Monday, 12 May 2025
NewsFeed

บิ๊กตู่ เร่งผลักดัน โครงการศูนย์ธุรกิจ อีอีซี ตั้งเป้า 1 ใน 10 เมืองน่าอยู่อัจฉริยะของโลกในปี 2580

'บิ๊กตู่' ดัน โครงการศูนย์ธุรกิจ อีอีซี ตั้งเป้า 1 ใน 10 เมืองน่าอยู่อัจฉริยะของโลกในปี 2580 คาดเปิดให้เอกชน 'ลงทุน-พัฒนาพื้นที่' ในปี 67 

(16 ม.ค. 66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญและผลักดันเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อย่างต่อเนื่อง โดยได้เร่งรัดติดตามโครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซี และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะอย่างใกล้ชิด ซึ่งโครงการนี้มีพื้นที่โครงการ 14,619 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี มีการจัดวางโซนพื้นที่พัฒนาเมือง ได้แก่...

- ศูนย์สำนักงานภูมิภาค และศูนย์ราชการอีอีซี 
- ศูนย์กลางการเงิน อีอีซี 
- ศูนย์การแพทย์แม่นยำ และการแพทย์อนาคต 
- ศูนย์การศึกษา วิจัยและพัฒนา นานาชาติ
- ศูนย์ธุรกิจอนาคต ที่พักอาศัยสำหรับคนทุกกลุ่ม รวมถึงการเดินทางภายในพื้นที่ จะมีการวางโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมด้วยการไม่ใช้เครื่องยนต์เป็นหลัก เช่น รถไฟเชื่อมโยง รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้ารางเบาในเขตพื้นที่เมืองชั้นใน รถเมล์ไฟฟ้า และเรือโดยสารภายในพื้นที่โครงการ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 เห็นชอบและรับทราบความคืบหน้าโครงการที่อยู่ในเขต สปก. ตามที่ได้จัดทำแผนแม่บทแล้วเสร็จกำหนดระยะเวลาพัฒนาโครงการ 20 ปี แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่...ระยะแรก 5,700 ไร่ระยะที่สอง 4,000 ไร่ และระยะสุดท้าย 4,919 ไร่ 

ทั้งนี้ สกพอ.และ ส.ป.ก. ได้ดำเนินการจ่ายค่าชดเชยให้เกษตรกรผู้มีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. ในระยะแรกแล้วทั้งสิ้น 2,483 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเตรียมที่ดินในเฟสแรกให้พร้อมได้ใน 5 ปีข้างหน้า โดยภายในไตรมาสแรกของปี 2566 นี้ จะเริ่มดำเนินการสรรหาและคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญในการสร้างเมืองอัจฉริยะระดับโลก ที่มีประสบการณ์พัฒนาสมาร์ตซิตี้ให้สำเร็จทั้งในเกาหลี ซาอุดีอาระเบีย และญี่ปุ่น เพื่อออกแบบผังและจัดโซนของโครงการ รวมทั้งวิเคราะห์ธุรกิจที่เหมาะสมที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่

'ซูเปอร์โพล' เผยผลสำรวจ 'ผู้แทนราษฎรกับความหวังใหม่' ชี้!! ประชาชนยังมีหวัง ผู้แทนฯ ใหม่ทำหน้าที่ที่ดีในสภาฯ

เมื่อวานนี้ (15 ม.ค. 66) ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง ผู้แทนราษฎร กับ ความหวังใหม่ กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่าง 1,137 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12 - 13 มกราคม 2566

เมื่อถามถึง ความเข้าใจของประชาชนต่อ หน้าที่ของ ผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พบว่า ร้อยละ 51.0 ระบุผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. มีหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ร้อยละ 44.9 ระบุ เห็นชอบกฎหมาย

