Sunday, 18 May 2025
NewsFeed

ผบ.ตร.ลุยเอง!! เร่งขยายผล คดีผับจินหลิง มั่นใจ ทุกฝ่ายทำงานไร้ปัญหา เข้าขากันดี

(13 ธ.ค 65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม กรณีผับจินหลิง ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ รปภ.ว่าจะมีความเห็นต่างระหว่าง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. หรือไม่

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ได้มีความเห็นแตกต่าง ต้องเข้าใจว่าทุกคนปรารถนาดี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ปรารถนาดี ทางคณะทำงานที่มี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้ากำกับดูแลและรายงานผม ส่วนสาเหตุที่แจ้งข้อหาหัวหน้า รปภ. เปิดสถานบริการ เป็นเจ้าของกิจการ จริง ๆ แล้วในวันนั้น ที่ ผบช.น.เข้าไปตอนแรก ส่วนใหญ่จะพบคนจีนแต่มีหัวหน้า รปภ.มาแสดงตนว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่นี้ จึงต้องมีการแจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน ต่อมามีการประกันตัวในชั้นศาล

ภายหลังจากการสอบสวนและมีพยานหลักฐาน พบว่าไม่ใช่ผู้ดูแลที่แท้จริง เมื่อสอบลึกไปก็ทราบว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริง ซึ่งจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ไม่ได้มีเจตนาที่จะจับแพะ เพียงแต่เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงแต่ละขณะไม่เหมือนกัน ต้องมองภาพก่อนว่าคดีจินหลิงเกิดเหตุในพื้นที่นครบาล ทางพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น ได้เข้าไปด้วยตัวเอง ผมได้ยกระดับให้ท่านเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ส่วนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มทุนจีนสีเทาที่มีการไปตรวจค้นนอกพื้นที่นครบาล หรือในพื้นที่นครบาล ส่วนหนึ่งจะมีทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ไปช่วยขยายผลกับทาง สอท. ส่วนภาพรวมในการสืบสวนในที่ต่าง ๆ มีทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ควบคุม นำจิ๊กซอว์มารวมกัน ส่วนไหนที่เป็นคดีเกี่ยวเนื่องกับคดีจินหลิงก็จะเป็นทาง ผบช.น. หากเกี่ยวเนื่องกับคดีอื่นต่าง ๆ อาจจะมีการเพิ่มเติมในคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนต่อไป

'รมว.เฮ้ง' ห่วงผู้ประกอบการภูเก็ตขาดแคลนแรงงาน สั่งกรมการจัดหางานเร่งช่วยเหลือ หลังท่องเที่ยวฟื้น

กระทรวงแรงงาน จัดแรงงานหนุนภูเก็ต เตรียมการ 3 ด้าน สนับสนุนการทำงานแบบพาร์ทไทม์ในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา จัดนัดพบแรงงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมประสานการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเป็นระบบ ย้ำเดินตามนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล คาดการณ์แล้วปลายปีท่องเที่ยวบูมแน่  

(13 ธ.ค. 65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวภูเก็ตขาดแคลนแรงงานหนักหลังธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดว่า เรื่องนี้เป็นผลพวงจากการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งล่าสุดประสบความสำเร็จอย่างมาก และได้มีการเฉลิมฉลองที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยครบ 10 ล้านคน ตามเป้าหมายส่งเสริมตลาดต่างประเทศของปี 2565 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งการที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยในช่วงเดือนธันวาคม 2565 และช่วงปีใหม่เป็นจำนวนมากนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้แล้ว 

อย่างไรก็ตามการขาดแคลนแรงงานในจังหวัดภูเก็ตกว่า 17,000 อัตรานั้น ทางกรมการจัดหางาน ได้สำรวจความต้องการจากหอการค้าจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับข้อมูลจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต พบว่ามีความต้องการแรงงานในสถานประกอบการธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จำนวน 405 แห่ง และมีตำแหน่งงานว่าง (กิจการโรงแรมและการท่องเที่ยว) ทั้งสิ้น 8,772 อัตรา ซึ่งที่ผ่านมากรมการจัดหางาน ได้เตรียมการรับมือสถานการณ์ขาดแคลนแรงงานแล้ว

‘บุญรื่น-จุฑาพัตธน์’ ประสานเสียงไม่ซบ ภท. ลั่น!! ไม่มีวันทรยศพรรค - หักหลังประชาชน

