'จตุพร' สวนไอโอหน้าโง่ งัดรูปร่วมโต๊ะ 'เทพเทือก' ปมยัดเยียดใส่ร้ายรับงานถล่ม ‘ทักษิณ’
(31 ม.ค. 66) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน 'ความคับแค้น แปรเปลี่ยนเป็นพลัง' มี อรุโณทัย ศิริบุตร ดำเนินรายการ โดยตอบโต้ขบวนการไอโอปกป้องเพื่อไทย นำรูปถ่ายกับสุเทพ เทือกสุบรรณ มายัดเยียดใส่ร้ายว่า รับงานวิพากษ์วิจารณ์ถล่มทักษิณ ชินวัตร
นายจตุพร ประเมินถึงวิกฤตในอนาคตว่า ว่า จะเกิดขึ้นจาก 2 เรื่องสำคัญคือ กรณีตะวัน-แบม และคำประกาศกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร โดยวิธีพิเศษ ในส่วนการอดอาหารของตะวัน-แบมนั้น เมื่อสถานการณ์เดินมาถึงจุดตรึงเครียดยิ่งขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีส่วนสำคัญในการสร้างปัญหาให้ ม.112 ขยายตัวมากขึ้น จึงต้องเป็นผู้ดึงฟืนออกจากไฟ เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่า พระราชประสงค์ของ ร.10 ไม่ต้องการดำเนินคดีกับใคร ด้วยเหตุนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นคนสร้างความเดือดร้อนให้ ร.10
ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประมุขฝ่ายบริหารกับประมุขฝ่ายตุลาการต้องหารือหาทางออกร่วมกัน เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่คาดคิด จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งเป็นความรู้สึกและอารมณ์ที่ไม่ต้องการอธิบายด้วยเหตุผลจากฝ่ายใด ๆ สถานการณ์แบบนี้ยากที่ใครจะควบคุมอยู่ได้
"ตะวัน-แบม อดอาหารเดิมพันชีวิตอย่างเอาจริง ฝ่ายรัฐจะประเมินด้วยเหตุการณ์อดอาหารแบบเดิม ๆ ไม่ได้ และเรื่องนี้จะอาศัยความสะใจหรืออคติหรือความเป็นการเมืองไม่ได้เลย แต่แก้ไขได้อย่างเดียวคือให้คุณค่าความเป็นมนุษย์ที่จะดึงไฟออกจากฟืนก่อนที่จะเกิดวิกฤตรุนแรง จนลุกลามเป็นไฟลามทุ่งอย่างที่คาดไม่ถึง"
กรณีการประกาศกลับบ้านของทักษิณนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ใครอาจจะคิดว่าไม่มีอะไร เนื่องจากประกาศมาหลายครั้งก็ไม่ได้กลับและไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้ประกาศในช่วงเวลาที่กำลังจะได้เสียทางการเมือง และยิ่งมาประกาศไม่ใช้กฎหมาย ไม่พึ่งเพื่อไทยหรือรอมชอมกับพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น ในทางกฎหมาย คดีที่มีโทษจำคุกเป็นที่สุดแล้ว ทักษิณต้องเข้าเรือนจำอย่างเดียวเท่านั้น
ดังนั้น ใครจะไปดีลโดยไม่สมควรดีล ซึ่งได้เริ่มต้นดีลแล้วยิ่งจะทำให้กลายเป็นชนวนใหญ่ เท่ากับปลุกผี พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาหลอกหลอนสังคมไทย จนกลายเป็นชนวนเผชิญหน้าของฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์และฝ่ายทักษิณ อีกครั้งหนึ่งอย่างไม่จำเป็นเลย
"เมื่อเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง และทักษิณกลับบ้านจะกลายเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก แล้วนำไปสู่การล้มกระดานทั้งปวง ดังนั้นพวกเราจึงตอกย้ำเตือนให้ยึดประเทศไทยต้องมาก่อน เพราะความแตกแยกรุนแรงท่ามกลางการเลือกตั้ง ยิ่งทำให้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากการปกครอง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหารหรือนักการเมืองก็ตาม"
นายจตุพร กล่าวถึงการแตกหักกับทักษิณ และถูกขบวนการไอโอระบาดทำลายมากขึ้นว่า ที่ผ่านมาตนเจอปฏิบัติการไอโอจากทั้งฝ่ายเสมอ ขณะนี้ฝ่ายทักษิณได้แพร่รูปตนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่งร่วมโต๊ะอาหารในงานเลี้ยงแต่งงานลูกของชาดา ไทยเศรษฐ์ นักการเมืองคนสำคัญขณะสังกัดพรรคชาติไทย โดยมีเจตนาทำให้เข้าใจผิดแล้วหวังทำลายตน
ก่อนจะชี้แจงรูปนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับนายสุเทพ นายจตุพร กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างทักษิณกับสุเทพว่า ข้อเท็จจริงแรก สุเทพเป็นเพื่อนทักษิณ ในช่วง 4 ปีแรกที่ทักษิณเป็นนายกฯ แต่สุเทพนั่งเลขา ปชป. เป็นฝ่ายค้าน และไม่เคยอภิปรายทักษิณสักครั้งเดียว สามารถตรวจค้นความจริงกันได้ทั่วไป
สองทักษิณ เคยไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้านสุเทพถึง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และเครือข่ายยังซื้อหุ้นสหกรณ์โคออฟร่วมลงทุนกับสุเทพด้วย นอกจากนี้ลูกน้องมือทำงานคนสำคัญของสุเทพ ปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารระดับรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อีกทั้งถึงการเลือกตั้งปี 2548 สุเทพเริ่มมีปัญหาขัดแย้งกับทักษิณ แล้วนัดเจรจากันที่บ้านพิษณุโลก ตอนนั้นตนอยู่ในทีมโฆษกพรรคได้ แถลงข่าวเสนอให้ทักษิณเลิกคบกับสุเทพ
อีกอย่างในบทบาททางการเมือง ตนกับสุเทพต่างทำหน้าที่อยู่กับคนละฝายกันทั้งในการอภิปรายฟาดฟันในสภา และต่อสู้กันยิบตาบนท้องถนน ไม่มีอะไรลดราวาศอกกันเช่นเดิม กระทั่งได้มาคุยกันตัวต่อตัวในวันเจรจาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดอำนาจปี 2557 ซึ่งเป็นการคุยกันครั้งสุดท้ายและไม่ได้คุยกันอีกเลย
ส่วนกรณีรูปภาพถ่ายกับนายสุเทพนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ชาดา เป็นนักการเมืองใจนักเลง มีมิตรอยู่แทบทุกพรรค ซึ่งตนชอบนักเลงการเมืองมากกว่านักธุรกิจการเมือง เพราะพูดคำไหนคำนั้น ไม่ว่าอยู่ซีกไหน ไม่มีอะไรซับซ้อน จึงได้คบค้าสมาคมกัน แต่นักธุรกิจการเมืองพูดวันนี้ พรุ่งนี้เป็นอีกอย่าง
จากนั้น ชาดา ชวนไปงานแต่งงานลูกในเดือนมกราคม ปี 2559 ตนก็ไปและเจอสุเทพ ก็เดินดิ่งเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะ จึงมีภาพถ่ายปรากฎ สิ่งสำคัญ เมื่อเป็นงานแต่งงานก็ต้องมีมารยาทกันตามประเพณีต้องให้เกียรติเจ้าภาพ จะฟาดฟันกันยับเยินได้อย่างไร อีกอย่างถ้าตนหลบหนีสุเทพไปนั่งโต๊ะอื่น ก็จะถูกอีกฝ่ายด่าอยู่ดี พวกไอโอจะให้ตนไปรบกันในงานแต่งงานหรือ?
นอกจากนี้ ในงานแต่งบางงานของอดีต ส.ส.เพื่อไทย สุเทพก็ไปเช่นกัน เพราะเขามีเพื่อนมากทุกพรรค เมื่อครั้งงานแต่งของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งจัดทั้งที่บ้านเจ้าบ่าวและเจ้าสาว กรณีงานจัดที่บ้านเจ้าสาวนั้น สุเทพเป็นประธานจัดงาน เพราะสนิทกับพ่อเจ้าสาว ช่วงนั้นเสื้อแดงสู้กันเต็มบ้านเมือง ตนจึงไม่ได้ไป แต่เมื่อจัดบ้านณัฐวุฒิ มีจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นประธาน ตนก็ไป เมื่อสุเทพไปงานแต่งงานณัฐวุฒิได้ ก็ไม่เห็นขบวนการไอโอทั้งสองฝ่ายรุมถล่มว่าอะไร
นายจตุพร กล่าวว่า แต่อยู่ดีๆ ตนไปนั่งร่วมโต๊ะกินช้าวกับสุเทพในงานแต่งเมื่อปี 59 ผ่านมา 7 ปีแล้ว ขบวนการไอโอก็เอามาปั่นกระแส โยงถึงการถล่มทักษิณก็ว่ากันไป แต่ตนถล่มทักษิณเพราะมาดูถูกกันเมื่อเร็วๆ นี้เอง จะให้รอจนกว่าเลือกตั้งเสร็จแล้วจะตอบโต้หรืออย่างไรกัน