ร้อยละ 32.7 ระบุ พิจารณากฎหมาย

ร้อยละ 30.3 ระบุ พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี

ร้อยละ 28.7 ระบุ เสนอกฎหมาย

ร้อยละ 23.7 ระบุ ช่วยเหลือ งานศพ งานบวช พบปะประชาชน ในงานต่าง ๆ

ร้อยละ 21.6 ระบุ ตั้งคณะกรรมาธิการชุดต่าง ๆ

ร้อยละ 14.8 ระบุ เห็นชอบ แต่งตั้งบุคคลนายกรัฐมนตรี

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่าที่น่าพิจารณาคือประชาชนเข้าใจว่า หน้าที่ของผู้แทนราษฎรคือช่วยเหลืองานศพ งานบวช พบปะประชาชนในงานต่าง ๆ มีสัดส่วนมากกว่าหน้าที่ในการเห็นชอบตั้งบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประเด็นที่ควรมีการพิจารณาเสริมสร้างความเข้าใจของประชาชนให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น

ส่วนในประเด็นต้นตอความเสื่อมศรัทธาของประชาชน ต่อสภาผู้แทนราษฎร 

ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.8 ระบุ ความเสื่อมของ ส.ส. หรือผู้แทนราษฎร คือ สภาล่มซ้ำซาก แจกกล้วย พฤติกรรมไม่เหมาะสม ดูหนังโป๊ในสภา เสียบบัตรแทนกัน

ร้อยละ 91.9 ระบุ รัฐสภาไม่เป็นต้นแบบของความรักความสามัคคีของคนในชาติ แบ่งขั้ว แบ่งข้างมุ่งแต่หาผลประโยชน์

ร้อยละ 91.0 ระบุ ผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ต้นตอทุจริต แสวงหาผลประโยชน์ จากการประมูลโครงการต่าง ๆ

ร้อยละ 90.5 ระบุ ความเป็น ส.ส. หรือ ผู้แทนราษฎร เป็น สมบัติประจำตระกูลสืบทอดต่อ ๆ กันได้

ผู้แทนราษฎรที่ประชาชนคาดหวังทำหน้าที่ ส.ส.ที่ดีในสภาผู้แทนราษฎร พบว่า

ร้อยละ 54.9 ระบุ นาย เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล, นาย ธนกร วังบุญคงชนะ, นางวลัยพร รัตนเศรษฐ จากพรรคพลังประชารัฐ

ร้อยละ 54.0 ระบุ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์, นายอิสรพงษ์ มากอำไพ, น.ต.สุธรรม ระหงษ์ จากพรรคประชาธิปัตย์

ตำราบนแผ่นฟิล์ม 'To Sir, with Love แด่คุณครู, ด้วยดวงใจ' แก่น ‘คุรุ’ ช่วย 'ว่าที่ครู' ถ่องแท้ก่อนสอนสั่งลูกศิษย์

สำหรับการอธิบายความเป็น 'ครู' แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง 'แด่คุณครู, ด้วยดวงใจ' (To Sir, with Love) นั้นเหมาะสมอย่างยิ่ง พอเหมาะและสมควร ครบถ้วนด้วยเนื้อหา อารมณ์ ศิลปะการถ่ายทอด อย่างปราศจากกาลเวลาข้องเกี่ยว - อกาลิโก

To Sir, with Love ถูกสร้างและออกฉายตั้งแต่ ค.ศ. 1967 โดยเล่าย้อนถึงช่วงกลางทศวรรษ 1960 เมื่อ 'มาร์ค แธกเกอร์เรย์' (Mark Thackeray) ชายอพยพจากอาณานิคมบริติชเกียนา ไปแสวงหาโชคบนแผ่นดินอังกฤษ ด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าติดตัวเพียงใบเดียว พร้อมปริญญาบัตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต โดยต้องเดินเตะฝุ่นหางานนานถึงปีครึ่ง จนสุดท้ายเขาต้องหันรับงานสอนในโรงเรียนมัธยมเทศบาล 'นอร์ทคีย์' (North Quay) ชั่วคราว เพื่อรับรายได้ประทังชีพ

บท ‘มาร์ค แธกเกอร์เรย์’ แสดงโดย ‘ซิดนีย์ พอยติเยร์’ (Sidney Poitier)

เนื้อหาภาพยนตร์ชี้ว่ายุคสมัยนั้น “ช่างตกต่ำ มีความเหลื่อมล้ำสูง ทั้งแง่มุมเศรษฐกิจ และชาติพันธุ์”

