Monday, 9 June 2025
Lite

หากเราหลงในศรัทธาที่จอมปลอม เราจะโลภ คาดหวังบางสิ่งบางอย่าง และถ้าไม่ได้อย่างที่หวัง จะไม่นับถือศรัทธา นี่เป็นการศรัทธาแบบธุรกิจ

หากเราหลงในศรัทธาที่จอมปลอม เราจะโลภ คาดหวังบางสิ่งบางอย่าง และถ้าไม่ได้อย่างที่หวัง จะไม่นับถือศรัทธา นี่เป็นการศรัทธาแบบธุรกิจ ซึ่งวันนี้มนุษย์เริ่มแยกไม่ออก ระหว่างศรัทธาที่แท้จริง กับ ศรัทธาแบบธุรกิจ

‘ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล’ นักแสดง นักเขียน และนักคิดมากฝีมือ กล่าวในรายการ ‘เกลา นิสัยอันตราย’ เมื่อวันที่ (28 พ.ค. 2022)

เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่น่าคิดตามจาก ‘ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล’ นักแสดง นักเขียน และนักคิดมากฝีมือ ที่ได้มาแชร์แนวคิดในการเรียนรู้ชีวิตด้วยตนเอง ผ่านช่อง KlaoShow ทางยูทูบชาแนล โดยส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ได้พูดถึง ‘การแยกแยะในศรัทธา’ ที่ดูเหมือนคนยุคนี้จะเริ่มแยกไม่ออกระหว่าง ‘ศรัทธาแบบนักธุรกิจ’ และ ‘ศรัทธาที่แท้จริง’ เสียแล้ว...

ก๊อต เล่าว่า ศรัทธาอย่างเดียวไม่ทำให้คนมีสติปัญญา เพราะศรัทธาแยกได้ 2 แบบ คือ ‘ศรัทธาแบบนักธุรกิจ’ กับ ‘ศรัทธาที่แท้จริง’

“สมมติ ‘แพนด้า’ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วผมอ้างว่าศรัทธาในตัวแพนด้ามาก ผมไหว้แพนด้า หวังให้แพนด้าช่วยให้ถูกรางวัลที่ 1 และเมื่อไรที่ถูก ผมก็จะมาเต้นแก้บนรอบตัวแพนด้า แต่ถ้าไม่ถูก ผมก็จะไม่ไหว้แพนด้านี่เรียก ‘ศรัทธาแบบนักธุรกิจ’ หรือ คุณต้องให้ผมก่อน ผมถึงจะรับถือคุณ แต่ถ้าไม่ให้อะไร ผมจะไหว้ทำไม

นักฮวงจุ้ยฯ ชี้ ‘พลังอัปมงคล 3 อสูร’ ต้นเหตุเพลิงไหม้ลามย่านสำเพ็ง

สมศักดิ์ ชาคริตฐากูร นักฮวงจุ้ยวิทยา เจ้าของเพจ FengshuiBizDesigner ได้ตรวจดวงชะตาเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ย่านสำเพ็ง ด้วยโหราศาสตร์จีนโบราณ โดยระบุว่า...

อาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลา 11.38 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ย่านสำเพ็ง ลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียง สร้างความหายนะทิ้งไว้ซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เหลือเพียงไว้ซึ่งซากร่องรอยที่มอดไหม้ไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ นอกเหนือจากความประมาทเลินเล่อกับการปล่อยปละละเลย โดยไม่ใส่ใจและไม่ระแวดระวังภัยที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาแล้ว ยังสามารถอรรถาธิบายตามกฎแห่งจักรวาลความจริงอันสูงสุดของพลังธรรมชาติที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ “เมื่อสิ่งนั้นมีอยู่ สิ่งนี้จึงเกิด” ตามหลัก “อิทัปปัจจยตา” เป็นเหตุและเป็นผลตามช่วงห้วงเวลาที่เหมาะเจากฏแห่งธรรมชาติย่อม แสดงปรากฏเป็นผลขึ้น 
 

28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ครบรอบ 90 ปี กำเนิด ‘รัฐสภาไทย’ วันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก

28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 วันนี้ เมื่อ 90 ปีก่อน เป็นวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก ณ ห้องโถงชั้นบนของพระที่นั่งอนันตสมาคม ถือเป็นวันกำเนิด ‘รัฐสภาไทย’

ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อปีพุทธศักราช 2475 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 แห่งบรมราชจักรีวงศ์ ประเทศไทย (สยาม) ได้เปลี่ยนผ่านจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก้าวเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ นับแต่นั้นมา ประเทศไทยก็ขับเคลื่อนไปด้วยกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนที่เรียกว่า “ผู้แทนราษฎร” ทำหน้าที่ใช้สิทธิออกเสียงในการบริหารปกครองบ้านเมืองแทนประชาชน

เวลา 14 นาฬิกา ของวันที่ 28 มิถุนายน 2475 สภาผู้แทนราษฎรได้มีการประชุมเป็นครั้งแรก ณ ห้องโถงชั้นบนของพระที่นั่งอนันตสมาคม โดยจัดห้องประชุมเป็นลักษณะครึ่งวงกลมตามระนาบพื้นห้อง การประชุมเริ่มขึ้นเมื่อหลวงประดิษฐมนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์) อ่านรายนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว ซึ่งมาจากการแต่งตั้ง จำนวน 70 คน และเป็นผู้กล่าวนำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิญาณตนในที่ประชุม จากนั้น เจ้าพระยามหิธร เสนาบดีกระทรวงมุรธาธร ได้อัญเชิญพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมาอ่านเปิดประชุม เสร็จแล้วจึงได้ดำเนินการประชุมต่อไป จึงถือว่าวันนั้นเป็นวันก่อกำเนิดของรัฐสภาไทยมาจนถึงทุกวันนี้

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนั้น ที่ประชุมมีมติเลือกเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรก และเห็นชอบให้หลวงประดิษฐมนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์) เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนแรก รวมทั้งมีมติเลือกพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เป็นประธานกรรมการราษฎร (นายกรัฐมนตรี) คนแรก จึงถือว่าคณะรัฐมนตรีได้ถือกำเนิดขึ้นในวันเดียวกันด้วย

29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เรือดำน้ำชุดแรก 4 ลำ ที่รัฐบาลไทยสั่งซื้อ เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมาถึงประเทศไทย

รู้หรือไม่ ในอดีตประเทศไทยเคยมีเรือดำน้ำที่สั่งซื้อจากประเทศญี่ปุ่น มาแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2481 

29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เรือหลวงสินสมุทร, เรือหลวงพลายชุมพล, เรือหลวงมัจจาณุ (ลำที่ 2) และ เรือหลวงวิรุณ ซึ่งเป็นเรือดำน้ำชุดแรกที่รัฐบาลไทยสั่งต่อมาจากประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย 

เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ได้รับการต่อที่อู่ต่อเรือ บริษัท มิตซูบิชิ ที่เมืองโกเบ เมื่อปี 2479 ในสนนราคาลำละ 882,000 บาท วางกระดูกงูและปล่อยลงน้ำไล่เลี่ยกันคือระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2479  ดังนี้ 

พิธีวางกระดูกงู ร.ล.มัจฉาณุ และ ร.ล.วิรุณ โดยพระมิตรกรรมรักษา เมื่อ 6 พฤษภาคม 2479

พิธีวางกระดูกงู ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล โดยพระมิตรกรรมรักษา เมื่อ 1 ตุลาคม 2479

ปล่อยลงน้ำ ร.ล.มัจฉาณุ และ ร.ล.วิรุณ โดยนางมิตรกรรมรักษา เมื่อ 24 ธันวาาคม 2479

ปล่อยลงน้ำ ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล โดยพระมิตรกรรมรักษา เมื่อ 14 พฤษภาคม 2480 (มีการถ่ายทำภาพยนตร์โดย ร.ท.นิตย์ สุขุม)

‘ครู’ วอน ‘ภาครัฐ’ ขึ้นค่าอาหารกลางวันเด็ก ชี้!! ควรเป็น 30 บาทต่อคนต่อวัน ถึงจะเพียงพอ

ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน
รวมไปถึงโครงการอาหารกลางวันของน้อง ๆ นักเรียน อย่างเช่น ที่โรงเรียนวัดหุบกระทิง ต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้

>> อาหารยังอร่อย แต่ "หมู" น้อยลง
ด.ญ.พิมพ์ชนก ประเสริฐ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่าว่า ตนและเพื่อน ๆ ชื่นชอบแกงเขียวหวาน หนึ่งในเมนูอาหารกลางวันของโรงเรียนมากเป็นพิเศษ ด้วยมีรสชาติอร่อย นอกจากนี้ยังมี ยำหมูยอ ผัดกะเพราไข่ดาว ยำวุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ กระเพาะปลา เป็นต้น

แต่ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้โรงเรียนต้องปรับเปลี่ยนเมนูอาหาร เมนูที่มีส่วนผสมของหมูก็จะลดปริมาณ และนำเนื้อไก่ รวมไปถึงเนื้อสัตว์ชนิดอื่นมาทดแทน เพื่อให้ยังคงทำอาหารให้กับนักเรียนทุกคนได้อย่างเพียงพอ ซึ่งเข้าใจ แต่หากเป็นไปได้ ก็อยากให้ข้าวของถูกลงเพื่อที่โรงเรียนจะได้มีงบจัดซื้ออาหารให้กับนักเรียนได้รับประทานอย่างเช่นในอดีต

>> รัฐจัดงบเพิ่ม 5% จาก 20 บาท เป็น 21 บาท ต่อหัว!
ขณะที่ ดร.สุนันทา ปานณรงค์ ผอ.โรงเรียน เปิดเผยว่า โรงเรียนวัดหุบกระทิง เป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดการเรียนการสอน ตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัย ไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียนรวมทั้งสิ้น 490 คน แบ่งเป็นนักเรียนระดับชั้นปฐมวัย 56 คน ประถมศึกษา 1-6 จำนวน 310 คน และมัธยมศึกษา 1-3 จำนวน 124 คน

แม้ว่าปัจจุบัน คณะรัฐมนตรีจะมีมติเห็นชอบให้มีการปรับค่าอาหารกลางวันของนักเรียนตั้งแต่ ชั้นปฐมวัย - ประถมศึกษา 6 เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 จากอัตราเดิมที่ 20 บาท/คน/วัน มาเป็น 21 บาท/คน/วัน โดยยึดหลักตาม Thai School Lunch ทว่างบประมาณในอัตราดังกล่าว ทางโรงเรียนยอมรับว่าไม่เพียงพอกับสถานการณ์ปัจจุบัน

เหตุใดจึงตั้งชื่อสถานีรถไฟฟ้า ‘กลันตัน-มักกะสัน’ เหมือนชื่อรัฐของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน

‘สถานีกลันตัน - สถานีมักกะสัน’ ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร?

ตอนนี้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าใน กทม. หลายสาย เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่มีชื่อสถานที่น่าสนใจสถานีหนึ่ง คือ ‘สถานีกลันตัน’ ที่มีชื่อสถานีดันไปเหมือนกับชื่อรัฐหนึ่งในมาเลเซีย นั่นคือ ‘รัฐกลันตัน’ หลายคนสงสัยว่าเป็นความบังเอิญหรือเปล่า ที่จริงไม่ได้เป็นความบังเอิญ แต่ชื่อ ‘สถานีกลันตัน’ กับ ‘รัฐกลันตัน’ มีความเกี่ยวข้องในแง่ประวัติศาสตร์จริง ๆ 

สยามในอดีตและปัจจุบันมีหลายชาติพันธุ์ และในกรุงเทพฯ เองก็มีหลายชุมชนของหลากหลายชาติพันธุ์ เช่น ชุมชนชาวญวน ชาวลาว ชาวเขมร ชาวโปรตุเกส ชาวมลายู ฯลฯ ที่จะพูดถึง คือ ‘ชุมชนชาวมลายู’ ซึ่งมาจากการเทครัวในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 - 3 แล้วมาตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพฯ เช่น ชุมชนบ้านแขก ชุมชนมุสลิมมหานาค ชุมชนมุสลิมพระประแดง ชุมชนมุสลิมย่านรามคำแหง ชุมชนมุสลิมคลองแสนแสบ ฯลฯ 

ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 - 3 เกิดสงครามกับหัวเมืองมลายูขึ้นหลายครั้ง และเมื่อมีการทำสงครามสิ่งหนึ่งที่แถบอุษาคเนย์มักจะทำ คือ ‘การเทครัว (กวาดต้อนเชลยศึก)’ เพราะสมัยนั้นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด คือ ‘คน’ ช่วงเวลานั้นจึงมีการกวาดต้อนเชลยศึกชาวมลายูมายังกรุงเทพฯ และไม่ได้มาพร้อมกันแต่มาหลายรอบ

สมัยรัชกาลที่ 1 ปี 2329 กวาดต้อนเชลยศึกชาวปัตตานี (ปัจจุบันอยู่แถวแยกบ้านแขก และพระประแดง)
สมัยรัชกาลที่ 2 ปี 2364 กวาดต้อนเชลยศึกชาวปัตตานีและชาวไทรบุรี (เคดะห์) 
สมัยรัชกาลที่ 3 ปี 2381 กวาดต้อนเชลยศึกชาวกลันตัน ตรังกานู และหัวเมืองปักษ์ใต้อื่น ๆ

‘ชาวกลันตัน’ ที่ถูกกวาดต้อนมานี้ ไม่ได้มาจากเมืองกลันตันแต่อย่างใด แต่มาจากเมืองปัตตานี เพราะสมัยนั้นราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองเมืองปัตตานี คือ ‘ราชวงศ์กลันตัน’ จึงมีชาวกลันตันที่อาศัยอยู่ในเมืองปัตตานีด้วย

30 มิถุนายน ของทุกปี วันโซเชียลมีเดีย (Social Media Day) สะท้อนความสำคัญต่อการสื่อสารทั่วโลก

รู้หรือไม่ ทุกวันที่ 30 มิถุนายนเป็น ‘วันโซเชียลมีเดีย’ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยเว็บไซต์ Mashable.com เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงโลกโซเชียลมีเดีย ที่มีอิทธิพลต่อการสื่อสารและคนทั่วโลกในปัจจุบัน

ทั้งนี้ จากรายงาน Global Digital Report 2021 ของ We Are Social และ Hootsuite แพลตฟอร์มบริหารจัดการสื่อสังคมออนไลน์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถิติตัวเลขล่าสุดของผู้ใช้โซเชียลที่พบว่า ในปีที่ผ่านมาการใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วโลก มีผู้ใช้งาน 4.48 พันล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 500 ล้านคน ในเวลาเพียง 1 ปี 

ข้อสรุปล่าสุดจากนักวิทยาศาสตร์ ‘สโตนเฮนจ์' คือ ปฏิทินสุริยคติขนาดยักษ์

สโตนเฮนจ์คือปฏิทินสุริยคติขนาดยักษ์ และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์รู้แล้วว่ามันทำงานอย่างไร

นักโบราณคดีเชื่อกันมานานแล้วว่า สโตนเฮนจ์ อนุสรณ์สถานหินยุคก่อนประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในประเทศอังกฤษ เป็นปฏิทินสุริยคติโบราณมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมันสอดคล้องกับวันครีษมายัน (วันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด) ทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว

แต่ไม่มีใครทราบว่าทำงานอย่างไร จนในที่สุด ทิโมธี ดาร์วิลล์ (Timothy Darvill) ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีที่มหาวิทยาลัย Bournemouth ในสหราชอาณาจักรเชื่อว่าพบวิธีการทำงานของสโตนเฮนจ์แล้ว

"นักวิชาการได้เห็นมานานแล้วในองค์ประกอบอันน่าเกรงขามของสโตนเฮนจ์ สำหรับการคำนวณเวลาก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นปฏิทินยุคหินใหม่ อย่างไรก็ตาม ปฏิทินดังกล่าวทำงานอย่างไรยังคงไม่ชัดเจน" ศ. ดาร์วิลล์ กล่าว

