร้ายด้วยมีด ให้การว่า ลูกสาวใช้มีดเข้ามาแทงเขาในขณะที่เขากำลังนอนหลับพักผ่อนในช่วงบ่าย จนได้รับบาดเจ็บที่แขน แต่ทั้งนี้ ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงปัญหาครอบครัวหรือ กล่าวว่าลูกสาวของเขามีอาการผิดปกติทางจิตหรือไม่ ทราบเพียงว่า ฮิดากะ ฮานา อยู่ในสถานะ 'ว่างงาน' และอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับบิดา

ส่วนบริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ ไม่ขอแสดงความเห็นใด ๆ เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว และขอให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจสอบสวนคดี

อาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ที่ครอบครัวระดับประธานบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ จะมีปัญหาร้าวฉานภายในที่รุนแรง จนเกือบกลายเป็นโศกนาฏกรรมไปแล้ว 

แต่ทว่า มีหลายครอบครัวที่ภายนอกดูเป็นครอบครัวในอุดมคติ แต่กลับซ่อนเร้นความรุนแรงไว้ภายใน และเมื่อระเบิดออกมาก็สร้างความตื่นตกใจให้กับชาวญี่ปุ่นไม่น้อย 

อาทิ คดีฆ่าหั่นศพในโรงแรมที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด คดีใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อราวเดือนกรกฎาคม 2566 ที่คนร้ายเป็นเพียงหญิงสาว และมีพ่อเป็นถึงแพทย์ประจำโรงพยาบาล ซึ่งเมื่อทราบว่าบุตรสาวของตนก่อคดีหั่นศพ และนำศีรษะเหยื่อกลับมาที่บ้าน พวกเขาทำได้เพียงปกปิดความผิดให้ลูก และช่วยกันซ่อนเร้นอำพรางศพ แต่ก็ถูกตำรวจจับตัวได้ในที่สุด

การสร้างครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งสถานะทางสังคมไม่ได้การันตีคุณภาพความสัมพันธ์ในครอบครัวได้เสมอไป และคงไม่มีครอบครัวไหนอยากให้เกิดเหตุการณ์ที่กลายเป็นอุทาหรณ์สังคม ดังเช่นที่เห็นในข่าว

‘น้องหมูเด้ง’ ดังไกลถึงวงการกีฬา ‘อเมริกันฟุตบอล’ ‘Washington Commanders’ ตัดต่อภาพร่วมฉลองชัยชนะ

(17 ก.ย. 67) นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปฯ แคระซูเปอร์สตาร์สัญชาติไทยจาก ‘สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo’ เพราะตั้งแต่เกิดจนอายุ 2 เดือนนิด ๆ ด้วยความน่ารัก โดดเด้งจนเป็นที่ชื่นชอบ สื่อทั้งในและต่างประเทศก็หยิบไปทำข่าว และกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก

ล่าสุด (17 ก.ย. 67) ‘หมูเด้ง’ ก็ได้ไปรันวงการกีฬาเป็นที่เรียบร้อย หลังทีมอเมริกันฟุตบอลชื่อดังอย่าง ‘Washington Commanders’ ได้ตัดต่อภาพหมูเด้งเข้าไปในภาพขณะที่ทีมกำลังฉลองชัยชนะ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย

ทั้งนี้ Commanders ถือเป็นทีมชื่อดังในลีก NFL ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล

โรงพยาบาลตำรวจ ใส่ใจสุขภาพประชาชน นำทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาวิชาชีพ 10 หน่วยงาน ตรวจสุขภาพฟรี ตามโครงการ ตำรวจรักษ์ประชาชน' ครั้งที่ 2 

(17 ก.ย.67) ณ โดมสนามกีฬาแฟลต 51-53 ชุมชนเคหะนครหลวงสาขาดินแดง2 ซอยประชาสงเคราะห์11 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.พล.ต.ท. ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่(สบ 8)พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา ตรวจเยี่ยมมอบขวัญกำลังใจแก่คณะเเพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ 10 หน่วยงาน ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการตรวจสุขภาพให้แก่ข้าราชการตำรวจ และครอบครัว รวมถึงประชาชนทั่วไป ที่เข้ารับบริการตรวจสุขภาพฟรี อาทิ ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง Echo 2 เครื่อง, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG, ตรวจไขมันพอกตับ, ตรวจคัดกรองกระดูกพรุน, คัดกรองภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องท้อง, กายภาพบำบัด, ฝังเข็ม และเยี่ยมบ้านผู้ป่วย 3 ราย มอบของขวัญให้กำลังใจกับผู้ป่วยและครอบครัว 