ครูแธกเกอร์เรย์ต้องผจญกับความไร้ระเบียบจากเหล่าบรรดาอสูรวัยรุ่นที่พ่อแม่ฝากความหวัง (หรือเพียงดันหลังเข้าโรงเรียน) ด้วยคิดว่าลูกตนคงจะห่างไกลสิ่งแวดล้อมมลพิษรอบถิ่นที่อยู่ แต่ด้วยข้อจำกัดทางงบประมาณของสถานศึกษา กับอนาคตซึ่งตัวเด็กเองยังมองไม่เห็น พล็อตเรื่องเช่นนี้ ภาพยนตร์ ‘แด่คุณครู, ด้วยดวงใจ’ ถึงขึ้นหิ้งดราม่าฐานะตำนาน (7.6 IMDB) ตลอดกาล

สิ่งน่าชื่นชมที่สุด คือ การแสดงของ ‘Sidney Poitier’ ดาราผิวสีคนแรกที่พิชิตรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจาก 'อะคาเดมี่ อวอร์ดส' (ออสการ์) ผู้ถูกนิยามว่าเป็น ‘กาวใจ’ ระหว่างรอยต่ออันอึดอัดขัดแย้งระหว่างนักแสดง ‘ผิวสี’ และนายทุน ‘ผิวขาว’ ณ ยุคเตาะแตะ ซึ่งเต็มไปด้วยปัญหาของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด

คือ 'พอยติเยร์' ที่ 'หลุยส์ กอสเส็ตต์ จูเนียร์' บิดาของเหล่าเจ้าพ่อย่านเซาท์ไซต์ (อีกที) นักแสดงรุ่นเก๋า กับ 'แดนเซล วอชิงตัน' ดาราทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของวงการ ยกย่องเขาราวเทวรูปบูชา ด้วยประโยค "ข้าพเจ้าจักเดินตามท่านทุกฝีก้าวขอรับ - I'll Follow Your Footstep, Sir." เดียวกัน

พี่ น้อง ลูกหลาน ต่างเคารพเขาเสมือน 'ครู'

ฉากน่าประทับใจจากหนัง (ภาค 1 หรือ 2 ไม่แน่ใจ - ผู้เขียน) คือตอนที่ครูมาร์คพานักเรียนวัยห้าวออกเผชิญโลกภายนอก (คล้ายๆ การเรียนรู้นอกห้อง หรือเชยๆ ก็ทัศนศึกษา) ละแวกโรงเรียนหลังทัวร์พิพิธภัณฑ์ ท่านเรียกประชุมกลุ่มตรงริมฟุตปาธ แล้วให้โจทย์นักเรียนหนุ่มผิวขาวหัวโจกของห้องเดินไปทักหญิงสูงวัยถือร่มรีรอข้ามถนน

‘แจ็คสัน’ บอกรัก ‘ประเทศจีน’ ในคอนเสิร์ตที่ลอนดอน พร้อมตำหนิ ‘สื่อมวลชน’ ที่ใส่ร้ายป้ายสีประเทศจีน

‘แจ็คสัน หวัง’ สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมคอนเสิร์ตในกรุงลอนดอนทุกคน ด้วยการแสดงแบบทุ่มเทสุด ๆ เหมือนเดิม แต่ในช่วงหนึ่งของการแสดง สมาชิกวง GOT7 อาจสร้างความอึดอัดให้กับผู้ชมบางคน ด้วยการพูดประเด็นทางการเมือง ทั้งการประกาศว่าเขา ‘รักประเทศจีน’ และตำหนิสื่อที่พยายาม ‘เล่นเกมโฆษณาชวนเชื่อ ในการสาดโคลนใส่ประเทศจีน’

นอกจากสร้างความประทับใจให้แฟน ๆ ด้วยการแสดงแล้ว แจ็คสัน หวัง ยังคงแสดงออกถึงความเป็น ‘คนจีน’ อย่างเต็มที่เหมือนเดิม

โดยในคอนเสิร์ตกลางกรุงลอนดอนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้ออกโรงตำหนิสื่อต่างประเทศที่ป้ายสีประเทศจีน โดย แจ็คสัน หวัง ที่เกิดในฮ่องกงได้แนะนำตัวเองกับแฟนๆ ในลอนดอนว่า “นี่คือแจ็คสัน หวัง จากประเทศจีน” และโค้งคำนับ 90 องศา