'บุญรื่น - จุฑาพัตธน์' ประสานเสียงไม่ย้ายไป ภท. ลั่นไม่คิดทรยศพท. หักหลัง ปชช. ย้ำเกิดที่เพื่อไทย ขอตายทางการเมืองที่เพื่อไทยเท่านั้น

(13 ธ.ค. 65) เมื่อเวลา 11.15 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นางบุญรื่น ศรีธเรส ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พร้อมด้วยนางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทยร่วมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีท็อปนิวส์ นำเสนอข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงกรณีเตรียมย้ายพรรคเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา 

นางบุญรื่น กล่าวว่า ท็อปนิวส์นำเสนอข่าวว่าตนจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย สร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ของตนอย่างมาก ขอยืนยันว่าไม่มีความคิดที่ย้ายไปพรรคการเมืองอื่น ตนเป็น ส.ส.ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทยรวม 23 ปี ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันไม่เคยสอบตก เป็น ส.ส.รวม 5 สมัย หากรวมการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ 2 ครั้ง รวมแล้วตนชนะการเลือกตั้ง 7 ครั้ง ในความรู้สึกนึกคิดไม่เคยคิดว่าจะไปอยู่พรรคอื่น เพราะพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ดี ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของประชาชนถูกยกระดับดีขึ้น เพราะประชาชนคือหัวใจหลักของพรรคเพื่อไทยทั้งนี้ ตนจะไม่ฟ้องร้อง เนื่องจากมองว่าเป็นปกติของการเมืองที่มีการโจมตีกัน ตนเพียงขอชี้แจงให้กับพี่น้องในพื้นที่ได้รับทราบข้อเท็จจริงเท่านั้น

‘บิ๊กป้อม’ ชื่นชมสินค้า OTOP ไทย ‘สวย-ทันสมัย’ พร้อมหนุนด้านการตลาดไทย-เทศ เพิ่มรายได้ชุมชน

‘บิ๊กป้อม’ ร่วมประชาสัมพันธ์งาน OTOP City 2022 และเทศกาลไหมไทย 2565 ชื่นชม OTOP ไทย ทันสมัย สวยงาม ย้ำรัฐบาลส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ หวังเพิ่มรายได้ให้ผู้ผลิต กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก 

(13 ธ.ค. 65) เวลา 09.10 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียยรัฐบาล ก่อนประชุม ครม. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การจัดงาน OTOP City 2022 และการจัดงานเทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมด้วย

พล.อ.ประวิตร เยี่ยมชมการจัดแสดงผ้าไทยลวดลายต่าง ๆ เช่น ผ้าจกราชบุรี ผ้าแพรวา ผ้าขิด และกระเช้าของขวัญปีใหม่ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรม งานฝีมือ อาหาร และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พร้อมชื่นชมผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและสินค้า OTOP อื่น ๆ ที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง ออกแบบลวดลายได้ทันสมัย สวยงาม สามารถประยุกต์ใช้ได้ทุกโอกาส ทุกกิจกรรม และใช้ได้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งมอบเป็นของที่ระลึกในโอกาสต่าง ๆ และเป็นของขวัญปีใหม่ที่ทรงคุณค่า ขอทุกฝ่ายร่วมรักษาและต่อยอดการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทย ช่วยกันพัฒนาเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว โดยรัฐบาลพร้อมส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเพื่อเพิ่มรายได้ให้ประชาชนในชุมชน รวมทั้งผู้ผลิตและผู้ประกอบการด้วย

‘สมคิด’ ชี้!! สภาล่มซ้ำซากส่งผลเสียหลายด้าน แนะ ‘บิ๊กตู่’ ยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชน

(13 ธ.ค. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า อยากให้ประชาชนจับตาดูการประชุมสภาว่าเดินหน้าได้หรือไม่ ดังที่เคยบอกไว้แล้วว่าประมาณเดือนธ.ค.-ม.ค.66 เป็นต้นไปองค์ประชุมจะล่มบ่อย การทำงานในสภาจะไม่ราบรื่น 

