Wednesday, 23 April 2025
Nepal

‘หนึ่ง วิทิตนันท์’ ปีนเขา Yasa Thak ที่ยังไม่เคยมีใคร ปีนได้สำเร็จมาก่อน เพื่อฉลองความสัมพันธ์ 65 ปี ‘ไทย - เนปาล’ เฉลิมปีมหามงคล ในหลวง ร.10

(28 ธ.ค. 67) ‘Echo Friendship Project’ เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการเจริญความสัมพันธ์ในทุกมิติระหว่างประเทศไทยและ Nepal ในวาระ 65 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ของประเทศไทย และ Nepal  ซึ่งคล้องกันกับในปีนี้เป็นปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้ส่งเจริญพระชนม์มายุ 72 พรรษา ทางสมาคมมิตรภาพไทย , Nepal  Nepal Mountaineering Association , จึงถือเอาวาระแห่งความสำคัญนี้เริ่มต้นโครงการโดยการปีนยอดเขาที่ยังไม่มีการปีน สำเร็จมาก่อน ถือเอาเป็นภาพสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นที่จะดำเนินไปสู่เป้าหมายตามวัตถุประสงค์ โดยมีนายธัน พหาทุร โอลิ (H.E. Mr. Dhan Bahadur Oli ) เอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย เป็นประธานที่ปรึกษา และเป็นผู้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการผลักดันโครงการนี้ 

โดยภารกิจในครั้งนี้ นาย วิทิตนันท์ โรจนพานิช นายกสมาคมมิตรภาพไทย Nepal จะเป็น เป็นผู้ปีนยอดเขา Yasa Thak ยอดเขาที่มีความสูง 6,141 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย บริเวณ Solukhumbu ในเขตวนอุทยานแห่งชาติ Sagarmatha ร่วมกับนักปีนเขาชาวเนปาล อีกสามคน ซึ่งการปีนเขาในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญคือการบันทึกภาพสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ  รวมทั้งได้นำพระพุทธเมตตา จากวัดไทยพุทธคยาขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว ขึ้นไปประดิษฐานไว้บนยอดเขาเพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลและภาพสัญลักษณ์ของสันติสุข 

การปีนเขาในครั้งนี้ได้ กระทำสำเร็จแล้วเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เวลา 12:05 น. และเมื่อการปีนเขาในครั้งนี้ได้สำเร็จลุล่วงแล้ว ทางสมาคมมิตรภาพไทย Nepal จะได้ดำเนินการขออนุญาตรัฐบาล Nepal ในการต่อชื่อในตอนท้ายของชื่อยอดเขา ในวงเล็บว่ว่า Echo Friendship Peak  

กิจกรรมในครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ได้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงต่างประเทศ  , มูลนิธิไทย , นายสุวพงศ์ ศิริสรณ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุ , วัดไทยลุมพินีประเทศ Nepal , วัดไทยพุทธคยา , วัดไทยกุสินารา, ซึ่ง การบริหารจัดการวางแผนและดูแลความปลอดภัยในการปีนเขาในครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก Echo Friendship Project  

กิจกรรมการปีนยอดเขาในครั้งนี้ได้รับการบริหารจัดการดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยโดยบริษัท Khumbi-Ila Voyage Mountaineering & Trekking / Travels& Tours จำกัด

และหลังจากสำเร็จกิจกรรมการปีนยอดเขาในครั้งนี้ ทางสมาคมมิตรภาพไทย เนปาล และสถานเอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย ยังได้มีดำริ ที่จะจัดนิทรรศการเกี่ยวข้องกับการเดินทางในครั้งนี้ ตลอดจนเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ รวมทั้งกิจกรรมทางการท่องเที่ยว อาหาร และ ศิลปะ วัฒนธรรมของประเทศเนปาล ในราวเดือนเมษายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ อีกด้วย

กับภารกิจพิชิตยอด Yasa Thak เชื่อม 65 ปีสายใยไทย-เนปาล พร้อมเสนอตั้งชื่อ 'Echo Peak'ตามเพลงพระราชนิพนธ์ 'แว่ว'

เมื่อวันที่ (20 ม.ค. 68) ที่ประชุมห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ นางสาวศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ได้จัดเสวนาถ่ายทอดประสบการณ์เรื่อง  'ก้าวสู่ยอดหิมาลัย เชื่อมสายใยไทย-เนปาล' โดยในงานนี้มี พณฯ ธัน พหาทุร โอลิ เอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย เข้าร่วมเป็นเกียรติในงาน