แจ็คสัน ยังด่าทอสื่อตะวันตกว่า "ฟังนะ! ฟัง! มีสื่อมากมายที่พูดแย่ ๆ ...พยายามโฆษณาชวนเชื่อ แต่ที่พวกนั้นพูดถึงไม่ใช่ประเทศจีนที่แท้จริง”

‘ก้าวไกล’ ชูนโยบาย “ลดงานครู คืนครูให้นักเรียน” พร้อมเดินหน้าแก้หนี้ครู - เพิ่มค่าตอบแทนครูบรรจุใหม่

‘ก้าวไกล’ ประกาศนโยบาย “ลดงานครู คืนครูให้นักเรียน” ยกเลิกครูนอนเวร ลดงานธุรการเอกสาร เพิ่มค่าตอบแทนครูบรรจุใหม่ ชวนเปลี่ยนวิธีปฏิรูปการศึกษา เลิกคิดจากหอคอยงาช้าง มาแก้ปัญหาที่ครู-นักเรียนเจอในชีวิตประจำวัน

(16 ม.ค. 66) พรรคก้าวไกล โดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยนโยบายของพรรคก้าวไกล ได้ประกาศนโยบายเนื่องในโอกาสวันครูแห่งชาติ “ลดงานครู คืนครูให้นักเรียน” เพื่อแก้ปัญหาภาระงานเอกสารและงานอื่น ๆ ที่ดึงครูออกจากห้องเรียน

พิธา กล่าวว่า มีงานวิจัยของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ได้ทำการศึกษาเอาไว้ว่าใน 1 ปี มีวันเปิดเรียน 200 วัน แต่ครูต้องใช้เวลา 84 วัน หรือ 42% ไปกับงานนอกห้องเรียน ปัญหาเรื่อง งานที่ดึงครูออกจากห้องเรียนถูกพูดถึงกันมานาน คำถามคือทำไมเรื่องนี้ถึงยังแก้ปัญหาไม่ได้ ก้าวไกลจึงได้ตั้งโจทย์การทำนโยบายใหม่ ด้วยการที่ทีมนโยบายเราลงไปเก็บข้อมูลจากครูที่อยู่ล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร คือครูผู้ช่วยบรรจุใหม่ ที่เงินเดือนน้อยที่สุด แต่ต้องรับภาระงานแทบจะมากที่สุดในโรงเรียน

ปัญหาที่คุณครูเล่าให้เราฟัง หลายเรื่องนักปฏิรูป หรือผู้บริหารจากส่วนกลาง/ส่วนภูมิภาคอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก อย่างการจัดผ้า จับจีบ สร้างพิธีกรรมต้อนรับผู้บริหารกระทรวง หรือการเข้าเวรอยู่โรงเรียนในยามวิกาล แต่สำหรับครูระดับล่างสุดที่เป็นผู้ปฏิบัติงานที่ต้องรับผิดชอบห้องเรียน สิ่งเหล่านี้กินพลังงานและชั่วโมงการทำงานมหาศาล จนส่งผลกระทบกับการจัดการเรียนการสอน

“นี่จึงเป็นที่มาของการทำข้อเสนอ 10 ข้อ ที่ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราสามารถแก้ได้ทันที คือ 1) ยกเลิกให้ครูเข้าเวร ทันที! 2) ยกเลิกพิธีการ จัดจีบ จัดผ้า จัดโต๊ะ ตั้งบอร์ด ในการประเมินผล ทันที! 3) ห้าม ผอ. ใช้ครูทำผลงาน ให้ครูประเมินผล ผอ. 360 องศา 4) ลดงานธุรการครู เพิ่มงานบริหารให้ผู้บริหาร 5) ระบบกรอกต่าง ๆ ต้องไม่ล่ม จบในระบบเดียว 6) ยกเลิกการเขียนรายงานเมื่อไปอบรมหรือปฏิบัติราชการ 7) เลิกการส่งครูไปอบรม! เปลี่ยนเป็นให้เงิน เพื่อให้ครูเลือกไปเรียนรู้แทน  8) ห้าม! สพฐ. จัดอบรมในวันที่มีการเรียนการสอน 9) ระบบรับเรื่องร้องเรียนตรงถึงรัฐมนตรี 10) เพิ่มค่าตอบแทนครูบรรจุใหม่ให้มากกว่า 20,000+ บาท/เดือน"

