Sunday, 8 June 2025
News

เพจ ‘ตี๋น้อย’ ชวนเรียนต่อในมหาลัยใน ‘มณฑลซินเจียง’ ค่าใช้จ่ายไม่สูง ได้รู้จักบ้านเกิด ‘ตี๋ลี่เร่อปา - กู่ลี่นาจา – ถงลี่หยา - อวี๋เมิ่งหลง’

เพจ ‘ตี๋น้อย’ โพสต์ภาพพร้อมข้อความเชิญชวนศึกษาต่อที่ประเทศจีน ท่ามกลางกระแสข่าวส่งกลับชาวอุยกูร์กลับสู่มาตู่ภูมิ โดยระบุว่า โพสต์นี้เผื่อใครสนใจเรียนภาษาจีนที่มหาวิทยาลัย สือเหอจื่อ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีนครับผม ตอนนี้เปิดรับสมัครคนไทยเพิ่มนะครับ สนใจรีบสมัครกันมานะ จะเปิดเทอมแล้วครับ

รายละเอียดค่าสมัครคือ
1. ค่าเรียนปีละ 13000 หยวน หรือ 6500 หยวน ต่อเทอม
2. ค่าหอปีละ 5000 หยวน ห้องคู่ (ห้องเดี่ยวก็มีนะครับ) หรือ 2500 หยวน ต่อเทอม หอเป็นหอในมหาวิทยาลัยนะครับ มีเฟอร์นิเจอร์ครบ 
3. ค่าวีซ่า 400 หยวนต่อปี

สิ่งที่จะได้รับคือ
1. เจอตี๋น้อยครับผม อยู่ที่นี่แหละ
2. มองจีนในมุมต่าง ที่นี่ทั้งสถาปัตยกรรม ผู้คน มีทั้งชาวฮั่น ชนเผ่าอุยกูร์ ชนเผ่าคาซัคฯ และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ 
3. คนไทยน้อย สามารถพัฒนาภาษาจีนของตัวเองได้เต็มที่
4. นอกจากได้ภาษาจีนแล้ว ยังได้ภาษาอังกฤษด้วย เนื่องจากชาวต่างชาติที่นี่ใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน
5.ได้เที่ยวซินเจียง ซินเจียงมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ทั้งเมือง คาชการ์ อุรุมชี ทุ่งหญ้านาลาถี ฯลฯ เยอะแยะ
6. ได้รู้จักบ้านเกิดของ ตี๋ลี่เร่อปา กู่ลี่นาจา ถงลี่หยา อวี๋เมิ่งหลง 
7.เรียนรู้วัฒนธรรมจีนเพิ่ม เพราะที่นี่มีให้เรียนพู่กันจีน ชงชาจีน ไทเก๊กฟรี ทุกวันศุกร์นะครับ
8. เวลามหาวิทยาลัยออกทริป ก็ได้เที่ยวฟรีด้วย ได้ความรู้เพิ่มด้วย
9. ที่นี่มหาวิทยาลัยมีจัดทัศนศึกษา เรียนรู้วัฒนธรรมจีน วัฒนธรรมซินเจียง 

“ตอนนี้ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว รีบสมัครกันนะครับ”

‘ดร.เอ้ สุชัชวีร์’ เผยภาพประทับใจ บัณฑิตแพทย์ก้มกราบเท้าแม่ สุดภาคภูมิใจได้ร่วมสร้างแพทย์รักษาคนไข้ แถมได้คนดีให้สังคมไทย

(1 มี.ค.68) ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "บัณฑิตหมอ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ก้มกราบแม่ ในวันรับปริญญา เห็นแล้วน้ำตาซึม" 'พี่หมอน้อย' ศาสตราจารย์ นายแพทย์อนันต์ ศรีเกียรติขจร คณบดีผู้ก่อตั้ง คณะแพทยศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง ส่งรูปนี้ให้ผม พร้อมเล่าเรื่องของศิษย์รัก ด้วยความภูมิใจ

'คุณหมอเลขเก้า' หรือ นายแพทย์ภูธน ทรัพย์บรรจง ก้มลงกราบแม่แนบพื้น หลังเข้ารับพระราชทานปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (Doctor of Medicine) เกียรตินิยมอันดับ 1 จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และยังเป็น 'หมอพระจอมเกล้าฯ รุ่นที่ 1' เป็นภาพที่ทุกคนได้เห็น รวมทั้งผม 'น้ำตาซึม'