พล.ต.ท. ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8)กล่าว ขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล และ ทุกภาคส่วน ที่ให้ความสนับสนุนร่วมแรงร่วมใจ จัดกิจกรรมในครั้งนี้ การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลสุขภาพของประชาชน เป็นภารกิจหลักของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ทั่วทุกพื้นที่

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า โครงการ 'ตำรวจรักษ์ประชาชน' เป็นการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในการสานต่อเรื่องการดูเเลสุขภาพร่างกาย และจิตใจของข้าราชการตำรวจ ครอบครัว และประชาชน โดยมีกลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลตำรวจ เป็นกลุ่มงานหลักในการดำเนินงาน นำอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยตรวจสุขภาพร่างกายฟรี อีกทั้งนำอาหาร เครื่องดื่ม ให้บริการด้วย เพื่อสร้างความสุขให้กับผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน เป็นการสร้างความรักความสามัคคีระหว่างตำรวจกับประชาชน

โรงพยาบาลตำรวจยังให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่งทีมแพทย์พยาบาล ลงพื้นที่ดูแลสุขภาพกายและจิตใจ อีกทั้งมีสายด่วน ให้คำแนะนำปรึกษาสุขภาพจิตให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่เบอร์081-932-0000 และ เบอร์เฉพาะกิจ 081-352-4591 เวลา 8.00-18.00 น.

นอกจากนี้ ยังมีศิลปิน ดารา ที่มีชื่อเสียง อาทิ คุณเอส กันตพงศ์, คุณชมพูและปิง ฟรุ๊ตตี้, คุณจิตติมา เจือใจ, คุณอุมาพร บัวพึ่ง ,คุณสดใส รุ่งโพธิ์ทอง มาขับกล่อมบทเพลงอันไพเราะร่วมกับวงดนตรีจิตอาสา 'PGH BAND' ของโรงพยาบาลตำรวจ 

การออกหน่วยครั้งนี้มีประชาชนร่วมกิจกรรม ประมาณ 600 กว่าราย ทุกคนมีรอยยิ้ม แห่งความสุข พร้อมขอบคุณโรงพยาบาลตำรวจ ที่นำทีมแพทย์พยาบาลมาตรวจสุขภาพให้ในครั้งนี้ และหวังว่าโครงการดีดีแบบนี้จะมีต่อไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ข้าราชการตำรวจ, ครอบครัวข้าราชการตำรวจ และประชาชน ที่มีความประสงค์ที่จะปรึกษา หรือเข้ารับการตรวจรักษา สามารถติดต่อไปยังโรงพยาบาลในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจในพื้นที่ของท่านทั่วประเทศ หรือติดต่อมายังโรงพยาบาลตำรวจ ผ่านช่องทาง facebook Fanpage รวมถึงช่องทางให้คำปรึกษาสุขภาพจิตความรุนแรงในครอบครัว ที่สายด่วน 081-932-0000 และ เพจ Depress We Care , Because We Care ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร และโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ขออนุญาตเผยแพร่ภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีภาพบุคคลในกิจกรรมดังกล่าว

"ศูนย์กลางข่าวสาร ประสานฉับไว ใส่ใจบริการ เพื่อตำรวจและประชาชน”

2 ช่างซ่อมจิตอาสา ขับมอเตอร์ไซค์กว่า 700 กม. มาจากกรุงเทพฯ เพื่อช่วยซ่อมรถจักรยานยนต์ให้ผู้ประสบอุทกภัยที่เชียงราย

(17 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในตัวเมืองเชียงรายเริ่มคลี่คลาย และหน่วยงานกู้ภัยต่างพื้นที่เริ่มถอยตัวออกจาก จ.เชียงราย เพื่อเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจุดอื่น แต่ภายในจังหวัดเชียงรายก็ยังคงมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน จิตอาสา ที่ยังคงทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่

โดยที่บริเวณริมถนนพหลโยธิน ฝั่งขาล่อง ห่างจากห้าแยกพ่อขุนมาประมาณ 200 ม. ได้มีจุดบริการซ่อมแซมรถมอเตอร์ไซค์ให้กับผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งทางมูลนิธิสยามเชียงรายสำนักงานใหญ่และช่างซ่อมรถจิตอาสาได้ร่วมมือกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย 