DSI จับตัว ‘ดาริล ยัง’ ผู้ต้องหาคดี Forex-3D

(16 ม.ค. 66) ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธ์ (อาคารเอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้จับกุมตัวนายดาริล ยัง ผู้ต้องหาคดี Forex-3D ได้แล้วที่จังหวัดภูเก็ต แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่า จับกุมได้ที่ใดของจังหวัดภูเก็ต หรืออยู่ระหว่างการหลบหนีหรือไม่  

ทั้งนี้จะคุมตัวนายดาริล มาสอบสวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษภายในเย็นวันนี้ โดยจะมีการสอบปากคำ พิมพ์ลายนิ้วมือ และแจ้งข้อหา หากนายดาริล มีพฤติการณ์หลบหนีก็จะคัดค้านการประกันตัว และนำตัวไปฝากขังที่ศาล 

‘แอนนา’ เปิดใจหลังชวดมง ‘Miss Universe 2022’ ชี้ ‘เสียใจแต่ไม่เสียดาย’ ถือเป็นประสบการณ์ยิ่งใหญ่ในชีวิต

‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ ยอมรับเสียใจ แต่ไม่เสียดาย หลังชวดมงกุฎ ‘Miss Universe 2022’ 

ต้องบอกว่าแฟนนางงามส่งกำลังใจเธอย่างล้นหลาม สำหรับ ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ หลังจากหลุดเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย บนเวที การประกวด Miss Universe 2022 เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา แต่เธอก็คว้า รางวัล The Impact Wave Award มาได้ในครั้งนี้ 

ล่าสุด ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ ได้โพสต์ข้อความขอบคุณแฟนนางงามและทุกคน บอกว่า ‘แอนนาเสียใจ แต่ไม่เสียดายเลย’

“สวัสดีค่ะทุกคน ผ่านไปแล้วนะคะสำหรับการประกวด Miss Universe สำหรับผลที่ออกมา มีเสียใจบ้างเป็นปกติของมนุษย์ แล้วก็เห็นหลายคนที่รักเราเสียใจเหมือนกัน

‘ชาวต่างชาติ’ ประทับใจ!! คนไทยเคารพกันและกัน พร้อมบอก ‘เมืองไทยปลอดภัย ไม่กังวลเรื่องของหาย’

หากบอกว่า ‘ชาวต่างชาติชอบประเทศไทย’ ก็คงต้องบอกว่าคนไทยรับรู้และภาคภูมิใจมาก ๆ กันอยู่แล้ว เพราะแต่ไหนแต่ไรก็มีข่าว คลิป หรือข้อความจากต่างชาติที่ชื่นชมประเทศไทยหลุดออกมาให้เราได้ชื่นใจกันบ่อย ๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่า สิ่งที่ทำให้ต่างชาติชอบประเทศไทย ไม่ได้มีแค่ อาหารอร่อย แหล่งท่องเที่ยวสายงามเท่านั้น อีกอย่างที่คนไทยมัดใจชาวต่างชาติได้ก็คือ ‘นิสัย’ ที่ไม่เหมือนชนชาติอื่น บางอย่างเรามองว่าเป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่บ่อย ๆ แต่ชาวต่างชาติไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เพราะเขากลับรู้สึกว่า ‘มหัศจรรย์’ 

สำหรับเรื่องนิสัยคนไทยที่ชาวต่างชาติประทับใจ เพจเฟซบุ๊กสอนภาษาอังกฤษชื่อ ‘English Munmun - เรียนชาตินี้ เก่งถึงชาติหน้า’ ก็ได้แชร์คลิปสัมภาษณ์ความรู้สึกของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยถามถึงนิสัยของคนไทยที่เคยพบเจอ โดยเจ้าของเพจตั้งคำถามแรกว่า “คนไทยในประสบการณ์ของคุณเป็นอย่างไร?”