"การกราบพ่อแม่" และผู้มีพระคุณ คือ Soft Power คือ พลังอำนาจวิเศษ คือ วัฒนธรรมของชนชาติไทย เพราะเป็นการ 'กล่อมเกลา' ความดีงามของ 'มนุษย์' ซึ่งควรค่า เป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่นในสังคมไทย

ผมมั่นใจว่าภาพนี้ จะส่งต่อถึง 'ลูกหลาน' ของคุณหมอเลขเก้า ให้มีความกตัญญูกตเวที ดังเช่นคุณหมอมีให้กับคุณพ่อคุณแม่ และยังเป็น 'ต้นแบบ' ให้คนไทยทุกรุ่น

ผมเชื่อว่า 'โลกยุค AI' ไม่น่ากลัว และเป็นโอกาส หาก 'คนรุ่นใหม่' มีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน และมี 'ภูมิคุ้มกัน' คือ ต้องมีจิตใจละเอียดอ่อน ซาบซึ้ง กตัญญู ซึ่ง 'ไม่ง่าย' ในโลกที่รุมเร้าไปด้วย 'สื่อความรุนแรง' และความขัดแย้ง

ผมมั่นใจว่า การสอน 'ลูก' ให้เก่งและดี อย่างเช่น 'คุณหมอเลขเก้า' #เราทำได้ แต่ต้องเริ่มตั้งแต่วัยเยาว์ บ่มเพาะให้รู้จัก 'หน้าที่' และต้อง 'สำนึก' ว่าพ่อแม่ต้อง 'เสียสละ' มากแค่ไหนเพื่อลูก

ขณะที่ 'สังคมไทย' เราต้องช่วยกัน 'แชร์ภาพความประทับใจ' ให้เกิด 'ค่านิยม' ในความกตัญญู ให้ทุกคนยอมรับ และทำตาม

ผม "ภูมิใจที่สุด" ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคณะแพทยศาสตร์พระจอมเกล้าลาดกระบัง เราไม่ใช่เพียง "สร้างแพทย์" เพื่อดูแล รักษาคนไทย แต่เราได้ 'สร้างคนดี' ให้สังคมโลก ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบัน 'คุณหมอเลขเก้า' กำลังเป็นแพทย์ใช้ทุนสาขาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือ มศว. พี่เอ้เชื่อว่า เมื่อคุณหมอมีความรักให้คุณแม่ คุณหมอจะมี 'ความรัก' ให้คนไข้ทุกคน

สุดท้ายนี้ พี่เอ้ขอให้ผลจากความกตัญญูกตเวที ส่งให้คุณหมอประสบความสำเร็จในชีวิต ได้ช่วยเหลือ ดูแล รักษา 'คนไทยทุกคน' ดังความตั้งใจ

GOOD Doctor You are

‘สงกรานต์ เตชะณรงค์’ ไฮโซชื่อดังได้เลื่อนขั้นเป็น รองผู้กำกับ พร้อมติดยศ ‘พันตำรวจโท’ ตามโผโยกย้ายข้าราชการตำรวจปี 67

(1 มี.ค.68) เว็บไซต์กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ 'รอง ผบก.-สว.' วาระประจำปี 2567 โดยมีผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น และโยกสลับระนาบเดียวกัน กว่า 4,000 ตำแหน่ง

โดยบัญชีแนบท้ายคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 124/2568 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2568 ลำดับ 137 ปรากฏชื่อ พ.ต.ท.สงกรานต์ เตชะณรงค์ สว.(ปฏิบัติงาน กอ.รมน.) สกพ. ได้เลื่อนเป็น รอง ผกก.(ปฏิบัติงาน กอ.รมน.) สกพ.