ดังนั้นหากมีกฎหมายของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณา หากไม่ผ่านรัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่าในวันที่ 16 ธ.ค. จะมี ส.ส.จำนวนมากลาออกจากตำแหน่ง ทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ดังนั้นจำนวน ส.ส.ก็จะหายไป ที่ผ่านมา ส.ส.พรรคฝ่ายค้านที่จะไปอยู่กับพรรคภท. แสดงตนเป็นองค์ประชุมให้โดยตลอด ถ้าเกิดการลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.จะส่งผลให้จำนวน ส.ส.ในสภาลดลงไปมาก หวั่นกระทบกับภาพรวมของการประชุมสภาอย่างแน่นอน ที่เป็นเช่นนี้เพราะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหลายท่านไม่ใส่ใจในการประชุมสภา ยิ่งมีการลาออกจาก ส.ส.ก็จะส่งผลกระทบกับการประชุมสภามากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลต้องไตร่ตรองให้ดีว่าจะขับเคลื่อนสภาไปได้อย่างไร หากไม่รับผิดชอบจะกลายเป็นปัญหาในการทำงานของสภา

‘บิ๊กป้อม’ หยอดหวาน ‘บิ๊กตู่’ อยู่ที่ไหนก็รักเหมือนเดิม

(13 ธ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวส.ส.พลังประชารัฐ กว่า 10 คน เตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า เขายังไม่ลาออก ยังไม่ทราบว่าเขาจะลาออกหรือเปล่า เพราะตอนนี้เขายังไม่ลาออก เมื่อถามว่าต้องเรียกส.ส.ที่จะไป มาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ต้องหรอก ก็แล้วแต่เขาเมื่อถามย้ำว่า จะไปก็ไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ก็แล้วแต่เขา ความคิดของคนไม่เหมือนกันซึ่งที่เข้ามาก็เยอะ 

เมื่อถามว่า ช่วงเช้าได้พูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ ไม่มีคุยเรื่องนี้ เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะดึงส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐไปพอสมควร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ผมไม่ว่าอะไร ผมจะได้ปิดพรรคเลย” ทั้งนี้ทันทีที่พูดจบพล.อ.ประวิตรหัวเราะ เมื่อถามอีกว่าสรุปแล้วไปทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร หัวเราะไม่ตอบคำถาม 

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทำไมนะ เมื่อถามว่า นายกฯ บอกว่ายังอยากอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ท่านนายกฯ ดูเหมือนแสดงว่าจะไป จะไปแล้ว ยังไม่รู้ เมื่อถามว่า ทำไมมีคำว่าเหมือน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ตนยังไม่รู้ เพราะท่านนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคตั้งแต่แรก เมื่อถามว่านายกฯ มีโอกาสเปลี่ยนใจอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้อยู่ในพรรคพลังประชารัฐเป็นเพียงพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ส่วนท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็เป็นเรื่องของท่าน เพราะท่านก็ไม่ได้อยู่ ๆ แล้ว ใช่ไหม

เมื่อถามว่า ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อย่างนี้มันต้องแล้วแต่สมาชิกพรรคที่จะว่ากัน เมื่อถามว่า ไม่ว่าอยู่ที่ไหนจะยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อ๋อใช่อยู่ที่ไหนมันก็รักกันเหมือนเดิม 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมือนกับว่ายังรอพรรคพลังประชารัฐทาบทามก็พร้อมจะมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทาบทามหรือเปล่า เมื่อถามว่า จะคุยหรือไม่ในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นผู้จัดการรัฐบาล พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า ใครเป็นผู้จัดการ เมื่อถามว่า เป็นบารมีของ พล.อ.ประวิตรที่ดูแลรัฐบาลได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมจะไปเป็นผู้จัดการที่ไหน

เสน่ห์ ‘โรบัสต้า’ กาแฟถิ่นแห่งปลายด้ามขวานที่ถูกยกระดับ รสเยี่ยมจนแบรนด์ใหญ่ไล่คว้า จากฝีมือโรงคั่วฟาฏอนี

วันนี้ (13 ธ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก ‘SEED Thailand’ ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ หรือ ‘กาแฟท้องถิ่น Robusta ปลายด้ามขวาน’ ที่คนรุ่นใหม่ให้การตอบรับดี โดยมีเนื้อหาดังนี้

เวลาพูดถึง ‘กาแฟ’ หลายคนอาจจะมองว่าผลผลิตที่ดีต้องมาจากภาคเหนือเท่านั้น และหลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่าพื้นที่ ‘3 จังหวัดชายแดนภาคใต้’ สามารถปลูกกาแฟได้และมีการปลูกไปแล้วในหลายพื้นที่และแต่ละพื้นที่ก็จะมีรสชาติสัมผัส ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถือเป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละพื้นที่ 

กาแฟ Robusta ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เริ่มปลูกกันมาสักระยะหนึ่งแล้วเพราะว่ากาแฟเป็นพืชทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสมในการเพาะปลูกในพื้นที่ โดยเฉพาะสายพันธุ์ Robusta ซึ่งได้มีการสนับสนุนการเพาะปลูกแล้วในหลายพื้นที่ และปัจจุบันเกษตกรก็ได้ผลผลิตกันแล้ว