ด้าน นายอนุสรณ์ อินทวงศ์ จากมูลนิธิสยามเชียงรายสำนักงานใหญ่ เผยว่า มูลนิธิสยามเชียงราย ร่วมกับช่างซ่อมรถจิตอาสาจากหลายที่ มาร่วมกันตั้งจุดบริการซ่อมแซมรถมอเตอร์ไซค์ให้กับผู้ประสบภัย โดยไม่คิดค่าบริการ แต่หากมีอะไหล่ชิ้นไหนเสียหาย เจ้าของรถก็สามารถซื้อมาให้ช่างเปลี่ยนให้ได้ ตั้งมาแล้วประมาณ 3 วัน ก็มีคนเอารถมาซ่อมไม่ต่ำกว่า 100 คันต่อวัน แต่ตอนนี้มีปัญหาใหญ่ เนื่องจากระบบประปาในตัวเมืองยังใช้การไม่ได้ จึงไม่มีน้ำสะอาดที่จะใช้ล้างทำความสะอาดรถ

ทั้งนี้ ในจุดดังกล่าว ได้พบว่า มีช่างซ่อมจิตอาสา ที่พากันขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจากเขตประเวศ กทม. เพื่อมาช่วยซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ให้กับผู้ประสบภัย ด้วย ได้แก่ นายอภิวัฒน์ เรืองโรจน์ อายุ 36 ปี ช่างซ่อมจิตอาสา ที่เล่าว่า ตนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาพร้อมกับน้องชายคือ นายสุวิทย์ ขวัญแก้ว อายุ 31 ปี เดินทางมากว่า 700 กม. เพื่อร่วมซ่อมมอเตอร์ไซค์ให้ผู้ประสบภัย โดยตอนแรกไปซ่อมร่วมกับช่างของยามาฮ่าที่ด้านในตัวเมือง แต่ตอนนี้ก็ย้ายมาทำร่วมกับทางมูลนิธิสยามเชียงราย

นายอภิวัฒน์ เผยต่อว่า ตนเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันที่ กทม. ก็จะทำกิจกรรมแบบนี้อยู่ตลอด เมื่อรู้ว่าที่เชียงรายมีน้ำท่วมก็เลยชวนน้องชายมาด้วยกัน โดยบรรทุกอุปกรณ์ใส่กล่องรัดไว้ด้านหลังมอเตอร์ไซค์ ทีแรกกลัวว่าจะมาไม่ถึง เพราะระยะทางไกล และน้ำหนักอุปกรณ์ที่บรรทุกมาด้วยก็เยอะ แต่พอมาถึงก็ได้ช่วยซ่อมรถไปแล้วกว่า 100 คัน และคาดว่าจะอยู่ช่วยงานจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

'นายกฯ อิรัก' ลั่น!! ไม่ต้องการทหารสหรัฐฯ ในประเทศอีกต่อไป พร้อมระบุ!! อิรักสามารถรับมือกับกลุ่ม ISIS ได้ด้วยตนเอง

(17 ก.ย. 67) บลูมเบิร์ก รายงานว่า โมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี นายกรัฐมนตรีของอิรัก กล่าวว่า กองทัพสหรัฐฯ ไม่จำเป็นในประเทศของเขาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากพวกเขาประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ในการปราบ ISIS และเขาวางแผนที่จะประกาศตารางเวลาการถอนกำลังทหารในเร็ว ๆ นี้

ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีทหารประมาณ 2,500 นายในอิรัก ซึ่งเป็นมรดกจากกองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐฯ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เพื่อต่อสู้กับกลุ่มอิสลามที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ISIS แม้ว่ากลุ่มนี้จะอ่อนแอกว่าเมื่อทศวรรษที่แล้วมากก็ตาม

สำหรับคำกล่าวในครั้งนี้ของนายกฯ อิรัก เป็นการตอกย้ำถึงจุดยืนของประเทศอีกครั้งในด้านความมั่นคง หลังจากเมื่อต้นปี สหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่กองบัญชาการของกองกำลังระดมประชาชน (Popular Mobilization Forces) องค์กรร่ม (Umbrella Organization) ที่รัฐอิรักให้การสนับสนุน และประกอบด้วยกลุ่มก๊กติดอาวุธต่างๆ หลายสิบกลุ่ม จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย ซึ่งในเหตุโจมตีดังกล่าว ในนั้นรวมถึงมุชทาค ทาเลบ อัล-ไซดี ผู้นำกลุ่มฮะรอกัต ฮิซบุลเลาะห์ อัลนุจบา (Harakat Hezbollah al-Nujaba หรือ HHN) ที่วอชิงตันตราหน้าว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน

"กองกำลังระดมประชาชนเป็นตัวแทนในฐานะมีความเกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการกับรัฐ ขึ้นกับกองทัพของเรา และเป็นส่วนสำคัญของกองทัพของเรา" นายกฯ อิรักเน้นย้ำ "เราขอประณามการโจมตีนี้ที่เล็งเป้าหมายเล่นงานกองกำลังด้านความมั่นคงของเรา ซึ่งมีความสำคัญกว่าตัวอักษรและเจตนารมณ์ของคำสั่งจัดตั้งกองกำลังพันธมิตรนานาชาติ"

ขณะที่ เพนตากอน ได้เคยระบุถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่จำเป็นและสมเหตุสมผล ท่ามกลางการโจมตีเล่นงานที่ตั้งทางทหารของอเมริการะลอกแล้วระลอกเล่าในภูมิภาค และแบกแดดเองเป็นฝ่ายเชิญกองกำลังอเมริกา ให้เข้าช่วยสู้รบกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) 

ทั้งนี้ นายอัล-ซูดานี ยังระบุอีกว่า กลุ่มไอเอส ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอิรักอีกต่อไป ขณะการเจรจายุติภารกิจต่อต้านกลุ่มไอเอสของแนวร่วมระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป

'กลุ่ม ปตท.' ระดมแรงกาย-หนุนงบร่วม 10 ล้านบาท ช่วยเหตุอุทกภัยใน 'ภาคเหนือ-อีสาน'

(17 ก.ย. 67) ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัยในภาคเหนือช่วงปลายเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา กลุ่ม ปตท. ได้เร่งส่งถุงยังชีพและความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยในจังหวัดแพร่ น่าน สุโขทัย พะเยา พิษณุโลก และเชียงราย อย่างต่อเนื่อง 

โดยเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ผู้บริหารและพนักงาน กลุ่ม ปตท. ได้ร่วมกันบรรจุถุงยังชีพเพิ่มเติมอีก 2,000 ชุด เพื่อส่งมอบความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ หนองคาย และจังหวัดอื่น ๆ ที่ประสบอุทกภัย ประกอบด้วย ถุงยังชีพ น้ำดื่ม ยารักษาโรค และของใช้จำเป็น อาทิ ผ้าเปียกทำความสะอาดผิว จากสถาบันนวัตกรรม ปตท. เนื่องจากหลายพื้นที่ขาดน้ำสะอาดใช้งาน รวมยอดความช่วยเหลือ ถุงยังชีพ จำนวน 20,000 ถุง น้ำดื่ม 70,000 ขวด ก๊าซหุงต้มเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร และของใช้จำเป็นต่าง ๆ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ยังได้ส่ง PTT Group SEALs ซึ่งได้รวมพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในการกู้ชีพจากบริษัทใน กลุ่ม ปตท. ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) / บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) / บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) / บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) / บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) / บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) / บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) / บริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย จำกัด และ บริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอนเมนทอล เซอร์วิส จำกัด ได้ปฏิบัติภารกิจร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ ทีม SEAL กองทัพเรือ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 

โดยมุ่งเน้นการลงพื้นที่ที่ยากแก่การเข้าถึง ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วย คนชรา เด็ก และร่วมบรรเทาทุกข์ประชาชนตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งขณะนี้ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ จ.เชียงราย จนถึงวันที่ 20 กันยายน 2567 โดยทีมได้นำเรือเข้าไปส่งมอบถุงยังชีพ อพยพประชาชน ซ่อมแซมคันกั้นน้ำในพื้นที่ชุมชน และช่วยทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด เป็นกำลังกายให้กับผู้ประสบภัย เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน และเป็นกำลังใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยเป็นหนึ่งในพันธกิจที่สำคัญของ กลุ่ม ปตท. ในการร่วมส่งมอบความช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ ของประเทศ และบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายสู่ภาวะปกติ

‘รวมไทยสร้างชาติ’ เตรียมชง ‘กม.สุรารวมไทย’ เข้าสภาฯ ปลดล็อก ‘การผลิตสุราสี’ เพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร

(17 ก.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า

จากการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนำโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ  

การประชุมในครั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการพิจารณากฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ 

โดยเฉพาะกฎหมายที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 

กฎหมายฉบับนี้จะเป็นกฎหมายมีสาระสำคัญคือการอนุญาตให้วิสาหกิจชุมชนสามารถผลิตสุราสีได้ จากเดิมที่สามารถผลิตได้เพียงสุราขาวเท่านั้น 