เขาเชื่อว่าคำตอบคือการเพิ่มตัวเลขเข้าไปในสโตนเฮนจ์ “30, 5 และ 4 เป็นตัวเลขที่น่าสนใจในแง่ของปฏิทิน” ดาร์วิลล์ กล่าว 
 

'รร.วิเชียรมาตุ' โพสต์ภาพนร.พร้อมใจซ้อมถวายบังคม เนื่องในโอกาสวันครบรอบ 106 ปี วันก่อตั้ง

ไม่นานมานี้ เฟซบุ๊ก 'โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง' ได้โพสต์ภาพ การซ้อมถวายบังคมของบรรดาน้อง ๆ เด็กนักเรียน เนื่องในวันครบรอบ 106 ปี โรงเรียนวิเชียรมาตุ ที่จะมาถึงในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมไทยอันงดงามที่ยังคงอยู่สืบเรื่อยมา

โดยผู้ที่ได้พบเห็นภาพดังกล่าวต่างชื่นชมโรงเรียน คณะครูอาจารย์ และน้อง ๆ นักเรียนต่าง ๆ นานา ว่า...

>> งดงามน่าชื่นชมค่ะ...ทั้งครูอาจารย์นักเรียนทุกท่าน...นี่คือสิ่งดีงามเชิดชูเกียรติของตนและครอบครัว...

>> วัฒนธรรมไทยมีความสวยงาม เป็นสิ่งบอกตัวตนและบรรพบุรุษ

>>อาจารย์ ทุกคนควรทำเป็นแบบอย่างให้เด็ก ๆ เห็นด้วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คงภาพสวยงามเหล่านี้ไว้ตลอดไป

>> รู้สึกชื่นชม และประทับใจ ในความงดงามของวัฒนธรรมที่วิเชียรมาตุถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาก ๆ

>> ขอบคุณท่านผู้บริหาร และน้อง ๆ ที่เห็นความสำคัญกับประเพณีอันดีงาม ในฐานะศิษย์เก่า รู้สึกภาคภูมิใจจริง ๆ

>> แค่เห็นภาพก็ยังขนลุก เมื่อถึงวันจริงจะขนาดไหน จบมากี่ปีก็ไม่มีวันลืมพิธีนี้ วันที่ 1 จะไปร่วมไหว้แม่แก้วด้วยกันค่ะ

1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทรงสถาปนากิจการลูกเสือไทย

วันนี้ เมื่อ 111 ปีก่อน เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงสถาปนากิจการลูกเสือไทยขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 จึงได้ยึดถือวันที่ 1 กรกฎาคม ของทุกปีเป็นวันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ

โดยเป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งได้จัดให้มีการเดินสวนสนามของลูกเสือ ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ เป็นประจำทุกปี ในแต่ละปีจะมีลูกเสือทั้งในส่วนกลางและปริมณฑลมาร่วมเดินสวนสนาม ประมาณ 10,000 คน เพื่อแสดงความเคารพและกล่าวทบทวนคำปฏิญาณ ต่อองค์พระประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติ เพื่อประกาศความเป็นลูกเสืออย่างแท้จริง

ลูกเสือได้กำเนิดครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2450 โดยท่านลอร์ดบาเดน เพาเวลล์ กิจการลูกเสือในยุคแรกมีจุดประสงค์เพื่อเตรียมคนไว้เป็นทหาร หลายประเทศที่ไม่มีพระราชบัญญัติเกณฑ์ทหาร จึงได้จัดให้มีลูกเสืออย่างประเทศอังกฤษบ้าง หลังจากนั้นไม่นานกิจการลูกเสือก็ได้แพร่หลายเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา

ต่อมาใน พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกองเสือป่าขึ้น เพื่อให้ข้าราชการพลเรือนได้เข้ารับการอบรม โดยมีจุดประสงค์ที่จะมุ่งอบรมจิตใจให้คนไทยรู้จักรักชาติมีมนุษยธรรม มีความเสียสละ สามัคคี และมีความกตัญญู


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top