สำหรับ สงกรานต์ ไฮโซชื่อดัง อดีตสามี แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ปัจจุบันเป็นแฟน มายด์ ณภศศิ สุรวรรณ

เมื่อเดือนตุลาคม 2554 สงกรานต์ ได้โอนย้ายจากทหารเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจ ในตำแหน่งรองสารวัตรกองการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อมาในปี 2556 ได้ดำรงตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ (รอง สว.ฝผ.บก.ป.) ที่ กองปราบปราม ก่อนจะย้ายไปเป็นรองสารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปรามกระทั่งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักงานกำลังพลมีคำสั่งให้ สงกรานต์ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจ กองบังคับการฝึกอบรมตำรวจกลาง (บก.ฝรก.) ที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ในปี 2563 มีรายงานว่า สงกรานต์ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น สารวัตร หลังปรากฏชื่อ ว่าที่ พ.ต.ต.สงกรานต์ เตชะณรงค์ สว.(ปฏิบัติงาน กอ.รมน.) สกพ. เข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (หลักสูตร กอส.) รุ่นที่ 45 แต่ไม่ได้เข้าเรียน

กระทั่งในเดือนตุลาคม 2564 สงกรานต์ ได้เข้ารับการอบรม กอส.รุ่น 47 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และจบหลักสูตร เป็นนายตำรวจสัญญาบัตรอย่างสมบูรณ์

‘หมอทศพร’ อวยยศโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เจ็บป่วยเล็กน้อยรับยาใกล้บ้านไม่ต้องไปโรงพยาบาล

(1 มี.ค.68) นายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า บัตรประชาชนแทนบัตรเครดิต ซื้อยาไม่ต้องจ่ายสตางค์ 

“ขออลั่มมิลค์ (ยาลดกรดในกระเพาะ) ขวดหนึ่งครับ”
เภสัชกรเดินไปหยิบยาให้ผม

ผม ล้วงกระเป๋า หยิบแบงค์ 100 ขึ้นมา 
แล้วผมก็ฉุกคิดอะไรบางอย่าง

“ที่นี่ มี 30 บาทรักษาทุกที่หรือเปล่าครับ”
” มีค่ะ “
น้องเภสัชกรตอบผม
“ถ้างั้นใช้เลยครับ”

ผมเก็บแบงก์ 100 ใส่กระเป๋า ควักบัตรประชาชนส่งไปแทน
น้องหยิบบัตรประชาชนผม ไปเสียบที่เครื่อง
“ปวดท้องยังไงคะ”
“น้ำหนักตัวเท่าไหร่ สูงเท่าไหร่คะ”
“มีโรคประจำตัวอะไรบ้างมั้ยคะ”
“แพ้ยาอะไรบ้างมั้ยคะ”
“อันนี้ยาลดกรดในกระเพาะ”
“อันนี้ยาแก้ท้องอืด”

น้องส่งยาน้ำให้ผมขวด ยาเม็ดอีก 2 แผง

“ขอเบอร์โทรศัพท์ด้วยค่ะ โทรไปแล้วรับด้วยนะคะ จะโทรไปถามอาการ ถ้าไม่ดีขึ้น ต้องไปพบแพทย์นะคะ” (ผมแอบยิ้มในใจ จะไปพบแพทย์ที่ไหนดีนะ)

ผมยกขวดยาขึ้นดื่ม รู้สึกเย็นวาบเข้าไปในกระเพาะ วันนี้มีความสุข เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปี ที่ได้ยาโดยไม่ต้องจ่ายสตางค์

30 บาทรักษาทุกที่ จงเจริญ รักนะครับ เจ็บป่วยเล็กน้อยไม่ต้องไปโรงพยาบาลนะครับ ไปร้านขายยา ที่มีป้าย “ 30 บาทรักษาทุกที่ ” ครับ

‘พีระพันธุ์’ ควง ‘เสธหิ’ มอบบ้านพร้อมทุนการศึกษา เยาวชนชาวกรุงเก่า ‘นางสาวสรัญญา’ เรียนดีแต่ฐานะยากจน

‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ มอบบ้านและเกียรติบัตรแสดงความยินดี ให้กับนางสาวสรัญญา มาลาพัด “นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ” 

เมื่อวันที่ (2 มี.ค. 68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายฝันเด่น จรรยาธนากร โครงการใจถึงใจ พร้อมคณะ ลงพื้นที่มอบบ้าน ชุดเครื่องมือช่างซ่อมรถยนต์และเกียรติบัตรแสดงความยินดีพร้อมทั้งทุนการศึกษาให้กับนางสาวสรัญญา มาลาพัด ซึ่งเป็น “นักเรียนดี เยาวชนต้นแบบ” 