การเพิ่มส่วนของการผลิตสุราสีเช่นนี้ จะทำให้สินค้าทางการเกษตรมีมูลค่าที่สูงยิ่งขึ้น และเชื่อได้ว่าในแต่ละพื้นที่แต่ละชุมชนจะมีการนำผลผลิตในชุมชนมาผลิตเป็นสุราสีประเภทนี้ อาทิ สุราลำไย จาก จ.ลำพูน / สุราสับปะรด จาก จ.ราชบุรี และสุรามะยงชิด จาก จ.นครนายก 

นอกจากนี้การเสนอกฎหมายฉบับนี้จะเป็นการเพิ่มอุปทานในอุตสาหกรรมปลายน้ำให้แก่สินค้าทางการเกษตร สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าทางการเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย 

ท้ายที่สุดกฎหมายฉบับนี้จะเป็นการเพิ่มผู้ผลิตสุราสีในประเทศ เป็นการทำลายทุนผูกขาดในกลุ่มสุรา และพรรครวมไทยสร้างชาติหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการสนับสนุนหลังจากการเสนอร่างกฎหมาย

'เพจเจอร์' ระเบิดทั่ว 'เลบานอน' ดับ 11 เจ็บเกือบ 4,000 ราย ด้านอิสราเอลยังเงียบ ส่วนสหรัฐฯ ออกตัวปัดเอี่ยวทันที

(18 ก.ย. 67) เอเอฟพี รายงานว่า สหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าพวกเขาไม่ทราบล่วงหน้าและไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุเพจเจอร์ที่ใช้งานโดยพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ เกิดระเบิดทั่วเลบานอน พร้อมเรียกร้องอิหร่านอดทนอดกลั้นอย่าคิดตอบโต้

พวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ ประกาศกร้าวว่าจะแก้แค้นอิสราเอล หลังกล่าวหารัฐยิวเป็นคนจุดชนวนเพจเจอร์จำนวนมากครั้งใหญ่ทั่วเลบานอนในวันอังคาร (17 ก.ย.) สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 11 ราย และบาดเจ็บกว่า 4,000 คน ในนั้นรวมถึงพวกนักรบและผู้แทนทูตอิหร่านประจำกรุงเบรุต และในนั้น 400 รายอาการสาหัส

แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "ผมบอกกับคุณได้ว่า อเมริกาไม่เกี่ยวข้อง อเมริกาไม่ทราบเหตุการณ์นี้ล่วงหน้า และ ณ เวลานี้เราอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล"

มิลเลอร์ ปฏิเสธข้อสงสัยในวงกว้างว่าเหตุระเบิดลงมือโดยอิสราเอล ซึ่งยิงปะทะกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์แทบทุกวัน นับตั้งแต่กลุ่มนักรบฮามาส พันธมิตรของฮิซบอลเลาะห์ บุกจู่โจมจากฉนวนกาซาเล่นงานอิสราเอล แบบไม่คาดคิด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีก่อน ซึ่งกระตุ้นให้ อิสราเอลเปิดปฏิบัติการแก้แค้นรุกรานกาซา สังหารผู้คนไปแล้วกว่า 41,000 ราย

เหตุระเบิดมีขึ้นหลายสัปดาห์ หลังจากสหรัฐฯ ดำเนินการด้านการทูตแบบลับ ๆ ในความพยายามสกัดการเอาคืนครั้งใหญ่ของอิหร่านที่เล็งเป้าเล่นงานอิสราเอล แก้แค้นให้ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำการเมืองของฮามาส ที่ถูกลอบสังหารระหว่างอยู่ในกรุงเตหะราน และกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล

มิลเลอร์ กล่าวว่าสารที่สหรัฐฯ ส่งถึงอิหร่านยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง "เราเรียกร้องอิหร่านอย่าใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ใด ๆ ในความพยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพเพิ่มเติม และเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคให้มากไปกว่านี้อีก"

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน อามอส ฮอชสตีน ทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ได้พบปะกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และพวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลคนอื่น ๆ ในขณะที่เขาหาทางสกัดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน

"เราต้องการเห็นการแก้ปัญหาด้วยวิธีการด้านการทูต ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์" มิลเลอร์ระบุ "เราอยากเห็นชาวบ้านอิสราเอลหลายหมื่นคนที่ต้องโยกย้ายถิ่นฐานออกจากบ้าน และชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนที่ต้องพลัดถิ่นออกจากบ้าน สามารถกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนได้"

อย่างไรก็ตาม มิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งถูกสหรัฐฯ มองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย เป้าที่โจมตีได้โดยไม่ผิดกติกา แต่เขาไม่ยืนยันว่าอิสราเอลเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ "สมาชิกก่อการร้ายของเครือข่ายก่อการร้ายเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรมสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่เปิดปฏิบัติการกับพวกเขา"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top