โดยกาแฟท้องถิ่น Robusta ปลายด้านขวาน เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากหลากหลายพื้นที่ในจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ อ.เบตง จ.ยะลา, อ.ธารโต จ.ยะลา, ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา, อ.ยะหา จ.ยะลา, อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส, อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

‘ก้าวไกล’ อัด ทร.ฟอกขาวเรือดำน้ำเครื่องยนต์จีน ชี้ รุ่นนี้ยังไม่เคยใช้ที่ไหนในโลก แม้แต่จีนเอง

‘ก้าวไกล’ ห่วง กองทัพเรือปล่อยคลิปฟอกขาวเรือดำน้ำเครื่องยนต์จีน แถมเห็นภาษากาย ‘บิ๊กตู่’ ต่อ ‘สีจิ้นผิง’ ยิ่งไม่น่าวางใจ ชี้ รุ่นนี้ยังไม่เคยใช้ที่ไหนในโลกแม้แต่จีนเอง ขอรอรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรม เข้ามาจัดการ

วันที่ 13 ธันวาคม 2565 พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่กองทัพเรือเผยแพร่คลิปวิดีโออธิบายการขับเคลื่อนเรือดำน้ำด้วยเครื่องยนต์จากจีน (CHD 620) แทนที่เครื่องยนต์จากเยอรมัน (MTU 396) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตามข้อตกลงระหว่างกองทัพเรือกับบริษัท CSOC ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนว่า ตนไม่ทราบว่าเหตุใดกองทัพเรือต้องพยายามชี้แจง ดูเหมือนเป็นความพยายามอย่างเป็นขั้นเป็นตอนที่จะนำไปสู่การแก้ไขสัญญาและยอมรับเครื่องยนต์ดีเซล CHD620 ที่ผลิตจากจีน แทนเครื่องยนต์ MTU396 ของเยอรมันใช่หรือไม่ ซึ่งหากในการเจรจาวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ กองทัพเรือยอมแก้ไขสัญญา ไทยจะกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล CHD 620 ของจีนในเรือดำน้ำ เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีประเทศใช้งานเครื่องยนต์ดังกล่าวมาก่อน แม้แต่ประเทศจีนเอง

พิจารณ์ กล่าวต่อไปว่า ขอเรียกร้องไปยังกองทัพเรือ อย่าอ้างกับประชาชนว่าถ้าไม่ยอมรับเครื่องยนต์ดีเซล CHD 620 จากจีนแล้วจะทำให้เงินที่จ่ายไปแล้วกว่า 7 พันล้านบาทไม่ได้คืน เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองและสัญญาที่กองทัพทำกับฝ่ายจีน

'ก้าวไกล' เผย ตำรวจทุจริต-รับสินบนจนเป็นปกติ เสนอ ปฏิรูปวงการตำรวจ-สร้างรัฐเปิดเผย-ตรวจสอบได้

วันที่ 13 ธันวาคม 2565 สุพิศาล ภักดีนฤนาท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะอดีตผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงกรณีการทุจริตการสอบนายสิบของตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งมีการเรียกรับเงินเพื่อให้ช่วยสอบเข้าตำรวจ จนนำไปสู่การตั้งกรรมการสอบสวนและให้นักเรียนนายสิบที่ทุจริต พ้นสภาพหลายร้อยคนว่า กระบวนการทุจริตในการสอบของตำรวจมีมานานแล้ว และทำกันจนเป็นเรื่องปกติ ในอดีตที่ตนอยู่ในวงการตำรวจ ก็รับทราบถึงวิธีการทุจริตมากมาย เช่น การให้เข้าสอบแทนกัน โดยมีบุคคลที่เป็นหัวกะทิ ทำหน้าที่เป็น 'มือสอบ' ใช้วิธีการหลายรูปแบบ ตั้งแต่เข้าห้องสอบเพื่อจำข้อสอบแล้วกดรหัสมอร์สส่งเข้าไปให้ผู้เข้าสอบผ่านนาฬิกาหรือโทรศัพท์ หรืออาจจะนั่งสอบอยู่ด้วยกันแล้วใช้รหัสมือในการส่งสัญญาณมาทีละคำตอบ หรือการรับจ้างเข้าไปสอบโดยทั้งผู้จ้างและผู้รับจ้าง จะเขียนชื่อและรหัสผู้สอบลงบนข้อสอบสลับกัน เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการทุจริตที่เป็นแพ็คเกจใหญ่ ที่มีการนัดแนะลูกค้าอย่างเป็นระบบ ทั้งขั้นตอนการส่งรหัสสัญญาณ การใช้อุปกรณ์ ไปจนถึงการขโมยข้อสอบออกมาผ่านการซื้อตัวผู้ออกข้อสอบ ซึ่งโดยปกติจะถูกนำตัวไปกักบริเวณแล้วให้ออกข้อสอบแยกกัน