พร้อมกันนี้ “มูลนิธิพระราหู” ยังได้สนับสนุนสร้างบ้านและอุปกรณ์ซ่อมรถยนต์ ตามโครงการ  “ใจถึงใจ” ให้กับ นายสรสัณฑ์ เรืองสวัสดิ์ นางสาวเรียม มาลาพัด นางสาวสรัญญา มาลาพัด เด็กหญิงสุนิสา เรืองสวัสดิ์ ซึ่งเป็นครอบครัวที่ได้รับการช่วยเหลือ โดย พ.ต.ท.เตชิต เขื่อนหมั่น นายโอภาส ศรีเจริญ พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ 

การสนับสนุนในครั้งนี้คือกำลังใจสำคัญที่ให้นางสาวสรัญญา มาลาพัดและครอบครัวมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการศึกษา และใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุขต่อไป

หลังเกิดเหตุ ‘กองทัพกะเหรี่ยง’ KNLA ทิ้งระเบิดใส่ฐานเมียนมา ห่างชายแดนไทย 1 กม.

(3 มี.ค. 68) เพจเฟซบุ๊กข่าวทหาร เปิดเผยภาพทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กองกำลังนเรศวร ยังคงตรึงกำลังตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาอย่างเข้มงวด จากเหตุการณ์กองกำลังกะเหรี่ยง KNLA โจมตีฐานทหารเมียนมา (ทมม.) ที่ฐานปูลูตู่วานนี้

โดยมีการใช้โดรนทิ้งระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการของทมม. บริเวณเนิน 1248 อำเภอแลงปอย จังหวัดผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านตะละออกา ตำบลแม่อุสุ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ห่างจากแนวชายแดนไทยประมาณ 1 กิโลเมตร ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้บริเวณเพิงพักของฐานและลุกลามไปยังพื้นที่โดยรอบ

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมา (ผภสม.) ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

ขณะเดียวกันยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย

รู้จัก ‘ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล’ ช่างภาพ Pictorial Art ระดับโลก ผู้รังสรรค์ศิลปะผ่านเลนส์กับนิยาม ‘แสงสะท้อนชีวิต และเงาที่ซ่อนเรื่องราว’

(3 มี.ค. 68) “แสงและเงา” คือหัวใจของการถ่ายภาพ ศิลปินที่แท้จริงต้องความสามารถใช้แสงกับเงาเพื่อสร้างความลึกซึ้งให้กับเรื่องราว และถ้ามีใครสักคนที่สามารถดึงอารมณ์ออกมาผ่านแสงและเงาได้อย่างทรงพลัง ‘ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล’ ก็คือหนึ่งในนั้น

70 ปีบนเส้นทางศิลปะภาพถ่าย ชัยโรจน์ได้สร้างผลงานที่สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึก และจิตวิญญาณของผู้คน ทว่าชื่อของเขาในฐานะผู้สร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่ากลับเป็นที่รู้จักในระดับโลกมากกว่าประเทศบ้านเกิด วันนี้ถึงเวลาที่แสงของเขาจะต้องส่องมาถึงที่นี่ เพื่อให้วงการศิลปะไทยตระหนักถึงคุณค่าของชายผู้นี้ ในฐานะศิลปินผู้ควรค่าแก่การยกย่อง

จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายเกียรติยศสายที่ 2
จากเด็กชายผู้หลงใหลในเงาสู่ศิลปินแห่งแสง ชัยโรจน์ เกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2480 ในครอบครัวนักธุรกิจที่บุกเบิกวงการนาฬิกาไทย แต่แทนที่จะเติบโตมาพร้อมตัวเลขและกำไรเท่านั้น เขายังหลงใหลในภาพถ่าย ความอยากรู้อยากเห็นว่ากล้องจะสามารถ “หยุดเวลา” ได้จริงหรือไม่ ทำให้เขาหยิบกล้องฟิล์มตัวแรกขึ้นมา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

“ภาพถ่ายไม่ใช่แค่การบันทึกความจริง แต่มันเป็นศิลปะ เป็นวิธีที่เราสามารถเล่าเรื่องราวโดยไม่ต้องพูด”