โดยชาวต่างชาติก็ตอบว่า “ผมมีประสบการณ์ที่ดีมากหลายอย่างในประเทศไทย อย่างแรกเลยผมเห็นคนไทยให้ความเคารพกันอย่างมาก ทุกคนจิตใจดีมาก ๆ ผมไม่เคยโดนขโมยของในไทยเลย ต่อให้ผมวางคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ที่โต๊ะนี้แล้วไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ไม่กังวล” 

ชาวต่างชาติเล่าเพิ่มอีกว่า “ผมเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับที่อเมริกาใต้ว่าคนวางคอมพิวเตอร์ทิ้งเอาไว้ในร้านกาแฟ จากนั้นก็โดนขโมยไป”

จากนั้นชาวต่างชาติก็พูดต่อด้วยท่าทางมีความสุขอีกว่า “แต่ผมรู้สึกดีใจที่ได้อยู่ในที่ ๆ ผู้คนให้ความเคารพกัน ผู้คนมีความนอบน้อมให้กันและกัน คนตะวันตกจำนวนมากที่ไม่เคยไปต่างประเทศ จะรู้สึกกลัวที่จะไปเมืองนอก พวกเขาจะคิดว่าอาจจะมีคนอันตราย เช่นขโมยของ ๆ เรา แต่ในประเทศไทย เรื่องแบบนั้นไม่เคยเกินขึ้นกับผมเลย”

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงข้อกังวลกรณีชาวจีนถือวีซ่านักท่องเที่ยวทำธุรกิจในไทย ยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น

(16 ม.ค. 66) เวลา 9.30 น.พลตำรวจตรี  อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงข้อกังวลกรณีชาวจีนถือวีซ่านักท่องเที่ยวทำธุรกิจในไทย ว่า จากกรณีที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวว่า ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารย่านเยาวราชมีข้อกังวลประเด็นชาวจีนถือวีซ่านักท่องเที่ยวทำธุรกิจในไทย โดยระบุว่า กลุ่มชาวจีนรุ่นใหม่ที่มาลงทุนโดยใช้นอมินี หรือมีเพียงวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาประกอบธุรกิจหลากหลายประเภทในย่านเยาวราช เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าขาย ฯลฯ ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ เม็ดเงินต่างๆ จะกระจายสู่ท้องถิ่นน้อยลง และผู้ประกอบการไทยจะประสบปัญหาในระยะยาว ขณะที่รูปแบบการใช้จ่ายจะใช้จ่ายผ่านระบบของจีนระหว่างคนจีนกับคนจีนด้วยกัน รวมถึงสามารถเปิดบัญชีได้ แต่ไม่ทราบว่าปลายทางของเงินจะกลับไปอยู่ที่ประเทศต้นทางของเขาหรือไม่ แต่ที่เห็นชัดคือ ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกับนักธุรกิจชาวไทยนั้น 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่มีโทษทางอาญา และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะหน่วยงานตรวจสอบและบังคับใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พุทธศักราช 2522 สรุปดังนี้

1) คนต่างด้าวถือหนังสือเดินทางสัญชาติจีน สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยสามารถขอรับการตรวจลงตราที่ท่าอากาศยาน VOA Visa on arrival ประเภทการท่องเที่ยว 15 วัน ซึ่งปัจจุบันมีมติคณะรัฐมนตรี และประกาศกระทรวงมหาดไทย ขยายให้อยู่เป็นจำนวน 30 วัน และเจ้าของพักอาศัยหรือผู้ครอบครองจะต้องแจ้งที่พักอาศัยให้เจ้าหน้าที่ทราบ เมื่อรับคนต่างด้าวเข้าพักในประเทศไทย

‘บิ๊กป้อม’ ยิ้มแป้น ลงพื้นที่ตรวจราชการลำปาง หลัง ‘ธรรมนัส’ ยกขบวนผู้สมัคร ส.ส. ต้อนรับ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ (16 ม.ค. 66)ที่ท่าอากาศยานลำปาง  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางถึงจ.ลำปาง เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และมีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมน.ส.ธนพร ศรีวิลาศ สวมชุดพื้นเมือง นำว่าที่ผู้สมัคร สส.พปชร.จ.ลำปาง พรรคพปชร.นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง เขต1 นายจินดา วงศ์สวัสดิ์ เขต2นายดาชัย เอกปฐพี 3 และนายสมเกียรติ ตันตระกูล เขต 4 รอต้อนรับ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ บางส่วน นำมาลัยดาวเรืองมามอบต้อนรับ โดยพล.อ.ประวิตร มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี โดยการลงพื้นที่มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพปชร. รวมถึงนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ทีมโฆษกพรรคพปชร.ร่วมคณะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top