สำหรับงานเสวนาถ่ายทอดประสบการณ์เรื่อง  “ก้าวสู่ยอดหิมาลัย เชื่อมสายใยไทย-เนปาล” ได้มีการแบ่งปันประสบการณ์ของ 'หนึ่ง วิทิตนันท์ โรจนพานิช' คนไทยคนแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ถึงประสบการณ์น่าตื่นเต้นของการพิชิตยอดเขา Yasa Thak ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2567  อันเป็นส่วนหนึ่งในกโอกาสร่วมสนับสนุนในโอกาส ครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-เนปาล 

นางสาวศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ กล่าวเปิดงานเสวนา 'ก้าวสู่ยอดหิมาลัย เชื่อมสายใยไทย - เนปาล' ว่าในปีนี้ ประเทศไทยและเนปาล จะครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 65 ปี โดยทั้งสองประเทศ มีสายใยเชื่อมโยงกันผ่านทางพุทธศาสนาและวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน รวมถึงน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือประเทศเนปาล จากผลกระทบของเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ นายวิทิตนันท์ โรจนพานิช นายกสมาคมมิตรภาพไทย - เนปาล ชาวไทยผู้มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศเนปาลมาอย่างยาวนาน ได้เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการพิชิตเอเวอร์เรสต์เมื่อปี 2551 นั้น  เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมถึงในปี 2567 ที่ได้พิชิตยอดเขายาซ่า ทัก (Yasa Thak) นั้น นอกจากจะเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไทย-เนปาลแล้ว ยังเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 

"ในชีวิตผมใช้ชีวิตโลดโผนมาตลอด ตั้งแต่ดำน้ำ ขับเครื่องบิน แต่ยังไม่เคยปีนเขา จนกระทั่งปีประมาณปี 2551 ได้มีโอกาสทำรายการโทรทัศน์ให้เวียดนาม จนสามารถพิชิตยอดเอเวอร์เรสต์ได้สำเร็จเมื่อ 22 พฤษภาคม 2551 ตอนนั้นผมรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์รายการ จึงอาศัยจังหวะนี้ขึ้นไปพร้อมกับนักปีนเขาจนสามารถพิชิตยอดเขาได้สำเร็จ เราก็คิดว่าในเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาสูงที่สุดในโลกได้แล้ว ก็อยากขึ้นไปชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนยอดที่สูงที่สุดในโลกเพื่อป่าวประกาศพระเกียรติยศของพระองค์ท่าน" 

สำหรับภารกิจล่าสุดเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมาซึ่ง หนึ่ง วิทิตนันท์ เพิ่งพิชิตยอดเขาแห่งใหม่ เขาได้เผยเรื่องราวในภารกิจการพิชิตยอดเขา Yasa Thak ครั้งล่าสุดนี้ว่า "หลังจากที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตได้ราวปีเศษ ก็ยังมีความรู้สึกอยากปีนยอดเขาอีกยอดหนึ่งเพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่าน เราก็อยากปีนยอดเขาที่ยังไม่เคยมีใครปีนพิชิตมาก่อน ในตอนนั้นผมก็นึกถึงประเทศเนปาล ซึ่งเป็นชาติที่เรารู้สึกผูกพันมากที่สุด จึงได้ขออนุญาตหน่วยงานท้องถิ่นของเนปาล ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดีจากสถานเอกอัคราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย"

หนึ่ง วิทิตนันท์ เผยว่า ภายหลังที่สามารถพิชิตยอด Yasa Thak ได้สำเร็จเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 และ รัชกาลที่ 10 ตลอดจนสานสัมพันธ์ระหว่างไทย-เนปาล เขาได้ยื่นต่อ 'Nepal Mountaineering Association' เพื่อขอใช้สิทธิการพิชิตคนแรกเสนอตั้งชื่อยอดเขานี้ว่า 'Echo Peak' หรือ 'เสียงสะท้อน' เพื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับเนปาล และสื่อถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 41 'แว่ว' และยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วย

"ตอนนี้อยู่ระหว่างการเสนอต่อ Nepal Mountaineering Association ในการตั้งชื่อยอดเขา 'Echo Peak' หรือ 'เสียงสะท้อน' ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการโดยคาดจะเสร็จสิ้นกระบวนการตั้งชื่อใหม่ภายในปีนี้"

หนึ่ง วิทิตนันท์  ยังเผยอีกว่า ในฐานะภาคประชาชน เขาอย่างเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมความสัมพันธ์ไทย-เนปาล ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเขาได้มองถึงความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งด้านความเชื่อและวัฒนธรรมระหว่างกัน การเชื่อมโยงผ่านด้านการท่องเที่ยว 'ภูเขาในเนปาล และทะเลไทย' หรือด้านสิ่งแวดล้อม ในการร่วมกับสมาคมนักปีนเขาแห่งประเทศเนปาล ผลิตโดรนเพื่อเก็บขยะบนยอดเขาต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ และนำขยะเหล่านั้นมาหมุนเวียนเพื่อสร้างประโยชน์ต่อไปได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top