เส้นทางของเขายิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ London University สาขาวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมทั้งเรียนศิลปะการถ่ายภาพที่ Saint Martin’ s School of Art ที่อังกฤษ ที่นั่นเขาได้ฝึกฝนการใช้กล้อง ตั้งแต่วิวทิวทัศน์ใน Hyde Park ไปจนถึงภาพถ่ายบุคคลที่สะท้อนอารมณ์ลึกซึ้ง และถ่ายทอดมันด้วยหัวใจ และนี่คือจุดสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นศิลปิน
เส้นทางสู่ช่างภาพระดับโลก เมื่อเงาใหญ่กว่าชื่อเสียงในบ้านเกิด

หลังได้ศึกษาและฝึกฝนการถ่ายภาพอย่างจริงจัง กระทั่งรังสรรค์ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เรียกว่า Pictorial Art หรือ “ศิลปะเชิงภาพ” ด้วยเทคนิคการถ่ายภาพที่ผสมผสานความคลาสสิกและความร่วมสมัย การใช้แสงและเงาสร้างมิติของภาพให้ดูเหมือนจิตรกรรม เทคนิคนี้ทำให้ภาพของเขามีความนุ่มนวล ทรงพลัง และสามารถเล่าเรื่องราวโดยไม่ต้องพึ่งพาคำบรรยาย กลายเป็นผลงานที่มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศ โดยเฉพาะในระดับสากล

ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายอันทรงคุณค่ามากมาย ทั้งภาพถ่ายบุคคล วิถีชีวิต ภาพทิวทัศน์ และวัฒนธรรม ผลงานของเขาได้รับการจัดแสดงในนิทรรศการทั้งในประเทศและต่างประเทศ และได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก อาทิ
รางวัลถ้วยพระราชทานชนะเลิศประเภทภาพถ่ายดิจิทัล จากการแข่งขันถ่ายภาพทั่วประเทศ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2543
.
รางวัลดาว 5 ดวง จากสมาคมถ่ายภาพแห่งอเมริกา (P.S.A.) ในปี พ.ศ. 2552
ติดอันดับ World Top Ten หลายครั้ง

โดยผลงานของเขาได้รับการยอมรับจากเวทีระดับโลกเป็นครั้งแรกเมื่อเขาส่งภาพเข้าประกวดใน PSA Gold Medal ซึ่งทำให้เขากลายเป็นศิลปินไทยที่วงการศิลปะภาพถ่ายทั่วโลกจับตามอง หลังจากนั้นรางวัลและเกียรติยศก็ทยอยเข้ามาไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น FIAP Gold Medal (ฝรั่งเศส) , Tokyo International Photography Awards และ Grand Award จาก Asia Photo Awards

“เวลาผมไปต่างประเทศ นักวิจารณ์ศิลปะพูดถึงงานของผมในเชิงปรัชญา พวกเขาบอกว่าผมสามารถใช้แสงและเงาเล่าเรื่องราวได้ลึกซึ้ง แต่ในไทยกลับมีคนรู้จักผมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น”

Pictorial Art – ศิลปะผ่านเลนส์
แสงสะท้อนชีวิต และเงาที่ซ่อนเรื่องราว
ชัยโรจน์ ไม่ได้ถ่ายภาพเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เขาใช้มันเป็นเครื่องมือสื่อสารทางศิลปะ ผลงานของเขามักสะท้อนถึงชีวิต ความเป็นมนุษย์ และอารมณ์ที่ไม่สามารถถ่ายทอดเป็นคำพูดได้ “ผมไม่ต้องการให้คนแค่ดูภาพของผม ผมต้องการให้พวกเขารู้สึกถึงมัน”

หนึ่งในผู้ที่ให้ความสำคัญกับงานของ ชัยโรจน์ มากที่สุด คือ เกรซ มหาดำรงค์กุล ลูกสาวของเขา ในปี 2565 เธอได้จัดนิทรรศการ “ย้อนเวลาผ่านเลนส์” เพื่อให้คนไทยได้รู้จักและเข้าใจในคุณค่าของศิลปะของบิดา ซึ่งไม่เพียงเป็นการแสดงภาพถ่าย แต่เป็นการส่งเสียงให้วงการศิลปะไทยตระหนักถึงคุณค่าของ ชัยโรจน์