สุพิศาลกล่าวว่า แม้ปัจจุบันจะมีการตรวจสอบป้องกันการทุจริตการสอบที่เข้มงวดรัดกุมขึ้นแล้ว เช่น การให้ใส่แต่กางเกงวอร์มที่ไม่มีกระเป๋าเข้าห้องสอบ การมีอุปกรณ์ตรวจจับเครื่องมือทุจริต หรือการยึดเอาโทรศัพท์และนาฬิกาไว้ แต่การทุจริตก็ยังเกิดขึ้นได้จากวิธีการใหม่ ๆ ของขบวนการทุจริต และโดยเฉพาะเมื่อผู้คุมสอบเป็นพวกเดียวกัน ก็จะเกิดการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น

สะพัด ‘ไลน์แมน วงใน’ เล็งซื้อกิจการฟู้ดแพนด้า คาดมูลค่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า ไลน์แมน วงใน บริษัทยูนิคอร์นธุรกิจส่งอาหารอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าครอบครองกิจการฟู้ดแพนด้าของบริษัทเดลิเวอรี ฮีโร่ เซาท์อีสต์เอเชีย ประเทศไทย 

"ตอนนี้ไลน์แมน วงใน ซึ่งมีฐานดำเนินงานอยู่ในกรุงเทพฯ กำลังพิจารณาทำข้อตกลงเข้าซื้อกิจการที่มีมูลค่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์แต่มูลค่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้อาจเปลี่ยนไปเนื่องจากมีแนวโน้มที่มูลค่าจะเปลี่ยนไป จากการถดถอยของตลาดในวงกว้างกว่าเดิม และมุมมองภายในต่อธุรกิจที่ขาดทุน" แหล่งข่าววงในที่ปฏิเสธเปิดเผยชื่อ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท ไลน์แมน วงใน เป็นบริษัทในเครือของไลน์ คอร์ป และจีไอซี กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์ 

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าววงในระบุว่า ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการเจรจาเพื่อซื้อกิจการครั้งนี้และการเจรจาอาจจะล่ม ส่วนตัวแทนจากไลน์แมน วงในและไลน์ คอร์ป ปฏิเสธให้ความเห็น เช่นเดียวกับตัวแทนจากบริษัทเดลิเวอรี ฮีโร่ และฟู้ดแพนด้า ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อรายงานข่าวนี้เช่นกัน

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้อาจช่วยให้ไลน์แมน วงใน อยู่ในฐานะที่สามารถแข่งขันได้ดีขึ้นในอุตสาหกรรมแพลตฟอร์มส่งอาหารในประเทศไทย โดยไทยซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าไลน์เป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมสูงสุด

ไลน์แมน วงใน เป็นผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์และข้อมูลร้านอาหารของไทย เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างไลน์แมนและบริษัทวงใน เมื่อปี2563 ด้วยเงินลงทุนมูลค่า 110 ล้านดอลลาร์

ข่าวการเจรจาเพื่อซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เดลิเวอรี ฮีโร่ ซึ่งมีฐานดำเนินงานอยู่ในเยอรมนีพยายามดำเนินการต่างๆเพื่อให้บริษัทสามารถทำกำไรได้ภายในปี 2565 โดยนาย Niklas Oestberg ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)เดลิเวอรี ฮีโร่ กล่าวในช่วงการประชุมทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วว่า ขณะที่บริษัทมีฐานดำเนินงานที่แข็งแกร่งในหลายประเทศเช่น มาเลเซีย และฟิลิปปินส์  บริษัทอาจตัดสินใจถอนตัวจากบางตลาดที่บริษัทไม่ได้อยู่อันดับ 1

“เราไม่ได้ต้องการขายธุรกิจของเราในตลาดอาเซียน แต่อาจเป็นตลาดในภูมิภาคอื่น  เรากำลังอยู่ระหว่างหารือ” ซีอีโอเดลิเวอรี ฮีโร่ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top