“ผลงานของคุณพ่อไม่ใช่แค่ภาพถ่าย แต่เป็นบันทึกของยุคสมัยเป็นศิลปะที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น” เกรซกล่าวในวันเปิดนิทรรศการ

อย่าปล่อยให้เงากลืนกินชื่อ ชัยโรจน์
ส่องแสงมาเพื่อให้ “โลกจารึก”
ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล คือศิลปินที่ใช้แสงและเงาเป็นภาษาของเขา ส่งผ่านให้มันคงอยู่ตลอดกาลผ่านงานศิลปะ สร้างผลงานที่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศมากมาย แต่กลับไม่เป็นที่จดจำในประเทศไทยเท่าที่ควร กระทั่งมีความพยายามให้เขาได้รับการเสนอชื่อเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรเกิดขึ้นนานแล้ว

70 ปีบนเส้นทางศิลปะ ผลงานของเขาได้รับการยกย่องมากมาย สร้างคุณูปการต่อวงการศิลปะภาพถ่ายมาอย่างยาวนาน การได้รับเสนอชื่อเป็นศิลปินแห่งชาติ จึงไม่ใช่เพียงแค่รางวัลสำหรับตัวเขา แต่เป็นรางวัลสำหรับวงการศิลปะไทย ที่ควรให้เกียรติผู้สร้างสรรค์งานระดับโลก
“ภาพถ่ายที่ดีไม่ได้หยุดเวลา แต่มันทำให้เราหวนคิดถึงความหมายของมันตลอดไป”

อย่าปล่อยให้เงากลืนกินชื่อของเขา แต่ควรส่องแสงมาเพื่อให้โลกจารึก “ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล” ไม่ใช่เพียงศิลปินแห่งภาพถ่าย แต่คือศิลปินแห่งประวัติศาสตร์ไทย ที่ควรได้รับการจารึกชื่ออย่างสมเกียรติ

‘สนธิ’ ลั่นเดินหน้าสุดซอยสั่งสอนเด็กเมื่อวานซืน ‘Nailname’ ปมใช้ข้อมูลเท็จใส่ร้าย แถมฟ้องหมิ่นแก้เกี้ยว แต่สุดท้ายศาลยกฟ้อง

‘สนธิ’ ลั่นเดินหน้าสุดซอยฟ้อง Nailname ปมใช้ข้อมูลเท็จปั้นน้ำเป็นตัวประเด็น "สนธิ VS ทักษิณ ตำนานเพื่อนรักไม่ให้ยืมเงิน จุดเริ่มต้นสงครามเหลือง-แดง"

(4 มี.ค. 68) จากกรณีนางสาวรติศา วิเชียรพิทยา ยูทูบเบอร์สาวที่ใช้ชื่อว่า Nailname ที่เคยออกออกมาไลฟ์สดโดยมีหัวข้อว่า “สนธิ vs ทักษิณ ตํานานเพื่อนรักไม่ให้ยืมเงินจุดเริ่มต้นสงครามเหลือง-แดง” กระทั่งถูกนายสนธิ ลิ้มทองกุล ฟ้องหมิ่นประมาท และทางยูทูบเบอร์สาว ก็ได้ฟ้องหมิ่นประมาทนายสนธิด้วยเช่นเดียวกัน

ล่าสุด นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า หลังจากที่คุณเนลเนม ได้ออกมาไลฟ์สด ด้วยการเอาข่าวที่ไหนมาก็ไม่รู้ มาบอกว่าสาเหตุที่ตนทะเลาะกับทักษิณ ชินวัตรเพราะว่าไปยืมเงินไม่ได้ จากนั้นก็ออกมาฟาดฟันทักษิณ พูดง่าย ๆ ก็คือ พูดง่าย ๆ ที่ตนออกมาประท้วงทักษิณนั้น เป็น เพราะว่าไปยืมเงินทักษิณแล้วทักษิณไม่ให้ ซึ่งไม่เป็นความจริง ดังนั้น ตนจึงฟ้องหมิ่นประมาท และจากการไต่สวนสวนมูลฟ้องแล้ว ในที่สุดศาลอาญาบอกมีมูล 

“ตอนที่เธอถูกฟ้องอยู่นั้น ทนายผมบอกว่า เธอติดต่อมาว่า จะขอไกล่เกลี่ย ขอขมาลาโทษแล้วเธอก็ไม่ติดต่อไปอีกเลย ที่เธอไม่ติดต่อมาอีก คือเธอก็สวมวิญญาณของคุณเดชา (ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์) โดยไปฟ้องผมที่ศาลนนทบุรีว่า ระหว่างที่ผมพูดถึงเรื่องเธอนั้น ได้หมิ่นประมาทเธอหลายเรื่อง ผมก็สู้ด้วยการเข้าไปชี้แจง จนกระทั่งในที่สุดแล้วศาลนนทบุรี ก็มีคําสั่งออกมา ว่ายกฟ้อง เพราะศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า สิ่งที่คุณเนลเนมยกมานั้น ไม่มีมูล”

ทั้งนี้ สุดท้ายแล้วปรากฏว่า ข้ออ้างข้อกล่าวหา ที่เนลเนม บอกว่าตนไปหมิ่นประมาทเธอ อย่างเช่นคําว่า “เด็กเมื่อวานซืน” เธอฟ้องด้วยนะว่าหาว่าหมิ่นเธอ ซึ่งศาลก็บอกว่า ในข้อเท็จจริงแล้วโจทย์ก็อายุน้อยกว่าจำเลยมาก การที่พูดว่าเด็กเมื่อวานซืนจึงไม่ใช่เรื่องผิด หรือแม้กระทั่งที่บอกว่าเธอเคยทํางานในร้านนวด เธอก็เห็นว่า เป็นการดูหมิ่น และด้อยค่า ทางศาลก็ได้ระบุว่า อาชีพหมอนวดเป็นอาชีพสุจริต ทั้งมีวิญญูชนทั่วไป ก็ไม่น่าจะคิดว่าผู้ประกอบเช่นนี้จะไม่สามารถทํางานสื่อได้ ข้อความส่วนนี้จึงไม่เป็นการหมิ่นประมาท

ส่วนคำว่า เด็กเมื่อวานซืน ซึ่งเป็นการพูดเชิงเปรียบเทียบมา เนื่องจากโจทย์มีอายุน้อยกว่า อีกทั้งยังมีประสบการณ์น้อยกว่าจำเลยมาก ซึ่งเป็นความจริงจึงไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทย์ และสุดท้ายแล้วศาลก็ยกฟ้อง 

ดังนั้น กระบวนการที่จะฟ้องตนให้คดีมีมูลแล้วนำเอาคดีมาแลกกันนั้น ก็ถือว่าล่มสลายไปแล้ว หลังจากนี้ ในส่วนคดีที่ตนเป็นโจทย์ฟ้องเนลเนมนั้นก็จะยังคงดำเนินต่อ โดยศาลท่านให้ดำเนินการเรื่องสืบพยานโจทย์ ซึ่งทางทนายได้แจ้งมาว่า คุณเนลเนมได้เลื่อนมาหลายครั้งแล้ว แต่หลังจากนี้ตนจะไม่ให้เลื่อนอีกแล้ว 

นายสนธิ ย้ำว่า สำหรับคดีที่ตนถูกฟ้องนั้น ก็จะสู้คดีโดยไม่ถอย แต่หากเป็นกรณีที่ตนฟ้องคนอื่น ถ้าอะไรที่ยอมได้ก็จะยอมให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ก็จะไม่ยอม จะไม่ไกล่เกลี่ยเด็ดขาด ต้องดำเนินการไปให้สุดซอย

มติบอร์ดน้ำเมา ผ่อนเกณฑ์ให้ 5 พื้นที่ เปิดทางขายเหล้า – เบียร์ 5 วันพระใหญ่

(4 มี.ค. 68) คณะกรรมนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ เปิดทางขายเหล้า-เบียร์ 5 วันสำคัญศาสนาในบางพื้นที่ มีผลก่อน 11 พ.ค. 68 ส่วนข้อเสนอเรื่องของการขยายระยะเวลา ยังไม่ได้มีการพิจารณา

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้คงการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนาสำคัญ 5 วัน ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา แต่ผ่อนคลายให้ขายได้ในบางสถานที่ ได้แก่

การขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ การขายในสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ การขายในสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้ตามที่ รมว.สาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของ รมว.มหาดไทย
การขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม การขายในสถานที่ซึ่งใช้จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติหรือนานาชาติ และมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกัน ตามรายชื่อสถานที่ที่ รมว.สาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา

โดยผู้ขายเครื่องดื่มแอกกอฮอล์ตามที่ได้รับการยกเว้นให้ขายได้ตามประกาศที่จะออกมานี้ต้องให้มีการคัดกรองและมาตรการที่จำเป็น เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ความปลอดภัยของประชาชน และการจำกัดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชนด้วย

โดยขั้นตอนของการประกาศมาตรการนี้จะมีการนำมติที่ประชุมฯ ไปรับฟังความคิดเห็นภายใน 15 วัน หลังจากนั้นจะส่งให้กระทรวงสาธารณสุขให้การรับรอง และส่งกลับมาให้นายกรัฐมนตรีลงนามก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยขั้นตอนทั้งหมดจะแล้วเสร็จก่อนวันที่วิสาขบูชาที่ตรงกับวันที่ 11 พ.ค.2568 อย่างแน่นอน

ประกาศที่จะออกมาผ่อนคลายการจำหน่ายเครื่องดื่มแอกกอฮอล์ในครั้งนี้จะทำให้ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยว และส่งเสริมมาตรการท่องเที่ยวตามการที่รัฐบาลประกาศให้เป็นปีท่องเที่ยวในปี 2568 อย่างใน กทม.ก็จะมีพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติจำนวนมากไปท่องเที่ยวได้ประโยชน์ เช่น ทองหล่อ และพัฒพงษ์ มาตรการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากเป็นการแก้ไขในส่วนที่เป็นวันสำคัญทางศาสนา” นายประเสริฐ กล่าว

สำหรับข้อเสนอเรื่องของการขยายระยะเวลาในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ที่ประชุมครั้งนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณา เนื่องจากหากจะแก้ไขในส่วนดังกล่าวต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นกฎหมายใหญ่ ซึ่งต้องหารือกันในขั้นตอนต่อจากนี้

ตำรวจไซเบอร์จับ ‘มินนี่’ เครือข่ายพนันออนไลน์รอบสอง หลังเคยถูกจับและเชื่อมโยงสะเทือนถึงนายตำรวจใหญ่

(4 มี.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ ‘มินนี่’ รอบสอง หลังจากที่เคยถูกจับแต่ไม่เข็ดหลาบ

เมื่อเช้าวันที่ 4 มีนาคม 2568 ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท) หรือตำรวจไซเบอร์ นำกำลังตรวจค้น 9 จุด ทั้งในกรุงเทพมหานคร / จังหวัดเลย และ จังหวัดใกล้เคียง จับตัว น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือ มินนี่ ไว้ได้ และควบคุมผู้ต้องหาตามหมายจับในเครือข่ายพนันออนไลน์"มินนี่"กว่า 30 หมายจับ นำตัวไปดำเนินคดี

สำหรับ น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี เคยตกเป็นข่าวดัง ถูกจับในคดีพนันออนไลน์ ฟอกเงิน เมื่อสองปีก่อน โดยคดีที่ถูกจับส่งผลกระเทือนถึงตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากมีภาพสนิทสนมใกล้ชิดกัน และ มีเส้นเงินพัวพัน ขณะนี้ คดีอยู่ในขั้นอัยการ

คดีแรกยังไม่ทันตัดสินต้องมาถูกดำเนินคดีที่สองอีก โดยตำรวจไซเบอร์ สืบสวนพบว่าเครือข่ายพนันมินนี่ยังคงมีการลักลอบ ดำเนินการเปิดเว็บพนันออนไลน์อีก โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง เพราะถือว่ามีคนในเครื่องแบบหนุนหลัง ครั้งนี้ เครือข่ายมินนี่มีการเพิ่มความระมัดระวังตัวในการดำเนินกิจการอย่างมาก

แต่ไม่พ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ เมื่อตำรวจพบเบาะแส จึงได้สืบสวนแกะรอย พบพยานหลักฐานสามารถพิสูจน์ความผิด นำไปสู่การขอออกหมายค้นและออกหมายจับมินนี่กับพวก ดำเนินคดีเป็นคดีใหม่อีกคดี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top